Friday, March 18, 2011

Shopping….by Frugal Mama

ช้อปปิ้ง ช้อปย่าง อีกแร้วววว….

คุยเรื่องเครียดๆ เยอะแล้ว มาคุยเรื่องซื้อข้าวซื้อของดีกว่า อิชั้นไม่ได้แปะรูปกับข้าวกับปลาที่ไปซื้อมานานแล้วนะคะ ข้าวของที่ซื้อมาในรูปทั้งหมด เป็นการไปจ่ายตลาดหลายรอบในเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมาค่ะ แล้วก็มีอีกเยอะเลยค่ะที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มีเรื่องขำๆ เกี่ยวกับพ่อบ้านของอิชั้นค่ะ หลังๆ มานี้..รู้งาน พอกลับถึงบ้านหลังจากไปซื้อของกัน จะเอาข้าวของจัดวางเรียงไว้ให้ถ่ายรูปค่ะ บางทีจะเปิดอะไรทานก็ถามเรื่อยว่า…อันนี้ถ่ายรูปหรือยัง 5555 ทั้งที่เมื่อก่อน..เห็นถ่ายรูปข้าวของที่ซื้อมา พี่แกก็จะทำหน้า งง สงสัย แล้วก็ ยักไหล่ เข้าใจได้เองค่ะว่า พี่แกหมายถึง “จะถ่ายทำบ้ารายว้าาาา” 555555

shoppingKMetz

เริ่มเรื่องช้อปปิ้งกันเลยดีกว่า รูปแรกเป็นรองเท้าของไอ้ตี้ค่ะ คือ เป็นรองเท้าซื้อสำหรับให้ไอ้ตี้ใส่ไปโรงเรียนค่ะ ซื้อมาเตรียมไว้ก่อน หัด “ถอด-ใส่” ให้ชิน ให้รู้ว่ารองเท้าใส่สบาย ไม่กัด คู่แรกเป็นไนกี้ SunRay รองเท้ารุ่นนี้เรียกว่าเป็น staple ของครอบครัวเราเลยค่ะ หนูดีใส่มาตั้งแต่ตัวจิ๋ว ซื้อให้ทุกปีจนไม่มีไซ้ส์แล้วค่ะ ไอ้ตี้ก็ใส่ตั้งแต่เป็นเบบี้ยังไม่ทันหัดเดิน ซันเรย์รุ่นล่าสุดที่เห็นในหน้าตาเปลี่ยนไป แต่ยังดูเหมือนจะใส่สบายเช่นเคย คู่นี้เอาไว้ใส่วันที่อากาศร้อนๆ ค่ะ ส่วนพูม่า ก็เหมือนเดิม ตอนหนูดีเล็กๆ ก็โตมากับรองเท้าพูม่าเหมือนกัน ไม่กล้าซื้อแบบผูกเชือกให้ไอ้ตี้ค่ะ เพราะยังผูกเชือกรองเท้าไม่เป็น ก็ให้ใส่แบบเทปลอกไปก่อน เรื่องรองเท้าของลูกๆ ตอนลูกเล็กๆ อิชั้นจะไม่ให้ใส่รองเท้าต่อจากคนอื่นค่ะ นอกเหนือไปจากเรื่องสุขอนามัย ซึ่งบางทีล้างทำสะอาดได้ แต่เด็กๆ จะเดินไม่เหมือนกัน ลากรองเท้าไม่เหมือนกัน พื้นรองเท้าสึกบิดเบี้ยวต่างกันค่ะ เดี๋ยวกระดูกสันหลังลูกเสียค่ะ แต่พอโตๆ มาแบบหนูดี ก็ไม่ต้องคิดเยอะแล้ว ตอนนี้ใส่รองเท้าแม่ได้และดูเหมือนจะล้ำหน้าแม่ไป 1/2 ไซ้ส์แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นส้นสูง… ห้ามใส่ด้วยกันค่ะ เพราะคนเดินไม่เหมือนกัน “ส้น” บิดเบี้ยวเสียทรง ทำให้รองเท้าอายุสั้นได้ค่ะ

page-638

รูปนี้เป็นของที่เพิ่งซื้มเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ใช้คูปองเบ็ดเสร็จรวมภาษีจ่ายไป $16.44 ค่ะ

page-637

สีผม 5 กล่องนี้ก็ไปซื้อมาพร้อมๆ กันค่ะ คือจ่ายไอ้ก้อนบนเสร็จก็ได้คืนเป็นคูปองเงินสดมา $3.- ก็เอามาใช้รวมกับคูปองที่มีอยู่ รอบนี้จ่ายไป $12.36 สามกล่องล่างเป็นสินค้า clearance ลดเหลือกล่องละ $2.24 แต่มีสีที่ใช้ได้ (ปิดหงอก 555) เหลืออยู่ไม่กี่กล่อง ส่วนมากเป็นพวกสีบลอนด์ๆ ทองๆ ซึ่งไม่เวิ๊ก 555 ซื้อมาแค่นี้ พอลองทำไอ้สีแดง Rosewood ออกมาดูดีแฮะ รีบกลับไปที่ร้าน กะว่าจะลากมาให้หมด พอไปถึง แหงะ หมดจ้อย อดเลย ชอบใช้สีผมรุ่นนี้ค่ะ มันเป็น semi-permanent อิชั้นสระผมทุกวันก็อยู่ได้เกือบๆ เดือนค่ะ ดูเหมือนมันจะโหดต่อหนังศีรษะน้อยหน่อย และมันจะไม่เห็นว่าผมที่งอกใหม่ดำด่างชัดเจน เพราะมันจะ fade ไปเรื่อยๆ ค่ะ พอเจอที่ลดราคาก็จะซื้อมาตุนไว้ค่ะ

page-636

กองนี้มีของรับทานเป็นส่วนใหญ่ มี tangerines “Cuties”, เนื้อแห้ง Jerky 4 ถุง ไข่ไก่ 5 โหล โค้ก 2 ลิตร 4 ขวด บะหมี่เกี๊ยวของซีพี 2 กล่อง ต้องบอกว่าบะหมี่เกี๊ยวยี่ห้อนี้ อร่อยมาก ติดใจกันทั้งครอบครัว เหมือนได้กิน “ชายสี่-หมี่เกี๊ยว” เลย 5555 จะเห็นว่าซื้อแล้วซื้ออีก เป็น life-saver ตอนขี้เกียจ เสียแต่กินที่ฟรีซเซ่อร์มากไปหน่อย …อีกรายการนึงที่เห็น คือ จานกระดาษ 8” ของ Dixie ค่ะ บ้านนี้ใช้เปลือง แต่บ้านเราไม่ใช้จานโฟมค่ะ เพราะมันไม่ย่อยสลาย กล่องล่างสุดเป็นโจ๊กหมูมาม่าค่ะ

IMG_2567-s

รูปนี้เยอะแยะไปหมด ที่เห็นมีมัฟฟิ่น ซีเรียล ครีมสลัด Ranch ของหนูดี ถั่วแม๊คคาดาเมีย 3 ขวด น้ำยาบ้วนปาก (หมา) ของพ่อบ้าน 2 ขวดใหญ่ แชมพู T-Sal ที่กันคิ้ว-หนวด ของพ่อบ้าน ชามเมลามีนหัวมิกกี้ของอิชั้นเอง 5555 อีกรูป (บนขวา) เป็นของรับทาน แองกัสเบอร์เก้อร์ 2 กล่อง ซีเรียล Mini Wheats บะหมี่เกี๊ยวของโปรด 2 กล่อง Mini Bagel Dogs 1 ถุง เฟร้นช์โทสต์สติ๊ก (ซินนาม่อน) 1 กล่อง Biscotti (ขนมปังกรอบอิตาเลี่ยน) ของอีพ่อบ้าน ไว้แกล้มกับกาแฟตอนเช้า 1 กระปุกใหญ่ แล้วก็มีอาหารจีนแช่แข็ง (ไก่ผัดกรีนบีน) อีก 1 กล่อง

รูปล่างซ้ายก็เป็นอาหารแช่แข็งค่ะ มีมินิเบเกิ้ลดอก แองกัสเบอเกอร์ Bagal Bites (ไอ้ตี้ชอบทานอันนี้ตอนเช้าค่ะ) แปลกตาหน่อยก็ ไก่เทริยากิราดข้าว 1 กล่องมีอยู่ 6 ชาม อีกกล่องคือยากิโซบะ 1 กล่องมี 8 ถุง (อันนี้ก็พอใช้ได้ค่ะ อร่อยดี อิชั้นเติมน้ำปลาไปนี๊ดดด…นึง) รูปล่างขวาเป็น Jelly Belly 2 กระปุกใหญ่ น้ำผึ้ง, Tony Roma's BBQ Baby Back Ribs, Red Velvet Cake, Vitamin C Gummies 2 กระปุก Coffee-Mate น้ำตาล อะโวคาโด ส้ม และ Raw Almond 1 ถุง (snack ยามดึกของอิชั้นกับพ่อบ้าน…ตอนนี้ไอ้ตี้ก็ชักติดใจแล้วค่ะ)

page-645

รูปแรกเป็นผักผลไม้ มีเห็ด แอสพารากัส อะโวคาโด สตรอเบอรี่ แบล็คเบอรี่ (ที่โทรออกและ text ไม่ได้ 555) มีอิชั้นชอบทานอยู่คนเดียว เลยสบายไป ไม่มีใครแย่ง แล้วก็บลูเบอรี่ 1 กล่อง อันนี้ไม่ต้องบอก…คงรู้กัน ว่าเป็นของโปรดของเด็กๆ บ้านนี้ ถ้าไม่รีบเอาใส่ท้ายรถ ก็จะเห็นแต่กล่องเปล่าๆ ตอนถึงบ้านค่ะ จำได้ว่าวันนั้นบลูเบอรี่ลูกไม่ค่อยโต เลยซื้อมาแค่กล่องเดียว ปกติซื้อทีละ 2-3 กล่องค่ะ รูปบนขวากมีเนื้อแห้ง 6 ถุง รสเผ็ดเป็นของพ่อบ้าน ที่รมควัน Mesquite เป็นของรอมมี่กับแม่ค่ะ ครัวซองต์ 2 กล่องใหญ่ กล่องละ 2 โหล เป็นอาหารเช้าของอิชั้นค่ะ เอาไว้แกล้มกาแฟ โยนใส่เตาติ๊งแค่พออุ่นๆ อืมมมม…หย่อย little French in me 55555 แล้วก็มีหมูกับเนื้อแพ๊คใหญ่ แพ๊คละ 8 ปอนด์กว่าๆ ค่ะ ไอ้แท่งบนถาดเนื้อคือเนื้อวัวบดค่ะ พ่อบ้านชอบตุนเอาไว้ทำสปาเก๊ตตี้ซ้อสเลี้ยงลูก (และเมีย 55)

ล่างซ้ายเป็นของใช้ ผ้าอนามัย (ซื้อ 1 แถม 1) ถุงซิปล๊อค 2 ไซส์ น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยาสีฟัน+สบู่ (ทั้งกองเป็นของพ่อบ้านคนเดียว ใช้เปลืองมากกกก….) แบตเตอรี่ AAA + แบตเตอรี่เหรียญ ที่กันหนวดเครา (ซื้อแล้วปลื้ม ต้องไปลากมาเก็บไว้อีกอัน) น้ำยาล้างส้วม สีย้อมผม ทัพพีและกระชอน รูปล่างขวา คัตตั้นบัด Cat litter เบคกิ้งโซดา (เอาไว้โรยส้วมแมว) และเซ็นทรั่มของพ่อบ้านค่ะ

page-646

รูปนี้มีเฟรนช์โดนัทมิกซ์ เบค่อนสำหรับโรยสลัดของอิชั้น ครีมสลัด (อิตาเลี่ยน) ของพ่อบ้าน ทางขวาเป็น Beans กระป๋อง มะเขือเทศกระป๋อง (Dices) ซื้อมาหลายอย่าง หลายเครื่องเทศค่ะ เอาไว้ทำสารพัดซ้อส ยาของไอ้ตี้ โละของเก่าๆ ที่หมดอายุทิ้งก็ต้องสต๊อกของใหม่เผื่อไว้เวลาลูก ไอ ตัวร้อน ฯลฯ แม่หมอดูแลเอง 5555 Hot Chocolate ของพ่อลูก ชีสเค้กของพ่อบ้าน มักกะโรนี 2 กล่อง Hungry Jack เอาไว้ทำวาฟเฟิ่ลค่ะ

ล่างขวาเป็น Ginger Ale ของรอมมี่ Shortbread ของแม่ ป๊อกกี้กับแพนด้าเป็นของลูกๆ ค่ะ ส่วนเนื้อแห้ง (อีกแระ 5555) ซื้อตนไว้ ถุงเล็กๆ เอาแอบซ่อนเวลาไปดูหนังค่ะ เพราะขนมเครื่องดื่มที่โรงหนังแพงมากค่ะ แต่ถึงจะแอบซ่อนเอาอะไรเข้าไป ไอ้พวกนี้ก็เสียเงินซื้อขนมหน้าโรงทุกที

page-647

เตา เตา เตา เตาปิกนิค ซื้อเอาไว้ปิ้ง ย่าง ทำกับข้าวหลังบ้านค่ะ ลองทำหมูปิ้งดูแล้ว ใช้ได้เลยค่ะ ราคาไม่แพง สมฐานะ 555 บ้านเราไม่บาร์บีคิวเหมือนไอ้กัน เพราะอิชั้นไม่ใช่ outdoor people กิจกรรมนอกบ้าน เชอะ..ไม่ได้แอ้มอิชั้นหรอก อยากทานปิ้งๆ ย่างๆ เตาอบค่ะเตาอบ 555

page-648

Ferrero Rocher ยาสามัญประจำบ้าน บัตเตอร์ฟลายเพรสตี้ 2 ตับใหญ่ๆ ซื้อมารอบแรก กินกันหมุบหมับดี ไม่กี่วัน..เกลี้ยง ซื้อมารอบสอง ไม่มีใครแล 5555 รูปล่างซ้ายเป็นฝูงวิตามิน Prescribed by Mama 5555 ก่อนทุกคนจะแปรงฟันเข้านอน เดินเรียงแถวมาเลย…. ยาบ้าปาร์ตี้ซะก่อน เฮ้ย… วิตามินปาร์ตี้ 555 วันนั้นก็ซื้อที่กำลังจะหมดมาเก็บไว้ มี ไฟเบ้อร์ วิตามินรวม และแคลเซี่ยม (ทุกอย่างเป็นกัมมี่ส์ค่ะ) นอกนั้นก็มี Mega Red & Alli ของอิชั้น ไอ้เม๊กกะเรด ซื้อมาลองดูค่ะ เพราะไม่ชอบโอเมก้า 3 แบบธรรมดา กินแล้วเรอเป็นกลิ่นคาวปลา แหวะ ปกติจะซื้อแบบ No Burp, Odorless คือไอ้ตัวผิวด้านนอกของซอฟท์เจลจะไปละลายที่ลำไส้โน่น ไม่ใช่ที่กระเพาะอาหารแบบซอฟท์เจลทั่วๆ ไป แต่ร้านแถวๆ บ้านไม่มี หาซื้อลำบาก ต้องสั่งออนไลน์ แล้วไอ้เม๊กกะเรดนี่เม็ดนิดเดียว กระเดือกลงคอง่ายกว่า ขอลองดูหน่อย ถ้าอีซี่กว่าก็ซื้อต่อแน่นอน ทานยาเยอะแล้ว ถ้ามันเม็ดใหญ่ๆ จะแหยงมากๆ เกลียดการกินยา ถึงได้หาแบบกัมมี่ส์มาบริโภคค่ะ ลูกๆ ก็ไม่งอแงด้วย ส่วน Alli เป็นยาดักไขมัน หมออู๋คิดเอาเองว่าน่าจะช่วยเรื่องคลอเรสเตอรอลได้บ้าง ไม่ได้คิดถึงเรื่องผอมเลยค่ะ เพราะตายแล้วเกิดใหม่คงง่ายกว่า เคยกิน Xenecal ตัวต้นฉบับยังไม่ผอมเลย ไอ้ Alli ความ strength แค่ครึ่งหนึ่งของ Xanacal ค่ะ จบเรื่องยา ไอ้กระปุกล่างสุด Biscotti ของพ่อบ้านค่ะ

page-639

มาดูรูปนี้ ไม่เยอะค่ะ ไอ้ครัวซองต์อาหารเช้าของ Jimmy Dean …ไม่มีใครชอบเลย อิชั้นลองดูแล้วก็โอเคนะคะ แต่ไม่ใช่แบบอร่อยมาก เช้ารีบๆ ให้รอมมี่ทานก่อนไปโรงเรียนก็สะดวกดี แต่ลูกดันไม่ชอบค่ะ แองกัสเบอเก้อร์ (พ่อบ้านและลูกๆ ชอบ - พ่อบ้านพกไปทานที่ทำงานด้วยค่ะ) เกี๊ยวกุ้ง (อันนี้ไม่มีบะหมี่) เป็นของไทยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ซีพี่ อร่อยดีค่ะ แต่ถ้วยเล็ก ถ้าจะทานให้อิ่มก็ต้อง 2 ถ้วยค่ะ นอกนั้นก็มี Coffee-Mate, Cereal, French Roast Coffee (ของอิชั้น), เส้นพาสต้ารูปหัวใจ ปาปริก้าของพ่อบ้าน และ ป๊อกกี้ของเด็กๆ ค่ะ

page-640

อันนี้มีคูปองส่วนลดเลยไปลากอ่างสเตนเลสที่ก้นเป็นยาง ซื้อมา 3 ขนาดเลย อันใหญ่ ใหญ่มาก สะใจ แหวนวงละเหรียญของลูก สารพัดขนมกัมมี่ส์ของลูก ส่วนกัมมี่ส์รสขิงเป็นของพ่อบ้านค่ะ ช้อคโกแล๊ตเผ็ด ตราทาบัสโก้ ยังอยู่ในตู้เย็นเลยค่ะ ไม่กล้าลอง เผ็ดไม่กลัว กลัวแหวะ 5555

page-641

เตาค่ะเตา เตาติ๊งอันใหม่ ใหญ่กว่าเดิม ปกติอิชั้นจะซื้อแบบถูกๆ ไม่เคยล้างเช็ด (ซกมกมากกกก…555) ใช้อย่างเดียว จะเอาไว้ในโรงรถ (บ้านจะได้ไม่ร้อนและไม่เหม็นควันค่ะ) ดูซากอันเก่าสิคะ 555 เคยโพสต์ไว้ตรงนี้ค่ะ http://oohsworld.blogspot.com/2008/01/blog-post.html ตอนที่ถอยมาใหม่เอี่ยม พอได้อันใหม่…อันเก่าก็ถูกปลดระวาง จริงๆ ยังใช้ได้ดีอยู่เลยนะคะ แค่ดูทุเรศไปหน่อยเท่านั้น พ่อบ้านไปซื้อของกับลูก ลากอันใหม่มาฝาก พออิชั้นเห็นก็ กรี๊ดดดดด….. เลยค่ะ ซื้อมาทำม๊ายยยย….. ตั้ง 40 เหรียญ อันเก่ายังใช้ได้อีกนานแหละ คืออิพ่อบ้านเกิดไปอบครัวซองต์ให้ลูก ความที่คนเราไม่เคยทำอะไรเลย พอเห็นเตาติ๊งอันเก่า พี่แกก็มาโล๊งเล๊งว่าพังแล้วทำไมไม่ซื้อใหม่ อิชั้นก็อธิบายไปว่า มันไม่ได้พัง มันโสโครกเฉยๆ 5555 ข้างในยังดูดีอยู่เลย มีแต่ไอ้กระจกข้างหน้าแหละ ที่น้ำมันกระเด็นแล้วถูกอบย่าง สะสมเพิ่มมาทีละนิดจนมืดมัวไปหน่อย 5555 แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยนะคะ อยู่ๆ ก็ซื้อมา ฉลาดนิ ไม่ซื้อตอนไปด้วยกัน คงรู้แกวว่า ถ้าอิชั้นไม่เลือกแบบจอกๆ เหมือนเดิม ก็ต้องเลือกแบบดีๆ ไปเลย ซึ่งก็คงแพงไปอีกหน่อยนึง 5555 รอดตัวไปงานนี้ เพราะอิชั้นขี้เกียจแบกไปคืน ก็ปล่อยเลยตามเลยค่ะ

page-642

รูปนี้มีแตงโม น้ำแร่ของอิชั้น น้ำดื่มและน้ำอัดลมนมช๊อคโกแล๊ตของลูกๆ เป็นแบบไขมัน 2% ลูกๆ เลยไม่ค่อยโปรดค่ะ เห็นบ่นกันว่าไม่อร่อย

page-643

ท้ายสุด สุดท้าย โปรดสังเกตบลูเบอรี่ กล่องบนเกือบจะว่างเปล่า 5555 รอมมี่แอบเอามาหม่ำในรถกับน้อง คราวนี้ลูกโต น่าอร่อยเชียว อิชั้นกับพ่อบ้านไม่ได้แตะเลย วันเดียวเกลี้ยงทั้ง 2 กล่องๆ ละ 2 ปอนด์นะคะ นอกนั้นก็มีหมากฝรั่งของรอมมี่ (เพิ่งมาสารภาพว่าถูกครูจับได้ว่าเคี้ยวหมากฝรั่งในชั้นเรียน เลยถูกให้เดินเก็บขยะรอบๆ โรงเรียน 5555 สมน้ำหน้าอย่างแรง เราเตือนคุณแล้ว 5555) แล้วก็มีน้ำมันพืช อาหารกล่องของไอ้ตี้ 2 กล่อง ชีวาส 2 ขวด ของอีลำยอง เอ้ยย… ไม่ใช่ค่ะ ของอิชั้นเอง.. อีพ่อบ้านซื้อมาทำบร้าอะไรไม่รู้ บอกว่าขวดเก่าหมดแล้ว ไปซื้อให้หน่อย พออิชั้นบ่นๆ ก็ถูกเอ็ดว่า… มันไม่บูดไม่เน่าหรอก แต่เวลาเอ็งเมาแล้วน่ารัก 55555 อิชั้นดื่มเวลานึกครึ้มอกครึ้มใจ ทีละ 1-2 แก้ว นานมากกว่าจะหมดขวดนึง ส่วน Sam-e เพิ่งจะลองกินยานี้ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเขน เค้าลือว่าช่วยเรื่อง mood-balancing ปวดข้อ สุขภาพตับ ฯลฯ เกือบเรียกได้ว่าเป็น magic pill เลยมั๊ง อิชั้นขี้โมโหอยู่แล้ว พอเป็น PM (Men-Oh-Pause โปรดเถิดผู้ชาย 5555) ก็ short fuse หนักเข้าไปอีก พอกินยานี้ 2-3 วีค ดูเหมือนจะเย็นๆ ลง (นิดนึง) ก็ยังมีปรี๊ดแตกกับลูกกับผัวอยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าเมื่อก่อน ว่าจะลองกินไปเรื่อยๆ แล้วจะมารายงานผลค่ะ ถ้าจะพูดไปแล้ว…อิชั้นพยายามด้วยการไม่ใช้ยามาตลอดนะคะ ที่จะไม่โมโหฉุนเฉียว เพราะพอความบ้าดีเดือดหายไป หายโมโห ก็รู้สึกผิด มันไม่แฟร์กับลูก-ผัวอย่างแรงค่ะ

ต่อๆๆๆๆ รูปล่างซ้ายเป็นพาสต้าแบบแช่แข็ง เอามาอบทาน อร่อยมากกกกก…. มันเหมือนลาซานญ่าแต่ทำด้วยเส้นเพนเน่ค่ะ ถ้าเจอจะซื้อมาอีกค่ะ แล้วก็มีซีเรียล จานกระดาษ Dixie แพ๊คนึง แพ๊คนี้เป็นขนาด 11” ค่ะ สตรอเบอรี่และแอ๊ปเปิ้ลอบแห้งของไอ้ตี้ ลูกชอบแต่ไม่ได้ซื้อให้บ่อยๆ หรอกค่ะ เพราะแพง 5555 ถุงนึงมีจิ๊ดเดียว กินสดๆ ดีกว่า แล้วก็บลูเบอรี่สด 2 กล่อง พ่อบ้านบอกว่าลูกๆ ไม่ได้กินหรอกค่ะ but they inhaled those blueberries..! 5555 เป็นภาษาไทยจะเรียกว่าอะไรดีน๊าาาา… อุ๊บ.. ไม่พูดดีกว่า 5555 แล้วก็มีนมช๊อคโกแล๊ต Hershey’s จำได้ว่าซื้อมาเรื่อยๆ ค่ะ แพ๊คนึงมี 21 กล่อง ซื้อมาทีละ 2 แพ๊ค หลายครั้งเลยค่ะ ตอนนี้โดนพ่อบ้านดุเพราะลูกๆ ชักไม่ชอยดื่มนมจืดค่ะ จากนี้คงจะไม่ซื้อไปอีกนานเลยค่ะ กลัวลูกเป็นเบาหวานเหมือนแม่ แงๆๆๆ

page-644

Shopping is cheaper than a Psychiatrist..!!

shopping-is-a-crime-arrest-me

Thursday, March 17, 2011

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด!?!? ฟุกุชิมาจะเป็น Chernobyl รอบสองหรือไม่?

คัดลอกมาค่ะ เพราะอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย เลยอยากเอามาแบ่งกันอ่าน ต้องขอขอบคุณผู้เขียนมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ที่มา > > http://jusci.net/node/1645

หลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวขนาด 8.9-9.0 ตามมาตราริกเตอร์ (Sendai Earthquake) ตามด้วยคลื่นสึนามิซัดเข้าชายฝั่งประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 11 มีนาคม 2011 หลายฝ่ายต่างพุ่งความตระหนกไปที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายโรงที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

จนเมื่อเวลาประมาณ 15:36 น. ของวันที่ 12 มีนาคม 2011 ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น มีรายงานว่าเกิดเสียงระเบิดที่บริเวณเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมาโรงที่ 1 (Fukushima Daiichi Plant) ตามมาด้วยภาพฝุ่นควันพวยพุ่งและกำแพงที่ถล่มลงมาทั้งด้าน ประกอบกับข่าวรายงานการตรวจพบกัมมันตรังสีและสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลทำให้ทั่วโลกวิตกกังวลว่าฟุกุชิมาจะเป็น Chernobyl รอบสองหรือไม่

เรื่องนี้มีหลายประเด็นที่ต้องพูดกัน

อย่างแรก คือ เรื่องการระเบิดที่เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม

แทบจะในทันทีที่เกิดแผ่นดินไหว Tokyo Electric Power Company (TEPCO) ได้สั่งหยุดเครื่องเตาปฏิกรณ์ของทั้งสองโรงไฟฟ้าในฟุกุชิมาทุกเตา ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน เนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินไหวมากเกินกว่าจะเสี่ยงเดินเครื่องต่อไปได้ (เรื่องการสั่งหยุดเครื่องอย่างไรนี่ ผมยังไม่แน่ใจนัก อาจจะเป็นมนุษย์ควบคุมหรือเป็นระบบอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติภัยก็ได้)

การหยุดเครื่องเตาปฏิกรณ์ที่เป็นแบบ boiling water reactor (BWR) นั้นทำได้โดยการจุ่มแท่งควบคุม (control rod) ลงไปในเตาปฏิกรณ์ แท่งควบคุมนี้จะทำหน้าที่กันไม่ให้นิวตรอนจากแท่งเชื้อเพลิงแท่งหนึ่งวิ่งไปชนแท่งเชื้อเพลิงอีกแท่ง เป็นการลดอัตราการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ เมื่อดันแท่งควบคุมลงไปเต็มที่ นิวตรอนที่วิ่งไปวิ่งมาระหว่างแท่งเชื้อเพลิงก็จะถูกดูดซับไว้แทบทั้งหมด

ปัญหาที่ตามมาจากการหยุดเครื่องเตาปฏิกรณ์ คือ ความร้อนที่สะสมในเตาปฏิกรณ์ เนื่องจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ในแท่งเชื้อเพลิงยังไม่หยุดสนิทเสียทีเดียว เพราะในแต่ละแท่งยังมีนิวตรอนพอที่จะทำให้นิวเคลียสของยูเรเนียมหรือธาตุเชื้อเพลิงอื่นๆ สลายตัวไปได้อีกระยะ (เมื่อสับสวิตช์หยุดเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์ แท่งเชื้อเพลิงจะยังผลิตความร้อนออกมาประมาณ 6% ของความร้อนที่ผลิตได้ขณะเดินเครื่องเต็มที่) ในขณะทำงาน เตาปฏิกรณ์ระบบ BWR จะมีปั๊มน้ำดึงน้ำเย็นเข้ามาหล่อเลี้ยงแท่งเชื้อเพลิงตลอดเวลา (ไอน้ำที่เกิดจากการระเหยของน้ำหล่อเย็นในเตาปฏิกรณ์ก็จะถูกส่งผ่านท่อมาใช้ปั่นกังหันเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้านั้นเอง -- ดูภาพประกอบได้จาก Infographic ของ Live Science ท้ายข่าว) ดังนั้นเมื่อสั่งเครื่องหยุดทำงานในสถานการณ์ธรรมดา เครื่องปั๊มน้ำก็จะยังต้องปั๊มน้ำเย็นเข้ามาระบายความร้อนอย่างต่อเนื่องจนกว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันจะหยุดและแกนแท่งเชื้อเพลิงจะเย็นลง

แต่ในกรณีที่ฟุกุชิมานั้น มันคือสิ่งที่เรียกว่า "Station Blackout" จัดเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ พอเครื่องปั่นไฟฟ้าหลักของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หยุดทำงาน แทนที่ระบบปั๊มน้ำพลังงานสำรองจะใช้งานได้ตามปกติ Aftershocks จากแผ่นดินไหวและสึนามิดันไปสร้างความเสียหายแก่ระบบไฟฟ้าสำรองและระบบควบคุมปั๊มน้ำ เตาปฏิกรณ์จึงขาดน้ำเย็นเข้าไปหล่อเลี้ยง ทำให้เกิดความร้อนสะสมเกินระดับที่กำหนด ความร้อนสะสมนี้ทำให้น้ำที่อยู่ในเตาปฏิกรณ์ระเหยเป็นไอ ซึ่งถ้าหากปล่อยไปเรื่อยๆ ไอน้ำกับความร้อนจะทำให้แท่งเชื้อเพลิงหลอมละลาย หรือไม่ก็อีกกรณี ความดันภายในจะพุ่งสูงจนอัดให้เตาปฏิกรณ์ระเบิด "ตู้มมมมมมม!" (ความเป็นไปได้ในกรณีหลังน้อยกว่ากรณีแรกมาก เพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นมีเกณฑ์อยู่ในระดับชั้นนำของโลก ประกอบกับการออกแบบโครงสร้างซึ่งใส่ใจเรื่องความปลอดภัยมาแล้วตั้งแต่ต้น แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายท่านจะเคยคัดค้านการออกแบบของเตาปฏิกรณ์ Mark 1 ก็ตาม)

TEPCO แก้ปัญหานี้โดยเอาเครื่องปั๊มดีเซลมาปั๊มน้ำเข้าไปแทนชั่วคราวจนกว่าปฏิกิริยาทั้งหมดจะดับลง แต่ด้วยไม่รู้สาเหตุอะไร เครื่องปั๊มดีเซลทำงานได้เพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เลยต้องพึ่งพลังงานสำรองจากแบตเตอรี่ซึ่งก็ซื้อเวลาได้อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง

แต่ว่าเครื่องปั๊มน้ำไม่สามารถแก้ปัญหาความดันที่เกิดจากไอน้ำในเตาปฏิกรณ์ได้ เมื่อหมดปัญญากับการพึ่งเครื่องปั๊มน้ำอย่างเดียวแล้ว TEPCO จึงดึงแผนสำรองที่สองออกมาใช้ นั่นคือการเปิดวาล์วปล่อยไอน้ำบางส่วนออกมาจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อลดความดันในเตา ไอน้ำเหล่านี้มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีอยู่เล็กน้อย ส่วนใหญ่เกิดจากไอโซโทปของไนโตรเจน-16 ซึ่งนี่เองเป็นสาเหตุว่าทำไมเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ก่อนการระเบิด จึงมีรายงานข่าวว่าพบปริมาณกัมมันตรังสีรอบๆ เตาปฏิกรณ์สูงกว่าระดับปกติถึง 1,000 เท่า นักวิทยาศาสตร์และทาง TEPCO ยืนยันว่าไอโซโทปเหล่านี้มีอายุสั้น ดังนั้นมันจะไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

  • Update 14-03-2011 15:53
    ที่ต้องใช้เครื่องปั๊มน้ำกันยุ่งยากขนาดนี้ เพราะห้องควบคุมสวิตช์ปั๊มน้ำของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาอยู่ชั้นใต้ดิน พอสึนามิซัดเข้ามา ห้องควบคุมสวิตช์เลยโดนน้ำท่วมใช้การไม่ได้ แถมยังหน้าปัดวัดระดับน้ำในเตาปฏิกรณ์ยังดูเหมือนจะรายงานค่าระดับน้ำผิดพลาดด้วย (สาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน) ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องค่อยๆ เปิดวาล์วระบายความดันพร้อมกับปั๊มน้ำเย็นเข้าไปเพิ่มเป็นระยะๆ - ที่มา
    New York Times

ทุกอย่างดูดี แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะสิ่งที่ออกมาพร้อมๆ กับไอน้ำ คือ ตัวการของการระเบิดที่เป่าหลังคาอาคารเตาปฏิกรณ์ซะจนกระจุย

ไฮโดรเจน นั่นเอง

ไฮโดรเจนมาจากไหน? และเกี่ยวอะไรด้วย?

โดยคร่าวๆ แท่งเชื้อเพลิงของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูแบบ BWR คือ ยูเรเนียมหุ้มด้วยโลหะ zirconium หลอมเป็นแท่งทรงกระบอก ซึ่งถ้าจุ่มอยู่ในน้ำเหลวๆ ตามปกติอย่างที่มันควรเป็นก็จะไม่มีปัญหาอย่างใด แต่ในกรณีของเมื่อวานนั้น คาดการณ์กันว่าน้ำในเตาปฏิกรณ์คงระเหยไปเป็นไอมากจนทำให้แท่งเชื้อเพลิงบางส่วนโผล่ขึ้นพ้นระดับน้ำ ประกอบกับอุณหภูมิที่สูงมากเกิน 1,500 องศาเซลเซียส ทำให้ zirconium ที่หุ้มแท่งเชื้อเพลิงทำปฏิกิริยากับไอน้ำอย่างรวดเร็ว เกิดเป็น zirconium oxide (จะเรียกว่าเป็นสนิมของ zirconium ก็ได้) และไฮโดรเจน

ไฮโดรเจนเป็นก๊าซที่ติดไฟในอากาศที่มีออกซิเจนได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ตอนที่มันยังอยู่ในเตาปฏิกรณ์ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก เพราะในเตาปฏิกรณ์ไม่มีออกซิเจนมากพอจะทำให้เกิดการติดไฟได้ แต่เมื่อ TEPCO เปิดวาล์วปล่อยไอน้ำออกมาเท่านั้นแหละ ไฮโดรเจนซึ่งเป็นก๊าซที่เบากว่าไอน้ำก็ออกมาด้วย (จริงๆ ต้องพูดว่ามันวิ่งนำหน้าออกมาด้วยซ้ำ)

พนักงานในโรงไฟฟ้าก็คงคาดไม่ถึงด้วยว่าจะมีไฮโดรเจนออกมามากขนาดจนจุดระเบิดได้ จึงไม่ได้เตรียมการป้องกัน เมื่อไฮโดรเจนที่สะสมจนพอเหมาะเจอกับออกซิเจนในอากาศและประกายไฟอีกเล็กน้อย เราก็ได้ภาพอย่างที่เห็นกัน "ระเบิดขนาดย่อมๆ" นั่นเอง

From BBC News

จากการรายงานของ TEPCO และทางการญี่ปุ่น การระเบิดที่เกิดจากก๊าซไฮโดรเจนกระทบเพียงโครงสร้างอาคารและกำแพงที่เป็นปูนซีเมนต์เท่านั้น ส่วนโลหะที่ครอบเตาปฏิกรณ์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แม้ภาพที่ออกมาจะดูรุนแรงไปสักหน่อยก็ตาม (แค่กำแพงหายไปหนึ่งแถบเอง) แท่งเชื้อเพลิงยังคงสบายดีอยู่ในเตาปฏิกรณ์ ไม่มีหลุดออกมาวิ่งเล่นข้างนอก

  • UPDATE 16-03-2011 12.:50
    การเกิดเพลิงไหม้ที่เตาปฏิกรณ์ที่ 4 ของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาโรงที่ 1 ในวันที่ 15 มีนาคม 2011 แตกต่างจากการระเบิดที่เตาที่ 1, 2 และ 3 เพราะอุบัติเหตุของทั้งสามเตาที่ผ่านมาเกิดจากไฮโดรเจน แต่อันที่เกิดกับเตาที่ 4 นั้นเกิดจาก
    ปัญหาระดับน้ำหล่อเย็นในบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว
อย่างที่สอง คือ ความกังวลเกี่ยวกับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ยังร้อนจัดอยู่ในเตาปฏิกรณ์

นอกจากในช่วงเวลาก่อนและหลังระเบิดจะมีการตรวจพบกัมมันตรังสีรั่วออกมาแล้ว ยังมีของแถมอีกอย่าง นั่นคือ ไอโซโทปกัมมันตรังสีของ cesium ซึ่งตัวนี้แหละที่สร้างความตระหนกตกใจให้กับนักวิทยาศาสตร์พอสมควร

กรณีของ cesium นี้มีนัยยะอันตรายกว่าการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนด้วยซ้ำ เนื่องจากมันเป็นสัญญาณว่ามีอะไรผิดปกติกับแท่งเชื้อเพลิงแล้ว cesium และไอโซโทปธาตุกัมมันตรังสีอื่นๆ เช่น ไอโอดีน คือสิ่งที่เรียกว่า fission fragment ซึ่งได้จากการสลายตัวของปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน ตามปกติมันควรจะถูกกักอยู่ในแท่งเชื้อเพลิง การที่พบ cesium หลุดออกมาอยู่ข้างนอกเตาปฏิกรณ์จึงสามารถแปลผลได้ว่าครอบแท่งเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์เกิดการรั่วแล้ว นักวิทยาศาสตร์คาดกันว่าน่าจะเป็นเพราะแท่งเชื้อเพลิงโผล่พ้นน้ำนานเกินไป จนทำให้ zirconium ที่หุ้มแท่งอยู่ทำปฏิกิริยากับไอน้ำแล้วหลุดลอกออกไปบางส่วน ตอนนี้ทาง TEPCO ยังไม่เผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

แม้ TEPCO จะไม่บอกอะไรมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญก็คาดกันว่าแท่งเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์ที่ 1 และ 3 ของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาโรงที่ 1 หลอมละลายไปแล้วบางส่วนเป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะในช่วงที่ระบบเครื่องปั๊มน้ำใช้การไม่ได้ไปพักใหญ่ๆ เป็นไปได้ว่าส่วนบนของแท่งเชื้อเพลิงอาจจะพ้นน้ำนานเป็นเวลาระดับชั่วโมงๆ

แม้ว่า "การหลอมละลายบางส่วน" (partial melting) จะเป็นเหตุการณ์ที่มีระดับความรุนแรงต่ำกว่าการที่แท่งเชื้อเพลิงหลอมละลายเต็มที่ (full meltdown) แบบเทียบกันแทบไม่ได้ก็ตาม แต่มันก็ส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีในระดับที่ตรวจจับได้ ซึ่งสร้างความตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง อย่างที่ปรากฏในวันต่อมาก็มีรายงานการตรวจพบสารกัมมันตรังสีในจุดที่ห่างจากโรงไฟฟ้าถึงกว่า 60 ไมล์ สารกัมมันตรังสีที่ตรวจเจอน่าจะเป็น cesium-137, iodine-121 และไอโซโทปอื่นๆ ที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันซึ่งน่าจะหลุดออกมาพร้อมกับการปล่อยไอน้ำเพื่อลดความดันในเตาปฏิกรณ์

แผนรับมือขั้นสุดท้ายที่ TEPCO กำลังงัดออกมาใช้ คือ การปั๊มน้ำทะเลผสม boric acid เข้าไปให้ท่วมภายในเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ตามทฤษฎีแล้ว boron ใน boric acid จะเข้าไปจับนิวตรอนเพื่อหยุดปฏิกิริยาลูกโซ่ของนิวเคลียร์ฟิชชันในแท่งเชื้อเพลิง น้ำทะเลจะเข้าไปทำให้แกนแท่งเย็นลงและกัดกร่อนจนแท่งเชื้อเพลิงใช้งานไม่ได้อีกต่อไป พูดกันง่ายๆ คือ ปิดกิจการเตาที่ 1 ถาวรไปเลย

  • Update 14-03-2011 15:53
    ตอนนี้ TEPCO กำลังปั๊มน้ำทะเลเข้าเตาปฏิกรณ์ที่ 1 และ 3 ของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาโรงที่ 1 แล้ว (มี
    การระเบิดที่เตาที่ 3 เมื่อวันอาทิตย์ หนึ่งวันหลังจากการะเบิดที่เตาที่ 1) ยังไม่มีใครทราบได้ว่าปฏิบัติการจะกินเวลานานเท่าไร และจะมีสารกัมมันตรังสีรั่วออกมามากเท่าไร (ทางเลือกนี้ถือว่าเป็น ทางเลือกสุดท้ายจริงๆ เพราะมีความเสี่ยงที่จะพลาดทำสารกัมมันตรังสีรั่วไหลเข้าสู่สิ่งแวดล้อมมากกว่าทางอื่นๆ) - ที่มาNew York Times

เป็นไปได้ว่า TEPCO อาจจะตัดสินใจปิดเตาปฏิกรณ์อันอื่นในโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาโรงที่ 1 ทิ้งไปพร้อมกันทั้งโรงด้วย เนื่องจากโรงไฟฟ้านี้ก็เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1971 และก็ใกล้จะเข้าสู่วาระเกษียณเต็มทีอยู่แล้ว

อย่างที่สาม คือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมามีโอกาสดำเนินรอยตามรุ่นพี่อย่างที่ Chernobyl และ Three Mile Island หรือไม่

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าความกังวลที่ฟุกุชิมาตอนนี้ในแบบที่เลวร้ายสุดๆ (Worst case scenario) คือ "การหลอมละลาย" (Meltdown) ของแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นภาวะที่แตกต่างจากสาเหตุการระเบิดที่ Chernobyl ปี 1986 (อันนั้นเกิดจากความดันไอน้ำสะสมจนแท่งกราไฟต์ในเตาปฏิกรณ์ระเบิด ส่งธาตุกัมมันตรังสีข้างในพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโดยรอบมากมาย -- ซึ่งฟุกุชิมาไม่ได้ใช้แท่งกราไฟต์แบบที่ว่า) และโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาก็ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงกว่าที่ Chernobyl อยู่มากโข

การหลอมละลาย (Meltdown) ของแท่งเชื้อเพลิงเกิดจากการที่แท่งเชื้อเพลิงมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจนเกินขีดจำกัด โลหะที่ครอบแท่งเชื้อเพลิงอยู่จะระเบิดแตกออกไป สารกัมมันตรังสีที่เป็น fission fragments ทั้งหลายก็จะหลุดลอยออกสู่อากาศ ส่วนเชื้อเพลิงข้างในจะค่อยๆ หลอมเหลวและไหลหลุดออกมาจากแท่ง เชื้อเพลิงหลอมเหลวพวกนี้บางส่วนจะติดไฟ บางส่วนจะไหลลงก้นถังเตาปฎิกรณ์และหลอมจนตัวถังทะลุ และถ้าเชื้อเพลิงเหล่านี้ยังไม่หมดความบ้าพลังซึ่งอาจจะร้อนได้ถึงหลักพันองศาเซลเซียส มันก็จะหลอมโลหะที่ครอบเตาด้วย ทำให้เกิดการรั่วไหลของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ไปสู่สิ่งแวดล้อม คล้ายๆ กับที่เกิดกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ Three Mile Island ปี 1979

ปัจจุบัน ทางการญี่ปุ่นจัดให้เหตุการณ์ในฟุกุชิมาอยู่ในระดับ 4 หรือระดับ "อุบัติเหตุที่กระทบพื้นที่ระดับท้องถิ่น" ตามเกณฑ์ระดับอุบัติเหตุนิวเคลียร์ของ International Nuclear and Radiological Event Scale ซึ่งมีระดับตั้งแต่ 1-7 นับจากต่ำสุดไปสูงสุด เหตุการณ์ที่ Three Mile Island อยู่ในระดับ 5 ส่วน Chernobyl ครองแชมป์หายนะตลอดกาลด้วยระดับสูงสุด 7

หลังจากการประกาศภาวะฉุกเฉิน มีการอพยพผู้คนรอบรัศมี 20 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งไปแล้วประมาณ 200,000 คน บางส่วนในนี้มีความเสี่ยงที่จะได้รับกัมมันตรังสีด้วย ซึ่งทางศูนย์อพยพก็ได้มีการสแกนตรวจสอบและแจกจ่าย จักษุธาตุ เอ๊ย ไอโอดีนให้กับประชาชนที่มีความเสี่ยงทุกคน เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซับสารกัมมันตรังสีเข้าสู่ระบบอวัยวะภายใน (อ่านความเห็นจากคุณ pawinpawin และ kittipat ได้จากความเห็นด้านล่าง)

ตอนนี้ทุกอย่างยังอยู่ในสภาวะที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด แม้ว่าอุบัติเหตุในระดับ Chernobyl นั้นจะมีความเป็นไปได้น้อย แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ (ความเป็นไปได้ที่มากกว่าคือเหตุการณ์อย่าง Three Mile Island ซึ่งก็ยังมีโอกาสน้อยอยู่ดี เพราะแผนการรับมือของ TEPCO เรียกได้ว่า "อยู่ในขั้นที่ดีมากๆ") อย่าลืมว่าตอนนี้ TEPCO และรัฐบาลญี่ปุ่นมีเตาปฏิกรณ์ให้จัดการพร้อมกันถึง 6 เตา ความผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียวอาจนำไปสู่หายนะได้ทุกวินาที

ที่มา - New Scientist, BBC News, Live Science, Scientific American, New York Times, The Register

ขอปิดด้วย infographic สวยๆ จาก Live Science อีกครั้ง

 infographic of nuclear power plantSource:LiveScience

ป.ล. ข่าวนี้ยังไม่สมบูรณ์ อาจจะมีการเพิ่มเติมรายละเอียดได้ทุกเมื่อหากมีข้อมูลเปิดเผยออกมามากขึ้น จุดที่น่าสงสัยบางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ หรือปีๆ ในการหาคำอธิบาย

Submitted by mementototem on Sun, 13/03/2011 - 18:31.

นอกจาก Chernobyl ขอ Three Mile Island ด้วยก็ดีครับ อีกอย่างคือ ไอโอดีนจะกำจัด หรือช่วยบรรเทาพิษจากกัมมันตภาพรังสีได้เหรอครับ? ดูมันง่ายแบบไม่น่าเชื่อเลยแฮะ

Submitted by terminus on Sun, 13/03/2011 - 19:19.

ผมคิดว่าเค้าแจกไอโอดีน เพื่อกันไม่ให้ต่อม thyroid ดูดซึมไอโซโทปของไอโอดีนที่มีกันมันตภาพรังสีเข้าไปครับ เพราะถ้าไม่กันไว้ก่อน thyroid จะเก็บไอโอดีนกัมมันตรังสีไว้ ซึ่งน่าจะส่งผลเสียหนักและรักษายากสุด

http://hps.org/publicinformation/ate/faqs/ki.html

รู้สึกเหมือนมันจะช่วยแค่ป้องกันได้ในกรณีที่เป็นไอโอดีนกัมมันตรังสีเท่านั้น ส่วนตัวอื่นๆ ไม่เกี่ยว

Submitted by pawinpawin on Sun, 13/03/2011 - 19:19.

Iodine หรือ Potassium Iodide ที่แจกจะไปจับตัวในต่อมไธรอยด์ ป้องกันไม่ให้ต่อมไธรอยด์ทำการจับ Iodine ที่เป็นกัมมันตรังสีครับ เหมือนไปนั่งจองที่ไม่ให้พวก Iodine รังสีมีที่นั่งน่ะแหละ

แต่ก็เป็นเฉพาะต่อมไธรอยด์ และเฉพาะกับ Iodine ไม่ป้องกันที่อื่นของร่างกาย และไม่ป้องกันสารรังสีอื่นที่ออกมาด้วยอย่าง Cs

Submitted by pawinpawin on Sun, 13/03/2011 - 19:22.

อีกนิด ส่วนมากถ้าจะเป็นมะเร็งไธรอยด์จริง ก็มักเป็นชนิด Papillary ที่ไม่ได้รุนแรงมากเท่าไหร่ครับ (Survival Rate ใน Early Disease ใกล้เคียงกับคนปกติมาก หรือง่ายๆ คือตายจากมะเร็งอันนี้น้อยมาก) ส่วนมากมาด้วยก้อนที่คอ และทำการผ่าตัดออกได้ครับ

Submitted by kittipat on Sun, 13/03/2011 - 19:28.

ที่อ่านมาคือสารกรรมภาพรังสีที่จะมีออกมาคือไอโอดีนนี่แหละครับ แต่เป็นไอโซโทปกัมภาพรังสี การกินไอโอดีนธรรมดาไว้ล่วงหน้าจะป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซับไอโอดีนเข้าไปเพิ่ม ทำให้ไม่ตกค้างในร่างกายครับ ส่วนรังสีที่โดนทางผิวหนังนี่กันไม่ได้ครับ แต่ถ้าโดนไม่นานและความเข้มข้นไม่ถึง ก็ไม่อันตรายมากครับ

Friday, March 11, 2011

Warrior & Worrier

Warrior คือ ลูกชาย… ไอ้ก๊อตตี้ของแม่ ส่วน Worrier คือ อิชั้นเองค่ะ เพราะ worry วอรี๊…..วอรี่ โน่นนี่ตลอดเวลา จริงๆ แล้ววันนี้มีข่าวดีมาแชร์นะคะ แต่ข่าวดีก็ออกผลพวงให้อิชั้นต้องวอรี๊…วอรี่นิดนึงค่ะ (ไม่มาก ค่ะ ไม่มาก) คือ ไอ้ตี้ของแม่จะไปโรงเรียนแล้วค่ะ กระโดดข้ามขั้นไปเข้าเรียนชั้น Kindergarten ในเดือนสิงหาที่จะถึงนี้แน่นอนค่ะ Yee….Ha!!!! เพราะหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นได้มีประกาศของ Unified School District ว่า เด็กหญิงและเด็กชายที่จะอายุครบ 5 ขวบภายในวันที่ 31 December 2011 นี้ ให้ไปรายงานตัวเข้าเรียนชั้นอนุบาล ในโรงเรียนที่บ้านตัวเองอยู่ในเขตนั้นๆ ค่ะ ดีใจ ดีใจ ดีใจมากกกกก….. ดีใจเอ๊ย ดีใจจัง เพราะอินโฟเก่า เค้าบอกว่า (ไม่รู้ไอ้บ้าไหนบอกต่อๆ กันมานิ) ปีการศึกษาใหม่ที่จะถึงนี้ เค้าจะตัดโควต้าเด็กที่มีสิทธิ์เข้าเรียนอนุบาล (Kindergarten) ต้องอายุครบ 5 ขวบภายในเดือนสิงหาคม ไอ้ตี้ของอิชั้นก็จะหลุดกระเด็นไปเริ่มเป็นเด็กอนุบาลปีการศึกษาหน้าโน้นนนน… เพราะไอ้วันปิยะของแม่จะอายุครบ 5 ครบก็วันที่ 23 ตุลาโน่น แก่ไปอีกปี แขวนต่องแต่งอยู่บ้านกับแม่ไปอีกปี

page-632

คือครอบครัวเรามีปัญหาการเงินติดต่อกันมาหลายปี หลายๆ คนที่ไม่ได้ติดตามอ่านก็คงไม่ทราบว่า เราเสียบ้านไปกับ foreclosure ทำให้ต้องทำ bankruptcy เช่าบ้านเค้าอยู่ 2 ปีแล้ว หนูดีต้องระเห็ดออกมาจากโรงเรียนแคธอลิค ฯลฯ เราพยายาม very hard to dig ourselves out from this hole ด้วยการ ลด ละ เลิก ตัดค่าใช้ทุกอย่างที่ตัดได้ แต่ก็เหมือนมีปัญหาที่อยู่เหนือการควบคุมก็เกิดขึ้นมาให้แก้ไขอยู่ไม่ได้หยุด เราอยู่แบบ “ทรงๆ” มา 2 ปีแล้ว ทั้งหมดคือปัญหาทางด้านการเงินของครอบครัว แต่โดยรวมแล้วเราก็มีความสุขดีค่ะ เพราะเราอยู่กันพร้อมหน้า 4 คน พ่อ แม่ ลูก เราบอกรักกันตลอด ครอบครัวเรา “เน้น” เรื่อง การแสดงความรู้สึกที่มีต่อกัน (affection) แม่-ลูกชื่นชมและภูมิใจที่พ่อทำงานหนัก เพื่อให้ทุกคน มีบ้าน (เช่า) อยู่ กินอิ่ม นอนหลับ หาความบันเทิงใส่ตัวและหัวใจตามอัถตภาพ ที่เล่ามาเสียยืดยาว จริงๆ ที่อยากจะบอกก็คือ พอการเงินตึงๆ เราก็เลยไม่สามารถส่งให้ลูกชายไปเรียน preschool ได้ (รู้สึกผิด ทั้งพ่อและแม่เลยค่ะ) เหมือนเที่เราได้เคยส่งรอมมี่ไปเรียนพรี-สคูลตอนประมาณ 4 ขวบ สมัยโน้น ค่าเรียนพรีสคูลของรอมมี่วันละ 27 เหรียญ แต่ตอนนี้ โรงเรียนเดียวกัน ค่าเล่าเรียนของพรีสคูลประมาณวันละ 40 เหรียญ ถือว่าแพงมากสำหรับครอบครัวเราในตอนนี้ค่ะ

page-633

ตอนที่รู้ว่าไอ้ตี้คงได้เข้าเรียนชั้น K ก็ปีการศึกษา 2012 โน่น พ่อแม่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สงสารลูกที่ไม่มี quality of life แบบวัยเรียนก่อนอนุบาล ก็พากันไล่ล่าหาโรงเรียนพรี-สคูลราคาย่อมเยาให้ลูก โรงเรียนฟรี..เราก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะพ่อบ้านทำมาหากินมีรายได้สูงไปนิดนึง โรงเรียนไหนที่พอรับได้ ราคาพอทน ไอ้ตี้ของแม่ก็ติด waiting list แบบ..ลืม..ไปเลยค่ะ โทรติดตามทวงถามก็ไม่เห็นว่าจะถึงคิวลูกของอิชั้นซักที โทรถามบ่อยๆ ก็ดูเหมือนเค้าจะชังหนังหน้าซะแล้ว พยายามจะไม่ถอดใจ เมื่อไม่กี่อาทิตย์มานี้ได้รู้มาว่าที่ City Collage มีบริการ Child Development Center ราคาเพียง 8 เหรียญ ต่อครึ่งวัน (ประมาณ 3.5 ชั่วโมง) มีรอบเช้าและรอบบ่ายค่ะ (ขึ้นอยู่กับว่า..รอบไหนมีที่ว่าง) กำลังติดต่อสอบถามอยู่ว่าต้องเป็นนักศึกษาที่นั่นหรือปล่าว..จึงจะใช้บริการได้ ถึงแม้จะต้องขับรถไปรับ-ส่งลูกไกลหน่อยก็ยินดี (ประมาณ 12 ไมล์ ไป-กลับวันละ 2 รอบ ก็เอาการอยู่นะคะ) ขอแค่ให้เค้ารับลูกเราเข้าไปเรียนก็พอ (Although the gas price is getting sore…..$4.00 per gallon…huh?!?!…..) ขณะที่เรากำลังดำเนินการเรื่องนี้แบบช้าๆ ไม่เร่งรีบอะไร เพราะเข้าใจว่า ไอ้ตี้ต้องใช้บริการนี้ไปร่วมๆ ปี เราก็ได้ข่าวดีที่เล่าไปข้างต้น (ไอ้ตี้จะได้ไปโรงเรียนแล้ว เย้ๆๆๆๆ ดีใจอีกที 5555) เรื่องที่ซิตี้คอลเลจก็หยุดลงชั่วขณะ พอรู้ข่าวอิชั้นก็ตูดแป้นไปที่โรงเรียนเลยค่ะ ไปรับแพ๊คเกจเอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ในการสมัครเรียน จะได้เตรียมตัวให้พร้อมในวันรับสมัคร (21-31 March 2011)

พอได้รับเอกสารมา ก็อ่านๆๆๆๆ ก๊อปปี้เอกสารที่ต้องการ โทรนัดหมอและหมอฟัน เพื่อพาลูกไปตรวจสุขภาพทั่วไปและสุขภาพฟัน คนที่มีรายได้น้อย ก็ไม่ต้อง เขียนแบบฟอร์มขอทำ waiver ได้อีก (แม่ม….อะไรๆ ก็ฟรีไปหมดแล้ว ยังจะมีเว๊บโว่ง- เวฟเว่อร์อีก เบื่อไอ้พวกนี้จัง สันหลังยาวแล้วมีรัฐดูแล บุญจริงๆ) พรุ่งนี้เช้าก็ต้องพาไอ้ตี้ไปทำสะอาดฟันอยู่แล้ว แต่หมอฟันดันไม่อยู่ พรุ่งนี้ไปก็ได้แค่ทำสะอาดตามกำหนดกับ dental hygienist แต่ต้องทำนัดเพื่อ visit หมอฟันอาทิตย์หน้าอีก ซึ่งก็ต้องเสียตังค์อี๊กกก… เฮ้อออ…. เพราะต้องเอาฟันไปให้เค้าดู แล้วก็เอาฟอร์มที่ได้รับมาไปให้หมอกรอก-เซ็นต์ให้เรียบร้อย ส่วนตรวจสุขภาพก็นัดอาทิตย์หน้าเหมือนกัน นอกนั้นก็มีรายการฉีควัคซีนให้ครบ พร้อมกับทำ TB Test ด้วย

page-630

อิชั้นก็รีบพาลูกแจ้นไปที่ Health Department เลยค่ะ เพราะฟรี 5555 แล้วก็มั่นใจว่าเค้ามีวัคซีนครบแน่นอน พาไปคลีนิคทีไร วันซีนนั้นมี ตัวนี้ขาด ต้องมีการไปรอบ 2 รอบ 3 แต่ละ visit ที่ไปก็ต้องจ่ายตังค์นะคะ ถึงไปแล้วไม่ได้ฉีดซักเข็มก็ต้องเสียตังค์ค่าบริการ หมอ ฯลฯ แถมนั่งรอเป็นนานสองนานให้มีโมโหอีก ที่ Health Department ก็รอนานเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ถึงกับรอรากเลือด 5555 ของฟรี อยากได้ก็ต้องทนค่ะ

เมื่อวานที่พาลูกๆ ไปฉีควัคซีน ไปถึงตอนบ่ายสามครึ่ง เค้าเริ่มให้บริการตั้งแต่ 4-6 โมงเย็นค่ะ (เค้าให้บริการฟรีเฉพาะวันพุธ แบ่งเป็น 2 รอบค่ะ รอบเช้า 8-10 โมง รอบบ่าย 4-6 โมง) พอไปถึงได้รับบัตรคิวลำดับที่ 6 ค่ะ แต่ครอบครัวไอ้เม๊ก 5 ครอบครัว ที่ไปก่อนหน้า ก็พาลูกๆ ไป ครอบครัวละฝูงนึงค่ะ นั่งกันเป็นตับเหลือที่นั่งอยู่ไม่กี่ที่เลย เฮ้ออออ…. มีลูกกันบ้านละ 8 บ้านละ 10 ให้ลุงแซม (หน้าโง่) เลี้ยง 5555 ต่อๆๆๆๆๆ พอถึงคิว-เค้าเรียกไป แล้วก็คีย์ๆๆๆๆ ดูคอมพิวเตอร์ ไอ้ตี้ต้องฉีดวัคซีน 5 เข็ม กับ TB Test อีก 1 เข็ม รอมมี่ต้องฉีด Flu Vaccine เข็มเดียว จากนั้นก็ไปนั่งรอต่อข้างในแต่รอไม่นานค่ะ บุรุษพยาบาลเดินมากับ 2 ถาดเล็กๆ ถาดแรกของไอ้ตี้ เข็มเรียงมาเป็นตับ เห็นแล้วสยอง 55555 ส่วนของอีรอม..เข็มเดียวมาโด่เด่ 555

page-629

ตอนที่เจ้าหน้าที่เดินถือถาดมานั่ง ไอ้ตี้ยังไม่รู้สึกกลัวอะไร นั่งเลือกสติกเก้อร์กับพาสเต้อร์ปิดแผลอยู่อย่างเมามันส์ จะปิดให้พรึ่บเลย เลือกเอาแต่ลายรถราจากการ์ตูนเรื่อง Cars พอเค้าเริ่มแทงเข็มแรกที่ท้องแขนซึ่งเป็น TB Test ไอ้ตี้ก็ยังนั่งดู ทำปากจู๋ร้อง เอ๊าช์ๆๆๆ ouch-ouch พอเข็ม 2-3-4 ตรงต้นแขนซ้าย ก็ร้อง เอ๊าช์ๆๆๆๆๆ เอ๊าชี่ เอ๊าหวี่ ไปเรื่อยๆ และพยายาม เอี้ยวหน้าไปดูที่แขน อิชั้นก็กอดลูกไว้ พอจะเริ่มเข็มที่ 5-6 ที่ต้นแขนขวา ชักดิ้นหนีแล้ว ต้องกอดไว้ให้แน่นเชียว พอเข็มลง ก็ เอ๊าช์ๆๆๆ ต่อด้วย แงๆๆๆๆๆๆๆๆ แง น่าสงสารมาก 555 พอเสร็จจากไอ้ตี้ เค้าก็ต่อที่อีรอม-บั๊ฟฟี่นั่งเฉยมาก ถ้าฉีดแทนกันได้ ก็คงจะให้เค้ากระหน่ำแทงบั๊ฟฟี่รอมมี่ดีกว่า 5555

ตามปกติแล้วไอ้ตี้เนี่ยจะเป็น little trooper เลยนะคะ คือบักอึ๊ดดีพอใช้ แต่งานนี้มันหลายเข็มเกิ้นนนน…. สุดจะทานรับไหว little warrior ก็เลยต้องเสียน้ำตา 555 พอออกมาก็เลยแวะซื้อโดนัทให้ลูก แล้วตรงดิ่งกลับบ้านเลย แล้วก็หาข้าวหาปลาเลี้ยงลูก พอเสร็จแล้วก็นั่งอ่านระเบียบการต่างๆ ของไอ้ตี้ (เห่อซะมากมาย) พออ่านไปมา…มาถึง Questionnaire for Parents ก็ปวดจี๊ด…เข้าที่หัวใจเลยค่ะ เพราะมีส่วนที่เป็น Kindergarten Readiness Checklist อ่านแล้วก็..สะอึก จึ๊กกะดึ๋ย..เลย เพราะถ้าต้องทำตอบสอบถามเช็คลิสต์อะไรแบบนี้สำหรับรอมมี่ก็จะ อีซี่ อีซี่ แต่พอต้องทำแบบสอบถามเกี่ยวกับไอ้ตี้ แงๆๆๆๆๆๆ ….แม่ขอโทษลูกเอ๊ยยยย….

page-631

ต้องสารภาพว่าเลี้ยงลูก 2 คนมาแบบต่างกันราวกับฟ้ากับเหว (ถ้าถามเรื่องรัก…ไม่ต้องคิดเลยค่ะ รักลูกทั้งสองสุดหัวใจ) เพราะหนูดีเป็น first born เกิดมาแบบขาดๆ เกินๆ ตอนเป็นเบบี้ก็ถูกรักฟูมฟัก (อย่างมากกกก…) มาจากครอบครัวใหญ่ คือ มีป้า (แม่จ๋า) และคุณยายเลี้ยงมา ทั้งยังเป็นสุดที่รักของคุณลุงและพี่ภูมิ อิชั้นก็ไปทำงานได้แบบเต็มๆ ไม่มีห่วง เหนื่อยทะเลาะกับแม่หน่อยนึง 5555 อิชั้น take serious มาก กับการดูแลท้อง new born เบบี้ และทุกๆ รายละเอียด ทุกๆ development milestones ของลูก อ่านหนังสือ รีเสิร์ช เหมือนจะสอบ entrance…

page-628

พอมาอยู่กันที่เมกา อิชั้นไม่มีงานการทำแล้วก็แพมเพ่อร์หนูดีแบบสุดๆ สอนอ่าน เขียน (โฮมสคูลแบบฝีมือแม่ 100%) พอสามขวบกว่าๆ หนูดีก็อ่านหนังสือชั้น K และ เกรด 1 ได้เกือบหมดค่ะ เขียนชื่อแซ่ ตัวเอง พ่อ แม่ ญาติโกโหติกาได้หมด ที่อยู่เบอร์โทร อ่าน-เขียนคำง่ายๆ ได้เยอะเกินอายุ (อย่าเอาไปเทียบกับเด็กอัจฉริยะนะคะ 555 ไม่สู้เค้าค่ะ) ใครเห็นใครตะลึง พอเอาไปเรียนพรี-สคูล ครูๆ ก็ชื่นชม เอาเป็นตัวอย่างในชั้นเรียนตลอด ล้ำนำหน้าชั้นไปไกล พอเข้าชั้น K ก็กลายเป็น Teacher Pet สุดยอกนักเรียนอีก ก็เป็นแบบนั้นเรื่อยมาค่ะ เวลาลูกใกล้ๆ เปิดเทอมก็จัดซื้อหนังสือเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากหนังสือเรียน คู่มือสำหรับสำหรับพ่อแม่ ฯลฯ อ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ เหมือนกับว่าดีใจมากมายที่โรงเรียนจะเปิดเทอม จะได้ไปโรงเรียนเสียเอง..ตื่นเต้น ดีใจมากกว่าลูกอีกค่ะ 5555 พอโตๆ มาหน่อยก็ off track บ้าง นานๆ ครั้ง แต่ก็กลับเข้าร่องเข้ารอยเป็นเด็ก เอ-รวด บ้างๆ ไม่เอ-รวดบ้าง คือถ้าพูดเรื่อง academic หนูดีก็พอใช้ได้ค่ะ แต่ก็ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชอยู่บ้าง เพราะถ้าไม่กวดขันเลย ก็คงไม่เข้าท่าเหมือนกันค่ะ ถ้าพูดเรื่อง attitude & behaviors อย่าให้เซดค่ะ ต้องให้รางวัลยอดแย่ ตั้งแต่เป็นพรีทีนมา เทอ-เปี่ยน-ไป๋ ค่ะ เธอเปลี่ยนไป … ไปในทางแย่ๆ งี่เง่า sassy & talk back จบเรื่องอีรอมดีกว่า แค่นึกถึง ก็อยากเดินไป “เบิ๊ด-โหลก” มันซะเฉยๆ ค่ะ 5555

page-625

มาถึงคราวไอ้ตี้ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี คือ มีไอ้ตี้ตอนแก่ โรคขี้เกียจก็รุนแรงกว่าเมื่อก่อน ไอ้ตี้ก็เลยถูกเลี้ยงมาด้วย NOGGIN ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็น nick jr. เพราะเค้าโฆษณาว่าเป็น preschool on TV 55555 อีกช่องนึงคือ PBS KIDS Sprout ก็เลี้ยงเด็กเก่ง แม่สันหลังยาว ก็เลยให้ไอ้ตี้เบบี้ซิตตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่ 5555 อิชั้นเลี้ยงลูกชายแบบนอนเลี้ยง ไอ้ตัวโตไปโรงเรียน ไอ้ตี้ก็ถูกเลี้ยงด้วยทีวี รู้จักโม้ดดดด… A-Z นับ 1 ถึง 18-19-20 พอวันไหน แม่มีอารมณ์จะสอนหนังสือหนังหาไอ้ตี้ซะหน่อย ความอดทนของทั้งแม่และไอ้ตี้ต่างมีจำกีด ไอ้ลูกก็ไม่อยากเรียน ไม่อยากเขียนตามที่แม่บอกให้เขียน อิแม่ก็ไม่ได้อยากสอน 555 พอลูกงอแง งี่เง่า ทำอะไร ม่าย-ล่าย-หลั่ง-จาย แม่มันก็… “class dismissed” เลิกรากันไป กร๊ากกกก…. 5555 พอต้องมาตอบแบบสอบถาม เหมือนหัวจะระเบิดค่ะ ถ้าตอบให้อีรอมเร๊อะ เช๊อะ ง่ายมาก ถูกหมด ได้หมด outstanding หมด

page-627

งานนี้ “จุก” แต่ไม่ยอมจอดค่ะ ต้องแจวให้ถึงที่สุดค่ะ ตอนนี้กำลังติวเข้มไอ้ตี้อยู่ เพราะไม่อยากให้มัน behind เพื่อนร่วมชั้น เพราะถ้าเกิดในชั้นมีเด็กที่ ahead (แบบเบบี้รอมมี่) เยอะๆ ไอ้ตี้ตายแน่ค่ะ เพราะไอ้ตี้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการอ่านการเขียนมากนัก แถมไม่มีวินัยใดๆ เลย ตายๆๆๆๆๆ คิดไปก็ปวดกบาลมากค่ะ พ่อบ้านบอกว่า ก่อนที่ลูกจะไปเรียนคินเด้อ จะพยายามเอาไปเรียนที่ซิตี้ตอลเลจซักเดือน สองเดือนค่ะ

อยากให้ทุกๆ คนได้เห็นแบบฟอร์มที่เค้าให้ตอบคำถามค่ะ แต่ขี้เกียจพิมพ์ จะสแกนก็ใหญ่โตแปะยาก แปะเล็กๆ ก็อ่านลำบาก เลยลองไปก๊อปอันนึงจากอินเตอร์เน็ตมาแบ่งๆ ให้อ่านกันเล่นๆ ค่ะ ไม่เหมือนกันฟอร์มที่ได้รับมาแบบเป๊ะๆ แต่ก็คล้ายๆ ค่ะ แบบสอบถามที่ต้องทำจริงๆ ยาวกว่า ถามละเอียดกว่า เน้นเรื่องช่วยเหลือตัวเอง รู้จัก recognized ข้าวของของตัวเอง กินอาหารเอง เปิด-ปิดภาชนะ การใช้ห้องน้ำ แต่งตัวเอง เรื่องมารยาท วินัย การเล่นร่วมกับคนอื่น ไม่ทำร้าย ทุบตีเพื่อน ฯลฯ ใครที่มีลูกรุ่นเล็ก ก็ลองๆ ทำดูนะคะ หรือเตรียมลูกๆ ให้พร้อมกว่าอิชั้นค่ะ

Kindergarten Readiness Checklist

(คำตอบสำหรับไอ้ตี้เป็นสีแดง และ ความเห็นเป็นสีม่วงค่ะ)

Part 1: Concept Development

Does Your Child. . .

recognize and/or name colors? ____Yes ____Not yet

match or sort items by color and shape? ____Yes ____Not yet

participate in art and music activities? ____Yes ____Not yet

understand concepts such as: in, out, under, on, off, front and back? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

know her/his body parts (head, shoulder, knees, etc.)? ____Yes ____Not yet

draw a picture of her/himself including head, body, arms and legs? ____Yes ____Not yet

demonstrate curiosity, persistence and exploratory behavior? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

Part 2: Physical Development

Does Your child . . .

put puzzles together? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ถ้าไม่ complicated เกินไปค่ะ)

cut with scissors? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ พอตั้งใจให้ตัดกระดาษก็จับกรรไกรเก้ๆ กังๆ พอไม่ได้บอกให้ตัด ก็ไปตัดผ้าม่าน โซฟา ฯลฯ แหกหมดแล้ว ไม่เห็นตอนมันทำลายของว่ามันจับกรรไกรเข้าท่าหรือปล่าว 5555)

try to tie her/his shoes? ____Yes ____Not yet

enjoy outdoor play such as running, jumping and climbing? ____Hell Yessssss ____Not yet

hold a crayon or marker? ____Yes ____Not yet

ride a tricycle? ____Yes ____Not yet

bounce a ball? ____Yes ____Not yet

Part 3: Health and Safety

Does Your Child . . .

have a set routine and schedule for: preparing for bed, personal hygiene (e.g., brushes teeth, takes a

bath), and eating meals? ____Yes ____Not yet

use good habits (e.g., uses spoon to eat, closes mouth when chewing, covers nose and mouth to sneeze, washes hands after using toilet and before eating)? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No เพราะยังต้องบอกและเตือนตลอดค่ะ)

follow simple safety rules? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No สอนตลอดแต่มันไม่ฟังค่ะ)

visit the doctor and dentist regularly? ____Yes ____Not yet

eat healthy foods? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

Part 4: Number Concept Development

Does Your Child . . .

arrange items in groups according to size, shape or color? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ถ้าเงื่อนไขข้อจำกัดมากๆ ก็ทำไม่ได้ค่ะ)

group items that are the same? ____Yes ____Not yet

arrange toys or objects in size order, big to small or small to big? ____Yes ____Not yet

use words like bigger, smaller or heaviest to show comparison? ____Yes ____Not yet

compare the size of groups of toys or items? ____Yes ____Not yet

correctly count four to ten objects? ____Yes ____Not yet

show an understanding of the passing of time? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No บางครั้งเข้าใจ แต่บ่อยๆ ไม่ค่อยยอมรับค่ะ คือมันจะไม่เลิก ไม่ฟัง ก็ต้องมีการ..แว๊ดดดด…..)

Part 5: Language

Does Your Child . . .

talk in sentences? ____Yes ____Not yet

follow through when you give her/him one or two directions? ____Yes ____Not yet

use descriptive language? ("That’s a tall building with round windows.") ____Yes ____Not yet

use simple conversational sentences? ____Yes ____Not yet

sing and/or recite nursery rhymes? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ร้องฮัมพึมพำเพลงการ์ตูนได้หลายเรื่องค่ะ rhymes ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ไม่ได้เกิดจากการสอน เรียนเองจากทีวีค่ะ)

use sentences that include two or more separate ideas? ____Yes ____Not yet

pretend, create and make up songs and stories? ____Yes ____Not yet

talk about everyday experiences? ____Yes ____Not yetask questions about how things work in the world around her/him? ____Yes ____Not yet

express her/his ideas so that others can understand? ____Yes ____Not yet

tell or retell stories? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No บางครั้งรู้เรื่องค่ะ แต่บ่อยครั้งที่ เอ่อ เอ่อ ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ)

Part 6: Writing

Does Your Child. . .

try to write, scribble or draw? ____Yes ____Not yet

have a collection of paper, pencils, crayons? ____Yes ____Not yet

like to receive notes from you and others? ____Yes ____Not yet

ask you to write words or notes to people? ____Yes ____Not yet

use chalk or magnetic letters? ____Yes ____Not yet

attempt to write her/his name? ____Yes ____Not yet

attempt to invent her/his own spelling while writing (scribbling sentences)? ____Yes ____Not yet

see you writing (e.g., notes, recipes, lists, letters, reminders)? ____Yes ____Not yet

Part 7: Reading

Does Your Child...

enjoy getting a book as a present? ____Yes ____Not yet

have many books of her/his own and a special place to keep them? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No บางทีเก็บเข้าที่ แต่บ่อยๆ ที่ไม่เก็บค่ะ)

recognize her/his first name in print? ____Yes ____Not yet

look at books or pictures on her/his own? ____Yes ____Not yet

read stories or verses to you? (e.g., shares verses or stories read at school; reads or pretends to read her/his library books) ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No เปิดหนังสือแล้วก้ งึมงำ พึมพำอยู่คนเดียวบ่อยๆ ค่ะ)

try to read in everyday situations? (e.g., street signs, store signs, cereal boxes, newspapers, magazines, TV advertisements) ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

try to talk about or retell the stories or verses heard in school? ____Yes ____Not yet

try to read along with you on favorite parts of the story or sentences that are repeated over and over again? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ชอบให้พ่ออ่านให้ฟัง แล้วตัวเองก็ interrupt จนคนอ่านหมดความอดทนค่ะ)

see you reading? (books, magazines, letters, newspapers, recipes, etc.) ____Yes ____Not yet

know any nursery rhymes by heart? ____Yes ____Not yet

pretend to read books by reading the pictures? ____Yes ____Not yet

Part 8: Social & Emotional Development

Does Your Child . . .

use words to solve problems when angry or frustrated? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

use words such as "please", "thank you" and "excuse me"? ____Yes ____Not yet

attempt new tasks knowing it’s okay to make mistakes? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ชอบพูดว่า I can’t ก่อนที่จะลองหรือลงมือทำค่ะ)

do things for her/himself (e.g., dress self, put away toys and belongings, take care of own toilet needs)? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

have success in taking turns and sharing? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

interact appropriately with peers and have friends? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

ask for help when necessary? ____Yes ____Not yet

stay with an activity to completion (e.g., finish a picture, build something with blocks/legos)?

____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

follow through when you give directions? ____Yes ____Not yet

comply with rules, limits and routines? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

interact appropriately with adults? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

respect the rights, property and feelings of others? ____Yes ____Not yet (somewhat Yes and No ค่ะ)

พอทำเสร็จปุ๊บ ….ก็ เอ่อ อ่า เฮ้ออออ….. เยอะเลยที่ต้อง “ซ่อม” ไม่ท้อค่ะ เรื่องลูก พ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ท้อค่ะ

page-609

กลับมาที่เรื่องฉีดยานิดนึงค่ะ พอตกค่ำ ไอ้ตี้ก็ตัวร้อนเชียว วัดได้ 101.5˚F โน่นเลยค่ะ ก็ให็ยาและดูแลแบบ “แม่มือโปร” ค่ะ ไม่อยากพาไปโรงพยาบาล เพราะหมอก็ต้องบอกให้ทำในสิ่งที่มำอยู่ให้ยาแบบที่กำลังให้อยู่ พอเช้า พารอมมี่ไปทำสะอาดฟัน (เค้าโทรมาเลื่อนค่ะ) แล้วก็ไปส่งที่โรงเรียน พอถึงบ้านไอ้ตี้ตัวร้อนจี๋ 103.7˚F ก็จับถอดเสื้อผ้า ให้ยา บังคับให้นอน ลูกก็นอนกระสับกระส่ายพลิกไปมา ซักพักลุกขึ้นไปอาเจียนใส่ผ้าห่มที่ปลายเท้าพ่อ อิชั้นก็รีบทำสะอาด ดีที่ไม่ทำเปื้อนตรงที่นอน ไม่งั้น ยาววววว…. ก็แค่เช็ด ล้าง เอาผ้าห่มใหม่ออกมา พยายามนอนกันต่อ พอไปรับอีรอม ไอ้ตี้อาเจียนในรถอีก ถึงบ้านก็ทำสะอาดคาร์ซีทอีก จับไอ้ตี้ลงอ่าง วัดไข้ได้ 103.3˚F เหนื่อยใจจัง แต่ก็สงสารลูก ตัวร้อนจี๋ ไข้ไม่ลงเลย ป้อนอะไรก็ไม่ค่อยอมกิน พอค่ำๆ คงหิวนั่งดูทีวีกับแม่ที่กำลังดวดกาแฟอยู่ ไอ้ตี้กินครัวซองต์ไป 4 ตัวจิ๋วๆ เลยค่ะ เห็นลูกกินได้ก็อุ่นใจ ก็พยายามสู้กับไข้ต่อไป เมื่อวานเค้าฉีดเชื่อโรคเข้าไปตั้งหลายตัวนี่เน๊าะ ก็ได้แต่บอกลูก ….ต้องสู้ ต้องสู้ ถึงจะ ชนะ

page-626

Before I got married I had many theories

about bringing up children;

now I have two children, and no theories.

ProudMommy-01

Tuesday, March 1, 2011

Long Weekend & True Grit

ลองวีคเอนด์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรพิเศษ รอมมี่ไม่ต้องไปโรงเรียนในวันจันทร์ หยุด 3 วัน (President’s Day - วันเกิดพี่จ๊อค วอชิงตันเค้า 5555) ไม่ได้วางแผนอะไรกัน ก็พาลูกไปกินอะไรนิดหน่อย เลยค้นพบร้านแฮมเบอเกอร์อร่อยทีเดียว คนอื่นสั่งไรต่อไรกัน อิชั้นสั่ง California Burger & Fries ใส่อะโวคาโด้มาด้วย อร่อยๆๆๆๆ ต้องไปอีก แต่แพงมาก จานละ $10.99 โน่น นานๆ กินที…พอทนได้ วันนี้หิวมาก สวาปามอย่างรวดเร็ว ไม่เหลือซากให้ถ่ายรูปเลย

page-619

จากนั้นก็พาเด็กๆ ไปดูหนังกัน วันนั้นอิพ่อบ้านเผด็จการ อยากดู True Grit พูดไปตลอดทางที่ขับรถ ระหว่างที่ทานอาหารกัน ไม่มีใครอยากดูด้วย นานาความเห็น สรุปว่าเราจะแยกย้ายกันเข้าไปเลือกดูตามใจชอบ หนังใครหนังมัน พอถึงที่ซื้อตั๋ว คนขี้เหงา…อิก๊อตของอิชั้น บอกว่าทุกคนต้องดูหนังเรื่องนี้ อ้าว…รายว้า… อิชั้นอยากดู Black Swan เค้าจะเลิกฉายแล้ว ขอดูหน่อย หนูดีกับอีว่าอยากดู Roommate ไม่มีใครอยากหนีบไอ้ตี้ไปด้วย ทีแรกนึกว่าพ่อลูกจะไปดูโยกิแบร์ (แหวะมาก) พอดีมันลาโรงไปแล้ว คุยกันมาเป็นดิบดี…สรุปทุกคนดู ทรู-กริต เซ็งเลย ดูก็ดูวะ พอเดินเข้าโรง คนไม่เยอะ ระหว่างที่ดูหนัง ไอ้ตี้วิ่งหนีออกมา 3 รอบ อีว่าไปไล่จับเอากลับมา 2 รอบ พ่อมันไปไล่จับเอากลับเข้ามา 1 รอบ เหอๆๆๆๆๆ สะจาย อิชั้นนั่งอ้วนดูหนังสบายใจเฉิ่บ 55555

page-618

หนังเรื่องนี้มาจากนวนิยายคลาสสิค เคยสร้างมาแล้ว (กี่รอบไม่รู้ค่ะ ขี้เกียจค้นคว้า 555 เห็นเค้าโปรยคำว่า Retribution 2011 ก็แสดงว่าเค้าทรีบิ้วให้กับเวอร์ชั่นก่อนๆ แหละเน๊าะ) ก่อนหน้านี้มี ปู่จอห์น เวน เล่น อิชั้นคิดว่าอิชั้นอาจจะเคยดูก็ได้ เพราะสมัยเด็กๆ เด็ดแม่อิชั้นชอบดูหนัง westen คาวบอย จริงๆ แม่พาดูหนังแหลกแหละ หนังแบบนี้จะมีรถแห่หนังผ่านหน้าบ้าน สมัยโน้นนน… ไม่รู้หรอกที่เค้าประกาศปาวๆ หมายถึงอะไร จำได้แต่ว่า 35 มอ มอ ซีนีม่า ซาโค๊บบบบ… บลาๆๆๆๆๆ … เด็ดสุดก็ต้อง “โกญจนาท”…พากย์ 555 อันนี้จำแม่น 555 กลับเข้าเรื่อง … หนังที่ดูวันนี้ ถือว่าดีทีเดียว เป็นหนังคาวบอย ดราม่า มีตลกนิดๆ ด้วย จากที่เห็นคนที่เข้าดู เป็น old white folks ไม่เห็นไอ้เม๊กเลย 5555 พวกลุงๆ ป้าๆ แกคงเคยดูเวอร์ชั่นเก่า เลยมาระลึกความหลังกัน 555 รวมทั้ง old white ดัมแอสสส์ สามีของอิชั้นด้วย 5555 เอิ๊กกกกก…. เป็นว่าหนังเรื่องนีี้น่าดูเหมือนกันนะคะ ใครไม่ได้ดูก็ไปดูกันซะ ไม่ใช่หนังคาวบอยยิงกันโป้งๆ ป้างๆ น่าเบื่อ รอมมี่และอีว่าก็คอนเฟิร์มเป็นหนังดี ถูกใจ ตอนแรกไม่อยากดู พอดูจบแล้ว…อืม ดี ดี

page-620

ถ่ายรูป mural ตรงที่เอารถไปจอดตอนที่แวะทานอาหารกัน ดูสวยเชิงสยองดีค่ะ ส่วนรูปสก๊อตตี้หน้าตาเยินกลับมาเลยค่ะ จมูกแน่น น้ำตาเยิ้ม เหมือนจะเป็นหวัด กลับถึงบ้านจับป้อนยา หลับคร่อกไปเลย แต่ตอนนี้สบายดีแล้วค่ะ โปรดสังเกตุ…โทบี้ ..ชอบอยู่ใกล้ๆ คนที่รังแกมัน 555 ซาดิสม์มั๊ย 555

ฝรั่งขี้สงสัย 555 ฮานาก้า….

ก๊อปมากจากน้องตู้นะคะ อิชั้นมิได้คิด-เขียนเอง แต่ขำดี ไปอ่านกันซะนะคะ

อ่านแล้วขำดี แล้าก็นึกถึงโชว์ Stupid Abroad หน่อยๆ 555 ไม่รู้จะจั่วหัวว่าฝรั่งขี้สงสัย หรือ ฝรั่ง….ง่าว ดี เพราะคิดตามหลักสากลแล้ว ไม่รู้คือไม่โง่..ใช่ป่าว 55555 ชีวิตความเป็นอยู่ ต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา ต่างพื้นฐานความคิด การเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อม ใครที่ไม่เหมือนเรา คิดไม่เหมือนเรา ทำไม่เหมือนเรา… เราก็ว่ามันโง่แหละ ในทางกลับกัน มันก็ว่าเราโง่ เราประหลาด แหะๆ อย่าคิดมาก อ่านขำๆ นะคะ

page-624Thanks > > These pictures from http://www.google.com/images

clip_image001 เป็ปซี่ใส่น้ำแข็ง…ใส่ถุง

clip_image001 ช้างเดินเล่นกลางถนน ตำรวจไม่จับ

clip_image001 คนไทย ทำไมต้องมีชื่อเล่น

clip_image001 มีเพื่อนอเมริกันมาเที่ยวเมืองไทย ตอนเห็นข้าวหลามครั้งแรก เอามือป้องปาก ตกใจ Oh My God !!!!! ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้ ข้าวหลามกระบอกเดียวถ่ายรูปมันทุกมุม ตื่นเต้นกว่าถูกล็อตโต้เสียอีก

clip_image001 เอาปลาเน่ามาทอดกิน เหม็นตลบไป 3 บ้าน

clip_image001 กระดาษสำหรับใช้เช็ดก้น เอามาใช้เช็ดปากก็ได้ด้วย

clip_image001 ร้านอาหารจัดวางกระโถนไว้ใต้โต๊ะ ฝรั่งถามว่า ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม

page-621

clip_image001 บ้านมีศาลพระภูมิ ฝรั่งถาม บ้านหลังเล็กๆ หน้าบ้าน เอาไว้ให้อะไรอยู่

clip_image001 อาหารข้างทาง ริมถนน หาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

clip_image001 กินผลไม้จิ้มเกลือ กินก๋วยเตี๋ยวแล้วใส่น้ำตาล

clip_image001 คนไทยจูงมือคนแก่กับเด็กๆ ข้ามถนน, ลุกให้คนแก่นั่ง ... ฝรั่งเห็นแล้วซึ้ง

clip_image001 ข้ามถนน ตรงไหนก็ได้

clip_image001 ผู้ใหญ่ตีเด็ก ฝรั่งเห็นแม่ค้าที่ตลาดจตุจักรตีก้นลูกผลั๊วๆ ฝรั่งตกใจตาค้างเลย

clip_image001 ละครไทย ทำไมตัวละครหญิงต้องทำเสียงแปร๋นๆ พร้อมกับทำตาเถลือกถลน

clip_image001 คนไทยกินกันทั้งวันทั้งคืน กินได้ทุกที่ ไปที่ไหนๆ ก็มีอาหารขายข้างทางทั่วประเทศไทย

clip_image001 อาหารเช้า กลางวัน เย็น เหมือนกันหมดใครอยากกินตอนไหน อยากกินอะไรก็กิน

clip_image001 ทำไมคนไทยชอบกินอาหารนก (เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแตงโม)

clip_image001 มีเพื่อนเคยถามว่าเธอไปโรงเรียนยังไง มีรถขับรึเปล่า เราก็ตอบเขาไป มีรถ แล้วเพื่อนถามกลับมาพร้อมทำตาโต จริงเหรอ เรานึกว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียน แป่ว..=__=

clip_image001 เพื่อนฝรั่งได้ยินพระสวดงานทำบุญบ้าน ถามว่าทำไมต้องให้คนเหล่านี้มาร้องเพลง

page-623

clip_image001 ละครพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทอง สามีชอบดู ทั้งที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ถามว่า-ทำไมเด็กหญิงคนนั้นรักต้นมะเขือเทศ พอถูกตัด มะเขือเทศร้องไห้เสียงดัง ดิฉัน ตอบว่า- เพราะมะเขือเทศเคยเป็นแม่ของเด็ก ก่อนหน้านั้นเป็นคนจริงๆ พอแม่ตายกลายเป็นปลาทอง ถูกจับกินทิ้งก้างไว้เลยกลายเป็นมะเขือ เดี๋ยวยูดูนะ ต่อไปมะเขือจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ มีใบเป็นสีเงินสีทองด้วยแหละ นี่ยังเล่าไม่จบเลยนะว่าเด็กหญิงโตขึ้นถูกนางอิจฉาฆ่าตาย แล้วกลายเป็นนกแขกเต้า!

clip_image001 ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านการทำนาที่แปลกมาก (คือพัฒนาได้ช้านั่นเอง) ทั้งๆที่เป็นอาชีพประจำประเทศ อันนี้เทียบกับญี่ปุ่นคือ สมัยก่อนญี่ปุ่นมีปัญหาขาดแคลนข้าวอย่างหนัก จนต้องนำเข้าข้าวของไทย แต่พี่ไทยพอเห็นเงินก้อนใหญ่ดันโลภ เอาข้าวปลอมปนไปขายให้เค้า เค้าเลยไม่ยอมซื้อข้าวกับเราอีกเลย หลังจากนั้นญี่ปุ่นเลยทำนาเอง เค้าสามารถทำนาได้สุดยอดมากๆ สามารถเกี่ยวข้าวทั้งไร่ได้ภายในวันเดียว เป็นระเบียบมาก และสามารถสั่งข้าวผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ผุ้บริโภคสามารถซื้อข้าวกับชาวนาได้โดยตรง (ขอย้ำว่าสามารถจัดการได้ใน 1 วัน)

clip_image001 ทามมายโคนทาย..ชอบขี้.. ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้บ่น ขี้โม้ ขี้เห่อ ขี้อิจฉา ขี้มูก ขี้ตา ขี้เหม็น etc.... เอะอะ อะไรก็ขี้ๆๆๆๆๆ ...shit this shit that all the time

clip_image001 ผู้ชายเจ้าชู้จะโดนภรรยาตัดอวัยวะเพศ แล้วจะขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1

clip_image001 คนไทยรักพระมหากษัตริย์มาก ฝรั่งตกใจว่าไม่คิดว่ าคนไทยจะรักพระมหากษัตริย์มากถึงเพียงนี้

clip_image001 ชาวมาเลย์ตกใจมากที่เห็นคนไทยเอารถราคาเป็นล้านมาทำ Taxi นั่งแล้ว ไม่อยากลง

clip_image001 ใส่เสื้อผ้าเต็มที่แล้วเล่นน้ำทะเล น้ำตก

clip_image001 ฝรั่งงงกับภาษาของกระเป๋ารถเมล์มาก คือ คำว่าไป-ป้าย มันออกเสียงเหมือนกัน ทำไมคำนึงรถถึงจอด กับอีกคำรถถึงวิ่งออกไป ฝรั่งฟังแล้วงงว่ามันคำเดียวไม่ ใช่เหรอ

clip_image001 ร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมมีทั้งบนบกกับในเรือ คือทำไมบางร้านขายบนบกต้องเอาเรือมาจอด แล้วทำไมคนขายต้องไปนั่งขายในเรือด้วยทั้งๆ ที่อยู่บนบกแท้ๆ

clip_image001 ฝรั่งงงบางวันมีคนใส่เสื้อสีชมพูเยอะแยะไปหมด

page-622

clip_image001 ทำไมเวลาขึ้นรถไฟฟ้าประเทศไทยแล้วเดินไปแลกเหรียญที่เคาน์เตอร์ ถึงซื้อตั๋วที่นั่นเลยไม่ได้ ต้องแลกเป็นเหรียญแล้วเดินกลับมาหยอดอีก

clip_image001 ฝรั่งงงคนไทยนิสัยประหลาดผลไม้ไม่สุกก็เอามากิน เช่น มะม่วง

clip_image001 คนเยอรมันประทับใจห้างในกรุงเทพฯ เปิดทุกวัน

clip_image001 คนญี่ปุ่นตกใจมากกับคำว่า "กินเล่นๆ" บอกว่าคนไทยกินตลอดเวลาเลย ถามว่ากินทำไม ..? บอกว่ากินเล่น ตกใจมากเพราะที่ญี่ปุ่นไม่มีกินเล่นๆ มีแต่กินจริงจัง

clip_image001 สาววัยรุ่นชาวฮอลแลนด์มาอยู่แถว อ.นาแก จ.นครพนม ไม่ยอมกลับบ้าน แม่ตามให้กลับบ้านเท่าไรก็ไม่กลับบอกว่ากลับไปบ้านก็ไม่มีอะไรกิน หนาวก็หนาว อยู่นี่มีกินทั้งปี อยากกินอะไรดึกแค่ไหนก็เดินออกมาซื้อกินได้ตลอด ผลไม้มีกินทั้งปี กลับบ้านไปมีกินแต่หน้าร้อน ดอกไม้ก็บานทั้งปี ไม่ใช่ได้ดูแค่หน้าร้อนแบบบ้านเขา

clip_image001 นักร้องคริสตี้ติดอาหารไทยจนกลับไปบ้านเยี่ยมปู่ยา ต้องพก มาม่าไปด้วยเพราะ กินอาหารบ้านตัวเองไม่ได้ มันเลี่ยนนมเนย

clip_image001 ทำไมคนไทยชอบชวนกินข้าว

clip_image001 เวลาเล่นเน็ตคนไทยชอบพิมพ์ "555+"

ขอบคุณ http://fail.in.th/ สำหรับรูปภาพที่อิชั้นก๊อปมาทั้งหมด (โดยมิได้ขออนุญาต)

อยากจะเชิญชวนเพื่อนๆ เข้าไปดูเว๊บนี้นะคะ วันไหนเซ็ง เครียด ชะงัดนักเชียว ขำกร๊าก…. ฮามากๆ