Friday, April 29, 2011

แปะมือกันป่วย…หมอรวยตามเคย

ตลอดเดือนที่ผ่านมาอิชั้นกับลูกชายก๊อตตี้ผัดกันป่วย ลูกเอาเชื้อโรคมาฝากจากโรงเรียน เป็นหวัดไอจนตัวโก่งน่าสงสาร ไม่กี่วันต่อมาแม่ก็เป็นหวัด ไอ แบบหนักมาก ไอแบบเลือดออกมาเลย ไอจวนปวดท้อง ฉี่เล็ด ไอที่เจ็บซี่โครง ไอจนเหนื่อย นั่งร้องไห้เลยค่ะ พอลูกค่อยยังชั่วหน่อยนึงก็มาทวงเอาเชื้อโรคคืนจากแม่ ลูกป่วยงอมอีก มีช่วงนึงที่อิชั้นเป็นแบบหนักๆ นอนซมเลยก็ 4-5 วัน ต้องลากสังขารขับรถรับ-ส่งลูก กินยาเป็นตะกร้า หนูดีโตพอที่จะหากับข้าวกับปลากินเองได้ แล้วอาหารโฟรสเซ่นก็ซื้อไว้เต็มตู้เย็น แต่ไอ้ตัวเล็กสิคะ อิชั้นยังต้องไปหุงหา (บางที่ยังต้องป้อน) ขุนให้เสร็จๆ วันละ 2-3 ครั้ง ส่วนตัวเองช่วง 4-5 วันนั้น น้ำหนักหายไป 9 ปอนด์ ชอบจังเลย แต่ไม่ชอบตรงที่ป่วย พอฟื้นตัวมาหน่อยก็ฟาดทุกอย่างที่ขวางหน้า ได้คืนมาหมดทุกกิโลทุกขีดแล้วยังได้แถมมาอีกหน่อย

page-673สก๊อตตี้ที่โรงเรียนวัน Easter Party ค่ะ

ตอนกลางๆ เมษาก็พาพ่อบ้านไปโรงพยาบาลทำ colonoscopy ซึ่ง 2-3 วันก่อนหน้าก็ต้องมีการเตรียมตัว ล้างไส้ล้างพุง ห้ามกินโน่นกินนี่ ต้องดื่ม solution ที่รสชาติ “โคตรโหด” เป็นแกลลอน ตามเวลาที่เค้ากำหนดมา (เคยต้องดื่มไอ้โซลูชั่นนั่นตอนที่ผ่าตรูด จำได้ว่ารสชาติ so nasty กว่าจะหมดขวดแทบตายเลยค่ะ) อีกอย่างนึงที่น่ารำคาญมาก คือ ผู้ชายนะคะ จริงๆ แล้วใจเสาะ ขี้กลัว กว่าผู้หญิงเยอะเลย ('MythBusters' confirms whether women tolerate pain better than men.) กลัวๆๆๆ บ่นๆๆๆ ตลอดเวลาที่รู้ว่าต้องทำเทสต์อันนี้ (เกือบๆ 1 เดือน) พูด พล่าม บ่น สงสัย กังขา แพล่มๆๆๆๆๆ ตลอดเวลา เบื่อหน่ายมาก อิชั้นเหนื่อยหน่ายที่ต้อง “ฟัง” จนต้องตะหวาดแว๊ดกลับไปหลายหน กรู….ผ่าตรูด 2 ครั้ง ผ่าคลอด 2 หน แต่ละหนหมอผ่าขาดกลางครึ่งตัวเลย ไม่บ่นซักคำ แล้วก็ยังไม่ตาย แค่ต้องโดนหมอเอากล้องเสียบตรูด (ไม่ใช่กล้อง DSLR หรือ กล้องส่องดูดาวซะหน่อย 555) แถมเค้าให้ดมยาสลบด้วย โอ้ยยยย… เบื่อ ตอนนี้ค่อยสบายหูไปหน่อย เพราะจบไปแล้ว แต่ก็ต้องขับรถบริการอยู่ 2-3 วันหลังจากทำเสร็จ ตามหมอสั่ง ขนาดตัวเองป่วยๆ ก็ยังต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดี หรือ subservient wife (ฟระ) เพราะเบื่อไม่อยากบ่น ไม่อยากทะเลาะกับ whining old man อดทน นับถอยหลัง ให้มันจบๆ เสร็จๆ ซะทีจะได้สบายหู เฮ้อออ……

page-671พ่อหยุดอยู่บ้านบ่อยๆ เด็กๆ เลยได้ออกไปไหนๆ บ่อย Eat Out บ่อย และได้ของเล่นใหม่ๆ แทบทุกวัน

เอาวิธีปฏิบัติตัวก่อนทำ colonoscopy มาให้อ่านค่ะ ถ้าอยากอ่านแบบละเอียดมีให้อ่านเยอะเลย กูเกิ้ลคำว่า colonoscopy ดูค่ะ

How to Prepare for the Colonoscopy Test

You will need to completely cleanse your intestines. Your health care provider will give you instructions for doing this. This may include a combination of enemas, not eating solid foods for 2 or 3 days before the test, and taking laxatives. You will usually be told to stop taking aspirin, ibuprofen, naproxen, or other blood-thinning medications for several days before the test.

You will be asked to drink plenty of clear liquids for 1 - 3 days before the test. Examples of clear liquids are:

  • Clean coffee or tea
  • Fat-free bouillon or broth
  • Gelatin
  • Sports drinks
  • Strained fruit juices
  • Water

Unless otherwise instructed, continue taking any regularly prescribed medication. Stop taking iron medications a few weeks before the test, unless your health care provider tells you otherwise. Iron can produce a dark black stool, which makes the view inside the bowel less clear.

Outpatients must plan to have someone take them home after the test, because they will be woozy and unable to drive.

page-667ก๊อตตี้เน่าๆ หลังเลิกเรียน และเด็กๆ ที่ร้านว๊าฟเฟิ่ลแสนโปรด อยากทำว๊าฟเฟิ่ลได้เจ๋งๆ แบบนั้นจังเลย กรอบนอก-นุ่มใน ซื้อกลับมาแช่ตู่เย็น 3-4 วัน เออใส่เตาติ๊งแป๊บนึง ออกมากรอบนอก-นุ่มใน หอมเหมือนใหม่สดจากร้านเลยค่ะ

หลังจากทำส่องกล้องลำไส้ใหญ่เสร็จ อีกสัปดาห์ต่อมาพี่แกก็ต้องไปทำ biopsy ตับ คราวนี้ก็โวยวายติดต่อกันหลายวันไม่หยุดเหมือนเดิม เบื่อฟังมากๆ (ที่เอามานินทา ไม่ใช่ไม่รักนะคะ รักอยู่แล้วววว….. จะบ้าบอคอแตกก็ต้องรัก เพราะเป็นคนหาเลี้ยง 5555) ที่บ่นมากมายเพราะเค้าไม่ได้วางยาสลบ แต่จะฉีดยาให้ชาบริเวณที่จะถูกเจาะเท่านั้น หมอจะใช้เข็มเจาะรูที่พุงกะทิแล้วก็ทำพิธีทิ่มแล้วดูดตับออกมา 2 ชิ้น (หลอด) เพื่อไปตรวจ คิดดูเอาเถิดคุณๆ คะ ไอ้เครื่องมือก็จิ๋วนึง ไม่ใช่มีดอีโต้ คงไม่เอาตับออกมาจนไปทำตับหวานตับย่างรับทานได้หรอก อีตานี่ก็บ่น กลัวตาย ทำมห้อิชั้นต้อง bluff กลับไปว่า นี่ๆๆๆๆ แกๆๆๆๆ ช้านนน…ต้องทำ Amniocentesis ตั้งสองครั้งสองคราตอนท้อง ไม่สลบ ไม่ฉีดยาชา ทิ่มกันสดๆ เข็มเท่าเข็มฉีดฟาย ดูดเอาของเหลวออกมาหลอดเบ้อเริ่มเทิ่ม พอเสร็จปุ๊บ-ปิด “ปั๊ดเต้อ” กันน้ำรั่วซึมเสร็จ กลับบ้านได้ อีพ่อบ้านก็บ่นๆๆ ว่าไอ้ที่เราถูกกระทำน่ะเล็กน้อย แต่เค้าจะมาเอาชิ้นตับไปนี่เรื่องใหญ่ ก่อนทำต้องงดยาบางชนิดประมาณ 1 สัปดาห์ มีข้อปฎิบัติไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ พอทำเสร็จก็ห้ามขับรถเหมือนเดิม ลางานอยู่บ้านก่อน-หลัง procedure เพราะกลัวตาย+ขี้เกียจ และชักติดใจที่ไม่ต้องไปทำงาน 555 พอข้ามคืนก็บ่นว่าปวดท้อง หมออู๋จัดยาให้ก็หายดี แต่ก็ยังนั่งคลำ นอนคลำ เดินคลำ ไอ้ปั๊ดเต้อที่เค้าปิดรูที่ถูกเจาะตลอดเวลา แผลกะติ๊ดนึง ไม่ต้องเย็บเลย ใจเสาะจริงๆ

page-672พ่อบ้านทำหน้าเหมือนเมา ทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ดูด ไม่ดื่ม พากันไปดินเน่อร์ร้านหะรูหะรานิดๆ แถว Tower District เพราะซื้อ Voucher ครึ่งราคาเก็บไว้หลายใบค่ะ ค๊อกเทลแก้วนั้นของอิชั้นค่ะ อร่อยและหนักหน่วงดี เอสคาโก้ และ Basque ซีฟู้ดส์ซุป ก็ของอิชั้นค่ะ ลูกๆ และพ่อบ้านกินอะไรกันบ้างก็ไม่รู้ แม่มันมาวววววว….. ป่วยแล้วเมา หลับลึกดีนักแล…

การที่ต้องเอาเนื้อตับไปตรวจ (จากที่อ่านๆ มาค่ะ ไม่ได้เป็นหมอเด้อค่ะเด้อ แต่อยากจะมาสรุปให้อ่านได้เข้าใจง่ายๆ ค่ะ) วิธีการจริงๆ คือ เข็มขนาดใหญ่จะแทงเอาเนื้อตับแล้วตูดออกมา แล้วตับเป็นอวัยวะเพียงอย่างเดียวของมนุษย์ที่ heal ตัวเอง และงอกออกมาคืนขนาดเท่าเดิมได้ แต่ไม่ใช่ตับเสียมากๆ ทั้งยวงแบบมะเร็งนะคะ อันนั้นหมอต้องตัดส่วนที่เสียทิ้งไป หากเหลืออยู่ไม่มากร่างกายก็ฟังชั่นก์ไม่ดี ไม่เหลือเนื้อตับดีๆ มากพอให้สร้างเนื้อตับขึ้นมาใหม่ ต้องขอบริจาคมา implant ต่อไป ส่วนคนที่ให้บริจาคตับ หมอก็จะตัดไปเท่าที่ไม่ทำร้ายระบบร่างกายของผู้บริจาค หลังจากพักฟื้นไม่กี่วันก็สามารถกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติได้ ส่วนตับก็จะค่อบๆ ทำการเยียวยาแผลที่ถูกตัดและเจริญเนื้อตับออกมาจนเท่าเดิมได้ภายในไม่กี่เดือนค่ะ

page-669ก๊อตตี้ดื้อๆ ซนๆ ที่โรงพยาบาลตอนรอให้หมอล้วงตับพ่ออยู่ค่ะ ได้ Red Velvet Cupcake มาช่วยกู้ภัยลดความซนนิดนึงค่ะ

เอาวิธีปฏิบัติตัวก่อนทำ liver biopsy มาให้อ่านด้วยค่ะ ถ้าอยากอ่านแบบละเอียดมีให้อ่านเยอะเลย กูเกิ้ลคำว่า liver biopsy ดูค่ะ

How does a person prepare for a liver biopsy?

At least 1 week before a scheduled liver biopsy, patients should inform their doctor of all medications they are taking. Patients may be asked to temporarily stop taking medications that affect blood clotting or interact with sedatives, which are sometimes given during a liver biopsy.

Medications that may be restricted before and after a liver biopsy include

  • nonsteroidal anti-inflammatory drugs, such as aspirin, ibuprofen, and naproxen
  • blood thinners
  • high blood pressure medication
  • diabetes medications
  • antidepressants
  • antibiotics
  • asthma medications
  • dietary supplements

Prior to liver biopsy, blood will be drawn to determine its ability to clot. People with severe liver disease often have blood clotting problems that can increase the risk of bleeding after the procedure. A medicine given just before a liver biopsy, called clotting factor concentrates, reduces the risk of bleeding in patients with blood clotting abnormalities.

Patients who will be sedated should not eat or drink for 8 hours before the liver biopsy and should arrange a ride home, as driving is prohibited for 12 hours after the procedure. Mild sedation is sometimes used during liver biopsy to help patients stay relaxed. Unlike general anesthesia where patients are unconscious, patients can communicate while sedated but then often have no memory of the procedure. Sedatives are often given through an intravenous (IV) tube placed in a vein. The IV can also be used to give pain medication, if necessary, after the procedure.

liver-biopsy

หลังจากพ่อบ้านต้องเข้าออกโรงพยาบาลติดๆ กัน ต้องลางานอยู่บ้านหลายวัน มันช่างประหลาดๆ ค่ะ เพราะปกติพ่อบ้านใช้เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าอยู่บ้าน พอพี่แกต้องมาเดินเกะกะเพ่นพ่านในบ้านติดต่อกันทีละหลายๆ วัน มันแปลกๆ จะทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาอิชั้นไปหมด เหมือนโดนปล้นพื้นที่ในบ้าน territory entrapment ทีวีก็แย่งกันดู หนีไปดูในห้องนอน ก็ตามไปเปลี่ยนช่อง นอนดูขวางโลก ให้หงุดหงิด แต่ไม่อยากอาละวาด พยายามบอกตัวเอง be happy นานๆ จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงติดกันหลายๆ วัน แต่.. แอร๊กกกกก…… ไม่ไหวค่ะ พอนึกอย่างมีเหตุผลแบบไม่เข้าข้างตัวเอง คำตอบคือ อิชั้นอาจจะกำลังถูก menopause attacks อะไรๆ เลยดูไม่ถูกใจไปหมด หงุดหงิดง่าย แล้วอิชั้นก็ป่วยๆๆๆ ไม่สบายเนื้อสบายตัว เลยพาลให้ไม่สบายใจ ปวดหัว ปวดตา ไม่อยากขับรถไกลๆ พอถึงเวลาต้องกลับไปทำงาน พี่แกก็โทรไปลางานเพิ่มอีก 2 วัน อ้าว..เว้ย..เฮ้ย..อารายว้าาาา……

page-670เด็กๆ เจริญอาหารที่ IHOP - International House of Pancakes แม่ไม่สบาย พ่ออยู่บ้าน โห่กันไป IHOP หลายหนเลยค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ Kids Eat Free พอดี เลยราคาน่าร๊ากกกก……

พอพ่อบ้านหยุดอยู่บ้านในขณะที่ลูกๆ ไปโรงเรียน มันก็มีดีอยู่บ้าง คือ พ่อบ้านไปรับลูกๆ ให้ (แต่ไม่ยอมไปส่งให้หรอกนะคะ ให้อีตาคนนี้ตื่นเช้า เหมือนให้ไปตาย เผลอๆ มีศึก) ใช้ไปซื้อกับข้าวกับปลาได้บ้าง แค่นั้นจริงๆ 555 จากที่ตั้งใจจะมาบ่นเรื่องป่วยๆ ไข้ๆ กลายเป็นมานินทาพ่อบ้าน 555 แล้วก็เล่าเรื่อง “สะพรึง” เล็กๆ 555

page-675IHOP อีกแล้ว งานนี้ก๊อตตี้โดนพ่อดุเพราะซนและวุ่นวายเหลือเกิน ตอนนั่งอยู่กับแม่ยิ้มแย้มแป้นแล้นเชียว พอพ่อย้ายสลับไปนั่ง 555 ก๊อตตี้กินแพนเค้กเคล้าน้ำตา 55555 สมน้ำหน้ามากกกก…..

กลับมาที่อิชั้นกับลูกๆ งานนี้ buffy รอมมี่ ไม่ป่วยค่ะ มีขี้มูกยืดกับไอนิดหน่อย เมื่ออาทิตย์ก่อนอิชั้นก็เริ่มไออีก คราวนี้งอมหนักกว่าเดิม ทุกข์จริงๆ ค่ะ จัดหายากินเอง จนเชื้อโรคดื้อยาแหละ พอวันอาทิตย์ตื่นมาขี้ตาเกรอะกรัง แดงกล่ำ น่ากลัวมาก จัดการแล่นไปวอลมาร์ทซื้อยาหยอดตาสำหรับโรคตาแดง หมั่นหยอดทั้งวัน ก็ไม่ทุเลา เลยนึกถึงยาแก้อักเสบที่มีเก็บไว้ (ไม่ได้เอาออกมากินก่อนหน้านี้เพราะหวัดเกิดจากแบคทีเรีย กินไปก็เสียเปลาค่ะ) เอาออกมาจัดการซะ เผื่อจะช่วยเรื่องเชื้อโรคตาแดง-ตาอักเสบให้ทุเราได้บ้าง พอเช้าวันจันทร์ออกไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนเสร็จก็เลยไปโรลพยาบาลดพื่อทำนัดหมอ หมอก็คิวเต็ม เจ้าหน้าที่ก็บอกมานั่งรอ walk-in ละกัน (ไม่โทรไปทำนัดเพราะมีบทเรียนกับบริการหน้าเคาน์เต้อร์ รพ. นี้ “ห่วย+ขี้เกียจ+negligence” แบบได้โล่ห์ เยสๆๆๆ โอเค.. โอเค.. พอเรา show-up ไม่มีนัด-เนิ๊ดอะไรเลย ไปนั่งรอเงกแบบพวก walk-in เลยต้องไปทำนัดแบบ “ตาต่อตา” ค่ะ) เช้าวันอังคารก็บึ่งไปแต่เช้าหลังจากส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จ โหยยยย….. คนเต็มเลย ทำใจไว้ก่อนเลยว่าต้องนั่งจนรากงอกแน่ เลยไปนั่งจอหน้าทีวี กะดูทีวีแห้เซ็ง แต่ผิดคาดรอไม่นานเลยค่ะ (30 นาทีได้) พอเข้าไปรอในห้องตรวจก็ไม่นานอีก ฟลุ๊คมากๆ น้องหมอ Karl ทักทายเหมือนเพื่อนสนิท ปึ๊งแฟ้มประวัติก็ไม่เอาเข้ามา ส่องจมูก คอ แหกหู แหกตา ตรวจแป๊บๆ ก็เสร็จ บอกว่าอิชั้นเป็น Allergy Attack แบบ servere จะมา อัลเลอ“จ้ง-จี้” อะไร กินยาภูมิแพ้ทุกวัน เฮ้อออออ….

page-674ช่วงที่แม่ไม่สบายนอนซม บางวีคเอนด์ก็ได้ Eva กับแฟนหนุ่มพาเด็กๆ ไปพาร์คมั่ง ไปเลคมั่ง ดีกว่านอนดูโทรทัศน์ทั้งวัน

มันต้องไม่ใครก็ใคร (บักหมอคาร์ลหรืออิชั้น) ที่ misdiagnosed พอเจอหมออิชั้นก็บอกแบบผู้ (อวด) รู้ว่า อิชั้นเป็น super bad cold & cough เป็นๆ หายๆ มากว่าเดือน พอเมื่อไม่กี่วันก็ดันเป็น pink eyes อีก อีหมอคานก็บอก ตายังแดงอยู่มาก แต่น่าจะไม่ใช่โรคตาชมพู 5555 ฝรั่งตั้งชื่อโรคได้น่ารักดีเน๊าะ เอายาไปหยอดละกัน แล้วอาการภูมิแพ้ก็น่าห่วงมาก เดี๋ยวให้พยาบาลมาฉีดยาให้นะ อยากให้เปลี่ยนยาแก้ภูมิแพ้เป็นแบบ super extremely strong allergy medicine นะ (โห…จะอะไรกันนักกันหนา ตอนนี้ก็กินยาวันละเป็นกำๆ คงจะต้องตายเพราะยาละมั๊งตรู ยังจะมาให้กินค่อตพ่อค่อตแม่ antihistamine เบื่อว่ะ) แล้วก็เปิดแน่บออกไป ซักพักพยาบาลเข้ามากับเข็มฉีดยา 1 หลอดในถาดเล็กๆ ก่อนจะฉีดก็ให้อิชั้นเซ็นยินยอมถึงรู้ว่าใน syringe เล็กๆ หลอดนั้นเป็น cocktail ของยา 2 ชนิด (จำชื่อไม่ได้ แหะๆ) พอพยาบาลบอกให้นอนคว่ำเพราะจะฉีดที่ก้น อิชั้นก็ถามไปว่ายาในหลอดนั้นมีอะไรที่เป็น sulfa group หรือปล่าว If “YES”… call ambulance, I need to go straight to ER pretty quick. เธอก็อึกอัก-ขอตัววิ่งไปถามหมอ พอกลับเข้ามาก็บอกว่าปลอดภัย Nothing is Sulfa! จัดการทิ่มฉึก จบ เสร็จ ได้ใบสั่งยา อีหมอคานโผล่หน้ามา Happy Mother’s Day, Bye! Oh….I need to see you in 2 months. I'll let the staff know you need be here for your follow-up appointment. Bye Darling! แว๊ก 555 มันเป็นตุ๊ดแหงๆ เลย ยิ่งเจอยิ่งตุ้งติ้ง 5555 น่าร๊ากกกกก……

page-666ยาที่ได้มาล๊อตล่าสุด กับกองยาที่ขนกินเข้าไป จริงๆ มีอีก 2-3 กล่องที่กินไปหมดไม่เหลือซากให้ถ่ายรูป NyQuil ที่เห็นในรูปเป็นขวดที่ 2 ถ้าถ่ายรูปตั้งๆ ก็จะเห็นได้ว่าเหลืออีกแค่ “กรึ๊บ” เดียว ยาอมหมดไป 3 กล่อง เปิดเครื่อง steam warm mist ทั้งวันทั้งคืน

พอออกจากโรงบาลก็แจ้นไป CVS ซื้อหายาตามใบสั่ง (ปกติต้องไปซื้อยาที่ Target เฟสโน่นู้นนนน…. แต่ป่วยหนักแล้วน้ำมันก็แพงโคตร เลยต้องไปซื้อที่ CVS ซึ่งอิชั้นเคยฟาดหัวฟาดหางไว้ที่นั่นอยู่หลายหน 555 เสียฟอร์มน่าดู แต่โชคดีที่พวกเทคนีเชี่ยนหน้าใหม่ๆ ทั้งหมดเลย) รออยู่ไม่นานก็ได้ยามา ทั้งๆ หมด 4 อย่าง จ่ายไป $74.79 มียากินแก้โรคภูมิแพ้ 30 เม็ด ยา Vicodin 30 เม็ด แล้วยาหยอดตา 2 ขวดจิ๋วๆ อันนึงเป็นยาแก้แพ้ อีกอันเป็นยาหยอดแก้ตาอักเสบ ยังไงวะ ไหนบอกว่าไม่ใช่ตาแดง แล้วจ่ายมาทำไมเนี่ย พวกหมอๆ ก็ต้อง “save their asses” เป็นธรรมดา คนไข้บ้านนี้เมืองนี้ก็เลยถูกรักษาแบบ over treatment ดีนะว่าไอ้ยานั่นหลอดไม่ถึง 2 เหรียญ คือประกันคัฟเว่อร์เกือบหมด แต่ไอ้ยาหยอดแก้แพ้นั่นหลอดตั้ง 22 เหรียญ (แค่ 20% ของราคาจริงนะคะ ฮึ่ม) ส่วนที่แพงที่สุดคือไวโคดีน (“ฝิ่น” ตามใบสั่งอย่างถูกกฏหมายของอิชั้น 555) 30 เม็ด $39.98 ถ้าเป็น generic ก็ประมาณ $4 for 30 tablets อิชั้นต้อง “เสพ” ยาตัวนี้ประมาณเดือนละ 5-6 เม็ด เวลาที่ปวดท้องปริศนา (ไม่มีหมอคนไหนหาสาเหตุเจอมากว่า 40 ปี 555 ถึงเรียกว่า “ปวดปริศนา” 555) ไอ้ 30 เม็ดที่ได้มา-อยู่ได้หลายเดือนค่ะ อิชั้นไม่ติดยานี้นะคะ แต่ยานี้ช่วยได้มากเวลาปวดปางตายแบบอิชั้น เคยใช้แบบ generic เพราะงก แต่มันไม่เห็นผล เหมือนกิน Tylenol ยังไงอย่างงั้น เวลากินยาตัวนี้เข้าไป พอยา kick ปุ๊บ จะรู้สึกแปลกๆ อธิบายยาก ง่วงๆ เหมือนอยู่ในวังวน twilight zone 5555 บางทีรู้สึกคลื่นไส้ ถ้านอนก็ “หลับปุ๋ย” สบายเชียวค่ะ ถ้ากินตอนขับรถ (อิชั้นทำบ่อยๆ เพราะความจำเป็น) อึ๋ย กึ๋ย น่ากลัวค่ะ เพราะเบลอๆ ลอยๆ เบาๆ แต่ไม่ยักง่วง จบเรื่องยาบ้าดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆ จะอยากลอง 5555

Vicodin เป็นยาบรรเทาอาการปวด เป็นยาผสมระหว่าง ยาเสพติดที่ใช้บรรเทาอาการปวด (Narcotic analgesics) กับยาแก้ปวด ลดไข้ กลุ่ม Acetaminophen (Paracetamol) ยานี้มีคุณสมบัติ เมื่อใช้เป็นประจำ และบ่อยครั้ง จะทำให้ติดยา และต้องเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยปกติ Vicodin ใช้เรียกแทนสาร Hydrocodone ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฝิ่น (Opiate antagonist) มีสูตรทางเคมีคือ C18 H21 NO3 ในประเทศ สหรัฐอเมริกา จัดให้ สารนี้ เป็นสารควบคุม ตามกฎหมายของ Control Substance Act โดยจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 (Schedule II ) ซึ่งสารอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ morphine, cocaine, methamphetamine (ยาบ้า) และ Methadone เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทย กำหนด ให้เป็นยาเสพติด ประเภท 2 (ประกาศกระทรวง สาธารณสุขฉบับที่ 135 พ.ศ. 2539) ในประเทศ สหรัฐอเมริกา การซื้อ vicodin ต้องใช้ ใบสั่งแพทย์ เพื่อให้มีการดูแล การใช้ อย่างใกล้ชิด แต่ พบว่ามีการขายอย่างแพร่หลายทาง e-commerce โดยมีชื่อการค้าต่างๆ กัน

http://www.dmsc.moph.go.th/chiangmai/hotissue04.htm

page-668วีคเอนด์ที่ค่อยยังชั่วก็ทอดกล้วยหอมให้ลูกผัวกินกันอร่อย เอา New York สเต๊กที่เหลือมาจาก Eat Out เอามา หั่น โยนใส่เตาติ๊ง แล้วทำยำเนื้อรสแซ่บทานกับพ่อบ้าน (ในรูปยังไม่ได้เอาไปอบค่ะ) ส่วนพ่อบ้านก็ทำสปาเก๊ตตี้มีทซ๊อส signature ของพี่แก ทำหม้อใหญ่เลย กินกันได้หลายวัน Meaty มากๆ ชามที่เห็นในรูปเป็นของอิชั้น ที่เลอะๆ เพราะเป็นรอบที่สอง ทานกับมะกอกดำ อืมมม….หย่อย

เลิกพูดเรื่องยาดีกว่า จากนี้ก็ภาวนาให้หายป่วยเร็วๆ ไม่สบายแบบนี้นานๆ มันเหนื่อยค่ะ และสงสารลูกด้วย เหมือนลูกๆ ถูกทิ้ง เวลาแม่ไม่สบายก็มานอนกองดูทีวีบนเตียงแม่ เลยจะพาลป่วยกันไป ป่วยกันมา ไม่มีวันจบ นี่กะว่าตาหายแดงซักนิดจะพาลูกๆ ไปว่ายน้ำค่ะ และอิชั้นจะกลับเข้า gym อย่างจริงๆ จังๆ เสียที เสียดายตังค์ค่าสมาชิกค่ะ ปีละหลายอยู่ (กลัวผัวด่าด้วย 5555 โน๊…โน่… ปล่าวกลัว ….เกรงใจคนจ่ายตังค์ตะหาก 5555)

All happy families resemble one another,

each unhappy family is unhappy in its own way.

2725626745_2a599f90c5

Sunday, April 24, 2011

Frugal Mama….มากินเนื้อราคาถูกกัน

ตอนนี้น้ำมันแพง อะไรๆ ก็แพงตามไปด้วย เมื่อวันก่อนไปจ่ายตลาด ยืนเลือกซื้อเนื้อวัว…ก็ได้แต่ถอนหายใจ เฮือกๆ ทำไมมันช่างแพงอย่างนี้ อย่าไปพูดถึงพวก premium cut หรือ เนื้อคุณภาพดีๆ ที่ลายพร้อย ราคาก็โหดแบบรับทานไม่ลง ปอนด์ละ 7-10 เหรียญเป็นอย่างต่ำ เค้ามีดีๆ เริ่ดๆ ออร์แกนิค (ด้วย 555) แพ๊คกะจ๊อยนึง 30-40 เหรียญ แหลกม่ายลง 555 วันนั้นก็เลยซื้อเนื้อ Round Eye Roast (เนื้อสะโพก) ซึ่งเหนียวหนึบ ไร้ไขมัน ส่วนมากเค้าจะเอามาปรุงอาหารที่ใช้เวลาปรุงนานๆ เพื่อให้เนื้อนุ่ม สุกแล้วเป็นริ้วๆ เส้นๆ ร่วนๆ ค่ะ ถ้าเอามาแกงมาผัดก็ต้องหั่นตัดลายเนื้อ & a little more love 555 มันจะได้ไม่เหนียว แพ๊คที่ซื้อ หนัก 5.44 ปอนด์ๆ ละ 3.99 ถือว่าถูกเพราะเราซื้อจากร้านค้าขายส่ง Costco ค่ะ (แอบเอาราคาเนื้อจาก butcher ทั่วๆ ไปมาให้ดูด้วยค่ะ)

Premium Lean Ground Beef..…..$4.99
Ground Round…………………..…..…$5.55
Stew Meat……………………….…..….$5.99
Minute Steaks………………..………..$5.99
Top Boneless Round Steak……….$5.99
Brisket…………………………….…..…..$5.99
Flank/Skirt Steak...……………….…$8.29
Chuck/Arm Roast…………………..…$5.59
Pikes Peak/Rump Roast……………$5.89
Sirloin Tip Roast………………….……$5.89
Inside Round Roast……………….…$5.89
KC Strip Roast……………………….…$8.79
Standing Rib Roast………………....$9.99
Kebob Meat………………………...…..$5.99
Sirloin Steak…………………………..…$7.49
Eye of Round Roast…………….…...$5.89
Ribeye Steak……………….…….....$12.99
T-bone Steak……………..…………..$14.39
K.C. Strip Steak………………..…...$12.49
Filet……………………………….………..$19.99
Short Ribs……………….……………....$3.10
Heart/Liver/Tongue….………...…..$2.99
Soup Bones……………..………..………$2.79

page-665

พอซื้อเนื้อมาแล้วก็เอามาล้างสะอาดตามปกติ ต้องโม้ก่อนเลยว่ามีดบ้านนี้คมแบบน้องๆ Scalpel เลย 555 ใครได้ มาจับ มาหั่น แล้วต๊กกะใจทุกราย ทำไมมีดบ้านนี้โค๊ม…คม (ไม่งั้นปั๋วจะหงอเหรอ ….พ่อบ้านเค้าเกรงใจอิชั้นตะหาก 555) เริ่มแรกก็ตัด เลาะ เอาผังผืด และไขมันที่เป็นปื้นๆ ออก แล้วหั่นเนื้อตามลายยาวๆ ของเนื้อค่ะ อิชั้นแบ่งใส่ถุงเอาไว้ 4 ชิ้นขนาดพอดีๆ เอาไว้ปิ้งย่างทำยำเนื้อค่ะ พอย่างแล้วเอามาหั่นก็จะได้หั่นตามขวางตัดลายเนื้อแบบฉับๆ ไปเลย จะได้เคี้ยวง่ายๆ ไม่เหนียวหนับ (เล็บเหลืองเพราะทาเล็บติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ไอ้เนื้อที่เหลืองๆ นั่นเป็นเพราะอะไรไม่รู้ค่ะ เชื้อแอนแทรกซ์มั๊ง 555555 มองตาเปล่าไม่เห็น แต่พอถ่ายรูปออกมา อึ๋ยยยย….)

page-663

จากนั้นก็หั่นพวกที่แบ่งไว้เป็นขนาดพอคำ ตามใจชอบ อิชั้นชอบหั่นบางๆ หนาซักประมาณ 1 กระเบียดกำลังดี ไม่หนา ไม่บางเกินไป ถ้าบางแบบ paper thin ก็ไม่อร่อย หนาไปก็จะเหนียว หั่นแบบนี้แล้วสามารถทำไปปรุงได้หลายอย่างค่ะ ทำผัดพริง แพนง แกงเขียวหวาน ผัดน้ำมันหอย ฯลฯ ทำได้สารพัด จากนั้นนำเนื้อที่หั่นไว้ทั้งหมดแบ่งใส่ถุง กะให้แต่ละถุงพอเหมาะกับการนำมาปรุงอาหารแต่ละครั้ง คราวนี้อิชั้นแบ่งได้ 4 ถุงๆ ละ 400 กรัม ถ้าเป็นหมูก็จะแบ่งเป็นถุงเล็กกว่านี้ค่ะ (ประมาณ 200 กรัมก็พอค่ะ) เพราะส่วนมากเอามาผัดผัก ซึ่งจะใช้ผักเยอะกว่าหมู แต่ทำไมพอจานเนื้อถึงต้องใส่เนื้อเยอะกว่า ใครตอบได้ช่วยตอบที คิดเอง-งงเอง 5555

page-664

จากนั้นก็เอาเนื้อที่หั่นและที่ตัดแบ่งไว้จัดเรียงเข้าฟรีซเซ่อร์ เก็บไว้ได้นาน อิชั้นเคยนำหมูเนื้อที่หั่นเก็บไว้ในฟรีซเซ่อร์นานกว่า 6 เดือน เอาออกมาปรุงอาหาร…รับทานได้ ไม่เหม็น ไม่สาป เนื้อยังสดดี และสะดวกทันใจเวลาจะทำกับข้าวมากค่ะ แค่คว้าออกมาจากช่องฟรีซ เท่าที่ต้องการใช้ 1-2 ถุงก็ว่ากันไป เอาจานรองใส่ไว้ในช่องธรรมดาค้างซัก 1-2 คืน ถ้าจะผัดก็เอามาหมักซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วปรุงรส พริกไทย น้ำตาล น้ำมันหอย ฯลฯ ตามชอบ อย่าลืมใส่น้ำมันพืชลงไปซัก 2 ช้อนนะคะ พอหมักแล้วเอาเข้าไปเก็บในตู้เย็นตามเดิม ทิ้งไว้ซัก 2-6 ชม. ก่อนผัด เนื้อจะนุ่ม อร่อย เชียวค่ะ

เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน… “กันลืม” ค่ะ เผื่อว่าใครๆ ลืม “ทริ๊ก” ง่ายๆ ในครัวอันนี้ไปแล้ว

The end of an ox is beef,

and the end of a lie is grief.

Saturday, April 23, 2011

I'm half alive...sick like a dog!

เริ่มจากไอ้ตี้ไอแค่กๆ นำหน้าอยู่ 2-3 วัน ก็ถึงคราวอิชั้นไอโคร่กๆ ตลอดวันตลอดคืน กินยาเป็นขนมเลย เพราะอยากหาย สงสารลูกมากกว่าตัวเอง ตอนนี้ไอ้ตี้ผอมบักโกรกกว่าเดิม ไอกันจนเหนื่อย จริงๆ ไม่น่าจะป่วยกันเลย เพราะเพิ่งจะยกโขยงไปฉีด Flu Shot กันมา

page-660ลูกๆ กับแมวๆ หนูดีพาแมวไปเดินที่พาร์ค …งานนี้ FAIL..!!

เริ่มจากเดือนก่อน ก็วุ่นๆ พาลูกเต้าและตัวเองวิ่งผัด แปะมือกันไปหาหมอฟัน ทำความสะอาดฟันประจำ 6 เดือน อิชั้นโชคดีกว่าเพื่อน เพิ่งเจอหมอฟันที่ไม่ฟัน (for real) 555 คือ ฟรี ค่ะ ฟรี อ่านไม่ผิด แต่ต้องขับรถไปถึงเฟสโน่โน่น ถือว่าคุมค่าน้ำมัน ถึงแม้ตอนนี้จะแกลลอนละ $4.25 (ชนิดถูกสุดนะคะ) วันนั้นไปที่คลีนิคหมอฟันครั้งแรก ก็นึกว่าจะเป็น consultation กับ x-ray เฉยๆ แล้วก็นัดให้ไปทำสะอากดวันหลัง ปรากฎว่า หมอบอกว่า วันนี้มีเวลาหรือปล่าว เพราะจะทำ deep cleaning กับมีปะผุนิดหน่อย มีฟันที่อุดไว้ดูเหมือนจะร้าว อิชั้นก็รีบตอบไปเลย เอา-โลด-หมอ จัดมาให้ครบ พอหมอบอกรอเดี๋ยว clerk จะมาคุยเรื่องราคาและเงินทองก่อนนะ เพราะคุณเหมียนต้องโทรคุยกับประกันของอิชั้นก่อน ว่าจะจ่ายกันยังไง …. มีลุ้น

page-661พาลูกๆ ไปงานสงกรานต์ที่วัดลาว

พอคุณเหมียนเข้ามาก็บอก not a penny out of your pocket! Woo Hoo Yee Haa! ของฟรี ชอบๆๆๆๆ พอเสร็จก็ปากตุ่ยๆ ขับรถกลับบ้าน แล้วก็สาระวนปฏิบัติภารกิจปกติชีวิตประจำวัน วิ่งโน่นมานี่ รับ-ส่งลูก จริงๆ มีนัดไปทำ crown ที่คลีนิคเดิมอีก แต่พอไปแล้วมันอันต้องเลื่อนไปหน่อยนึง เพราะถูกส่งให้ไปทำ x-ray แบบพิเศษ เพราะหมอเห็นรากฟันที่จะทำครอบมีเงาปริศนาอยู่ แต่ยังไม่ได้ทำนัดกับคลีนิคที่รีเฟอร์ มีเรื่องยุ่งๆ เข้าคิวรออยู่เยอะ รอไปก่อนละกันนะฟันเอ้ยยย….. เรื่องฟันๆ ก็ผ่านไป

page-662พ่อบ้านหยุดงานไปร่วมงานหนูดีรับรางวัลเรียนดี แล้วพาลูกๆ ไปดินเน่อร์ อีหนูดีงงๆ กับรองเท้าของแม่บนโต๊ะอาหาร 5555

ตั้งแต่ได้เรื่องว่าไอ้ตี้ตัวแสบจะได้ไปโรงเรียน (พรีสคูล) แล้ว ก็วิ่งวนทำนัดหมอเรื่องตรวจสุขภาพของลูก นัดหมอฟันตรวจสุขภาพฟันด้วย ก็จัดการไปจนครบเสร็จตามรีเควสทั้งหมด พอดีกับโรงเรียนอีหนูดีรีเควสมาอีกว่าให้เด็กๆ ฉีดวัคซีน whooping cough (ไอกรน) เพราะตอนนี้กำลังระบาดอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ก็เลยพาลูกโห่กลับไปที่ Health Department อีกรอบ พอพยาบาลดูใบเหลือง (Yellow California Immunization Record Card) ก็บอกว่าไอ้ 2 ตัว ฉีดกันไปครบหมดแล้ว มีแต่ไอ้ตี้ต้องฉีด Flu shot booster เลยถามไปส่งเดชว่าอีแม่มันต้องฉีดไอ้วัคซีนไอกรนหรือปล่าว นังพยาบาลก็ทำเฉยๆ หมั่นไส้วุ๊ย ไหนๆ ก็มาแล้วอย่าให้เสียเที่ยว เลยบอกขอฉีด Flu Shot ซะเลย เพราะมันมาระบาดอีกระลอกแล้ว สรุปว่ามีแม่กับไอ้ก๊อตตี้ได้ฉีดฟลูฉ่อดวันนั้น พอกลับมาบ้าน แม่กับไอ้ตี้ก็ผลัดกันป่วยมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้วค่ะ

page-659นอกจากบริจาคเงินซื้อสายรัดข้อมือในรูป (เพิ่งจะนึกออกว่าน่าจะเอามาถ่ายรูปเก็บไว้ 555)

อิชั้นยังได้บริจาคเงินเล็กๆ น้อยๆ เวลาจับจ่ายซื้อกับข้าวเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกชาวญี่ปุ่นด้วยค่ะ

ไอ้ตี้เริ่มไปพรีสคูลมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว ค่าเรียนวันละ $20.- แต่เค้าให้ไอ้ตี้ไปเรียนแค่อาทิตย์ละ 3 วัน จันทร์ พุธ ศุกร์ พอไปได้อาทิตย์เดียวก็ป่วย อดไปอีก ไอ้ที่ป่วยๆ ไปโรงเรียนไม่ได้ เราก็ต้องจ่ายนะคะ พอดีกับมีวันหยุด Spring Break อีกตลอดอาทิตย์ ซึ่งคุณพ่อก็ต้องจ่ายด้วยเหมือนกัน บาดเจ็บกระเป๋าตังค์ไปนะพ่อนะ

Act as if what you do makes a difference. It does.

Tuesday, April 19, 2011

รุ้งกินน้ำ (แข็ง)… รุ้งหงายท้อง

Upside Down Rainbow ≠ Cheshire Cat Smile

เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ คือ รุ้งกินน้ำหงายท้อง หรือ Upside Down Rainbow ที่เค้าถ่ายรูปแปะกันไปทั่วอินเตอร์เน็ท จากหลายๆ แหล่งข่าว (สรุปโดยอิชั้น 555 "…. แหล่งข่าวที่เกือบจะเชื่อถือได้ 555) คือ เค้าเห็นรุ้งนี้กันได้ด้วยตาเปล่าๆ ตรงไหนตรงนึงในอังกฤษ โดยที่ฝนไม่ได้ตกเลย พอคนได้เห็นก็ตีความกันไปต่างๆ นานา บ้างก็อ้างอิงไปถึงไบเบิ้ล ว่าถ้าเกิดแบบนี้ จะมีการขัดแย้งกันอย่างใหญ่หลวง (ที่ตีรันฟันแทงฆ่าแกงกันอยู่ไปทั่วทุกหัวระแหงนี่ยังไม่ใหญ่อีกเหรอฟระ) โลกจะแตก แบบ very soon ก่อนดำหนด 2012 ส่วนตัวอิชั้นเฉยๆ ค่ะ รุ้งจะหงาย รุ้งจะคว่ำ โลกจะอยู่ หรือจะแตก คือ… ถ้าอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด คงจะไปฝืน หรือแก้ไขอะไรไม่ได้ โลกใบตั้งใหญ่โต มนุษย์จะไปทำอะไรได้ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดรอบๆ ตัวเอง อิชั้นยังแก้ไม่ได้ทุกเรื่องเลยค่ะ ยิ่งแก่ก็ยิ่งปลง ชักเซ็งๆ เบื่อๆ ชีวิต 5555 จะบอกว่า been there, done that ก็ “บ้าง” แหละ ไม่ได้มากมายอะไร สุขๆ ทุกข์ๆ ทนได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เจอะเจอมาพอสมควรเหมาะกับอายุ ถ้าหากโลกจะแตกก็ขอตายเป็นคนแรกๆ ดีกว่า

ส่วนไอ้เรื่องรุ้งหงายท้องนี่ จริงๆ เค้าก็มีคำอธิบายมากมายและชัดเจนในเชิงวิทยาศาสตร์ หาอ่านกันได้ทั่วไป พออิชั้นอ่านไปเรื่อยๆ คำอธิบายหลักๆ ก็คือ แสงตกกระทบกับผลึกน้ำแข็งในอากาศ เกิดการหักเหของแสงแตกแยกออกเป็นสีต่างๆ ด้วยมุมหลายมุมคว่ำอย่างนั้นอย่างนี้ รุ้งที่เกิดก็เลยดูเหมือนสะแหยะยิ้ม (แฉ่ง) ให้กับชาวโลกบนพื้นพสุธา ซึ่งต่างไปจากรุ้งกินน้ำปกติ ที่แสงไปตกกระทบกับละอองน้ำในอากศ เกิดเพราะน้ำก็เป็นรุ้งกินน้ำ เกิดเพราะน้ำแข็งก็น่าจะเป็นรุ้งกินน้ำแข็งสิเน๊าะ 55555

rainbow_upside_down

อ่านไปอ่านมา ก็มีปรากฏการณ์ต่อเนื่องเชื่อมโยงไปเยอะแยะ แต่พอไปเจอกับคำว่า Sun Dog ก็ สะดุด “กึ้ก” ทำให้ฉงนฉงายเข้าไปอีก อะไรวะ ที่อ่านๆ เป็นภาษาฝรั่งๆ ก็เข้าใจได้บ้าง พอเจอพวก technical terms ก็เดาสวดเอาบ้าง มันอะไรกันแน่วะไอ้ “หมาพระอาทิตย์” เนี่ย เพราะพระอาทิตย์ทรงกลด ภาษาอังกฤษเรียกว่า Sun halo ไอ้ Sun dog นี่ไม่เคยผ่านหูผ่านตามาเลยจริงๆ เลยต้องหาฉบับภาษาไทยมาอ่าน ใครที่รู้แล้วก็อย่ามาว่ากัน “โง่” นะคะ เพราะอิชั้นไม่รู้จริงๆ ใครไม่รู้ก็ไปอ่านกันเล่นสนุกๆ ค่ะ ประดับความรู้ด้วย ก๊อปปี้เอามาแปะนิดเดียว อยากอ่านเต็มๆ ก็ตามลิ้งค์ไปค่ะ

Sundog

Sundogs are fairly common occurrences in the Arctic and Antarctic. They form when the sun is near the horizon and ice crystals high in the sky line up in a way that bends the solar rays like a prism. http://photography.nationalgeographic.com/photography/enlarge/polar-phenomena-rosing_pod_image.html

......ซันด๊อก Sun Dog......

ซันด๊อก เป็นปรากฏการณ์ทางแสงอย่างหนึ่ง มักเกิดเป็นคู่ อยู่ด้านซ้าย-ขวา ในแนวระนาบเดียวกับดวงอาทิตย์ ขนานกับพื้นดิน ซันด๊อกอาจปรากฏเป็นจุดสว่างบนฮาโล หรืออาจมีรูปร่างคล้ายกับดาวหางก็ได้ ซันด๊อกอาจมีสีรุ้งได้ โดยที่สีแดงจะอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ และสีฟ้าขาวปรากฏในส่วนหาง

ซันด๊อก เกิดจาการหักเห และการสะท้อนของแสงอาทิตย์ กับผลึกน้ำแข็งแท่ง 6 เหลี่ยมภายในเมฆเซอรัส (cirrus) หรือ เซอโรสตราตัส (cirrostratus) เมฆน้ำแข็งอื่นๆ เช่น ice fog และ diamond dust ก็สามารถทำให้เกิดซันด๊อกได้เช่นกัน

ซันด๊อก มักเกิดเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้กับขอบฟ้า คือหลังพระอาทิตย์ขึ้น หรือ ก่อนพระอาทิตย์ตก หรือในช่วงเดือนในฤดูหนาวในเขต mid-latitudes โดยจะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นมุม 22 องศา และจะปรากฏบนวงของฮาโลถ้าเกิดปรากฏการณ์ฮาโล เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ในมุมที่สูงขึ้น ซันด๊อกจะเคลื่อนตัวออกห่างจากดวงอาทิตย์ แต่จะยังรักษาตำแหน่งอยู่ในแนวระนาบเดียวกับดวงอาทิตย์ เมื่อดวงอาทิตย์อยู่เกิน 45 องศา เหนือขอบฟ้า ซันด๊อกจะจางลง และอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่า 22 องศา

อ่านต่อที่นี่ค่ะ > > http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2766

เอาไอ้แมวตัวนี้มาแปะเพราะ เค้าเปรียบเทียบไอ้รุ้งหงายท้องกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของไอ้แมว Cheshire Cat จากเรื่อง Alice in Wonderland แล้วก็เลยพูดกันไปเรื่องว่าจะต้องมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น ก็ดูกันต่อไปค่ะ ว่าสถานการณ์ระดับโลก ระดับชาติ …. จนถึงสถาณการณ์ในครัวเรือน มันจะไปในทิศทางไหน (ภาวนาให้เป็นไปในทางทีดีค่ะ) ไอ้รุ้งหงายท้อง เป็นลางบอกเหตุจริงหรือ และไอ้แมวเจ้าเล่ห์นี่มายิ้มเยาะหรือมายิ้มปลาบปลื้มยินดีให้กับเราๆ ชาวโลกกันแน่

Cheshire cat

Everyone smiles in the same language.

Friday, April 15, 2011

ช้อปปิ้ง ช้อปย่าง Estee Lauder, Coach Bags & โชห่วย

วันนี้จะมาร่ายยาวเรื่องช้อปปิ้งช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากพยายามลด ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย (ให้มาก… นิดหน่อยคงไม่เป็นไรมั๊ง 555) บางทีมันก็ทำอกทำใจลำบ๊ากกกก…ลำบากค่ะคุณ โปรโมชั่น ของแถม ล่อตาล่อใจอยู่ไม่หยุด อ้างและหลอกตัวเองอยู่ตลอด..ว่า… บางสิ่งก็จำเป็นต้องใช้ ของหมดต้องซื้อเพิ่ม 555 เรื่องของกินของใช้ประจำบ้านนั้นต้องซื้ออยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ แต่เวลาซื้อของใช้ส่วนตัวบางทีรู้สึกว่าเห็นแก่ตัว และเอาเปรียบคนในครอบครัวมากไปหน่อยค่ะ เกรงใจพ่อบ้าน (คนหาตังค์) นิดๆ ด้วย แต่พี่แกก็ไม่เคยบ่นว่า จะซื้ออะไรก็ไม่ต้องมีการโกหกกัน หรือซ่อนแอบใดๆ สบายๆ ค่ะ พอเค้าไม่ว่า..เราก็ต้องเกรงใจเค้าบ้าง…ใช่ไหมคะ

มาดูอันแรกก่อนเลย ที่ซื้อมาคือรองพื้นของเอสเต้ ว่าจะ ว่าจะ อยู่พักใหญ่ๆ แล้วค่ะ ว่าจะซื้อรองพื้นรุ่นนี้ แต่เอสเต้ก็ “ยิว” ขึ้นเรื่อยๆ หลังๆ มาให้ตัวอย่างแค่ชิ้นเดียว เมื่อก่อนให้เลือกได้ทีละ 5 ชิ้น จากนั้นก็ลดลง 4-3-2 ตามลำดับ ตอนนี้ได้ชิ้นเดียว คราวนี้เลือกมาสคาร่ามาค่ะ เพราะช้อยส์ที่เหลือเป็นน้ำหอมหลอดจิ๋วๆ มีเก็บอยู่เยอะแล้วและกลิ่นก็ไม่ค่อยน่าสนใจค่ะ โปรโมชั่นนี้ทำให้ต้อง “จัดการ” ซะให้เสร็จๆ เพราะเป็นของที่อยากซื้อมานานแล้ว พอมีของแถมเยอะ อย่ารออีกเลย 555 ชุดนี้ราคา $39.50 ค่ะ รองพื้นตัวนี้ เป็นรุ่นดังของเอสเต้ตอนนี้ค่ะ ชื่อ Double Wear Light Stay-in-Place Makeup SPF 10 (ราคาหลอดละ $34.-) จริงๆ มีรุ่นที่ดังกว่า เป็นขวด-ไม่ได้เป็นหลอดแบบนี้ ไม่มีคำว่า light ซึ่งปกปิดมากกว่ารุ่นที่ซื้อมาค่ะ สีที่ซื้อมาคือ INTENSITY 2.0 เป็นสีที่เข้ากับสีผิวของอิชั้นแบบ “เป๊ะ & เปรี๊ยะ” เลยค่ะ ลองใช้แล้วก็ชอบ ปกปิดพอดีๆ ไม่หนัก หนา เหนอะหนะ ของแถมที่ได้มาในกล่องก็ “เริ่ด” ไม่น้อยค่ะ Spotlight - Skin Tone Perfector (ราคาหลอดละ $32.-) ทาหลัง moisturizer ก่อนรองพื้น หรือผสมกับ moisturizer ก็ได้ค่ะ ช่วยให้หน้าสว่างใสออกแสงออร่า 555 มี shimmer วิ้งนิดๆ ไม่เว่อร์ ของแถมต่อมาคือ consealer หลอดขนาดครึ่งนึงของฟูลไซ้ส์ มีแปรงลงรองพื้นสีทองสวยและคุณภาพดีมากให้ด้วย 1 อัน ท้ายสุดเป็น dvd สอนเทคนิคการลงพื้น ทาบลัช ลงบรอนเซ่อร์ ฯลฯ ต้องบอกว่าแค่ไอ้ 2 หลอดขนาดฟูลไซ้ส์ก็เกินคุ้มกับราคาแล้วค่ะ

เพราะต้องสั่งให้ครบ $50.- เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าส่งและได้ชุดของแถมจิ๋วๆ เพิ่มมา เลยสั่งของที่ใช้มาโกฏิปี ไม่รู้กี่แท่งต่อกี่แท่งแล้ว ยี่สิบกว่าปี ก็ยังรักเดียวใจเดียวกับไอ้เจ้าสิ่งนี้ คือ Lip Conditioner - SPF 15 ค่ะ ราคา $16.50 พอดีแท่งที่ใช้อยู่ ต้องใช้คำว่า “จก” เลยค่ะ เพราะเกือบจะเกลี้ยงแล้ว ต้องใช้พู่กันทาปากล้วงควักออกมาค่ะ ของแถมที่ได้เพิ่มมาเมื่อซื้อครบ $50.- คือ Advanced Night Repair - Synchronized Recovery Complex กับ Advanced Night Repair Eye - Synchronized Complex มาอย่างละ 1 ขวดและกระปุกขนาดเล็ก อ้อ….ในกล่องชุดรองพื้นยังมีเจ้าอายซีรั่มอันนี้ให้มาด้วย 1 ซองค่ะ

page-650-c

อันนี้ก็ยังเป็นเอสเต้อยู่ คือ Advanced Night Repair - Synchronized Recovery Complex เป็นซีรั่มที่ใช้ทุกคืน ขวดที่ใช้อยู่หมดเกลี้ยงพอดี กำลังจะเอาขวดใหม่ในตู้เย็นออกมาใช้ พอดีมีโปรโมชั่นที่ของแถมเพียบ ก็เลยต้อง “จัดการซะ” อีก 1 รอบ คือซื้อ ANR ขวดนึงจะได้ทุกอย่างในโปรโมชั่นนี้จนครบ ไม่ต้องเสียค่าส่งด้วย เลยต้องจัดไปอย่าให้เสีย สั่งมาเก็บไว้ในตู้เย็นแทนที่ขวดที่เพิ่งเอาออกมา ดูรูปเลยค่ะ มีกระเป๋า 2 ใบเล็ก-ใหญ่ อยากบอกว่าอิชั้นมีกระเป๋าของแถมของเอสเต้เยอะมาก พวกใบใหญ่ ก็เก็บบ้าง แจกบ้าง ไม่เคยใช้ แต่ใบนี้ Spring 2011: Navy Twill Step up Tote น่าใช้ดีค่ะ เดี๋ยวจะเอาไว้ใช้เวลาไปซื้อกับข้าว

ของแถม Free Gift Customized with Lifting/Firming skincare and Warm shades มี palette ตา+แก้ม สีสวย ลิปสติกสี tiger eye (มีอยู่หลายแท่งมากไอ้สีนี้ แถมอยู่สีเดียวนี่แหละ แหงะ) มาสคาร่า 1 หลอดเล็ก แล้วก็มี Resilience Lift Extreme Ultra Firming Creme SPF 15 กระปุกกลาง 1 กระปุก (ใช้ได้นานเลยนะคะกระปุกกลางเนี่ย) Advanced Night Repair Eye อีก 1 กระปุกเล็ก ส่วนตัวอย่างที่รีเควสไปคือ Time Zone Anti-Line/Wrinkle Eye Crème (5-Day Supply) หลอดจิ๋วหลิว 1 หลอดค่ะ

page-651-c

ก่อนจะอวดกระเป๋าต้องอธิบายก่อนว่าชอบกระเป๋าโค้ชมานานมากแล้ว ก่อนที่ใครๆ จะ “ฮิต” มากมายอย่างที่เห็นๆ กัน จากตอนโน้นนนน…ถึงวันนี้มีกระเป๋าโค้ชเยอะมาก ไม่อยากขนออกมานับ 5555 อายตัวเอง จำได้ว่าซื้อใบแรกเกือบ 20 ปีแล้ว แพงมากกกกก…. ขอบอก กว่าจะซื้อได้ เก็บตังค์อยู่นาน แถมยังโดนชมจากคนรอบข้างว่า “ป้าแก่” มาก ซื้อมาได้ยังไง 5555 พอต่อๆ มา ก็ยังซื้อจาก Coach.com เป็นหลัก รวมๆ ซัก 90% ได้ และจาก Macy’s 10% คือจ่ายราคาป้ายแบบเต็มๆ เลยค่ะ เพราะไม่มี outlet อยู่ในรัศมีใกล้ๆ ที่ไปมาได้สะดวก ไอ้ร้านที่ใกล้ที่สุดก็ต้องขับรถดั้นด้นไป เสียค่าน้ำมัน รวมค่าโน่นนี่อีก คิดรวมๆ ราคาก็คงพอๆ กับซื้อจากเว็บหรือจากห้างเลยค่ะ หลายปีให้หลังโชคเข้าข้างค่ะ มีคุณเพื่อนสุมนา ทำหน้าที่เป็น personal shopper ให้ค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น แปะโป้งได้ ออกตังค์ให้ก่อนด้วย 555 บริการเริ่ดๆ แบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เพราะคุณเพื่อนอยู่ไม่ไกลจาก outlet (ใกล้ๆ ก็ขับรถไปร่วมช้่วโมง 555) พอเจอสวยๆ ราคาดีๆ (รู้ใจกันดีด้วย….นิ) ก็ลากมาทีละหลายๆ ใบเลย ถ่ายรูปส่งมาให้ดู ใบไหนถูกใจก็จัดส่งมาให้ ใบไหนไม่โปรด คุณเพื่อนก็วิ่งแจ้นเอาไปคืน 5555 นี่แหละค่ะเป็นที่มา ที่ช่วงหลังๆ อิชั้นมีสินค้าจากโค้ชเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต๊งส์หลายๆ นะเพื่อนนะ

คราวนี้มาดูกระเป๋าใบล่าสุดของอิชั้น ที่…ว่าจะไม่แล้วเชียว 555 สั่งมาจาก coachfactory.com (ให้คุณเพื่อนจัดการให้เช่นเคยค่ะ เพราะเป็น private sale อิชั้นมิได้รับเชิญ 555 เลยต้องรบกวนคุณเพื่อน พอรู้ข่าวว่าเค้ามีโปรโมชั่น Online Sale Starts Now! Up to 70% off ฤๅจะอดใจไหว 555 ใบนึ้ค่าเสียหาย $90.- ได้มาปุ๊บก็ใช้เลย ถูกใจมากค่ะ ชื่อรุ่น Coach Pierced Patchwork East West Tote Bag เคยอยากได้ตอนที่ออกมาใหม่เมื่อปลายปีก่อน แต่ที่เห็นเป็นโทนน้ำตาล-ดำ ราคาตอนนั้น $398.- ค่ะ ใบนี้ขนาดกำลังดี สีเข้มไม่สกปรกง่าย น้ำหนักพอดีๆ ไม่หนักมาก ซิปเป็นแบบซิปผ่าขาด (เหมือนซิปแจ๊คเก็ต มีกระเป๋าโค้ชซิปแบบนี้อยู่ 2 ใบแล้ว แรกๆ ก็ไม่ถนัด ใช้ไปใช้มาซักพัก ก็เปิดปิดได้คล่องแคล่วถนัดมือค่ะ) สีม๊วง…ม่วง..ม่วงกว่าในรูปที่เห็นในเว็บ แต่ตัวจริงๆ สวยมากค่ะ ขอบอกกกกกก…..

page-653-c

มาดูกระเป๋าตังค์ใบใหม่กันค่ะ ได้มาพร้อมกับใบม่วงข้างบนค่ะ เป็นรุ่น Soho Patent Leather Buckle Zip Around สี Baby Blue น่ารักเชียวค่ะ ราคาตอนยังอยู่ในห้าง $238.- พอตกมาอยู่ outlet ค่าตัวหล่นลงมาที่ $90.- ถูกใจมากกกกก…. เพราะชอบกระเป๋าตังค์แบบ zip around อยู่แล้ว เป็นหนังมันทั้งใบ มีช่องโน่น นี่ นั่น เยอะแยะมาก ไม่ต้องพกกระเป๋าใส่เหรียญอีกใบ “con” ของกระเป๋าตังค์แบบนี้คือ มันใหญ่ และจุดี ก็เลยหนักไปนิดและต้องใช้กระเป๋าถือใบใหญ่ตามไปด้วย เพราะยัดใส่กระเป๋าถือหรือสะพายใบเล็กๆ ไม่ได้ค่ะ โปรดสังเกต…ไม่ค่อย “เห่อ” เท่าไหร่ ได้มาปุ๊บก็ใช้เลยค่ะ 5555 ที่เห็นแบ๊งค์ร้อยเป็นปึก…. ค่าเช่าบ้านค่ะ 555 มิใช่เงินก้นถุงแต่อย่างใด ถ้าไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน $1,000.- หูย….หวานคอแร้ง 55555

page-654-c

มาดูกระเป๋าถือชมพูแต๋นใบนี้คือ Coach Signature Stripe Patent Leather Tote – Raspberry ได้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วช่วงคิดสะมาด 555 ดูเหมือนรุ่นนี้จะเป็นสินค้าที่ผลิตเพื่อขายใน outlet เท่านั้น เพราะไม่เคยเห็นในเว็บค่ะ ราคาเต็มจากป้ายที่ห้อยมาคือ $329.- แต่คุณเพื่อนเห็นว่าสีแต๋นถูกใจอิชั้นและราคาก็เหมาะสมดี คือ $77.- เป็นกระเป๋าหนังมัน เย็บลายตัว C – Signature ของเค้า สายคู่เส้นเล็กๆ น้ำหนักเบา ซิปปิดด้านบน ขนาดกำลังดี พอได้มาก็ใช้เลยเช่นเคย เพราะเป็นคนไม่ขี้เห่อเท่าไหร่ พอดีกับเป็นชมพูแต๋นถูกใจ Hello Kitty Mama มากๆ จำได้ว่าพ่อบ้านเห็นตอนเปิดกล่องพัสดุแล้วพูดว่า เที่ยวนี้ซื้อให้รอมมี่ด้วยเหรอ ก็ตอบไปว่า จ้า.. เออ.. ค่า.. พอตอนเห็นอิชั้นถือแกว่งไปมาก็ อ้าว.. เว้ย.. เฮ้ย.. ไหนบอกว่าของลูกไง แล้วก็เหน็บว่า  Don’t you think…you’re not a teenager! อ้าว…จะให้ตูแก่แล้วแก่เลยหรือไงฟระ ฮานาก้า….55555

page-655-c

ใบต่อมา คือ Coach Poppy Patent Luxey Satchel BRASS/RUBY ได้มาพร้อมกับใบชมพูข้างบนค่ะ ราคาจากป้ายคือ $298.- พอตกกระป๋องจากห้างลงมาที่ outlet เลยเหลือ $124.- คุณเพื่อนเลยซื้อแล้วส่งรูปมายั่ว เห็นรูปแล้วน้ำลายยืด เลยเซย์เยสไปอย่างรวดเร็ว ถูกแพงขอให้แดงไว้ก่อนใช้ได้กับอิชั้นเสมอค่าาาา…. ใบนี้ค่อนข้างเล็ก ถือ-สะพายได้ 2 แบบ ข้อตินิดนึงคือ เวลาใช้แบบถือสายคู่ห้อยแขน…จะเปิดปิดซิปลำบาก ไม่กว้างขวาง ล้วงควัก ไม่สะดวก แต่เรื่อง look สำหรับใบนี้ กิ๊บเก๋ยูเรก้าไม่น้อย เพราะ accessories ห้อยตุ้งติ้งเยอะแยะ อ๊อฟเฟ่อร์ให้อิรอม… ลูกบอก “โน” ไม่ชอบ เชอะ ไม่ชอบก็ไม่ง้อสิวะ อิชั้นชอบใบนี้ที่สีและดีไซน์ แต่มันเป็น light duty ค่ะ ถือเหวี่ยงไปมาเป็นงานๆ ไป ไม่ใช่ everyday bag ค่ะ ดูรูปสิคะ (ถ่ายรูปห่วยตามปกติ 55) สวยเน๊าะ 

page-656-c

มาดูกับข้าวกับปลากันบ้างดีกว่าค่ะ แต่ละรูปก็คือแต่ละทริปนะคะ รูปบนมีจานกระดาษแพ๊คใหญ่ แม่บ้านหลังยาวเบื่อล้างจานค่ะ 55 บะหมี่เกี๊ยวกุ้งของซีพี อร่อยเหมือนชายสี่หมี่เกี๊ยวเลยค่ะ กินแล้วคิดถึงบ้าน กล่องนึงมี 6 ถ้วย ช่วงนี้มีลดราคา ตกถ้วยละ $1.50 ประมาณนั้นค่ะ beef jerkies เนื้ออบแห้งรส mesquite รมควัน ของโปรดเวลาดูทีวีเหงาๆ ปาก ถุงละ 3-4 เหรียญ แอบหนีบเอาเข้าไปเคี้ยวในโรงหนังบ่อยๆ ค่ะ เลยต้องซื้อไว้ประจำบ้าน ไข่ไก่ 5 โหล มาม่าโจ๊กคัพรสหมู 1 กล่อง พ่อบ้านกับไอ้ตี้ลูกชายชอบทานตอนดึกๆ ค่ะ ส้ม “Cuties” clementine 5 pounds หวานอร่อยเปลือกบางค่ะ โค้ก 2 ลิตร แพ๊ค 4 ขวด $3.99 ค่ะ ตกขวดละเหรียญ

รูปล่างพาสเต้อร์ปิดแผล 2 กล่อง Clorox Tablet เอาไว้ใส่ถังน้ำชักโครก 409 น้ำยาเอนกประสงค์ 1 แกลลอน แถมแบบขวดสเปรย์ขวดใหญ่มา 1 ขวดด้วย อิชั้นใช้ตั้งแต่ในห้องน้ำ ถึงในครัวเลยค่ะ หัวเตา พื้นพรม นึกอะไรไม่ออกก็คว้าไอ้ 409 ไว้ก่อน 555 แต่ไม่ได้ฉีดไอ้ก๊อตตี้นะคะ เวลามันมอมๆ ก็โยนใส่อ่างไปค่ะ แล้วก็มี Clorox น้ำยาซักเสื้อผ้าสี Downy ปรับผ้านุ่ม รถไฟชื่ออะไรไม่รู้เพื่อนไอ้โธมัสมันค่ะ ไอ้ตี้เห็นแล้วชักแง่กๆ ก็เลยต้องซื้อให้ลูก ทั้งๆ ที่มีอยู่แล้วเต็มบ้าน องุ่นดำ concord ไม่มีเม็ด บะหมี่เกี๊ยวซีพีอีก 2 กล่อง คือเค้า limit ให้ซื้อแล้วได้ส่วนลดแค่ทีละ 2 กล่องค่ะ ถ้าซื้อเกินตั้งแต่กล่องที่ 3 ก็ต้องจ่ายราคาเต็มๆ ก็เลยลากมาทีละ 2 กล่องทุกครั้งที่ไป Costco ค่ะ เดี๋ยวเค้าเลิกลดราคาก็เลิกกิน 5555 งกชิมิคะ Go-gurt ของลูกๆ 2 แพ๊ค เด็กๆ บ้านนี้กินโยเกิร์ตกันเก่ง อยู่บ้านก็กินเป็นถังๆ ส่วนโกเกิร์ตเป็นถุงหลอดๆ ก็เอาแช่แข็งไว้ บางทีลูกๆ ก็คว้าติดมือเอาไปหม่ำในรถเวลาไปไหนๆ สะดวกดีค่ะ ส่วนใหญ่ก็ฟาดเรียบในบ้านนี่แหละค่ะ โค้ก 2 แพ๊ค และกบเหลาดินสอแบบใส่ถ่านของลูกๆ ค่ะ อันเก่ามรณภาพไปแระ

page-657

รูปนี้เป็นของจุกจิกที่ต้องใช้ค่ะ บิโอเรสครับโฟมเป็นโฟมที่หมอผิวหนังสั่งให้รอมมี่ใช้ค่ะ เลิกใช้ของเก่าให้หมด เพราะสิวบุกหนัก ส่วนแชมพู นิวโทรจิน่า T-Sal เป็นของอิชั้นค่ะ สีดินสอเป็นของไอ้ตี้ และทิชชู่เช็ดขี้มูก  Boogie Wipes ก็เป็นของไอ้ตี้ด้วยค่ะ ส่วนแตงกวา น้ำสลัด Creamy French หอมแดงใหญ่ และมะเขือเทศจิ๋วเป็นเครื่องสลัดที่ขาดตู้เย็น เลยต้องแจ้นไปซื้อมาตุน น้ำสลัดอันนี้อยากลองมานานแล้ว พอซื้อมา แหวะ หวานๆ เหม่งๆ ไม่ชอบ ใบเสร็จเป็นของไอ้พวกเครื่องสลัดค่ะ

page-658

คราวนี้ไปช้อปต่อที่ Dollar Store ค่ะ คือทุกๆ อย่างราคา $1.- เท่ากันหมด เวลาซื้อหาก็ต้องดูดีๆ เพราะบางอย่างซื้อที่อื่นราคาไม่ถึงเหรียญค่ะ แล้วข้าวปลาอาหารจะอายุสั้น เผลอๆ ดูไม่ดี expired สิ้นชีวิตไปแล้ว  เคยซื้อที่มันหมดอายุ spoilage ต้องแจ้นเอาไปคืน live & learn อยู่เรื่อยเชียว 555 มามะมาดูกันว่าได้อะไรมาบ้าง รูปบนนะคะ สมุดหัดเขียน ABC ของไอ้ตี้ สลัดผักโรเมน สปิแนช หลอดกระดาษสำหรับ roll เศษเหรียญ ที่ใส่นิ้วเท้าเวลาทาเล็บเป็นยางซิลิโคน..คุณภาพแจ่มมาก สำลีพันก้านไม้แบบยาว แถบมัดของสีขาว สก๊อตเทปแพ๊คคู่ มะม่วง (ซื้อที่คอสต์โก้ แพ๊ค 9 ลูก ราคา $7.99 แต่มันต้องขับรถข้ามเมือง เจอตรงนี้แล้วอยากกิน ก็ซื้อๆ ไปซะให้เสร็จๆ) ถุงใส่กล้องสีแดง+ลายน้ำตาล (คุณภาพเริ่ดมากๆ) ถ่านแบตเตอรี่ 9V. แพ๊คคู่ สำหรับ smoke alarms สติ๊กเก้อร์ ดินสอ กระจก แว่นอ่านหนังสือ คุณภาพดีมากๆ ราคาที่ติดอยู่อันละ 14-19 เหรียญค่ะ แต่ต้องเลือกดูดีๆ บางอันมีขูดขีดที่เลนส์ค่ะ

รูปล่าง (อีกทริปนึงนะคะ) เห็ดหอมดอง อร่อยดีค่ะ เปรี้ยวๆ เอาไว้ทานกับพวกเนื้อย่าง ถุงพลาสติก ชอบใช้ถุงแบบนี้เวลาผักที่ซื้อมาเยอะๆ หั่น ล้าง แล้วแบ่งใส่ถุงนี้แช่ในเก๊ะตู้เย็นแบบพร้อมใช้ สะดวกดีค่ะ ไม่แพง เป็นถุงขนาด 1 แกลลอน บางๆ ใช้แบบซิปเป้อแบ๊ค…แพง เสียดายตังค์ โอ๊ตของหนูดี เห็นบอกว่าลองดู พอทานแล้วก็บอกว่าโอเคเลยนะ ถูกด้วย แต่พอพ่อบ้านมาเห็น ซื้อมาได้ไง ทำไมไม่ซื้อ Quaker Oat ให้ลูก จะอะไรกันว๊า… ก็ของมันแค่เหรียญเดียว แหลกม่ายล่ายก็ทิ้งไปสิวะ ส่วนไอ้ Triaminic Vapor Fan, with 3 Refill Pads and Batteries, Mentholated Cherry กล่องฟ้าๆ นั่น เป็น พัดลมจิ๋วใช้ถ่าน แล้วก็มีแถบกลิ่นเมนทอลเชอรี่ พอเอามาลองดูก็ โอเคเลยนะคะ หอมเย็นจมูกดี เคยซื้อแบบเสียบปลั๊ก เป็นเมนทอลเฉยๆ ซึ่งหลายตังค์อยู่ อันนี้เหรียญเดียว มีรีฟิล 3 อัน ใส่ถ่านมาให้เสร็จ เลยเก็บเอาไว้เปิดตอนลูกเป็นหวัดจมูกแน่นๆ ค่ะ แล้วก็มี dinner rolls กับ biscuits ของ Pillsbury ทั้ง 2 อย่างหมดอายุสิ้นเดือน June โน่น….สบายไปเลย กินกันหมดก่อนสิ้นเดือนเมษาแน่นอนค่ะ

page-649

หมดแล้วค่ะ จริงๆ มีรูปข้าวของโชห่วยที่ซื้อมาอีกเยอะเลยค่ะ แต่ดูเหมือนจะซื้อของเหมือนๆ กันอยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน โชคดี แฮ้ปปี้ช้อปปิ้งค่ะ

ช้อปปิ้ง ช้อปย่าง Estee Lauder, Coach Bags & โชห่วย

วันนี้จะมาร่ายยาวเรื่องช้อปปิ้งช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากพยายามลด ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย (ให้มาก… นิดหน่อยคงไม่เป็นไรมั๊ง 555) บางทีมันก็ทำอกทำใจลำบ๊ากกกก…ลำบากค่ะคุณ โปรโมชั่น ของแถม ล่อตาล่อใจอยู่ไม่หยุด อ้างและหลอกตัวเองอยู่ตลอด..ว่า… บางสิ่งก็จำเป็นต้องใช้ ของหมดต้องซื้อเพิ่ม 555 เรื่องของกินของใช้ประจำบ้านนั้นต้องซื้ออยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ แต่เวลาซื้อของใช้ส่วนตัวบางทีรู้สึกว่าเห็นแก่ตัว และเอาเปรียบคนในครอบครัวมากไปหน่อยค่ะ เกรงใจพ่อบ้าน (คนหาตังค์) นิดๆ ด้วย แต่พี่แกก็ไม่เคยบ่นว่า จะซื้ออะไรก็ไม่ต้องมีการโกหกกัน หรือซ่อนแอบใดๆ สบายๆ ค่ะ พอเค้าไม่ว่า..เราก็ต้องเกรงใจเค้าบ้าง…ใช่ไหมคะ

มาดูอันแรกก่อนเลย ที่ซื้อมาคือรองพื้นของเอสเต้ ว่าจะ ว่าจะ อยู่พักใหญ่ๆ แล้วค่ะ ว่าจะซื้อรองพื้นรุ่นนี้ แต่เอสเต้ก็ “ยิว” ขึ้นเรื่อยๆ หลังๆ มาให้ตัวอย่างแค่ชิ้นเดียว เมื่อก่อนให้เลือกได้ทีละ 5 ชิ้น จากนั้นก็ลดลง 4-3-2 ตามลำดับ ตอนนี้ได้ชิ้นเดียว คราวนี้เลือกมาสคาร่ามาค่ะ เพราะช้อยส์ที่เหลือเป็นน้ำหอมหลอดจิ๋วๆ มีเก็บอยู่เยอะแล้วและกลิ่นก็ไม่ค่อยน่าสนใจค่ะ โปรโมชั่นนี้ทำให้ต้อง “จัดการ” ซะให้เสร็จๆ เพราะเป็นของที่อยากซื้อมานานแล้ว พอมีของแถมเยอะ อย่ารออีกเลย 555 ชุดนี้ราคา $39.50 ค่ะ รองพื้นตัวนี้ เป็นรุ่นดังของเอสเต้ตอนนี้ค่ะ ชื่อ Double Wear Light Stay-in-Place Makeup SPF 10 (ราคาหลอดละ $34.-) จริงๆ มีรุ่นที่ดังกว่า เป็นขวด-ไม่ได้เป็นหลอดแบบนี้ ไม่มีคำว่า light ซึ่งปกปิดมากกว่ารุ่นที่ซื้อมาค่ะ สีที่ซื้อมาคือ INTENSITY 2.0 เป็นสีที่เข้ากับสีผิวของอิชั้นแบบ “เป๊ะ & เปรี๊ยะ” เลยค่ะ ลองใช้แล้วก็ชอบ ปกปิดพอดีๆ ไม่หนัก หนา เหนอะหนะ ของแถมที่ได้มาในกล่องก็ “เริ่ด” ไม่น้อยค่ะ Spotlight - Skin Tone Perfector (ราคาหลอดละ $32.-) ทาหลัง moisturizer ก่อนรองพื้น หรือผสมกับ moisturizer ก็ได้ค่ะ ช่วยให้หน้าสว่างใสออกแสงออร่า 555 มี shimmer วิ้งนิดๆ ไม่เว่อร์ ของแถมต่อมาคือ consealer หลอดขนาดครึ่งนึงของฟูลไซ้ส์ มีแปรงลงรองพื้นสีทองสวยและคุณภาพดีมากให้ด้วย 1 อัน ท้ายสุดเป็น dvd สอนเทคนิคการลงพื้น ทาบลัช ลงบรอนเซ่อร์ ฯลฯ ต้องบอกว่าแค่ไอ้ 2 หลอดขนาดฟูลไซ้ส์ก็เกินคุ้มกับราคาแล้วค่ะ

เพราะต้องสั่งให้ครบ $50.- เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าส่งและได้ชุดของแถมจิ๋วๆ เพิ่มมา เลยสั่งของที่ใช้มาโกฏิปี ไม่รู้กี่แท่งต่อกี่แท่งแล้ว ยี่สิบกว่าปี ก็ยังรักเดียวใจเดียวกับไอ้เจ้าสิ่งนี้ คือ Lip Conditioner - SPF 15 ค่ะ ราคา $16.50 พอดีแท่งที่ใช้อยู่ ต้องใช้คำว่า “จก” เลยค่ะ เพราะเกือบจะเกลี้ยงแล้ว ต้องใช้พู่กันทาปากล้วงควักออกมาค่ะ ของแถมที่ได้เพิ่มมาเมื่อซื้อครบ $50.- คือ Advanced Night Repair - Synchronized Recovery Complex กับ Advanced Night Repair Eye - Synchronized Complex มาอย่างละ 1 ขวดและกระปุกขนาดเล็ก อ้อ….ในกล่องชุดรองพื้นยังมีเจ้าอายซีรั่มอันนี้ให้มาด้วย 1 ซองค่ะ

page-650-c

อันนี้ก็ยังเป็นเอสเต้อยู่ คือ Advanced Night Repair - Synchronized Recovery Complex เป็นซีรั่มที่ใช้ทุกคืน ขวดที่ใช้อยู่หมดเกลี้ยงพอดี กำลังจะเอาขวดใหม่ในตู้เย็นออกมาใช้ พอดีมีโปรโมชั่นที่ของแถมเพียบ ก็เลยต้อง “จัดการซะ” อีก 1 รอบ คือซื้อ ANR ขวดนึงจะได้ทุกอย่างในโปรโมชั่นนี้จนครบ ไม่ต้องเสียค่าส่งด้วย เลยต้องจัดไปอย่าให้เสีย สั่งมาเก็บไว้ในตู้เย็นแทนที่ขวดที่เพิ่งเอาออกมา ดูรูปเลยค่ะ มีกระเป๋า 2 ใบเล็ก-ใหญ่ อยากบอกว่าอิชั้นมีกระเป๋าของแถมของเอสเต้เยอะมาก พวกใบใหญ่ ก็เก็บบ้าง แจกบ้าง ไม่เคยใช้ แต่ใบนี้ Spring 2011: Navy Twill Step up Tote น่าใช้ดีค่ะ เดี๋ยวจะเอาไว้ใช้เวลาไปซื้อกับข้าว

ของแถม Free Gift Customized with Lifting/Firming skincare and Warm shades มี palette ตา+แก้ม สีสวย ลิปสติกสี tiger eye (มีอยู่หลายแท่งมากไอ้สีนี้ แถมอยู่สีเดียวนี่แหละ แหงะ) มาสคาร่า 1 หลอดเล็ก แล้วก็มี Resilience Lift Extreme Ultra Firming Creme SPF 15 กระปุกกลาง 1 กระปุก (ใช้ได้นานเลยนะคะกระปุกกลางเนี่ย) Advanced Night Repair Eye อีก 1 กระปุกเล็ก ส่วนตัวอย่างที่รีเควสไปคือ Time Zone Anti-Line/Wrinkle Eye Crème (5-Day Supply) หลอดจิ๋วหลิว 1 หลอดค่ะ

page-651-c

ก่อนจะอวดกระเป๋าต้องอธิบายก่อนว่าชอบกระเป๋าโค้ชมานานมากแล้ว ก่อนที่ใครๆ จะ “ฮิต” มากมายอย่างที่เห็นๆ กัน จากตอนโน้นนนน…ถึงวันนี้มีกระเป๋าโค้ชเยอะมาก ไม่อยากขนออกมานับ 5555 อายตัวเอง จำได้ว่าซื้อใบแรกเกือบ 20 ปีแล้ว แพงมากกกกก…. ขอบอก กว่าจะซื้อได้ เก็บตังค์อยู่นาน แถมยังโดนชมจากคนรอบข้างว่า “ป้าแก่” มาก ซื้อมาได้ยังไง 5555 พอต่อๆ มา ก็ยังซื้อจาก Coach.com เป็นหลัก รวมๆ ซัก 90% ได้ และจาก Macy’s 10% คือจ่ายราคาป้ายแบบเต็มๆ เลยค่ะ เพราะไม่มี outlet อยู่ในรัศมีใกล้ๆ ที่ไปมาได้สะดวก ไอ้ร้านที่ใกล้ที่สุดก็ต้องขับรถดั้นด้นไป เสียค่าน้ำมัน รวมค่าโน่นนี่อีก คิดรวมๆ ราคาก็คงพอๆ กับซื้อจากเว็บหรือจากห้างเลยค่ะ หลายปีให้หลังโชคเข้าข้างค่ะ มีคุณเพื่อนสุมนา ทำหน้าที่เป็น personal shopper ให้ค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น แปะโป้งได้ ออกตังค์ให้ก่อนด้วย 555 บริการเริ่ดๆ แบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เพราะคุณเพื่อนอยู่ไม่ไกลจาก outlet (ใกล้ๆ ก็ขับรถไปร่วมช้่วโมง 555) พอเจอสวยๆ ราคาดีๆ (รู้ใจกันดีด้วย….นิ) ก็ลากมาทีละหลายๆ ใบเลย ถ่ายรูปส่งมาให้ดู ใบไหนถูกใจก็จัดส่งมาให้ ใบไหนไม่โปรด คุณเพื่อนก็วิ่งแจ้นเอาไปคืน 5555 นี่แหละค่ะเป็นที่มา ที่ช่วงหลังๆ อิชั้นมีสินค้าจากโค้ชเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต๊งส์หลายๆ นะเพื่อนนะ

คราวนี้มาดูกระเป๋าใบล่าสุดของอิชั้น ที่…ว่าจะไม่แล้วเชียว 555 สั่งมาจาก coachfactory.com (ให้คุณเพื่อนจัดการให้เช่นเคยค่ะ เพราะเป็น private sale อิชั้นมิได้รับเชิญ 555 เลยต้องรบกวนคุณเพื่อน พอรู้ข่าวว่าเค้ามีโปรโมชั่น Online Sale Starts Now! Up to 70% off ฤๅจะอดใจไหว 555 ใบนึ้ค่าเสียหาย $90.- ได้มาปุ๊บก็ใช้เลย ถูกใจมากค่ะ ชื่อรุ่น Coach Pierced Patchwork East West Tote Bag เคยอยากได้ตอนที่ออกมาใหม่เมื่อปลายปีก่อน แต่ที่เห็นเป็นโทนน้ำตาล-ดำ ราคาตอนนั้น $398.- ค่ะ ใบนี้ขนาดกำลังดี สีเข้มไม่สกปรกง่าย น้ำหนักพอดีๆ ไม่หนักมาก ซิปเป็นแบบซิปผ่าขาด (เหมือนซิปแจ๊คเก็ต มีกระเป๋าโค้ชซิปแบบนี้อยู่ 2 ใบแล้ว แรกๆ ก็ไม่ถนัด ใช้ไปใช้มาซักพัก ก็เปิดปิดได้คล่องแคล่วถนัดมือค่ะ) สีม๊วง…ม่วง..ม่วงกว่าในรูปที่เห็นในเว็บ แต่ตัวจริงๆ สวยมากค่ะ ขอบอกกกกกก…..

page-653-c

มาดูกระเป๋าตังค์ใบใหม่กันค่ะ ได้มาพร้อมกับใบม่วงข้างบนค่ะ เป็นรุ่น Soho Patent Leather Buckle Zip Around สี Baby Blue น่ารักเชียวค่ะ ราคาตอนยังอยู่ในห้าง $238.- พอตกมาอยู่ outlet ค่าตัวหล่นลงมาที่ $90.- ถูกใจมากกกกก…. เพราะชอบกระเป๋าตังค์แบบ zip around อยู่แล้ว เป็นหนังมันทั้งใบ มีช่องโน่น นี่ นั่น เยอะแยะมาก ไม่ต้องพกกระเป๋าใส่เหรียญอีกใบ “con” ของกระเป๋าตังค์แบบนี้คือ มันใหญ่ และจุดี ก็เลยหนักไปนิดและต้องใช้กระเป๋าถือใบใหญ่ตามไปด้วย เพราะยัดใส่กระเป๋าถือหรือสะพายใบเล็กๆ ไม่ได้ค่ะ โปรดสังเกต…ไม่ค่อย “เห่อ” เท่าไหร่ ได้มาปุ๊บก็ใช้เลยค่ะ 5555 ที่เห็นแบ๊งค์ร้อยเป็นปึก…. ค่าเช่าบ้านค่ะ 555 มิใช่เงินก้นถุงแต่อย่างใด ถ้าไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน $1,000.- หูย….หวานคอแร้ง 55555

page-654-c

มาดูกระเป๋าถือชมพูแต๋นใบนี้คือ Coach Signature Stripe Patent Leather Tote – Raspberry ได้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วช่วงคิดสะมาด 555 ดูเหมือนรุ่นนี้จะเป็นสินค้าที่ผลิตเพื่อขายใน outlet เท่านั้น เพราะไม่เคยเห็นในเว็บค่ะ ราคาเต็มจากป้ายที่ห้อยมาคือ $329.- แต่คุณเพื่อนเห็นว่าสีแต๋นถูกใจอิชั้นและราคาก็เหมาะสมดี คือ $77.- เป็นกระเป๋าหนังมัน เย็บลายตัว C – Signature ของเค้า สายคู่เส้นเล็กๆ น้ำหนักเบา ซิปปิดด้านบน ขนาดกำลังดี พอได้มาก็ใช้เลยเช่นเคย เพราะเป็นคนไม่ขี้เห่อเท่าไหร่ พอดีกับเป็นชมพูแต๋นถูกใจ Hello Kitty Mama มากๆ จำได้ว่าพ่อบ้านเห็นตอนเปิดกล่องพัสดุแล้วพูดว่า เที่ยวนี้ซื้อให้รอมมี่ด้วยเหรอ ก็ตอบไปว่า จ้า.. เออ.. ค่า.. พอตอนเห็นอิชั้นถือแกว่งไปมาก็ อ้าว.. เว้ย.. เฮ้ย.. ไหนบอกว่าของลูกไง แล้วก็เหน็บว่า Don’t you think…you’re not a teenager! อ้าว…จะให้ตูแก่แล้วแก่เลยหรือไงฟระ ฮานาก้า….55555

page-655-c

ใบต่อมา คือ Coach Poppy Patent Luxey Satchel BRASS/RUBY ได้มาพร้อมกับใบชมพูข้างบนค่ะ ราคาจากป้ายคือ $298.- พอตกกระป๋องจากห้างลงมาที่ outlet เลยเหลือ $124.- คุณเพื่อนเลยซื้อแล้วส่งรูปมายั่ว เห็นรูปแล้วน้ำลายยืด เลยเซย์เยสไปอย่างรวดเร็ว ถูกแพงขอให้แดงไว้ก่อนใช้ได้กับอิชั้นเสมอค่าาาา…. ใบนี้ค่อนข้างเล็ก ถือ-สะพายได้ 2 แบบ ข้อตินิดนึงคือ เวลาใช้แบบถือสายคู่ห้อยแขน…จะเปิดปิดซิปลำบาก ไม่กว้างขวาง ล้วงควัก ไม่สะดวก แต่เรื่อง look สำหรับใบนี้ กิ๊บเก๋ยูเรก้าไม่น้อย เพราะ accessories ห้อยตุ้งติ้งเยอะแยะ อ๊อฟเฟ่อร์ให้อิรอม… ลูกบอก “โน” ไม่ชอบ เชอะ ไม่ชอบก็ไม่ง้อสิวะ อิชั้นชอบใบนี้ที่สีและดีไซน์ แต่มันเป็น light duty ค่ะ ถือเหวี่ยงไปมาเป็นงานๆ ไป ไม่ใช่ everyday bag ค่ะ ดูรูปสิคะ (ถ่ายรูปห่วยตามปกติ 55) สวยเน๊าะ

page-656-c

มาดูกับข้าวกับปลากันบ้างดีกว่าค่ะ แต่ละรูปก็คือแต่ละทริปนะคะ รูปบนมีจานกระดาษแพ๊คใหญ่ แม่บ้านหลังยาวเบื่อล้างจานค่ะ 55 บะหมี่เกี๊ยวกุ้งของซีพี อร่อยเหมือนชายสี่หมี่เกี๊ยวเลยค่ะ กินแล้วคิดถึงบ้าน กล่องนึงมี 6 ถ้วย ช่วงนี้มีลดราคา ตกถ้วยละ $1.50 ประมาณนั้นค่ะ beef jerkies เนื้ออบแห้งรส mesquite รมควัน ของโปรดเวลาดูทีวีเหงาๆ ปาก ถุงละ 3-4 เหรียญ แอบหนีบเอาเข้าไปเคี้ยวในโรงหนังบ่อยๆ ค่ะ เลยต้องซื้อไว้ประจำบ้าน ไข่ไก่ 5 โหล มาม่าโจ๊กคัพรสหมู 1 กล่อง พ่อบ้านกับไอ้ตี้ลูกชายชอบทานตอนดึกๆ ค่ะ ส้ม “Cuties” clementine 5 pounds หวานอร่อยเปลือกบางค่ะ โค้ก 2 ลิตร แพ๊ค 4 ขวด $3.99 ค่ะ ตกขวดละเหรียญ

รูปล่างพาสเต้อร์ปิดแผล 2 กล่อง Clorox Tablet เอาไว้ใส่ถังน้ำชักโครก 409 น้ำยาเอนกประสงค์ 1 แกลลอน แถมแบบขวดสเปรย์ขวดใหญ่มา 1 ขวดด้วย อิชั้นใช้ตั้งแต่ในห้องน้ำ ถึงในครัวเลยค่ะ หัวเตา พื้นพรม นึกอะไรไม่ออกก็คว้าไอ้ 409 ไว้ก่อน 555 แต่ไม่ได้ฉีดไอ้ก๊อตตี้นะคะ เวลามันมอมๆ ก็โยนใส่อ่างไปค่ะ แล้วก็มี Clorox น้ำยาซักเสื้อผ้าสี Downy ปรับผ้านุ่ม รถไฟชื่ออะไรไม่รู้เพื่อนไอ้โธมัสมันค่ะ ไอ้ตี้เห็นแล้วชักแง่กๆ ก็เลยต้องซื้อให้ลูก ทั้งๆ ที่มีอยู่แล้วเต็มบ้าน องุ่นดำ concord ไม่มีเม็ด บะหมี่เกี๊ยวซีพีอีก 2 กล่อง คือเค้า limit ให้ซื้อแล้วได้ส่วนลดแค่ทีละ 2 กล่องค่ะ ถ้าซื้อเกินตั้งแต่กล่องที่ 3 ก็ต้องจ่ายราคาเต็มๆ ก็เลยลากมาทีละ 2 กล่องทุกครั้งที่ไป Costco ค่ะ เดี๋ยวเค้าเลิกลดราคาก็เลิกกิน 5555 งกชิมิคะ Go-gurt ของลูกๆ 2 แพ๊ค เด็กๆ บ้านนี้กินโยเกิร์ตกันเก่ง อยู่บ้านก็กินเป็นถังๆ ส่วนโกเกิร์ตเป็นถุงหลอดๆ ก็เอาแช่แข็งไว้ บางทีลูกๆ ก็คว้าติดมือเอาไปหม่ำในรถเวลาไปไหนๆ สะดวกดีค่ะ ส่วนใหญ่ก็ฟาดเรียบในบ้านนี่แหละค่ะ โค้ก 2 แพ๊ค และกบเหลาดินสอแบบใส่ถ่านของลูกๆ ค่ะ อันเก่ามรณภาพไปแระ

page-657

รูปนี้เป็นของจุกจิกที่ต้องใช้ค่ะ บิโอเรสครับโฟมเป็นโฟมที่หมอผิวหนังสั่งให้รอมมี่ใช้ค่ะ เลิกใช้ของเก่าให้หมด เพราะสิวบุกหนัก ส่วนแชมพู นิวโทรจิน่า T-Sal เป็นของอิชั้นค่ะ สีดินสอเป็นของไอ้ตี้ และทิชชู่เช็ดขี้มูก Boogie Wipes ก็เป็นของไอ้ตี้ด้วยค่ะ ส่วนแตงกวา น้ำสลัด Creamy French หอมแดงใหญ่ และมะเขือเทศจิ๋วเป็นเครื่องสลัดที่ขาดตู้เย็น เลยต้องแจ้นไปซื้อมาตุน น้ำสลัดอันนี้อยากลองมานานแล้ว พอซื้อมา แหวะ หวานๆ เหม่งๆ ไม่ชอบ ใบเสร็จเป็นของไอ้พวกเครื่องสลัดค่ะ

page-658

คราวนี้ไปช้อปต่อที่ Dollar Store ค่ะ คือทุกๆ อย่างราคา $1.- เท่ากันหมด เวลาซื้อหาก็ต้องดูดีๆ เพราะบางอย่างซื้อที่อื่นราคาไม่ถึงเหรียญค่ะ แล้วข้าวปลาอาหารจะอายุสั้น เผลอๆ ดูไม่ดี expired สิ้นชีวิตไปแล้ว เคยซื้อที่มันหมดอายุ spoilage ต้องแจ้นเอาไปคืน live & learn อยู่เรื่อยเชียว 555 มามะมาดูกันว่าได้อะไรมาบ้าง รูปบนนะคะ สมุดหัดเขียน ABC ของไอ้ตี้ สลัดผักโรเมน สปิแนช หลอดกระดาษสำหรับ roll เศษเหรียญ ที่ใส่นิ้วเท้าเวลาทาเล็บเป็นยางซิลิโคน..คุณภาพแจ่มมาก สำลีพันก้านไม้แบบยาว แถบมัดของสีขาว สก๊อตเทปแพ๊คคู่ มะม่วง (ซื้อที่คอสต์โก้ แพ๊ค 9 ลูก ราคา $7.99 แต่มันต้องขับรถข้ามเมือง เจอตรงนี้แล้วอยากกิน ก็ซื้อๆ ไปซะให้เสร็จๆ) ถุงใส่กล้องสีแดง+ลายน้ำตาล (คุณภาพเริ่ดมากๆ) ถ่านแบตเตอรี่ 9V. แพ๊คคู่ สำหรับ smoke alarms สติ๊กเก้อร์ ดินสอ กระจก แว่นอ่านหนังสือ คุณภาพดีมากๆ ราคาที่ติดอยู่อันละ 14-19 เหรียญค่ะ แต่ต้องเลือกดูดีๆ บางอันมีขูดขีดที่เลนส์ค่ะ

รูปล่าง (อีกทริปนึงนะคะ) เห็ดหอมดอง อร่อยดีค่ะ เปรี้ยวๆ เอาไว้ทานกับพวกเนื้อย่าง ถุงพลาสติก ชอบใช้ถุงแบบนี้เวลาผักที่ซื้อมาเยอะๆ หั่น ล้าง แล้วแบ่งใส่ถุงนี้แช่ในเก๊ะตู้เย็นแบบพร้อมใช้ สะดวกดีค่ะ ไม่แพง เป็นถุงขนาด 1 แกลลอน บางๆ ใช้แบบซิปเป้อแบ๊ค…แพง เสียดายตังค์ โอ๊ตของหนูดี เห็นบอกว่าลองดู พอทานแล้วก็บอกว่าโอเคเลยนะ ถูกด้วย แต่พอพ่อบ้านมาเห็น ซื้อมาได้ไง ทำไมไม่ซื้อ Quaker Oat ให้ลูก จะอะไรกันว๊า… ก็ของมันแค่เหรียญเดียว แหลกม่ายล่ายก็ทิ้งไปสิวะ ส่วนไอ้ Triaminic Vapor Fan, with 3 Refill Pads and Batteries, Mentholated Cherry กล่องฟ้าๆ นั่น เป็น พัดลมจิ๋วใช้ถ่าน แล้วก็มีแถบกลิ่นเมนทอลเชอรี่ พอเอามาลองดูก็ โอเคเลยนะคะ หอมเย็นจมูกดี เคยซื้อแบบเสียบปลั๊ก เป็นเมนทอลเฉยๆ ซึ่งหลายตังค์อยู่ อันนี้เหรียญเดียว มีรีฟิล 3 อัน ใส่ถ่านมาให้เสร็จ เลยเก็บเอาไว้เปิดตอนลูกเป็นหวัดจมูกแน่นๆ ค่ะ แล้วก็มี dinner rolls กับ biscuits ของ Pillsbury ทั้ง 2 อย่างหมดอายุสิ้นเดือน June โน่น….สบายไปเลย กินกันหมดก่อนสิ้นเดือนเมษาแน่นอนค่ะ

page-649

หมดแล้วค่ะ จริงๆ มีรูปข้าวของโชห่วยที่ซื้อมาอีกเยอะเลยค่ะ แต่ดูเหมือนจะซื้อของเหมือนๆ กันอยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน โชคดี แฮ้ปปี้ช้อปปิ้งค่ะ

Saturday, April 2, 2011

มาเลือกกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิดกันเถอะค่ะ

wallets-300x300

คนเกิดวันอาทิตย์
คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีฟ้า สีดำ หรือกระเป๋าที่ทำมาจากหนังของสัตว์ทะเลค่ะ ส่วนสีที่คุณควรใช้คือ สีในโทนสว่าง หรือจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเขียว อันนี้ก็โอเคค่ะ

สีคนเกิดวันอาทิตย์
บริวาร คือ แดง
อายุ คือ ขาว ครีม เหลือง
เดช คือ ชมพู ม่วง
ศรี คือ เขียว
มูลละ คือ ดำ น้ำตาล เทา
อุตสาหะ คือ ส้ม
มนตรี คือ เหลือบ ควันบุหรี่
กาลกิณี คือ ฟ้า

wallet N62732 W1

คนเกิดวันจันทร์
กระเป๋าสตางค์สีแดงหรือกระเป๋าสตางค์ที่ทำมาหนังสัตว์ 2 แบบนี้คุณควรหลีกเลี่ยงไปเลยค่ะ ส่วนสีที่เหมาะกับคุณมากที่สุดก็คือ สีน้ำตาล หรือ สีม่วง

สีของคนวันจันทร์
สีบริวาร คือ สีขาว ครีม เหลือง
สีอายุ คือ สีชมพู สีม่วง
สีเดช คือ สีเขียว
สีศรี คือ สีดำ เทา น้ำตาล (เสริมราศี)
สีมูละ คือ สีส้ม
สีอุตสาหะ คือ สีเหลือบ
สีมนตรี คือ สีฟ้า
สีกาลกิณี คือ สีแดง …..

โห…อิชั้นมีกระเป๋าตังค์ กระเป๋าสะพาย สีแดงเยอะเลย มิน่าหล่ะ ไส้แห้งตลอด แงๆๆๆ แล้วให้หลีกเลี่ยงหนังสัตว์ อ้าว… หนังมนุษย์ หนังเอเลียน เหรอ แล้วจะไปหาที่ไหนฟระ

wallet-8850

คนเกิดวันอังคาร
สีน้ำตาลและสีครีม 2 สีนี้เป็นสีที่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอังคารเลยค่ะ และอีกอย่างที่ต้องห้ามก็คือ กระเป๋าสตางค์ที่ทำมาจากหนังสัตว์ ส่วนสีที่ถูกโฉลกกับคุณก็คือ สีชมพู สีแสด และ สีส้ม 3 สีนี้ก็คงจะถูกใจสาวๆ นะคะ

สีของคนวันอังคาร
สีบริวาร คือ สีชมพู สีม่วง
สีอายุ คือ สีเขียว
สีเดช คือ สีเทา ดำ น้ำตาล
สีศรี คือ สีส้ม
สีมูละ คือ สีเหลือบ
สีอุตสาหะ คือ สีฟ้า
สีมนตรี คือ สีแดง
สีกาลกิณี คือ สีขาว ครีม เหลือง

wallet1

คนเกิดวันพุธ
สำหรับคนเกิดวันพุธก็มีสีต้องห้ามอยู่ 2 สีคือ ดำและชมพู และไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ทำมาจากหนัง โดยเฉพาะสัตว์ปีก ส่วนสีของกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับคุณก็คือ สีเขียว ครีม และ น้ำตาลค่ะ

สีของคนวันพุธ
สีบริวาร คือ เขียว
สีอายุ คือ สีเทา ดำ น้ำตาล
สีเดช คือ สีส้ม
สีศรี คือ สีเหลือบ
สีมูลละ คือ สีฟ้า
สีอุตสาหะ คือ สีแดง
สีมนตรี คือ สีขาว ครีม เหลือง
สีกาลกิณี คือ สีชมพู ม่วง

Wallet-Small

คนเกิดวันพฤหัสบดี
สำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดีมีสีต้องห้ามอยู่สีเดียวคือ สีดำ และขนาดของกระเป๋าจะต้องไม่ใหญ่เกินไป เลือกชนิดมีช่องใส่พอประมาณค่ะ ส่วนสีที่เหมาะก็คือสีแดง หรือ ส้ม

สีของคนวันพฤหัสบดี
สีบริวาร คือ สีแสด
สีอายุ คือ สีเหลือบ
สีเดช คือ สีฟ้า
สีศรี คือ สีแดง
สีมูละ คือ สีขาว ครีม เหลือง
สีอุตสาหะ คือ สีชมพู ม่วง
สีมนตรี คือ สีเขียว
สีกาลกิณี คือ สีเทา ดำ น้ำตาล

walletsblue

คนเกิดวันศุกร์
สีของกระเป๋าสตางค์ที่ต้องห้ามสำหรับคนเกิดวันศุกร์ก็คือ สีดำ หรือสีทึมไม่สดใส แล้วก็ไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ดูแปลกจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่นะคะ ส่วนสีที่ควรใช้ก็คือ สีฟ้า และ สีชมพู

สีของคนวันศุกร์
เดช คือ ครีมขาวเหลือง
บริวาร คือ ฟ้า
อายุ คือ แดง
ศรี คือ ชมพู ม่วง
มูลละ คือ เขียว
มนตรี คือ ส้ม
อุตสาหะ คือ เทา, ดำ, น้ำตาล
กาลกิณี คือ เหลือบ

wallet-purple

คนเกิดวันเสาร์
คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีเขียวหรือน้ำตาล และต้องพยามยามเลือกแบบที่ไม่เก่าเร็ว ต้องแลดูใหม่อยู่เสมอ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนเกิดวันเสาร์ต้องซื้อกระเป๋าสตางค์บ่อยกว่าคนกิดวันอื่น เราะถ้าคุณปล่อยกระเป๋าสตางค์ของคุณเก่าขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็เมื่อนั้นจะทำให้ไม่มีโชคลาภค่ะ ส่วนสีที่เหมาะกับคุณก็คือ สีฟ้า หรือ สีม่วงค่ะ

สีของคนวันเสาร์
สีบริวาร คือ สีเทา ดำ น้ำตาล
สีอายุ คือ สีแสด
สีเดช คือ สีเหลือบ
สีศรี คือ สีฟ้า
สีมูละ คือ สีแดง
สีอุตสาหะ คือ สีขาว ครีม เหลือง
สีมนตรี คือ สีชมพู ม่วง
สีกาลกิณี คือ สีเขียว

moneydc6

*** สีเหลือบ คือสีที่เราไม่สามารถ ฟันธง ว่ามันคือสีอะไรกันแน่ ตัวอย่างเช่น สีของไข่มุก หรือ สีของโอปอล...***

Trick of the Day


การใส่เสื้อผ้าสีกาลกิณี ไม่ได้แปลว่าไม่ดี เพียงแต่เราจะไม่เป็นจุดเด่นในสายตาคนอื่นเท่านั้น อย่างเช่น พวกดารานักแสดงถ้าใส่พวกเสื้อผ้าสีกาลกิณี หรือแต่ตัวสีกาลกิณี ก็จะทำให้เราไม่เป็นจุดเด่นของคนอื่น ไม่ค่อยมีคนเขามาทักทาย ได้มีโลกส่วนตัวเป็นของตัวเองในเวลาเที่ยวได้ เป็นต้น

ถ้าเป็นคนเจ้าอารมณ์ให้ลดการใช้สีที่เป็นเดช ให้ไปใช้สีที่เป็นศรีเพิ่มขึ้นเพื่อจะช่วย Drop อารมณ์ของเราได้ แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นคนที่ขี้เกรงใจคนก็ให้ใช้สีที่เป็นเดชเพิ่มขึ้นค่ะ จะช่วยให้เราเป็นคนมั่นใจและ เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้นด้วย

กาลกิณี หมายถึง ไม่ดี ต้องห้าม แต่ในของที่ดี ก็มีด้านไม่ดี และในของที่ไม่ดีเช่นกาลกิณีก็ยังมีด้านดีด้วยเช่นกัน ประมาณว่าถ้าใช้สีกาลกิณีเป็นกระเป๋าสตางค์เงินก็จะไม่ค่อยออก แต่ก็ไม่ค่อยมีเงินเข้าเหมือนกัน

คุณควรใช้กระเป๋าสตางค์ 2 ใบ ใบเล็ก เป็นกาลกิณีใส่สตางค์ไว้ ส่วนอีกใบเป็นใบใหญ่เพื่อใส่กระเป๋าใบเล็ก เพราะสีกาลกิณีเงินไม่ออก แต่สีของมูลละเป็นทรัพย์สินเงินทองนะ เงินเข้า

เงินไม่ค่อยออกในที่นี้ไม่ได้แปลว่าในกระเป๋าสตางค์ไม่มีเงินนะ แต่ประมาณว่าวันนี้จะไปซื้อเสื้อซักตัว เดินแล้วเดินอีกก็อาจจะหาไม่ได้ หรือเจอแบบที่ต้องการแต่ไม่มีขนาดเราอะไรประมาณเนี้ย

แต่ในทางกลับกันถ้าใช้สีมูลละมาเป็นกระเป๋าสตางค์ก็เตรียมตัว shop สะบั้นหั่นแหลกเลยล่ะ แต่เงินก็เข้ามาเยอะด้วยเหมือนกัน เลือกเอาว่าจะใช้แบบไหน

ใช้กระเป๋าสองใบ มูลละ ใบนึง กาลกิณีใบหนึ่ง พอได้เงินมา ก็เอาเงินไปใส่ใน กาลกิณี เข้าแต่ไม่ออก
จริงๆ ถ้าให้ดีควรที่จะมีทั้งสีกาลกิณีและมูลละอยู่ในกระเป๋าเดี่ยวกันมากกว่านะ

moneyFz_fs

I've got all the money I'll ever need

if I die by four o'clock this afternoon.