Sunday, December 22, 2013

9 ตัวการร้ายทำลายตับ และทำให้เป็นโรคมะเร็งตับได้

liver

การพักผ่อนที่เพียงพอและการนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าหากคุณยังมีปัญหาในการนอนหลับ พิษและของเสียที่อยู่ในร่างกายย่อมจะสะสมและเป็นปัญหาต่อสุขภาพและอารมณ์ของคุณเอง

9 ตัวการร้ายทำลาย ตับ และทำให้เป็นโรคมะเร็งตับได้

1. นอนดึกตื่นสาย

2.ตื่นนอนแล้วไม่ปัสสาวะ

3.ทานอาหารมากเกินไป

4.ไม่ทานอาหารเช้า

5.ทานยาปฏิชีวนะมากเกินไป

6.ทานอาหารที่มีสารปรุงแต่ง / สารกันบูด / สารปรุงรส

7.น้ำมันปรุงอาหารที่มีสนิมน้ำมัน (Oxidized Fatty Acids)

8.ทานเนื้อสัตว์ปิ้ง ย่าง ที่ไหม้ เกรียม

9.ดื่มแอลกอฮอล์ และของมึนเมา

เราจะต้องพยายามปรับวิถีการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะนิสัยการกิน การปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีและดูแลปัจจัยเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ ร่างกายของเราได้รับประโยชน์และสามารถกำจัดสารที่ไม่เป็นประโยชน์ในร่างกาย ตามตารางเวลาที่ควรจะเป็น เพราะ

ช่วงเวลากลางคืน 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม : เป็นระยะเวลาที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษต่าง ๆ โดยระบบต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย (ระบบหมุนเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย) ช่วงเวลานี้ควรจะต้องถูกใช้ไปในการพักผ่อนหรือผ่อนคลายด้วยการฟังดนตรี   ถ้าหากช่วงเวลานี้แม่บ้านยังคงวุ่นอยู่กับงานบ้านเช่นล้างจานหรือดูและเด็กให้ทำการบ้าน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลลบต่อร่างกาย

ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่ม - ตี 1 : กระบวนการกำจัดสารพิษในตับ และแน่นอนควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท ในช่วงเช้าระหว่างเวลาตี 1 ถึง ตี 3 นั้น กระบวนการกำจัดสารพิษในน้ำดีก็ควรจะเป็นช่วงแห่งการนอนหลับสนิทเช่นกัน

ช่วงเวลาตี 1 - ตี 3 : การ กำจัดสารพิษในปอด เพราะฉนั้นอาจจะมีอาการไออย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่มีปัญหาการไอในช่วงเวลาดัง กล่าว ตอนนี้กระบวนการกำจัดสารพิษจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว และก็ไม่จำเป็นที่คุณจะใช้ยาแก้ไอเพื่อที่จะได้ไม่ไปขัดขวางขั้นตอนการกำจัด สารพิษในร่างกาย

ช่วงเช้า ตี 5 - 7 โมงเช้า : การกำจัดสารพิษในปลายลำไส้ใหญ่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้พุงและลำไส้ของคุณว่างลง

ช่วงเช้า 7 - 9 โมงเช้า : การดูดซึมสารอาหารสู่ลำไส้เล็ก คุณควรจะต้องทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ อาหารเช้าควรจะก่อน 6.30 น. สำหรับผู้ป่วย อาหารเช้าที่ทานก่อน 7.30 น. นั้นดีต่อผู้ที่ต้องการมีร่างกายสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ใดที่ไม่ทานอาหารเช้าตลอดเวลาควรจะต้องรีบเปลี่ยนพฤติกรรมนี้เสีย และการทานอาหารเช้าในช่วงสายตั้งแต่ 9 - 10 น. ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรลงไปในท้องเลย การนอนดึกตื่นสายนั้นเป็นปัญหาต่อกระบวนการทำลายของเสียในร่างหาย นอกจากนั้นช่วงเที่ยงคืนถึงตี 4 ก็ยังเป็นเวลาที่ร่างกายผลิตเลือด

ที่มา : thaigoodview.com

by Chayanit

13 พฤศจิกายน 2556 เวลา 07:18 น.

Sunday, September 22, 2013

10 อันดับซูชิยอดนิยมของสาวญี่ปุ่น

10 อันดับซูชิยอดนิยมของสาวญี่ปุ่น

อันดับ 10 Tsubu Kai (つぶ貝) ซูชิหน้าหอย Tsubu หอยชนิดหนึ่งที่มีเนื้อนุ่มกว่าเมื่อเทียบกับหอยเป๋าฮื้อ มีความหอมและความหวานอ่อนๆ

อันดับ 9 Uni (うに) ซูชิหน้าไข่หอยเม่น คนไทยเราเรียกกันว่าไข่หอยเม่น แต่จริงๆ แล้วมันคือ “อัณฑะกับรังไข่”ของหอยเม่น ถ้ามาจากตัวผู้ก็จะเป็นอัณฑะ แต่ถ้ามาจากตัวเมียก็จะเป็นรังไข่ มีสีเหลืองส้ม เป็นครีมนิดๆ รสชาติหวาน มัน

อันดับ 8 Negi Toro (ねぎトロ) ซูชิหน้าท้องปลา Maguro บดหรือสับปรุงรสแล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอย

อันดับ 7 Anago (アナゴ) ซูชิหน้าปลาไหลทะเล  จะเป็นปลาไหลทะเลย่างหรือต้มซีอิ๋วก็ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน

อันดับ 6 Chu Toro (中トロ) ซูชิหน้าท้องปลา Maguro ส่วนท้าย เนื้อส่วนนี้จะมีรสสัมผัสที่หวานนุ่มกว่าส่วนเนื้อล้วนของ Maguro (Akami 赤身) เพราะมีไขมันคั่นสลับเนื้อปลาอยู่ตลอดทั้งชิ้น (ถ้าเป็น O Toro 大トロ จะเป็นเนื้อท้องส่วนหน้าและมีไขมันแทรกซึมอยู่ในเนื้อปลาทั้งชิ้น)

อันดับ 5 Maguro No Akami (まぐろの赤身) ซูชิหน้าปลา Maguro ปลาที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในแบบปลาดิบมากที่สุด สำหรับ Maguro No Akami นั้นเป็นส่วนของเนื้อแดง ซึ่งเป็นเนื้อส่วนกลางลำตัวที่จะไม่ค่อยมีไขมันแทรกอยู่

อันดับ 4 Engawa (エンガワ) ซูชิหน้าครีบปลาตาเดียว รสสัมผัสกรุบกรอบ มีทั้งแบบย่างไฟอ่อนๆ และแบบดิบๆ

อันดับ 3 Ikura ( いくら) ซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอน ให้รสสัมผัสกรุบๆ ตอนกัด แล้วรสชาติของน้ำที่อยู่ในไข่ปลาแซลมอนจะมีรสเค็มนิดๆ คาวหน่อยๆ

อันดับ 2 Ebi (エビ) ซูชิหน้ากุ้ง ซึ่งก็มีประเภทของกุ้ง และวิธีในการปรุงที่หลากหลาย

อันดับ 1 Salmon (サーモン) ซูชิหน้าปลาแซลมอน แต่เดิมถ้าพูดถึงซูชิ คนญี่ปุ่นจะนึกถึงซูชิหน้าท้องปลา Maguro ที่เราเรียกว่า Toro เป็นอันดับแรก สำหรับซูชิหน้าปลาแซลมอนนั้น จะได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นมากกว่า แต่เนื่องจากปลาแซลมอนนั้นมีราคาที่ถูกกว่า แล้วก็มีส่วนของไขมันแทรกซืมอยู่ในเนื้อปลาเหมือนกับ Toro ทำให้ซูชิหน้าปลาแซลมอนไต่ลำดับขึ้นมาเป็นหน้าซูชิยอดนิยมของญี่ปุ่นในปัจจุบัน

เรียบเรียงโดย : ทีมงาน www.marumura.com
ขอบคุณข้อมูลจาก :
http://nakeru.blog23.fc2.com/blog-entry-5336.html
http://ja.wikipedia.org/wiki/%E5%AF%BF%E5%8F%B8