Saturday, November 21, 2015

อะไรอยู่ในกระเป๋า หนัก ship หาย

แบกไปแบกมา หนักจังเลย ทั้งๆ ที่ช่วงนี้เลือกใช้แต่กระเป๋าที่น้ำหนักเบา คือ กระเป๋าลิง Kipling เป็นหลัก เปลี่ยนไปมาเป็น กระเป๋าลิงตลอด เยิ่นเย้อนะ มาดูกันค่ะ ช่วงนี้แบกอะไรบ้าง

20151119_113032

กระเป๋าที่ใช้คือรุ่น Gabbie หน้าตาและฟังก์ชั่นจะดูคล้ายๆ Europa แต่ขนาดเล็กกว่านิดหน่อยค่ะ

20151119_113945

สิ่งแรกที่รื้ออกมาคือ ถุงมือค่ะ ช่วงนี้อากาศหนาวแล้ว ก็ต้องพกไว้เสียหน่อย เป็นถุงมือแบบไม่หนามาก ขับรถสะดวก ยัดใส่กระเป๋าเสื้อไม่กินที่ ส่วนที่เห็นด้านขวา คือ ..เรียกไรวะ 5555 มันเป็น sleeve สำหรับใส่กระป๋องน้ำอัดลม ขวดเครื่องดื่ม ติดกระเป๋าไว้ เป็นของลูกชายค่ะ เพราะไปไหนมาไหนกับลูกชาย เวลาหนาวๆ ถือกระป๋องเย็นๆ นานๆ มันทารุณ

20151119_114132

เครื่องดื่มและสแน๊ค ที่….น่าจะดีต่อสุขภาพ 5555 คุณสามีจัดหามาให้ค่ะ ถั่วนั่นกินตอนแรก ก็ แหงะ ..ไม่ติดอกติดใจอะไร เซ็งๆ เพราะมันกร่อยๆ ไม่มีเกลือ แต่พอกินนานๆ ไป ก็โอเคเลยนะคะ อร่อย เพลินดี ซื้อทีละถุง 2 ถุง พอค่ะ อย่าตุน มันเก่า สาบ ไม่อร่อย ส่วนน้ำทับทิมขวดนี้ผสมบลูเบอรี่ ชอบค่ะ ชอบรสนี้ กับรสทับทิมเพียวๆ ถ้าไม่ลืม ก็จะตัก Chia Seeds ใส่ลงไปซัก 2 ช้อนโต๊ะ เขย่าๆ แช่ตู้เย็นค้างคืนไว้ ตอนเช้าขับรถไปทำงาน ดื่มไปสดชื่นดี และแก้ท้องร้องจ้อกๆ ได้ด้วย รวมทั้ง สบายท้อง ดีต่อระบบระบบขับถ่ายค่ะ

20151119_121637

ยาที่กิน ณ ปัจจุบัน Tradjenta เป็นยาเบาหวานตัวใหม่ เป็นตัวอย่างที่หมอให้มา ยังไม่ได้ซื้อเอง ยังไม่รู้จะแพงหูขาดขนาดไหน ยังลุ้นอยู่ค่ะ ส่วนกล่องทางซ้ายมือ เป็นยาแบบเคี้ยวที่ช่วยลดแก๊ส เคี้ยวซัก 1 เม็ด เวลารู้สึกอืดๆ กระอักกระอ่วน มวนในท้อง อึดอัด คือ คิดว่าถ้าตดๆๆๆ เรอๆๆๆ 555 คงจะสบายเนื้อสบายตัวขึ้น ยานี้ช่วยได้ค่ะ

20151119_121725

กระเป๋าตังค์ กระเป๋าเหรียญ เพิ่งเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าตังค์ใบใหญ่ คือเปลี่ยนไปมา เมื่อนึกอยากเปลี่ยนค่ะ ก่อนหน้านี้ใช้กระเป็นตังค์ใบเล็ก พวกการ์ดต่างๆ ก็ต้องใส่ในกระเป๋าการ์ดต่างหาก พอใช้ใบใหญ่ ทุกๆ อย่างสามารถเข้าไปอยู่รวมกันในใบเดียว แต่เวลาใช้กระเป๋าถือ (สะพาย) ใบเล็ก กระเป๋าตังค์ยาว …ใช่ไม่ได้ค่ะ

20151119_121744

ไอ้สาเหตุที่กระเป๋าหนัก ต้องเป็นเหรียญพวกนี้แน่ๆ เดี๋ยวเอาไปเทใส่กระปุกให้ลูกค่ะ

20151119_122450

หนักสุดก็ไอ้ก้อนนี้แน่นอนค่ะ 15000mAh External Battery Power Bank เฮ่อออออ…. โทรศัพท์เก่าแล้ว แบตหมดเร็ว ก็ต้องพึ่งเจ้านี่แหละค่ะ มีสายเชื่อมต่อ 2 อัน สีเทาของลูกสาว สีขาวของแม่ค่ะ พกไว้ แบ่งกันใช้

20151119_122639

มาถึงหมวด utility 555 ในกระเป๋าซิปนั่นมีที่ตัดเล็บ กรรไกรแหลมเปี๊ยว เทปวัด อะไรๆ อีกนิดหน่อย ลืมเทออกมาถ่ายรูปค่ะ ส่วนข้างบนสีแดงๆ นั่นก็เป็นเทปวัดอีก 5555 แบบเทปโลหะนะคะ สีขาวๆ ติดกันนั่นเป็นที่ขูดล๊อตโต้ แต่พอซื้อล๊อตโต้ ควักเหรียญออกมาขูดทุกที ส่วนอีหน้าประหลาดนั่น เป็นกระเป๋ายางใสเหรียญ ที่เวลาจะเปิดใช้บีบให้มันอ้าปากน่ะค่ะ แต่อิชั้นเอามาใส่ผ้าเช็ดแว่นค่ะ อันเขียวขวาบน เป็นคัตเตอร์ เอาไว้เปิดถุงขนม แกะกล่อง สารพัดให้ลูกค่ะ สีแดงๆ ที่ติดกันเป็นที่เปิดขวด ส่วนสีเขียวตรงกลางด้านล่าง เป็น ที่ตั้งกล้องที่ใช้ครอบปากขวดต่างๆ ได้เลย สะดวกพกพาดีค่ะ

20151119_123611

อันนี้ก็ … เห็นแล้ว เซ็ง ปากก็มีอยู่ปากเดียว พกลิปสติก ตั้ง 4 แท่ง 5555 ทั้งหมดเป็นลิปสติกสีด้วยนะคะ ไม่ใช่ลิปมัน ลิปบาล์ม แล้วก็มีโลชั่นหลอดเล็ฏ กับ dry body oil ของดีราคากูก ทาแล้วไม่เมือกมัน เหมือนเบบี้ออยทั่วๆ ไป สเปรย์ใส่มือ ปิ๊ดๆ 3-4 ที ลูบมือ แป๊บๆ ก็แห้งหายไป ชุ่มชื้นดี ลูบแขนลูบขาก็สะดวกค่ะ ทีแรกไม่ชอบกลิ่น กลิ่นแป้งเด็กที่หอมมากๆ นานๆ ไป ก็เฉยๆ ชิน ชอบค่ะ ซื้อตอนเค้าลดเหลือขวดละเหรียญเดียว เลยตุนมาไว้ครึ่งโหลเลย

page mama 333

ผ้าพันคอผืนใหญ่ เป็นแบบบางนะคะ พับแล้วเหลือนิดเดียว จะหน้าหนาว หน่าร้อน ก็พกไว้ซักผืนนึงค่ะ บางทีไปหาหมอ ไปดูหนัง อากาศเย็นๆ ก็พอช่วยได้ แต่ตอนนี้อากาศเย็นแล้ว It’s a must เลยนะคะ เป็นแบบอุ่นๆ หนาๆ ก็จะดีเลยค่ะ

20151119_130457

อะไร อะไร อาร้ายยย….. อะไรกันมากมาย 5555 กระดาษเช็ดแว่น นอกนั้นก็ไว้เช็ดมือ

20151119_134430

ยา ยา ยา ยาอีกแล้ว หลอดขาวเล็ก ยาทาสิว ปวดๆ หนึบๆ คาดว่าสิวจะขึ้น ก็เอามาแตะๆ ซะหน่อย มีเยอะเลย ตัวอย่างยา เวลาไปหาหมอผิวหนังเค้าให้มา ส่วนหลอดใหญ่ ยักษ์ๆ ซึ่งแพงมาก หมอสั่งให้ ยกให้ลูกสาวใช้ค่ะ สีฟ้าสองอันทั้งขวดและตลับ คือ Alli ยาดักไขมันค่ะ มื้อไหนมูมมามปากมันก็กินเข้าไปพร้อมอาหาร 1 เม็ด Talconex เป็นขนาดตัวอย่างอีกค่ะ เป็นยาทาสะเก็ดเงินค่ะ แพงระยับ ประกันไม่จ่ายอีกเช่นกัน เมื่อก่อนใช้ประกันอีกบริษัทนึง เค้ายอมให้ใช้ยาแพงๆ ทุกอย่าง แต่ประกันอันใหม่ งก ชั่ว ยิว อะไรๆ ก็ไม่ได้ อาศัย คุ้นเคยกับหมอ เค้าก็ขนให้มาทีละ 5-6 ขวด รู้สึกคันๆ เกาแล้วหนังลอก ก็ทาเข้าไป เริ่ดค่ะ Cortizone-10 นั่นก็แจ่มมาก คันๆ ก็ทาเข้าไป เม็ดสีชมพู Benadryl แก้ภูมิแพ้ แก้คัน พกไว้ตลอดเช่นกัน แต่โรคภูมิแพ้ที่เป็นตลอดชีวิตกินยาอย่างอื่นนะคะ ไม่ได้พกพา ติ่งขวาล่างเป็นหมากฝรั่ง เคี้ยวพอหวานๆ เวลามึนๆ น้ำตาลตกค่ะ

20151119_134608

Utility อีกกองนึง ลายๆ นั่นกระจกพับพกพา ตะไบ แหนบ ปากกา ส่วนบัตรสีฟ้านั่นมียางดำๆ คาดอยู่ คือ Stylus สำหรับใช้กับโทรศัพท์ Tablet ค่ะ แบนๆ พกงาย  แล้วก็มีคลิป และพัดขนาดเล็กจากเมืองไทย รักมาก แข็งแรง ทนทาน ส่วนเจ้าพวงเขียวๆ ดำๆ อันนั้น เป็น Bluetooth Wireless Remote Control Shutter ค่ะ

20151119_134819

กุญแจบ้าน กุญแจรถ ส่วนไอ้พวงกุญแจสีชมพู ซื้อมาทำไม งงกับตัวเอง ยังหาประโยชน์ไม่ได้ ยังไม่ได้ใช้ แต่ก็แบกไปมาด้วยทุกวัน 5555

20151119_134944

สีแดง คือซองใส่คูปองต่างๆ กระดาษขาวๆ นั่นเป็นเอกสารจากหมอ เปลือกโทรศัพท์ ซื้อให้น้องสะใภ้ แต่ซื้อผิด ชอบซื้อของจากร้านดอลลาร์ คืออะไรๆ ก็ราคาเท่ากันหมด 1 เหรียญ น้องเค้าฝากซื้อ พอซื้อผิด จะเอาไปคืนก็ไม่ได้ไปซักที จะเอาออกโยนนอกกระเป๋าก็ลืม ก็แบกไปมาอยู่อย่างนี้แหละ

page mama 334

ท้ายสุด สุดท้าย คือ Purse organizer ที่ใช้ประจำ รูปทางขวาคือเอายัดเข้าไปในกระเป๋า ลายจุดเหมือนกันเลย 5555 ที่เล่ามาทั้งหมด สรุป ไม่ได้แก้ปัญหากระเป๋าหนักอะไรเลย บ้าหอบฟางอยู่อย่างนั้น รื้ออกมา จัดเก็บใส่เข้าไปหมดเหมือนเดิม ที่ไม่ได้ถ่ายมาประจานคือ สารพัดขยะ ใบเสร็จต่างๆ ทิชชู่เก่าๆ คือ วันนี้ถือว่าแค่ทำสะอาดกระเป๋า เอาออกมาเท เขย่า กำจัดฝุ่นผง ทั้งหลาย คือสะอาดขึ้นมานิดนึง

Sunday, June 14, 2015

อบเค้กในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า

สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันก่อนโพสต์รูปเค้กที่อบด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าบนเฟซบุ๊ค เพื่อนๆ สนใจอยากลองทำบ้าง แปะรูปให้ดูกันอีกที เค้กที่เห็นไม่ได้แต่งหน้าอะไรเลยนะคะ คือในรูปดูเหมือนโรยผงล็อคโกแล๊ต มันคือเค้กที่คว่ำก้นหม้ออกมาค่ะ บ้านี้ไม่ชอบเค้กที่มีครีมแต่งหน้าอะไร พ่อบ้านกับลูกชายชอบกินเค้กนี้กับไอติมวานิลา ส่วนอิชั้นกับลูกสาวชอบกินเค้กเปล่าๆ แบบนี้ บางทีกินแกล้มกาแฟตอนเช้าๆ ค่ะ

ricecooker cake 1140136

ครั้งนี้…อบด้วยหม้อใบนี้ค่ะ

20150613_223041

เค้กที่มิกซ์ที่ครอบครัวเราชอบ รสนี้ ยี่ห้อนี้ ซื้อตุนไว้ประจำ กล่องละ 1 เหรียญกว่าๆ บางที่เค้าลดราคาเหลือ 99¢ ก็ซื้อเก็บไว้ทีละครึ่งโหลเลยค่ะ รสช็อคโกแล๊ตอื่นๆ ลองมาหมดแล้ว มาจบลงที่ Devil’s Food คือมันเข้มข้น อร่อยถูกใจพวกเรามากกว่ารสอื่นๆค่ะ มีข้อแนะนำอย่างนึงค่ะ เวลาซื้ออาการกระป๋อง กล่อง ถุง ฯลฯ เขียนเดือน/ปี ตัวใหญ่ๆ ไว้ที่กล่องที่ซองทันที ก่อนเก็บนะคะ เวลาจะใช้สะดวกดีนะคะ จะหยิบใช้อันไหนก่อนหลัง หรืออันไหนหมดอายุต้องโยนทิ้ง จะได้มองเห็นง่ายๆ อีกอย่างนึง อาหารสำเร็จรูปทั้งหลาย ถ้าหากหมดอายุแล้วไม่เกิน 6 เดือน ยังใช้ได้นะคะ แต่ถ้าหีบห่อ กระป๋องไม่คงสภาพเดิม ถึงยังไม่หมดอายุ ก็โยนทิ้งเลยค่ะ

20150613_1522411

มีดตัดเค้กที่ใช้ เป็นมีดเลื่อยขนมปังธรรมดาๆ อันนี้ค่ะ

20150613_152241

ดูชื่อเค้ก ใกล้ๆ ชัดๆ อีกทีค่ะ รสนี้อร่อยถูกใจ คอนเฟิร์มค่ะ และรูปฟันของมีดแบบชัดๆ

20150613_152334

เกริ่นยาวย้วยมานาน เข้าเรื่องเลยนะคะ การอบเค้กในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า สามารถทำได้กับหม้อหุงข้าวไฟฟ้าทั่วๆ ไป ไม่จำเป็นต้องเป็นหม้อหุงข้าไฟฟ้าระบบไมโครคอมพิวเตอร์ ฟัซซี่โลจิก อะไร ใดๆ เลยค่ะ วิธีที่จะมาแนะนำในวันนี้จะขอข้ามขั้นตอนสูตรการทำเค้ก ส่วนผสม วิธีทำต่างๆ ไปเลยนะคะ คือ เลือกเอาสูตรที่รัก ที่ชอบกันได้เลยค่ะ

ปกติอิชั้นใช้เค้กกล่องค่ะ หรือที่เรียกว่าเค้กมิกซ์กึ่งสำเร็จรูป ตีไข่ เติมไขมัน น้ำ เทแป้งมิกซ์ลงไป คนๆๆๆ เสร็จ เตรียมอบกันได้เลย การอบครั้งล่าสุด อิชั้นให้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าพานาโซนิคซึ่งมีฟังค์ชั่น “Cake” มันก็สะดวกดีนะคะ เทส่วนผสมที่พร้อมอบลงหม้อเลย ไม่ต้องทาเนยหรือรองก้นหม้อด้วยกระดาษไข เพราะเป็นหม้อ non-stick เลือกโปรแกรม Cake กด Start ที่หน้าจอจิ๋วๆ โชว์ 40 min. รอกันไปค่ะ พอหม้อข้าวส่งเสียงบิ๊บๆๆ ก็ยกหม้อออกมา คว่ำหม้อใส่ cooling rack รอให้เย็น ถ้ารีบๆ แค่อุ่นๆ ก็ลงมือหั่นๆ เลื่อยๆ เป็นชิ้นใหญ่เล็กตามชอบค่ะ แล้วเก็บใส่พาชนะ ถุงพลาสติก อะไรๆ ก็ว่าไป ตามแต่สะดวกค่ะ เสร็จแระ ง่ายเน๊าะ

แต่ แต่ๆๆๆๆ...

ถ้าหากหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่ใช้อยู่ไม่มีโปรแกรมหรือฟังค์ชั่นสำหรับอบเค้ก... จะทำอย่างไร ตามนี้เลยค่ะ ง่ายๆ แต่ต้องใจเย็นนิดนึง พอผสมเค็กเสร็จ ถ้าหม้อในเป็นหม้ออลูมิเนียมธรรมดา ตัดกระดาษไขขนมอบรองก้นหม้อก็ดีค่ะ หรือจะทาเนย (อันนี้ไม่เคยทำ ซึ่งก็น่าจะโอเคนะคะ) เทส่วนผสมลงไป ปิดฝา กด Cook เหมือนหุงข้าวปกติ พอสวิตช์เด้งปุ๊บ (เหมือนเวลาข้าวสุก) ถอดปลั๊กเลยค่ะรอซัก 2-3 นาที เสียบปลั๊กคืน แล้วกด Cook อีกครั้ง พอสวิตช์เด้งเป็นรอบที่ 2 ลองเปิดฝาดู เอาไม้ลูกชิ้นจิ้มดู ถ้าข้างในยังเหลวติดไม้เป็นลาว่า ก็ถอดปลั๊กพักหม้อซัก 2-3 นาที แล้วกด Cook อีกที พอเสร็จรอบที่ 3 ...เท่าที่เคยทำ เค้กก็จะสุกพอดี แต่การอบเค้กด้วยหม้อหุงข้าวธรรมดาแบบนี้เนื้อเค้กจะออกมาไม่เบาฟู แต่หนักๆ แบบนึ่งๆ นิดนึงนะคะ ถ้าคิดในทางบวก ...มัน moist ดีค่ะ อิอิ ทานได้นะคะ และสะดวกดี ลองทำกันดู รูปด้านล่างเป็นรูปเก่ามากแล้ว คือ ใช้หม้อซันโยในรูปอบเค้กประจำตามวิธีที่บอกค่ะ และหม้อใบนั้นไม่มีฟังค์ชั่นสำหรับอบเค้กค่ะ

page-19-w[ cake rice cooker

อิชั้นมีหม้อหุงข้าวอีกใบที่ไม่มีฟังค์ชั่นอบเค้ก (หม้อใบขวาจากรูปด้านล่าง) แต่มีฟังค์ชั่นหุงข้าวต้ม Porridge ซึ่งก็จะง่ายกว่าหม้อธรรมดาโล้นๆ เลยนิดนึง คือ ใช้ฟังค์ชั่นหุงข้าวต้ม แต่ต้องกดหุง 2 รอบค่ะ คือหม้อซันโยพัง หลังจากใช้งานมาครบ 10 ปี มรณภาพ เลิกหุง งดบริการไปเฉยๆ เลยซื้อหม้อโชจิรุชิมาแทน แพงง่ะ เห็นว่าโปรแกรมอะไรเยอะเยอะ คนรีวิ “5-ดาว” เป็นพันที่ แอมะซอน.คอม เลยลากมา มันก็ดีนะคะ แต่….. อุ่นข้าวไว้เกิน 12 ชั่วโมง ข้าวบูดค่ะ แหงะเลย

20140507_210906-s

บ้านนี้ต้องมีข้าวสวยพร้อมรับทานติดครัว หุงแล้วก็อุ่นไป 2-3 วัน แบบ..หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา เปิดหม้อข้าวมีข้าวร้อนๆ ตลอด กินกันจนหมดแล้วก็หุงใหม่ พอเจอโชจิรุชิทำพิษ หาซื้อซันโยเกลอเก่าไม่ได้ เลยซื้อพานาโซนิคราคาย่อมเยามาใช้ ก็โอเคนะคะ ไม่เริ่ด แค่โอเคค่ะ

Friday, May 1, 2015

138 คำอุทานในภาษาอังกฤษ ที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ

หลายๆ คำ อิชั้นเองก็ไม่เคยได้ยิน หลายๆ คำ ก็แปล…แปลกๆ พิจารณากันนะคะ

ขอบคุณที่มา > > http://www.wegointer.com/2015/04/138-interjection/

Well? แล้วยังไง? ต้องการอะไร? มีอะไรพูดอีกไหม?
Well, ก็ตามใจ อย่างนั้นก็ได้ (ยินยอมแบบไม่เต็มใจนัก) หรือ พอกันที (จบเรื่องแล้ว) หรือ เอ (แสดงความไม่แน่ใจ)
Well! อ้าว นึกว่าใคร (แสดงความประหลาดใจ)
Well then ถ้ายังงั้นละก็
O โอ้

Oh! (เสียงสูง) ยังงั้นรึ?, (เสียงต่ำ) โอ (แสดงความประหลาดใจหรือความดีอกดีใจ), (ทอดเสียงสูงขึ้นเป็นลำดับ) แสดงความประหลาดใจ หรือไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้, (เสียงต่ำ) อ้อ (แสดงว่านึกขึ้นได้ว่ามีอะไรจะพูดอีก), (เสียงต่ำ) เอาเถอะ ช่างเถอะ (แสดงความทอดอาลัย)

Hands off! อย่าจับต้อง อย่ามายุ่ง
Hands up! ยกมือขึ้น
Stick’em up! ยกมือขึ้น (ผู้ร้ายสมัยใหม่มักชอบใช้แบบนี้)
For shame! น่าอายจริง

Shame on you! น่าละอายจริง แกนี่!
Easy! เบาๆค่อยๆ (ไม่ใช่ง่ายๆ)
Go easy! ทีละน้อย
No fear! ไม่ได้แน่! ไม่มีทาง! (ไม่ใช่ไม่กลัวหรือไม่ต้องกลัว)
My word! แหม!
Good riddance! เออ ไปเสียก็ดี! พ้นๆไปเสียที!
None of your impudence! อย่าทะลึ่งนักเลย
What cheek! ทะลึ่งจริง
For goodness’ sake! เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
a penny for your thought กำลังคิดอะไรง่วนอยู่? (ถ้าบอกมาจะให้สตางค์)

Get a move on! เร็วๆเข้า
Look sharp! เร็วๆเข้า
Look alive! เร่งไม้เร่งมือเข้า
Shut up! หยุดพูดที!
Dry up! (ภาษาสแลง) เงียบเสียที!
Quiet! อย่าเอะอะ! เงียบ!
Hush! เบาๆหน่อย! อย่าพูด!
Hark! ฟัง! (เป็นภาษาค่อนข้างโบราณ)
Tell that to the marines! อย่ามาพูดเลย ไม่มีใครเชื่อหรอก!
Halt! หยุด! (เป็นคำบอกแถวทหาร)

Right oh!, Right you are! ได้ครับ! ได้ซี!
Shoo! เสียงไล่นก ฯลฯ
‘Shun! ย่อมาจาก Attention เทียบกับไทย (แถว) ตรง!
Yum, yum! เป็นเสียงแสดงความอยากกิน เทียบกับเสียงสูดปากของไทย
Lo! (ภาษาโบราณ) ดูซี!
Eh! ใช้แสดงความแปลกใจหรือสงสัยหรือเป็นการซ้อมความเข้าใจหรือดักคอ คล้ายๆกับ ใช่ไหมล่ะ!
Oho! โอ้โฮ!
Ah! โอ! (แสดงความประหลาดใจ) โอ้ (แสดงความสงสาร)
Aha! เออแน่ะ ยังงั้นซี (แสดงความประหลาดใจ ความมีชัย ความพึงพอใจ)
Oh yez เจ้าข้าเอ๊ย (คำนี้เป็นภาษาเก่าแปลว่า ฟัง! ฟัง! เป็นคำที่พนักงานที่มีหน้าที่ประกาศร้องเตือนให้คนทั้งหลายฟังประกาศ)

All together! ทุกคนพร้อมกัน!
Balderdash! Poppycock! Fiddlesticks!, Stuff and nonsense, Bunkum เหลวไหล
No more of your cheek! อย่ามาทะลึ่งอีกเลย!
What a pity! เสียดายจริง! ไม่น่าเลย! ไม่ควรที่เลย!
What a nuisance! น่ารำคาญจริง!
What, again! บ๊ะ เอาอีกแล้วหรือนี่!
Come! Come! นี่พูดจริงๆนะ
Go on! มีสองความหมายคือ 1.ทำต่อไป! 2.อย่าพูดเหลวไหลน่า
Mind! ระวัง!
Come on! เร็วเข้า! ไม่เอาน่า!

Not at all! ไม่เป็นไรมิได้ (ใช้เป็นคำตอบเมื่อมีผู้แสดงความขอบใจ)
Look out! ระวัง! (ไม่ใช่ให้โผล่หน้าต่างออกไป)
Bother! อุบ๊ะ! ยุ่งจริง!
Why yes! อ๋อ ก็ถูกแล้ว (ไม่น่าถามเลย)
Why no! เอ๊ะ อย่างนั้นไม่ได้ ไม่ใช่อย่างนั้น
Believe it or not! เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ
You don’t say so! ยังงั้นเชียวรึนี่!
Let me see! ไหนเรื่องนั้น ขอคิดดูก่อน
Now เอาละทีนี้
Now then เอาละทีนี้

What of it? แล้วยังไงล่ะ
So what! แล้วยังไงล่ะ (ทันสมัยกว่า และเป็นภาษาแบบอเมริกัน)
That’s a dear ต้องยังงั้นคนดี (มักใช้พูดกับเด็ก เป็นการเอาใจให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้)
Oh, dear! พุทโธ่เอ๋ย! อพิโธ่! (แสดงความประหลาดใจ ความพิศวงงงงวย หรือความรำคาญ)
Dear me! อนิจจา
Alas อนิจจา
Alack อนิจจา (เป็นภาษาโบราณและภาษาหนังสือ)
Good Heavens! คุณพระช่วย (คำว่า Heavens ในที่นี้หมายถึง พระเจ้า ไม่ใช่สวรรค์)
Good gracious! ตายจริง
Goodness knows! มีสองความหมาย คือ 1.ฉันไม่รู้เลย 2.ขอให้พระเจ้าทรงเป็นพยาน คำว่า goodness ในที่นี้หมายถึง พระเจ้า

Goodness gracious! คุณพระคุณเจ้า! (คำว่า goodness หมายถึง พระเจ้า คำอุทานนี้ผู้ใช้มักเป็นผู้หญิง)
Capital! วิเศษณ์จริง!
Splendid! วิเศษณ์แท้!
Well done! ดีจริง
Good shot! แม่นจริง!
Well tackled! ต้องจับยังงั้นซี! (ใช้ในการชมกีฬารักบี้)
There! There! โอ๋! โอ๋! (คำปลอบเด็ก)
There you are! นั่นปะไร
Here it is! นี่ยังไงล่ะ! อ้อ มาแล้วรึ!
There’s a good boy! นั่นเด็กดีต้องยังงั้น

Hi! You there! นี่คุณคนนั้นน่ะ!
Hear! Hear! ถูกแล้ว ถูกแล้ว (เป็นเสียงร้องแสดงความเห็นด้วยกับผู้ที่กำลังแสดงสุนทรพจน์ แต่แปลตามตัวว่า ฟัง! ฟัง!)
Look here! นี่แน่ะ!
By the way เออ มีเรื่องอยากจะพูด
Look where you’re going! เอ ไม่มีตาหรือยังไง
Encore! ขอ (ฟัง) อีกที
That’s it ใช่แล้ว! ถูกแล้ว! ต้องยังงั้น!
Let him have it! ล่อมันเข้าสักทีเถอะนะ
Touche’ ถูกเผง
Keep at it! ทำเข้า (อย่าเลิก)

Not on your hair on! ใจเย็นๆนะ
You have me there! ฉันจนตรงนี้เอง
Here goes! เอาล่ะ ฉันจะพูดละ
Here’s to the bride and bridegroom ขอให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวจงมีความสุข (พร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม)
Very well! ยังงั้นก็ดีแล้ว
Oh well! เออ ทำยังไงได้
Oh no you don’t อ๋อ ทำยังงั้นไม่ได้แน่
Rather! พุทโธ่ ถามได้!
By all means เชิญเลย
Of course แน่นอน ไม่มีปัญหา

Certainly ได้สิ
Certainly not ไม่ได้แน่
No such luck! โชคไม่ดีอย่างนั้นหรอก!
Hard luck! โชคไม่ดีเลย
Just my luck! โชคฉันไม่ดีเอง โทษใครไม่ได้
Really? (เสียงสูง) จริงหรือ? (แสดงความประหลาดใจ)
Really! (เสียงต่ำ) ยังงั้นเรอะ (แสดงการเยาะเย้ย)
Really! (เสียงกลางๆ) ยังงั้นรึ (แสดงความไม่สนใจ)
Mum’s the word! อย่ากระโตกกระตากไป
Mum! เงียบ

Get set! ระวัง (เป็นคำที่ผู้ปล่อยตัวนักวิ่งร้องเตือนก่อนยิงปืน)
Ugh! อืย (แสดงความขยะแขยง)
Ouch! โอ๊ย อุ๊ย
Blah! เฮ้อ (แสดงความเอือมระอา)
Bah! ว้า อุวะ (แสดงความเหยียดหยาม)
Heigh-ho! เฮอ! (แสดงความเหนื่อยอ่อน ความผิดหวัง)
Wow! โอ้โฮ! แม่เจ้าโว้ย!
Go it! เอาเลย
Enough of that! พอที
What did I tell you? บอกแล้วไหมล่ะ

Catch me doing that! ฉันไม่มีวันทำยังงั้นหรอก
Stop thief! ขโมย! ขโมย!
Fire! ไฟไหม้
Who goes there? ใครนั่น? (เป็นคำทักของทหารยาม)
Heave ho! ฮุยเลฮุย! (ใช้เวลาดึงเชือก)
There he (she) goes. เขาเริ่มแล้วไหมล่ะ (แสดงความรำคาญคนพูดมากที่เริ่มพูด)

ข้อมูลจาก: rukenglish

Wednesday, April 22, 2015

หดหู่ ไม่รู้เป็นอะไร

mama_depress

ระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนบางคนอาจสังเกตได้ว่าอิชั้น ได้ fade away ไปจากโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คบ้าง ไม่มากก็น้อย ถึงแม้จะแวะเวียนมาอ่าน มาตอบ มาโพสต์ บนเฟสบุ๊คบ้าง แต่ก็เป็นการแวะเวียนมาแบบวูบๆ วาบๆ ไม่ได้มานั่งเฝ้ายาม อยู่โยง เข้ากะ เหมือนเคย สาเหตุคืออะไร หาเหตุผล และคำอธิบายไม่ได้ หาคำตอบให้ตัวเอง…ยังหาไม่ได้เลย

Screenshot_2015-04-18-13-13-09

ส่วน LINE ที่เพื่อนๆ คุยกันครึกโครม สนุกสนาน ก็ไม่ล็อกอินเข้าไปเลย เพราะไม่มีรมณ์ คือไม่อยู่ในมู้ดคุยสด โต้ตอบทันควัน คือ..ไม่สามารถ ที่จะ interact แบบ real time ได้ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ใดๆ กับใครๆ เลย ก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจ

i-m-in-a-lot-of-pain-emotionally depress

แม้แต่ ทีวีรายการโปรด พวกฆาตรกรรมอำพราง Court TV จากช่อง ID-Investigation Discovery ที่เคยดูแบบไม่หลับไม่นอน พออาการหดหู่คุกคาม อยู่ๆ ก็ทนดูไม่ได้เลย ดูแล้วเครียด คลื่นไส้ แล้วโชว์พวกนี้ ผู้บรรยายส่วนใหญ่จะใช้เสียงโมโนโทน ฟังไม่ได้ อึ้งๆ งงๆ ไม่ชวนติดตาม รายการทีวีต่างๆ เทปไว้จนจะท่วมเครื่อง ว่างๆ ก็นั่งดีลีททิ้ง เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่… ถึงจะมีอารมณ์เอ็นจอยรับชมรับฟังได้เหมือนเดิม

introvert 11

แพร่ดอู๋ก็ไม่ไดนิ่งนอนใจ พยายาม diagnose จากอาการ ซึมเศร้า เหงาจิต อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ นานา แพร่ดอู๋ ใช้วิธีส่งเดชคิดเอาว่าน่าจะเป็น depression attacked เคมีในร่างกายไม่บาล๊านซ์ ฮอร์โมนไม่สมดุลย์ ปกติ…เวลาไปหาหมอ (จริงๆ) เค้าจะถามเป็นรูทีน เครียดมั๊ย stress หรือปล่าว คิดฆ่าตัวตายมั๊ย พอได้ยินได้ฟังทีไร ก็แอบเคืองในใจนะ แม่ง…จะให้กรูกินยาโรคประสาทอีกล่ะสิ แต่ก็จะตอบไปทุกครั้งว่า ก็เครียดนะ เครียดแบบมนุษย์แม่คนนึง เย็นนี้ทำอะไรให้ลูกกินดี ไอ้ตัวเล็กเลิกกี่โมง อีตัวใหญ่มีกิจกรรมซ้อมเลิกดึก ขับรถเข้าออกบ้านวันละ 8-10 รอบ ผ้ายังไม่ซัก บิลต้องจ่าย ฯลฯ ไม่มีอะไร out of ordinary คือทุกอย่างมันก็เป็นปกติ ครอบครัวก็สุข-ทุกข์ เท่าเดิม การเงินก็ไม่ได้ดีขึ้นหรือเลวลง ส่วนคุณผัว เห็นเมียซึมๆ เงียบๆ เครียดๆ ร้องไห้ไร้สาเหตุ ก็พร่ำอยู่นั่น หาหมอเถอะ หาหมอเถิ้ดดด….แม่คุณทูนหัว เค้าจะได้ให้ยามากินคลายเครียด หรือไปพบจิตแพทย์มั๊ย จะไปเป็นเพื่อน บลาๆๆๆ คือรู้นะ ว่า รัก-เป็นห่วง แต่มันไม่ใช่ “วิถีทศ” เลย ก็ได้แต่บ่นๆ ไปว่า ขออยู่นิ่งๆ อยู่เฉยๆ รบรากับลูก จูบ ตบ หอม ฟอด กอด รัด ฟัด ถีบ คือใช้ชีวิตให้เป็นปกติ มันจะต้องดีขึ้นเอง

20140622_165656 fun

แต่จากที่นั่งคิด นอนคิด มีข้อสรุปที่คิดเอาเองได้ว่า งานที่ทำ it's really taking a toll on me. ต้องยอมรับว่าลำบากกาย ลำบากใจกับงานที่ทำ เหนื่อยยากหนักหนาเอาการอยู่ คือมาลำบากตอนแก่แท้ๆ เลยเชียว physical & emotional drained ทุกวัน ลูกค้าเถื่อนๆ เจ้าของร้านคุ้มดีคุ้มร้าย มันทำให้เหนื่อยในหัวจิตหัวใจ ค่าจ้างที่ได้ก็ไม่มากมาย แต่มันก็ช่วยพยุงความเป็นอยู่ของครอบครัวได้บ้างนิดๆ หน่อยๆ อยากเลิกทุกวัน วันละหลายๆ รอบ แต่… แต่… แก่แล้วหางานยาก เมืองที่อยู่เม็กซิกันเป็นมาจอริตี้ พูดสแปนิชไม่ได้ งานดีๆ ก็หายาก แล้วระบบเพื่อนฝูงพี่น้องเม็กซิกันมันก็ช่วยกันก่อน ไปสมัครงานที่ไหน ดูเหมือนโอกาสเป็น “0” ก็คงจะทนอยู่กับอีเจ้บ้านี่ไปเรื่อยๆ งานก็ไม่ได้หยุดหา หยอดโน่น นี่ไปเรื่อยๆ โชคเข้าข้าง มีงานกระโดดจิก อิชั้นก็พร้อมติดปีกบินในทันทีเช่นกัน

depress_updates

พิมพ์บล็อกนี้นานเกือบๆ เดือนเลยนะ นึกออกก็พิมพ์ เซ็งๆ ก็หยุด สับสน จับแพะชนแกะ จับต้นชนปลายไม่ได้ คือ ไม่มีสมาธิ แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าวกวนคิดเรื่องอะไร และไม่ได้เป็นบ้า ยังเป็นแม่ ยังเป็นเมีย ยังเป็นคนๆ เดิม รักครอบครัว รักชีวิต เพียงแต่บางโมเม้นต์ทำให้สงสัยว่า เฮ้ยอะไรวะ จากที่เคยเกือบๆ จะเรียกได้ว่าเป็น Social Butterfly เลยนะ 5555 ตอนนี้กลับกลาย Anti-Social Butterfly ไม่ใช่เพิ่งเป็นนะ เป็นมาซัก 4-5 หรือ 6 ปีได้ คือไม่อยากไปไหน สังสรรค์กับใคร โดยเฉพาะคนกลุ่มใหญ่ แต่ยังรักและเป็นสุขที่ไปไหนๆ หรืออยู่ที่บ้านกับครอบครัว ส่วน อาการเครียดๆ introvert เนี่ย อาการระดับโคม่ามาซัก 3 เดือนได้แล้ว ก็ได้แต่ภาวนา ให้มันดีขึ้น หายหดหู่ มีชีวิต ความนึกคิด และอารมณ์เป็นปกติโดยเร็ว เถิ๊ดดดดด…….

introvert10