Monday, September 27, 2010

เรื่องหมอๆ ยาๆ และสุขภาพของช้านนนนน....

เมื่อเดือนก่อนอิชั้นได้ไปทำพิธีตรวจสุขภาพประจำปี เจาะเลือด ตรวจฉี่ ทำ mammograms และ Pap smear คราวนี้ต้องจำนนให้บักคาน (หมอ Karl) ทำแพ๊พสเมีย์ เพราะไม่อยากไปหาอีหมอ OB-GYN คนเดิมซึ่งดูแลเรื่องหญิงๆ ท้องๆ ของอิชั้นมาตลอด 10 ปี เพราะเมื่อปลายปีก่อนเธอสั่งให้อิชั้นไปทำอัลตร้าซาวนด์ เนื่องจำอิชั้นครวญครางเพราะอาการ pelvic pain พอเธอได้ผลอัลต้าซาวนด์ก็รีบส่งอิชั้นไปทำ CT Scan ทำแล้ว...แล้วเลย ไม่เห็นโทรมาบอกว่าผลเป็นอย่างไร จะตายมั๊ย อิชั้นโทรไปทวงถาม 3 ครั้ง ก็ไม่เคยได้พูดกะอีหมอ ฝากเรื่องพวกอีเหมียนหน้าเคานเต้อร์ตลอด ก็อยู่ได้เรื่อยมา พอได้ตรวจสุขภาพคราวนี้ก็เลยฟ้อง ดร. คาร์ล ขวัญใจของช้านนนน.... อีคานก็รีบโทรไปที่ศูนย์ Diagnostic X-ray ให้แฟ๊กซ์ผลมา ณ บัดดล แล้วอีคานก็วิ่งหน้าตื่นมาบอกว่า แกๆๆๆๆ ผลซีทีน่ะ เพลวิคดูไม่น่ากลัวมีซิสต์อยู่จำนวนหนึ่ง ดูกันต่อไปว่าจำเป็นต้องผ่าหรือป่าว ถ้าอยู่กันได้อย่างสันติก็ไม่ต้องผ่า แต่ว่าการทำซีทีสแกนเนี่ย ทำปุ๊บมันจะเห็นไปทั้งช่องท้อง เค้า “ติง” มาว่า ตับไม่ปกติ เต็มไปด้วยไขมัน จากนั้นก็บรรเลงตรวจสุขภาพกันต่อ น้ำตาลในเลือดวันนั้น แจ่มแมวมาก เลขที่ออก....116 วู้ฮู้....5555 แล้วก็ต้องยอมให้อีคานตรวจนมและโม๊ะ เฮ่ออออ..... เพราะบ่นไปว่าจะไม่กลับไปหาอีหมอโม๊ะประจำองค์อีกแล้ว

สรุปว่าวันนั้นตรวจกันเสร็จสรรพ พยาบาลทำนัดให้ไปทำแมมโมแกรมอีก 2-3 วันต่อมา จากนั้นก็รอๆๆๆ อีก 3 วีค กลับไปหาอีหมอคานใหม่เพื่อฟังผล ผลที่ออก....เหมือนดี เหมือนไม่ดี...ไม่ดีมากกว่าดี แหงะ คือ เบาหวาน...อันเด้อร์คอนโทรล แต่ก็ต้องกินยาต่อไปและเพิ่มตัวใหม่มาให้อีกอันนึง เป็นว่าต้องกินยา 2 อย่างเพื่อเบาหวาน ผลเลือดออกมา ไทรอยด์ทำงานได้ไม่ดี....ต้องกินยาไปเรื่อยๆ เอนไซม์ในตับไม่ดี ต้องเปลี่ยนยาลดคลอเรสเตอรอล เพราะคิดว่าไอ้ Crestor ที่กินมาปีนึงอาจเป็นตัวที่ไปทำให้ตับชั่ว....เอ้อ..ไม่ใช่...ตับไม่ดี ต้องเปลี่ยนเป็นยาใหม่ อาการ Anemic ก็ยังคงตัว เลยยังต้องกินเหล็ก Iron (Ferrous Sulfate) และ B12 ต่อไปเรื่อยๆ

ตายๆๆๆๆๆ....ตายห้า ตายหก เกลียดการกินยา พยายามมีวินัยในการกินยาและวิตามิน ยาที่ได้มาใหม่ก็เงื่อนไขเยอะจัง ต้องกินตอนท้องว่าง ตอนไส้แห้ง ตอนอิ่ม ตอนหิว โอ้ย.....เบื่อ

รูปข้างล่างเป็นยาล๊อตใหม่ที่เพิ่งไปรับมาเมื่อวาน ก้อนนี้จ่ายไป 107 เหรียญ ไอ้ขวดใหญ่ Welchol 625 mg เป็นยาใหม่สำหรับคลอเรสเตอรอลที่หมอให้กินแทน crestor แล้วให้กำจัดเครสเตอร์ที่เหลืออยู่ในทันใด จะได้ไม่หลงลืมไปกินอีก ไม่ต้องบอกร๊อกกกก.....อิชั้นไม่ชอบกินยา ลดได้ลด เลี่ยงได้เลี่ยง แกล้งลืมก็บ่อยๆ 555555 แต่ไอ้นี่เม็ดบะเริ่มเทิ่มให้กินพร้อมอาหารวันละ 3 ครั้ง อ้วววววกกกกกกกกก......

ขวดต่อมาเป็น Actos 15 mg อันนี้ก็เป็นยาใหม่ที่เพิ่มมาสำหรับคนอ่อนหวานเยี่ยงอิชั้น หมอให้กินคู่กับ Metformin 500 mg ยาแก้เบาหวานที่กินมาหลายปี ดีนะเม็ดนิดเดียว ฮึ่ม

ขวดถัดมาก็เป็นยาใหม่เหมือนกัน Levothyroxine 25 mcg เป็นยาแก้ Hypothyroid เห็นอีหมอบอกว่ากินไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด ก็เหมือนยาตัวอื่นๆ แหละ จะบอกทำไมฟระ อันนี้เม็ดกะจิ๊ดริดน่ารัก กินตอนท้องว่างตอนตื่นนอนเช้า ห้ามกินอะไรไปอีก 2 ชม. ห้ามกินยาหรือวิตามินใดๆ ภายใน 4 ชม.

ขวดต่อมาเป็นขวดนางเอก เป็นยาคู่บารมี แต่อิชั้นไม่ติดนะคะ เพียงแต่ต้องมีติดตัวไว้ตลอด Vicodin 5/500 -- 5 mg ยาตัวนี้เป็นยาเสพติด คนติดกันทั่งบ้านทั่วเมือง จริงๆ มันคือฝิ่นนั่นเอง น้องๆ เฮโรอีนเลยนะ เป็นยาแก้ปวดแบบแรงโพดๆ ความแรง 6 เท่าของพาราเซตตามอล หรือ Acetaminophen อิชั้นจะกินยานี้เวลาปวดท้องผีบ้าซึ่งปวดมาตั้งแต่เล็กๆ ปวดหงิกปวดงอ เดินไม่ได้ ปวดอยู่ 1-2 วัน แล้วก็หายไปแบบไม่ทิ้งร่องรอยว่าเมื่อวานปวดท้องแทบตาย แม่พาหาหมอตั้งแต่เล็ก พาตัวเองหาหมอเพราะไอ้โรคปวดบ้าเนี่ยตั้งแต่สาวจนแก่ ทำอัลตร้าซาวนด์ไม่รู้กี่ครั้ง ทำฉีดสี เป่าท่อนำไข่ ทำสารพัด หมอไทย หมอฝรั่ง หลายสิบหมอ ไม่เคยมีคำตอบว่าเป็นเพราะอะไร อยู่เมืองไทยก็กินยาอะไรจำชื่อไม่ได้ เม็ดอ้วนๆ รีๆ เหลืองๆ และอีกหลายขนาน กินเป็นกอบเป็นกำ กินไปงั้นๆ พอให้ทุเลาแต่ไม่หายเป็นปลิดทิ้ง พอมาอยู่ที่นี่เจอไอ้ฝิ่นนรกนี่เข้า ปวดแทบตายเมื่อกี้นี้ อีกครึ่งชั่วโมงก็วิ่งไล่ตีลูกได้ตามปกติ ขนาดผ่าตัดคลอดลูกตัวขาดครึ่ง หมอจัดไวโคดินให้ ผ่าปุ๊บอีกแป๊บนึงเดินให้ว่อนโรงบาลไม่เจ็บไม่ปวด ผ่าริดสีดวง เชอะ....เรื่องเล็ก ซัดเข้าไป 2 เม็ดก่อนเช็คเอ๊าท์ ออกจากห้องผ่าตัดแวะไปกินอาหารไทย ฟาดแกงเผ็ด กลับบ้านครี่ได้สบายตรูดไม่มีซี้ดดด....ซ้าดดด.... 5555 ไอ้ไวโคดิน 30 มะเล็ดที่ได้มา...อิชั้นก็จะอยู่รอดไปได้ 2-3 เดือนโน่นแหละ แต่เวลายา kick-in มันสยึ๋มกึ๋ย เหมือนอยู่ใน twilight zone คลื่นไส้ สะหลึ๋มกึ๋มมากมาย บางทีจำเป็นต้องกินตอนขับรถเพราะปวดมากๆ โหยยยย…หูยยยย… กรูจะขับรถพาลูกตลอดปลอดภัยถึงบ้านมั๊ยวะ ยาอันตราย อย่างที่เค้าบอกจริงๆ ค่ะ

สุดท้ายในรูปก็คือเพื่อนซี้เพื่อนเกลอที่ต้องไปไหนไปกัลลล์ Veramyst ยาพ่นจมูกแก้โรคภูมิแพ้ แพ้ไปหมด แพ้ฝุ่น แพ้สัมผัส แพ้หญ้า แพ้น้ำ (อย่าชวนไปเดินป่าเชียว 5555 กรูตาย..แน่ ตอนเข้าไปเป็นอู๋อยู่ดีๆ กลับออกมากลายเป็น predator) แพ้ยา แพ้อาหารบางชนิด เป็นมาตลอดชีวิต ถามเด็ดแม่อิชั้นดูได้ น่าเบื่อมากอีขี้แพ้ 5555 เล่นอะไรก็ไม่ค่อยชนะใครเค้า แพ้ตลอด 555 ตอนเด็กๆ ก็ดูแลกันไปตามอาการ ไม่ได้หามดหมออะไร พอโตๆ มาดูแลตัวเองก็กินยาเรื่อยมา หลายปีมาแล้วเลี่ยงๆ การกินยา พยายามใช้ยาพ่นอย่างเดียว ใช้ยาพ่นมาหลายตัว สุดท้ายมาเอาอยู่ที่ไอ้ขวดนี้ ก็พ่นก่อนนอน ถ้าวันไหนอาการรุนแรง หูตาตูบ ไอจามไม่หยุด น้ำตาฉ่ำ เศร้าโศกตลอดวันก็พ่นตอนกลางวันด้วย เค้าให้พ่นได้แค่วันละครั้ง ไม่จำเป็นอย่า “เบิ้ล” 5555 หรือเพิ่ม Claritin เข้าไปอีก 1 มะเล็ด if need อันนี้โรคประจำองค์หมออู๋จัดได้เอง 555 แต่ไอ้ยาพ่นจมูกนั่นต้องแพทย์สั่งนะเค๊อะ

IMG_0950-s

มาดูรูปยาล๊อตเดือนที่แล้ว มีแปลกประหลาดอยู่ 5 อย่าง จริงๆ ต้องเรียกว่าไม่ประหลาดสิ เพราะอันนี้ได้มาก่อน ไอ้พวกได้มาใหม่สิเน๊าะที่ประหลาด ยาในรูปนี้กินมานานแล้ว ที่เห็นก็มียาแก้ปวดขวดใหญ่ 2 ขวด Naproxen 500 mg จริงๆ มันก็คือ Aleve ที่หาซื้อได้เองไม่ต้องให้หมอสั่งในชื่อทางการค้า “อะลีฟ” แก้ปวดหัว ลดไข้ ใช้แก้ปวดกล้ามเนื้อ เพราะเมื่อก่อนปวดข้อมือซ้ายมากๆ ปวดตั้งแต่คลอดไอ้ตี้โน่นแหละ คืออุ้มลูกแล้วมันบิดเอี้ยวห้อยโหนไปมาจนข้อมือพลิกแหละ ปวดจนนอนไม่หลับ หมอจ่ายยานี้ให้ก็กอนไปงั้น สามปีผ่านมาข้อมือที่ปวดก็ค่อยๆ ทุเลาลง ตอนที่ปวดก็กินบ้างไม่กินบ้าง แล้วก็เลิกกินไปนานแล้ว แต่ราคาขวดนี้แค่ 40 เซ็น ก็เลยบอกหมอสั่งๆ มาเหอะ ถูกดี ตอนนี้อีซะมีกินแทนซะนี่ (ผิด กม. นะคะ กินยาที่เลเบ้วชื่อคนอื่น) แต่เดือนนี้บอกหมอว่าไม่เอาแล้วมีตุนอยู่อีกขวดนึง ส่วน Ibuprofen 800 mg อันนี้ก็เป็นยาแก้ปวดสามัญประจำบ้านทั่วๆ ไป หาซื้อได้ตามร้านในชื่อว่า Motrin แต่ที่หมอสั่งให้จะเป็น double strength 800 มก. มอทรินที่ขายทั่วๆ ไปจะเป็นไอบูโพรเฟ่น 400 มก. ก็ใช้ลดไข้แก้ปวดเหมือนๆ พาราฯ เป็นพิษเป็นภัยต่อไตและตับพอๆ กัน หมอสั่งให้เพราะอยากให้ใช้แทนไวโคดินเวลาอาการปวดไม่รุนแรง เค้ากลัวอิชั้นจะติดยาค่ะ ได้มาก็ไม่เคยแตะ พอราคาถูกๆ 40-50 เซ็น อีพวกอินลอว์ชอบมาขอก็เลยตุนไว้เรื่อยๆ ปวดหัวตัวร้อนก็จัดหามากินเองบ้าง จัดให้ลูกให้ผัวบ้าง หมออู๋จาดห้ายยยยยย……..

ส่วนไอ้ Crestor พูดไปแล้ว ก็กินมาครบปีพอดี เริ่มกินตอนสุขภาพเมื่อปีก่อนตอนที่เค้าตรวจพบว่าคลอเรสเตอรอลชักสูง ไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ชีวิตแต่หมอแนะนำให้ควบคุมไว้ให้ดี พอมาตอนนี้ก็ให้เลิกกินซะ และเขวี้ยงทิ้งไปเลย ขวดต่อมา Enalapril 2.5 mg เป็น generic ของ Vasotec เป็นยาควบคุมความดันทุรังสูง ก็กินเรื่อยๆ มาถึงแม้ความดันจะปกติเรื่อยมาก็ตาม หมอไม่ยักกะบอกให้หยุด แต่เม็ดจิ๋วนึง เลยทนกินได้เรื่อยมา ขวดต่อมา Metformin 500 mg พูดถึงไปแล้ว กินมาหลายปี กินกันทั้งตระกูล ทั้งสะเด็ดแม่และพี่หญิงใหญ่รวมทั้งคุณพี่เขยด้วย แล้วก็มีเกลอแก้วไวโคดินและเวร่ามิสต์อยู่ในรูปด้วย

IMG_0958-s

คราวนี้มาดูกล่องยาอิชั้น รูปนี้เป็นยาและวิตามินที่กินทุกวันก่อนที่จะเปลี่ยนไปนิดหน่อยจากคอมมานล่าสุดจากหมอคาน กล่องใหญ่กินตอนเช้าพร้อมอาหาร กล่องเล็กกินก่อนนอนค่ะ หมอคานบอกให้อิชั้นกินยาชุดใหม่ไป 1 เดือนแล้วให้เสนอหน้าไปหาเค้าอีกทีดูว่าร่างกายทำปฏิกริยาต่อยาชุดนี้อย่างไร เฮ่ออออ…เจาะเลือดกรูไปเป็นโอ่งๆ อีกแน่เลย ยิ่งโลหิตจางอยู่ด้วย ฮึ่ม

IMG_9399-s

อันนี้เป็นวิตามินกัมมี่ของทั้งครอบครัว หมออู๋จัดเรียงไว้ถวายครอบครัวให้กินพร้อมๆ กันก่อนนอน ส่วยในถุงก็จะห้อยไว้ที่ไมโคเวฟให้รอมมี่กินในตอนเช้า คือรอมมี่ต้องไปโรงเรียนก็จะเข้านอนก่อนใครๆ กว่าแม่จะแจกวิตามินก็โน่นแหละ ก็หลังเที่ยงคืน...เด็กๆ จะเน้นวิตามินรวม เพิ่มวิตตามินซี ดี3 แคลเซี่ยมและไฟเบ้อร์เข้าไปด้วยเพราะไม่ค่อยกินผักกัน แม่กับพ่อก็ฟาดเซนทรั่มแล้วก็กัมมี่เหมือนๆ ลูก แต่แม่ก็กินบ้างไม่กินบ้าง เพราะกินยาก็เยอะแล้ว นี่ไม่ได้เอาวิตามินของอีก๊อตมาให้ดู 55555 ซะมีอิชั้นแด๊กวิตามินวันละ handful ค่ะ เพราะมันกลัวตายยยยย….มว๊าก 5555

page-572

The greatest wealth is health.

DontMess-01

No comments: