Tuesday, November 9, 2010

My (Real) Low-Life White Trash Friend..!

เนื้อเรื่องอันนี้เป็นแบบ draft แรกๆ เลย ขาดหายไปเยอะ เดี๋ยวว่างๆ มา edit ใหม่ค่ะ

tumblr_kurcq6DFFW1qawc0po1_500

นานมาแล้ว 9-10 ปี ประมาณนั้น รอมมี่ยังเป็น toddler (almost rooster) อิชั้นใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ กับลูก ไม่ได้ทำงาน ไม่ค่อยไปไหน ไม่มีเพื่อน พอนานๆ เข้าก็สงสารลูกที่ลูกไม่มีเพื่อน ไม่ได้เล่นกับเด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน ก่อนที่จะจัดการพาหนูดีไปเข้าเรียนชั้น preschool อิชั้นได้พยายามจะ take course อะไรก็ได้ที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกับลูก หรือ พาลูกไปด้วยได้ (ไม่รู้จะไปฝากลูกไว้ที่ไหน) โปรเจ็คที่จะเรียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวสำหรับอิชั้นเอง ทำได้ยากมาก ก็เพราะเรื่องลูกนี่แหละค่ะ เลยทำให้เรียนพยาบาลไม่จบ

27149256_12204b595d

อยู่มาวันนึง ได้รับเมล์ catalogue ของ adult school ว่ามีโปรแกรม Child Development อะไรซักอย่าง จำชื่อไม่แม่นค่ะ (ขี้เกียจไปรื้อใบเซอร์ดู 5555) น่าสนใจมาก เรียนประมาณ 24 ชั่วโมง วันละ 2 ชั่วโมง อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง คือเรียนแป๊บๆ ก็จบคอร์สค่ะ ระหว่างที่เรียนในห้องเรียน พวกเด็กๆ ก็จะรวมอยู่ที่ห้องข้างๆ หรือที่สนามเด็กเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ วาดรูป ระบายสี เล่นเกมส์ ฯลฯ ส่วนพ่อแม่ก็จะเรียนจากหนังสือเล่มใหญ่เชียวค่ะ instructor ใจดี ใจเย็น หน้าตายๆ 555 ไร้ความรู้สึก มีจดโน๊ต มีสอบในวันสุดท้าย เนื้อหาห็ไม่มีอะไรมาก ยอดคุณแม่ (supper mom) อย่างอิชั้น รู้โม้ดดดดด….. 555 ก็มีเรื่องเซฟตี้ต่างๆ ในบ้าน ในรถ โน่นนี่ โภชนการ การอบรม ดูแล ลูก การลงโทษ การให้รางวัล การชื่นชม ตำหนิ อย่างเหมาะสม และไม่ผิดกฏหมาย เค้าสอนอย่างละนิดละหน่อย อิชั้นก็เรียนไปแบบเบื่อๆ แต่รอมมี่ชอบมากค่ะ ได้เล่นเกมส์ ได้ทำกิจกรรมกับเด็กๆ รุ่นเดียวกัน

ระหว่างที่เรียน อิชั้นก็มีเพื่อนใหม่คนหนึ่ง ชื่อ “เทเรซ่า” เป็น สาวใหญ่ แก่กว่าอิชั้น 5-6 ปี red head ตัวโตๆ แต่ไม่อ้วนใหญ่ยักษ์นะคะ คือตัวสูงใหญ่ พอเข้าเรียนชั่วโมงแรกนั่งติดกัน พอวันหลังๆ ใครมาถึงก่อนก็รีบจองโต๊ะให้กันค่ะ จะได้นั่งติดกัน พอเรียนได้ 2-3 ครั้ง ดิฉันก็ได้ทราบ แบบ อ๋อ เหรอวะ ว่า พวกที่มาเรียนทั้งหมดเนี่ยยยย…. เป็นเพราะ court order ทั้งหมดเลยค่ะ มีแต่อิชั้นคนเดียวที่มาเรียนแบบ voluntary ฮึ่ม… มิน่าหล่ะ บางคนก็มาแบบผัวเมีย นั่งหน้างอ ไม่พูดไม่จากัน บางคนก็เป็นแบบวันแมนโชว์ truck driver (ยังนึกเลยว่าอิตาหนวดเฟิ้มเนี่ย น่ารักจัง มาเรียนคอร์สนี้ 555) บางนาง บางอี บางไอ้ ก็แบบ น่าตาไม่นาไว้ใจ เหมือนเดนคุก อิชั้นก็เรียนๆ ไป ไม่พูดกับใคร ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครพูดกันหรอกค่ะ แต่ก็จะมีพวกที่จี๋จ๋า แจ๊ดแจ๋ แต้แว๊ด เสียงดัง center of attemtion หลายคนอยู่ค่ะ คือพวกนี้ต้องเรียนให้จบ ต้องเข้าคลาสทุกครั้ง ใครขาดเรียนก็จะไม่ได้ใบเซอร์ไปให้ศาลค่ะ พวกนี้อาจมาจากต้องคดีหลายรูปแบบ เช่น ทำร้ายลูกเต้า ฟ้องแย่ง custody ลูก-หลังจากหย่ากัน คือเป็นได้หลายกรณีค่ะ จารนัยไม่หมด พอมาเล่าให้พ่อบ้านฟัง ก็ให้เป็นห่วงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกเมียที่รักยิ่งนัก ขอร้องให้เลิกไปเรียน อิชั้นก็สัญญาว่าจะดูและตัวเองและลูกให้อยู่รอดปลอดภัย เพราะว่าลูกชอบคลาสเด็กค่ะ ได้ตัดกระดาษ วาดรูป เล่นเกมส์ ฯลฯ (หลังจากจบคอร์ส พ่อบ้านก็จับรอมมี่เข้าพรีสคูลเลยค่ะ วันละ 27 เหรียญก็ไม่บ่น นั่นเป็นเรทเมื่อ 10 ที่แล้วนะคะ)

shots

กลับมาที่เทเรซ่า ทุกครั้งที่เธอมาเรียน ก็จะมีลูกชายหล่อเชียวค่ะ ชื่อ อาดัม มาเรียนด้วยทุกครั้ง อาดัม อายุ 11 ปี พอรู้ว่าแม่กับแม่จับคู่กัน อาดัมก็คอยเป็นหูเป็นตาดูแลหนูดีในห้องเรียนของเด็กๆ พอวันสุดท้ายที่เรียนจบ ครูบอกว่าให้ทุกคนนำ snack เครื่องดื่มมาปาร์ตี้กัน อิชั้นยังจำแม่นว่า เอาอะไรไปดีว๊าาา…. พ่อบ้านแนะนำว่า ให้ไปซื้อ เบบี้แครอทที่มี ranch dip เป็น individual snack pack จะเหมาะกว่า ไม่ต้องเก็บ ไม่ต้องจัด วางๆ ไว้ใครอยากกินก็มาหยิบๆ ไป แต่พอมันเป็นแพ๊คเดี๋ยวๆ ก็จะแพงนะคะ อิชั้นซื้อไป 3 โหล คิดว่าน่าจะพอ เพราะใครๆ ก็เอาขนมเครื่องดื่มไปกันเยอะแล้ว คัพเค้ก คุ้กกี้ เพียบ พอเอาสแน๊คแพ๊ตแครอทวางเท่านั้นนะคะ มือดำๆ เล็กๆ ก็ย่องมาหยิบทีละ ห่อ สองห่อ พวกไอ้ดำ ไอ้เม๊กก็ให้ลูกๆ วนมาหยิบไปเก็บกลับบ้านกันค่ะ ไม่ถึง 2 นาที แครอทอิชั้นหายเกลี้ยง พอครูกับใครๆ เดินมาถามว่าอิชั้นเอาอะไรมา ก็ได้แต่แบมือ ยักไหล่ แบะปาก จะไปไล่รื้อเอามาจากกระเป๋าอีพวกนั้นก็ อืมมมม… อย่าไปเล่นกะมันเลยพวกโลว์ไล้ฟ์ ทองไม่ลู่กระเบื้องเปื้อนขี้ค่ะ 555 คือไม่ใช่ต่ำเฉยๆ ต๊ำต่ำ แล้วชั่วด้วย น่ากลัว 55555

drugs

เทเรซ่าคงพอรู้ว่าอิชั้นเหมือนจะมู้ดดี้ พอเลิกรากันแล้ว ก็ออกปากชวนอิชั้นกับรอมมี่ไปที่บ้าน บอกว่าจะทำบาร์บีคิวเลี้ยง อิชั้นก็อึกอัก อึกๆ อักๆ มากเลยค่ะ เพราะไม่ได้รู้จักมักจี่มากมายขนาดนั้น และไม่ได้คิดคบต่อจริงๆ นะคะ แต่ก็กลัวคนชวนเสียใจ เพราะเธอและลูกคะยั้นคะยอเสียขนาดนั้น แล้วคงรู้ว่าเราตาขาวด้วย ก็ย้ำหลายครั้งว่าเค้าอยู่กันแค่ 2 คนแม่ลูก ไม่มีใคร สุดท้ายก็ไปค่ะ จำได้ว่าไปนั่งคุยกันอยู่ไม่นาน ทานอะไรแป๊บๆ ก็รีบกลับ พออีก 2-3 อาทิตย์ เทเรซ่าก็โทรมาหา ถามไถ่ ว่าเป็นไง เงียบไปเลย ชวนไปนั่งเล่นคุยกัน chill out ดีกว่า จะอยู่บ้านเงือกเหงาทำไม อิชั้นก็เลยซื้อน้ำอัดลม ไอติมไป เพราะเทเรซ่าโทรสั่งพิซซ่าไว้รอ ในวันนั้นทำให้อิชั้นได้รู้เรื่องราวของเทเรซ่า สามีเธอติดคุกอยู่ค่ะ เพราะทะเลาะตบตีกัน ทำร้ายเธอจนตาหลุดออกจากเบ้าข้างนึง กระโหลกร้าว ทำให้เธอต้องย้ายจากเฟสโน่มาอยู่มาเดร่า ไม่มีเพื่อนหรอก แต่ด้วยเหตุผลกลใดที่ทำให้เธอต้องเรียนคอร์สนั้นจำได้ไม่แม่นว่าทำไม judge ต้องการใบเซอร์นั่นจากเธอค่ะ แต่ที่ประหลาดใจยิ่งนักจนอดถามออกไปว่าทำไมอาดัมไม่ไปโรงเรียน อาดัมก็มาตอบเองเลยนะคะ ว่าไม่ชอบเพื่อนที่โรงเรียนใหม่ พวกไอ้เม๊กไอ้ดำชอบรังแก เลยขอให้แม่ไปทำเรื่องโฮมสคูล ฟังแล้วก็เศร้าใจ อิชั้นกลับมาเล่าให้พ่อบ้านฟังตามปกติ อิพ่อบ้าน “ปักม๋า” ของอิชั้นก็เรียกเทเรซ่าว่า your eye-popped friend หรือไม่ก็ your pop-eye friend ตลอดเลยค่ะ 55555

do-adhd-drugs-take-a-toll_1

เด็กอาดัม พูดจาฉะฉาน สุภาพ แต่ชอบ interrupt เวลาผู้ใหญ่คุยกัน คนเป็นแม่ก็ไม่ห้ามปราม แม่เค้าไม่ว่า-ก็ไม่ใช่ธุระของเราค่ะ นอกเหนือจากชอบพูดสอดแล้ว..อาดัมเป็นเด็กอ่อนโยน ขี้อ้อน ติดแม่ (ผิดปกติกับเด็กผู้ชายวัยเดียวกัน) จากวันนั้นอิชั้นกับลูกก็ไปมาหาสู่เทเรซ่ากับลูกหลายหน เหมือนกับ have good time, good talk with good friend จริงๆ นะคะ เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระ สนุกสนาน เรื่องหนัง ทีวี ดารา ฯลฯ จนอยู่มาวันนึง เทเรซ่าโทรมาหาบอกว่าวันนี้มีนัดต้องไปหาหมอ แต่รถของเธอโดน repossessed (ถูกยึด เพราะขาดส่ง) เมื่อไม่กี่วันมานี้ อิชั้นก็ไม่รีรอ เพราะรู้ว่าเทเรซ่ามีเรื่องที่ต้องดูแลเกี่ยวกับ health issue เห็นกินยาอยู่หลายขนาน ฟังดูน่าเป็นห่วง ก็รีบบึ่งไปรับเทเรซ่ากับลูกไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วก็ไปรับรอมมี่จากพรีสคูล แต่อาดัมขอติดรถไปด้วย (เด็กอาดัมเรียกอิชั้นว่า Auntie Ooh ซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะเด็กฝรั่งมักเรียกผู้ใหญ่หรือใครๆ ด้วยชื่อเฉยๆ ค่ะ แต่เทเรซ่าสอนให้อาดัมเรียกอิชั้นแบบนั้น) พอขากลับไปรับเทเรซ่าที่โรงพยาบาล เลยแวะแม๊คโดเน่า ซื้ออะไรให้เด็กๆ กิน อาดัมก็ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก น่ารักดีค่ะ

spiritual_drugs

ไม่นานต่อมาเทเรซ่าก็บอกว่าเธออยากจะย้ายกลับไปอยู่เฟรสโน่แล้ว เพราะมาเดร่าค่อนข้างกันดารถ้าไม่มีรถก็ไปไหนไม่ได้ เฟรสโน่ยังมีรถเมล์ แท๊กซี่ อิชั้นก็ใจหายนิดๆ นะคะ เพราะไม่มีเพื่อน พอมีเทเรซ่าก็สนุกไปอีกแบบนึงค่ะ ทำกับข้าวกินกัน เธอยังสอนอิชั้นทำ Bar-B-Q Ribs แสนอร่อยยยยย…. อิชั้นก็สอนเธอทำแกงเขียวหวานของโปรดเธอด้วย

drugs-abuse

พอเทเรซ่ากับลูกย้ายไปไม่นาน เธอก็โทรมาบอกว่าไม่อยากไปเยี่ยมเธอกับลูกบ้างเหรอ (ตลอดเวลา เทเรซ่าและลูกไม่เคยรู้ว่าบ้านของเราอยู่ที่ไหน เพราะพ่อบ้านเตือนว่าห้ามบอกเด็ดขาด) อิชั้นก็บอก ได้สิ บ้านอยู่ไหน เลขที่เท่าไหร่ ถนนอะไร ก็พากันขับรถไปหา บ้านใหม่ของเธอเป็นอพาร์ทเม้นต์ยูนิตเล็กๆ 2 ห้องนอน มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น เห็นว่ารัฐจ่ายค่าเช่าให้เธอ ด้วยโปรแกรม Section-8 เทเรซ่าเคยเป็นพยาบาล พอมาเป็น disable ทำงานไม่ได้ เลยมีสวัสดิการช่วยเหลืออื่นๆ อีก เป็นเช็คส่งมากทุกๆ เดือนๆ ละ 2 เช็คมั๊ง รวมแล้วเกือบๆ 2 พันได้ค่ะ ก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟ โทรศัพท์ไป ข้าวปลาอาหารก็ซื้อหามากินเอง พอเดินเข้าบ้านใหม่ของเทเรซ่า ก็งงๆ นะคะ มีเคเบิ้ลทีวี เฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น และข้าวของใหม่ๆ เพียบ เทเรซ่าบอกว่าเธอเคยอยู่ย่านนี้มาก่อน เพื่อนๆ ของเธอก็ยังคงอยู่ละแวกนี้ พอรู้ว่าเธอกลับมาก็ขนโน่นนี่มาต้อนรับเป็นการใหญ่ อืม…..เพื่อนน่ารักเน๊าะ

Welfare

พอเราเริ่มจะทำกับข้าวกับปลากินกัน (ตามปกติเวลาเราเจอกัน) ก็มีคนโน้น คนนี้ เปลี่ยนหน้าเดินเข้าเดินออกบ้านเธอเป็นว่าเล่น ทุกครั้งเทเรซ่าก็จะแนะนำว่า This is Ooh, my sweet Thai friend & I love her very much. This is Rommy, my little angel. แล้วก็บอกใครต่อใครเรื่อยๆ ว่าอิชั้นน่ะเป็นคนดี… คนดี good person which you never imagine you’ll have someone this good as your friend! อิชั้นก็เขิลลลล์ ซ้าาา… แล้วก็มีสาวสวยนมตู้มมมม…. เซ็กซี่เดินเข้ามา ชื่อของเธอคือ แพเมล่า ซึ่งต่อมากลายเป็นเพื่อนที่อิชั้นสนิทด้วยอีกคน ทุกครั้งที่เราเจอกัน ก็จะต้อง กินๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ซื้อ ก็ทำอะไรกินกันทุกครั้ง เทเรซ่าจะมีลูกหยอดใส่แพมทุกครั้งว่า Ooh is my friend…not yours. Don’t mess with her…I told you! ฟังทีไรก็แปลกๆ หรือว่าเทเรซ่ามันเลสเบี้ยนวะ ชักแหยงๆ

Dont-apply-for-jobs-that-do-drug-tests-Use-unemployment-check-to-buy-more-weed

ทุกครั้งที่ไปบ้านเทเรซ่า อิชั้นก็จะมีเรื่องมาเล่าให้พ่อบ้านฟังทุกครั้ง คำพูดแปลกๆ พฤติกรรมแปลกๆ อย่าง… ทำไมใครๆ ชอบเข้าห้องน้ำทีละ 2-3 คน พ่อบ้านก็บอก มันดูทะแม่ง ทะแม่ง นะ ไม่จำเป็นก็ห่างๆ ละกัน อิชั้นก็เลยห่างๆ ออกมา ไปแวะเวียนหานานๆ ครั้ง ถ้ามีเหตุต้องให้ไปซื้อของที่เฟสโน่

มีอยู่ครั้งหนึ่ง..อิชั้นแวะไปที่บ้านเเทเรซ่า..ก็เห็นมีผู้ชายเม๊กซิกันเตี้ยๆ สั้นๆ ดำๆ หน้าตาขี้เหร่ พวกเผ่า Oaxaca (Spanish pronunciation: [oaˈxaka]; English pronunciation: /wəˈhɑːkə/ wə-HAH-kə) พวกวะหะกา เหมือนกับ ชนเผ่าแรงงาน ชนชั้นล่างของพวกเม๊กน่ะค่ะ อะไรเทือกนั้นค่ะ พออิชั้นเห็นมีตัวแบบนั้นเดินอยู่ 2 ตัวในบ้านเธอก็ตกใจ และกลัวค่ะ เพราะโดนกรอกหูจากพ่อบ้านว่าอยู่ให้ห่าง พออิชั้นตั้งท่าว่าจะคว้าแขนลูกเดินออกมา บอกไปว่าถ้ามีเพื่อนก็ขอตัวละกัน เทเรซ่าก็บอกให้อยู่ก่อน อิชั้นก็ส่งสายตาถามไปแบบ “ใครวะ พวกนั้นน่ะ” เธอก็รีบบอก ว่าพวกนี้โอเคไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ก็นั่งไม่ติดเพราะอะไรๆ ดูแปลกๆ เทเรซ่าก็เลยมาขอโทษขอโพยถ้าหากทำให้รู้สึกว่า uncomfortable อิชั้นก็บอกปล่าวหรอก ปล่าวเลย เพียงแต่มีธุระต้องทำ แวะมาเซย์ “ไฮ” เฉยๆ เธอก็รีบบอกว่า เมื่อคืนไปปาร์ตี้กับแพม เมากันเละ (อิชั้นไม่เคยดื่มกับพวกนี้เลยนะคะ) พอขากลับ เจอไอ้เตี้ย 2 ตัวที่เห็น ไม่รู้อะไรเป็นอะไร ก็มาลงเอยกันที่นี่แหละ nothing or no one to blame ….but too drunk and physical needs พอได้ยินแค่นั้นก็ อึ้งงง.. โอ้..มาย บุ๊ดด้า… เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะคะ ที่ได้ยินว่า physical needs คนเราก็เลยต้อง f**k around เคยรู้แต่ว่า physical needs คือ หยูกยา อาหาร แขนขาเทียม อะไรที่ทำให้ชีวิตอยู่รอดและดำเนินต่อไปได้ ทำไมคนพวกนี้ช่าง “แหวะ” หยะแหยงเหลือเกิน สงสารตัวเองกับลูกที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้

2204~No-Drugs-Posters

จากวันนั้น อิชั้นก็ไม่ได้แวะเวียนไปหาเทเรซ่าอีกเลย อยู่เงียบๆ กับลูกผัวเรื่อยมา อยู่มาวันนึงเป็นที่ประหลาดใจยิ่งนัก เมื่อได้รับโทรศัพท์จากอาดัม บอกว่าวีคเอนด์ที่จะถึง เป็นวันเกิด อยากให้ Auntie Ooh มา พอเด็กพูดแบบนั้น ใครจะไม่ “จุก” เด็กขอมา…ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลย หยอดๆ ไปว่า อยากได้อะไร อาดัมก็บอกอยากได้ skateboard ใหม่ พอถึงวันอิชั้นก็จัดการไปซื้อและเอาไปให้ กะว่าจะให้ของขวัญกับเด็กแล้วก็ร่ำลาเลย พอไปถึงเทเรซ่าก็ดีอกดีใจมากกกก… ที่อิชั้นไปวันเกิดอาดัม รีบชวนเข้าบ้าน แล้วก็ชวนคุยขอโทษขอโพยอิชั้นเรื่องคราวโน้น อิชั้นก็บอกไปว่า ไม่เห็นต้องขอโทษอะไร มันเป็นเรื่องส่วนตัว คุยไปคุยมาอิชั้นก็รู้สึกดีขึ้น รู้สึกเหมือนตอนเรารู้จักกันใหม่ๆ คุยกันสนุกสนานได้ไม่นาน แพมก็เดินเข้ามากับหญิงสูงวัยแปลกหน้า พอเข้ามาปุ๊บก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำทั้งคู่ ก่อนเข้าห้องน้ำก็แวะไปในครัว ฉีก aluminum foil เข้าไปด้วย แล้วเทเรซ่าก็เดินตามเข้าห้องน้ำไป เสียงดังโล้งเล้ง แอบฟังได้ใจความ ประมาณว่า ถ้าอู๋มาอย่าทำแบบนี้ อู๋เป็นคนดี เตือนแล้ว ไม่เคยฟัง ชั้นรักอู๋มาก ต่อไปจะไม่ให้พวกแกเหยียบเข้ามาบ้านชั้นอีกเลย บลาๆๆๆ พอได้ยินแบบนั้นก็พอเดาออกว่า เข้าไปทำอะไรกันในห้องน้ำ แต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น แล้วสองคนนั้นก็ผลุนผลันออกจากบ้านไป ก็เลยถามว่ามีอะไรกันเหรอ เทเรซ่าก็รีบบอกไม่มีอะไรหรอก ไม่ชอบที่แพเมล่าชอบพาใครๆ เข้ามาในบ้าน อิชั้นก็ทำเป็นมารยาทดีขอตัวกลับบ้านก่อน (มารู้ที่หลังว่า…..เค้าใช้อลูมินั่มฟอยล์เวลาเสพยาเสพติดที่ต้องเอาไฟเผาลนแล้วสูดเอาควันเข้าไปน่ะค่ะ พวก Methamphetamines, Methadone, โคเคน ฯลฯ สุดแล้วแต่พวกขี้ยามันจะนึกเสพแหละค่ะ)

4uovzis

พออีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา ประมาณตี 4 หรือเกือบๆ เช้า อิชั้นนอนหลับอยู่ก็ต้องสะดุ้งตื่นกับเสียงโทรศัพท์ โทรมาจาก CPS - Child Protective Services ขอพูดกับอู๋หน่อย เจ้าหน้าที่บอกว่าหลานชายชื่ออาดัมอยากมาอยู่ด้วย ซึ่งเค้าได้พยายามซักถามอยู่หลายครั้งว่า อู๋ชื่อจริงชื่ออะไร อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ เด็กก็ตอบไม่ได้เลย เอาแต่ร้องไห้ บอกแต่ว่าไม่อยากไปอยู่ Foster Care ขอไปอยู่กับ Auntie Ooh ฟังแล้วก็อึ้ง งง ง่วงด้วย พ่อบ้านก็เลยคุยต่อให้ ถามว่าทำไม อะไร อย่างไร ได้คำตอบว่า เมื่อคืน..ตำรวจได้ไปทลายบ้านของเทเรซ่า เพราะสงสัยว่ามี prostitution เกิดขึ้นที่บ้านนั้น พอกวาดล้างก็พบยาเสพติดมากมาย โดนจับไปนอนซังเตกันหลายคน ซึ่งมีเทเรซ่าและแพเมล่าเป็นตัวนำ ฟังแล้วก็ขนลุก บรึ๋ยยยย…

Drugs Cocaine with 100 Bill

พอคุยต่อไป เจ้าหน้าที่บอกว่าพ่อและแม่ของเด็กต่างอยู่ในคุก ตอนนี้เด็กไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน บอกแต่ว่ามีน้าชื่ออู๋ ขอไปอยู่กับน้า พ่อบ้านก็บอกไปว่า No คงต้องให้ CPS ดูแลเด็กอาดัมไปตามระบบ ระเบียบ และขั้นตอน เพราะเมียของกะโพ๊มรู้จักกับเทเรซ่าเพียงผิวเผิน มิได้เป็นป้าเป็นน้าของเด็กอาดัมแต่อย่างไร พอวางสายปุ๊บก็หันมา “เฉ่ง” อิชั้นเป็นการใหญ่ อิพ่อบ้านโมโหมาก สวดยาวเลย ทิ้งท้ายไว้ว่า Do you know what you put yourself into? เพราะถ้าตอนที่เค้ากวาดล้างหรือค้นบ้าน อิชั้นไปนั่งเอ๋อเหรอ ถึงไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เค้าก็ใส่กุญแจมือ ลากคอเข้าคุกไปก่อน แล้วถึงจะมาสอบปากคำที่หลัง น่ากลัวเน๊าะ เกือบไปแล้วตู จะว่าไป…อิชั้นไม่เคยไปบ้านนั้นกลางค่ำกลางคืนนะคะ แต่ใครจะไปรู้ คนเราจะถึงคราวซวยนิ

drugs-gun-knife

หลังจากนั้นไม่กี่วันอิชั้นก็ขับรถผ่านไปดูที่บ้านนั้น เค้าเอาไม่กระดานตีตะปูปิดไว้ทุกหน้าต่างเลยค่ะ แต่ยังพอเห็นได้ว่ากระจกแตกไปหมด ไม่รู้ตำรวจทุบเข้าไป หรือไอ้พวกนั้นกระโจนทะลุกระจกหนีออกมา พอเห็นแบบนั้นก็ให้นึกถึงเด็กอาดัม อยู่ไหน ไปอยู่กับใครน๊อออ… แต่มันก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของอิชั้นจริงๆ นะคะ ไม่ได้ใจดำ จะให้เลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้คงไม่กล้า แต่เทเรซ่าเป็นเพื่อนที่ดีกับอิชั้นจริงๆ นะคะ ไม่เคยชักนำ แนะนำ ลากจูงให้อิชั้นทดลองสิ่งของผิดกฏหมายใดๆ เราคุยกันก็เหมือนแม่บ้านคุยกัน คิดในแง่ดีก็คือ เทเรซ่ารักอิชั้นมาก ไม่อยากให้ใครทำอะไรไม่ดีในขณะที่อิชั้นอยู่ที่บ้านเธอ ไม่อยากให้อิชั้นรู้ lifestyle ของเธอ กลัวอิชั้นจะเลิกคบ คบกันเป็นปีไม่มีทีท่า เชิญชวน ชักชวนให้อิชั้นทำอะไรที่ไม่ดีด้วย เราต่างเอ็นจอยการกิน เช่าหนังมาดูกัน ไม่มีอะไรแปลกประหลาดค่ะ

stop-smoking-drug

ทั้งหมดอิชั้นไม่โทษใคร มันเป็นโชคชะตาที่ทำให้คนเราต้องมาพบกับ ถูกชะตา ต้องจิต เลยมาเป็นเพื่อนกัน อิชั้นและลูกเข้าไปอยู่ในวังวนของชีวิตเทเรซ่าและอาดัม ด้วยความบริสุทธิใจ อิชั้นเชื่อว่าเทเรซ่าไม่เคยคิดทำลาย หรือทำร้ายอิชั้นและลูก เราไว้วางใจซึ่งกันและกัน ใครๆ อาจคิดว่าอิชั้นโง่ แต่อชั้นต้องขอปฏิเสธค่ะ เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความ “โง่” หรือ naive ใดๆ เลย หากแต่เป็น “วิถีชีวิต” ของเราที่แตกต่างกันสุดขั้ว ดังกับว่าเราต่างก็มาจาก the other side of the universe เลยค่ะ ความเป็นเพื่อนที่ดี ย่อมอยากจะแบ่งปันแต่สิ่งดีๆ ให้แก่กัน ถึงเทเรซ่าจะเป็น “หญิงชั่ว” ในแง่ของกฏหมายและวิถึสังคม แต่ เทเรซ่าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งของอิชั้นเลยนะคะ บางครั้งในห้วงของความคิด อิชั้นเคยคิดว่า….โชคดีที่ได้รู้จักคนอย่างเทเรซ่า ได้รู้ได้เห็นพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยรู้ หรืออยากรู้มาก่อน และก็โชคดีที่มิตรภาพจบลง…โดยที่อิชั้นไม่ได้รับอะไรร้ายๆ เข้ามาในชีวิต คนเรากว่าจะแก่หรือโตมาได้ ต้อง ผ่านร้อน ผ่านหนาว เรื่องดี เรื่องร้าย มากมากมาย แต่ละคน แต่ละชีวิต แต่ละช่วงอายุ ก็จะ handle ในแต่ละสิ่ง แต่ละสถานการณ์แตกต่างกันไป …. ผลลัพธ์ที่ออกมาก็แตกต่างกันไป นอกเหนือจากความรู้ ความสามารถ ฯลฯ สิ่งที่เหนือการควบคุมได้คือ พรหมลิขิต โชคชะตา ดวง (เฮงหรือซวย 555)

Friends-dont-let-friends-do-drugs

มาถึงวันนี้ บางทีไปไหนๆ ตามที่ต่างๆ เคยนึกนะคะ (นึกเฉยๆ ค่ะ ไม่อยากให้เกิดจริงหรอก) ว่า ถ้ามีเด็กหนุ่มรูปหล่อเดินเข้ามาทักแล้วแนะนำตัวว่าเค้าเป็น…อาดัม อิชั้นคงนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี แต่ยังไงก็ขอให้เค้าโตไปเป็นคนดี อย่าเจริญรอยตามพ่อแม่เลย สาธุ