Wednesday, March 19, 2008

คอมพ์ใหม่ เน็ทแบบเก่า แหวะ

วันนี้ ไม่มีอะไรใหม่ ชีวิตแบบเดิมๆ แถม “เจือก” ลืมหมอนัดด้วย นัดข้ามปีก็แบบนี้แหละ แล้วยังเสือกโทรเลื่อนไปเลื่อนมา เลื่อนขึ้นเลื่อนลงอยู่ได้ เลยลืมซะเลย แต่ได้ ”รี-สะเก๊ตด้วน” ไปแล้วแหละ จริงๆ ก็แค่แอนน่วลเช๊คอัพแหละ แล้วก็ต้องเอา “จิ๋ม” ไปออกอากาศ ซึ่งไม่สนุกเท่าไหร่ แต่แก่แล้ว-ทำได้ก็ทำไปเถอะ อายก็ต้องทน สงสารหมอเน๊าะ 555555 คือมันไม่น่าเจริญหูเจริญตาเอาซะเลย คราวนี้ก็ลุ้นว่าหมอจะเจออะไรอีก แหวะ เซ็ง


เมื่อเดือนกุมภาฯ ที่ผ่านมา มีอะไรๆ เกิดขึ้นเยอะแยะ วันที่ 20 ก็คือมีการเกิด จันทรุปราคา (สะกดถูกหรือปล่าว หรือเรียก “จัน-ทะ-คาด” ดีวะ) ก็แบกลูกวิ่งเข้าออกไปดูที่ระเบียงหลังบ้าน พอดีอยู่บ้านนอก ฟ้ามืดดี เห็นได้ชัด แต่ถ่ายรูปไม่ชัด หาขาตั้งกล้องไม่เจอ คืนนั้นยังหนาวอยู่มากด้วย ก็งั้นๆ แหละ ไม่ตื่นเต้นอะไร แต่อีพ่อก็โทรมาจากโรงงานบอกไอ้ดีทุกๆ 5 นาทีให้ออกไปดู ก็เลยต้องวิ่งเข้าวิ่งออกกับลูก ไม่รู้สึกแบบ โหย.... หูย..... แค่ “งั้นๆ” จริงๆ นะ

แล้วก็ซื้อคอมพ์ใหม่ อันเก่ามันเน่าๆ หนอนๆ มาพักใหญ่ๆ แล้ว คราวนี้ก็เอาแบบ “ไฮ-เอนด์” (อีกแล้ว) จอแบน 22 นิ้ว ทั้งชุดของ ฮิวเล็ตต์-ผักกาด 5555 คอมพ์เจ๋งแจ๋วแค่ไหนก็ยังต้องใช้อินเตอร์เน็ท “ไดล์-อัพ” เช่นเดิม นี่ก็อีกเซ็งนึงที่ไม่สามารถกำจัดไปได้ เล่าเรื่องคอมพ์ต่อ พอซื้อมาปุ๊บ ตื่นเต้ลลลลล เห่อปี๊ดๆ เลย แกะออกมาติดตั้งเอง คือไม่จ้างเค้า มันแพงน่ะ ก็เคยทำมาแล้วตั้ง 3 เซ็ท ราบรื่นดีมาตลอด แต่คราวนี้ มันไม่ยอมมีเสียง โทรๆๆๆๆ คุยกะไอ้บัง (อีกแล้น) ทำโน่นนี่ตามมันบอก ก็โอเคและ แต่ไม่ค่อยเป็นที่พอใจ เลยเอาไปคืนที่เบสต์บาย โชคดีที่คิดคืนก่อน 15 วัน เลยไม่ต้องถูกหัก 15% เป็นค่า รีสต๊อกกิ้ง เป็นว่า 8 วันที่ผ่านมาเลยได้ใช้คอมพ์ใหม่เอี่ยมฟรีๆ พอคืนเค้าไปก็เหวอๆ เอ๋อๆ รออีก 2-3 วันก็ไปลากมาอีกชุดนึง เหมือนเดิมเป๊ะ แต่ถูกกว่าเดิมประมาณ 150 เหรียญ ดีใจ ดีใจ ดีใจ เอาไปกร่างกะปั๋วได้ ข้าเก่ง ข้ากู้ด 55555 เพราะอีตานั่นทำ “อ่า” ไรไม่เป็นเลย เป็น “ยู้ดเซ่อ” ตัวจริง เซ่อๆ ซ่าๆ ไปซะหมด อย่าหาว่า “นิน” เลย เครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านนี้ อิชั้นเป็นคน “ฮุก” ติดตั้งต่อเติมแต่เพียงผู้เดียว พี่แกคอยช่วยจับช่วยยกอย่างเดียว อะไรๆ ก็จะจ้างเค้ามาทำไปซะหมด แพงนะโว้ย บางทีก็แบบว่า รอให้ “บัก-แล๊นซ์” น้องชายมาทำให้ รอไปเถอะ ไม่รู้ชาติไหนจะตามตัวเจอ อู๋เก่งกว่าเว้ยยยยย ทำดีก็ได้ ทำพังก็เก่ง 55555 พอติดตั้งชุดใหม่ก็แบบเดิมอีกไม่มีเสียออกมาทางลำโพงของจอแบนนั่น เบื่อเลย ทำอะไรผิดวะ ไม่เอาไปคืนแล้ว เก็บไว้ก่อน เผื่อไอ้แล๊นซ์มันมาปรากฏกายเมื่อไหร่ค่อยให้มันดู แต่ก็ไปลากเอาลำโพงกะซับวู้ฟเฟ่อชุดเก่า (ของ”ฮาแมนกาด้อน” เชียวนะ) ก็เลยเสียงดังใสปิ๊ง พอให้หายคับข้องใจไปได้เยอะเชียว

สรุปว่าได้คอมพ์ชุดใหม่ เจ๋งดี แต่เน็ทอืดเหนื่อยเช่นเดิม ส่วนไอ้แล็บท๊อบที่พี่ก๊อตซื้อให้ใช้ส่วนตัว (ที่เจ๋งสุดๆ เมื่อ 2 ปีก่อน 5555) ต้องเอาไปหาหมอให้เช็คอัพเร็วๆ นี้ เพราะป่วยหลายอาการมากๆ ไม่ยอมเบิร์นแผ่นไหนๆ รูเสียบยูเอสบีแบบคู่ก็หักแหกระเบิดระเบ้อ เพราะไอ้ตัวเล็กกระชากสายเม๊าส์ แล้วก็เอาโน่นนี่แหย่ๆๆๆ แทงๆๆๆ ทิ่มๆๆๆ สารพัดมันจะทำแหละ เผลอเป็นไม่ได้ แถมเอาดินสอขีดเขียนฝาด้านบนซะลายพร้อยยยยย.... โอย...ยังมีอีกเยอะ หลายอาการ คาดว่าอีกประมาณ 150 แหละที่ต้องเสีย มีแต่เรื่องเสียเงินว่ะ

Tuesday, March 11, 2008

คุยกับครูใหญ่ของลูก

อันนี้เป็นเรื่องค้างสต๊อค (ตอนที่หายหัวไปนานๆ) แบบว่า “ต้องเล่า” คือไปคุยกะ “มิสเตอพร็นซิเปิ้ล” ตั้งแต่ วันที่ 21 กุมภาโน่น คือขอนัดเค้าแล้วก็เลื่อนกันเรื่อยมา สรุปวันวันนั้นทุกอย่างโอเค แต่ว่าต้องไปคุยคนเดียว (อีกแล้ว) เพราะพ่อมันถูกโทรตามไปทำงานด่วน เรื่องของเรื่องก็คือ หนูดีมันก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังเรื่อยๆ ว่า วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียน เล่นอะไร ตีกะใครบ้าง บางทีก็สนุกดี ขำดี บางทีฟังแล้วก็มีโมโห หลายครั้งที่ข้อง ขัด เคืองใจ ก็แล่นไปถามอีครูประจำชั้น นังครูคนนี้เป็นครูใหม่ ถามไถ่เอาความทีไรก็ตอบแค่ว่า เด็กๆ ก็แบบนี้แหละ Kids’ things!!!! แล้วลูกเราเป็นไง ดื้อด้านหรือทำอะไรไม่ดีหรือปปล่าว มันก็จะบอกว่า She’s a sweet little girl, she’s a very good girl, thanks for having her in my class! พอได้คำตอบเดิมๆ หลายๆ ครั้งก็ชักไงๆ วุ๊ย เลยนัดคุยกะครูใหญ่


เปิดฉากก็เล่าๆๆๆๆๆ ถามๆๆๆๆ เรื่องใหญ่ก็คือเพื่อนบางคน บางกลุ่ม ไม่ชอบลูกเราเอามากๆ ลูกเราไปทำอะไรไม่ดีหรือปล่าว ทำไมพวกมันชอบมาว่าลูกให้เสียใจ ขี้เหร่เงี๊ยะ ที่หนักหนาสะดุดใจพ่อแม่มากที่สุดก็คือ หนูดีไปคุยอวดเพื่อนๆ ว่า ซัมเม่อร์นี้จะไปเมืองไทย เพื่อนมันคนนึงพูดว่า Good! People like you need to leave the country and ….. don’t come back! ขำไม่ออกว่ะ นี่เป็นแค่หนึ่งตัวอย่าง ลูกต้องซัฟเฟ่อร์แบบนี้ตลอดเวลา ก็เลยมานั่งถกกะผัว ย้ายลูกออกจากโรงเรียนแคธอลิคบ้านี่เถอะ แพงก็แพง เด็กเปรตพวกนี้ก็ “มีน” สุดๆ อีพ่อมันก็ไม่ยอมอยู่อย่างเดิม ตานี้พอเล่าให้ครูใหญ่ฟังแล้ว เค้าก็แบบตะลึง แล้วก็บอกว่า สรุป รอมมี่มี 2 ปัญหา หนึ่ง รอมมี่เคยเป็นเด็กเรียนดีมากๆ จาก “เอ-รวด” มาเป็น “เอไม่รวด” อีกปัญหานึคือเพื่อนๆ ชอบแกล้งพูดให้เสียใจ ครูใหญ่ก็จะไปลากคอไอ้พวกนั้นมาปามรายตัว แล้วก็รอมมี่เวลคั่มเสมอที่จะเข้ามาคุยกับครูใหญ่ตลอดเวลาและจะเก็บเป็นความลับ ส่วนเรื่องอีครูประจำชั้นห่วยๆ นั่น (เคยถามไง นี่ เออ แก ลูกชั้นบ่นว่าเลขบทนี้ย้าก... ยาก .... อีครูตอบว่า เออ ยากจริงๆ ด้วย ไอยังไม่เข้าใจ ทำไม่ได้เลยเหมือนกัลล์ ไม่รู้จะสอนนักเรียนให้เข้าใจได้ยังไง – ฟังแล้วก็จุกเลยแหละ ครูพูดแบบนี้ เรื่องนี้ก็ได้เล่าให้ครูใหญ่มันฟังด้วย) หลังๆ มา เวลาไปรับลูก ก็ไม่ได้เซย์ – เฮลโหล - กู้ดบาย - จี๋จ๋า ดังเดิม แถมมันส่งจดหมายถึงผู้ปกครองทั้งหมดว่า “มีอะไรคุยกันได้น้า..... มีเวลาให้พวกยูเสมอน้า....“ มันก็ไม่ได้เอ่ยชื่อออกนามว่าใครฟ้องครูใหญ่อะไรยังไง ก็คือตึงๆ กันแหละระหว่างแม่อีดีกะครูอีดีน่ะ เป็นว่าวันนั้น คุยกับมิสเตอร์สเปนเซ่อร์ คุณครูใหญ่ไป 1 ชั่วโมงเศษๆ พอตอนจบยังมาชมว่าเราเป็นแม่ที่ดีมากๆ นะ เอาใจใส่ลูก ยังหยอดทิ้งท้ายว่าน่าจะคอนเวิร์ทเป็นแคธอลิทนะ อ้าววว.....ท่าจะบ้า ผัวยังไม่กล้าพูดแบบนี้เลย 555555 เป็นพุทธ ยังเป็นได้ไม่ดี จะให้เป็นแคธอลิค 55555

Friday, March 7, 2008

ไอ้เตี้ยทำเลอะอีกแล้ว


วันนี้ก่อนไปรับลูกจากโรงเรียน แวะไปแบ๊งค์ พอมีเวลาเหลือเลยแวะไปหาอะไรเย็นๆ ดูดดด....ซะหน่อย ไปบั๊คส์ ลากแฟล๊ปปุชชิโน่ปั่นอย่างเดิม แล้วก็สั่งสตรอเบอรี่เลมอนเหนดให้ลูกๆ แบ่งกันดูด ขับรถไปก็เอื้อมไปเอาให้ไอ้ตัวเล็กดูด พอเห็นว่าถือแก้วดูโอเคก็เลย ปล่อยไปก่อน ไม่ต้องดึงกลับไปมา มันก็โอเคมาตลอดฟรีเวย์ พอถึงโรงเรียน ก็นั่งกินหนมกัน รอเวลาโรงเรียนปล่อยเด็กๆ ออกมา พอเหลือบเห็นลูกก็เลยผละจากไอ้ตัวเล็ก เดินไปรับไอ้ตัวใหญ่ โรงเรียนนี้ไม่ให้นักเรียนเดินออกมานอกรั้วโดยไม่มีผู้ปกครองรอรับ พอได้ตัวไอ้หนูดี พี่มันเก็บกระป๋งกระเป๋าใส่ท้ายรถเรียบร้อยก็ “กรี๊ดดดดดดดดด...” เลย ไอ้อ้วนได้เทน้ำปั่นราดตัวเองซะแล้ว ถุงไดเป้อก็ไม่ได้เอามา ก็เลยไม่มีผ้าผ่อนอะไรก็ให้ซับ เช็ด มีแต่ทิชชู่ เลยต้องฮ้อกลับบ้านด่วยจี๋ แผนที่ว่าจะไปเติมน้ำมัน แล้วพาลูกไปกินข้าวที่ “เพอโก้ส์” ตามที่พ่อมันสั่งและฝากตังค์ไว้ ก็เป็นอันล้มลง (น้ำมันวันนี้แพงขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้น้ำมันขึ้นราคาเป็นรายนาทีเลย วันนี้ ไร้สารธรรมดา อยู่ที่แกลลอนละ $3.49….. เซ็งจัง)

พอถึงบ้านอีหนูดีก็เอาจักรยานออกไปร่อนเร่ที่หน้าบ้านนิดนึง แล้วให้มันเอาน้องไปล้างน้ำในอ่าง ส่วนตัวเองรีบไปอบไส้กรอกกับอุ่นข้าวเหนียวให้ลูก แล้วก็รีบเอาคาร์ซีทมาแกะออกแล้วเอาผ้าหุ้มมันไปซัก ก็วางแผนไว้แล้วนะว่าจะรื้อออกมาซักซะที มันเทโน่นนี่คว่ำใส่ประจำ แต่ไม่ได้คิดจะทำวันนี้ แถมวันนี้วันศุกร์ ต้องไปรับอาหารไปส่งฝาละมีที่โรงงานด้วย เป็นว่าต้องใช้รถ ใช้คาร์ซีทอีกรอบ ก็คาดว่ามันคงจะแห้งทัน จะอบแบบร้อนๆ เดี๋ยวจะหดเดี้ยงซะอีก จะเอาคาร์ซีทเบบี้ให้มันนั่ง-ก็คงไม่เวิ๊ร์ค มันจิ๋วไปนิด คิดไว้แล้วนา.... ว่าจะซื้อคาร์ซีทถูกๆ ไว้อีกอัน เผื่อฉุกเฉิน แต่ไม่ได้ซื้อซักที คราวนี้ก็เลยคิดว่า วีคเอนด์นี้ไปลากมาเลยดีกว่า ทุ่มสุดๆ 60 พอ อันที่ใช้อยู่ก็ราคากลางๆ ประมาณ 200 ขออย่าให้ไอ้ผ้าหุ้มมันหดเล้ยยยยยย สาธุ ลูกช้างไม่อยากเสียก๊ะตังอีก กะว่าใช้อันนี้ไปถึง 3-4 ขวบเลยน้า.....

ช้อปเสื้อผ้าให้ลูก


วันนี้ไปลากซื้อเสื้อผ้าให้ลูกทั้ง 2 ตัว ได้เสื้อผ้าใหม่คนละภูเขา ม้าม่าไม่ได้อะไรนอกจากยาแก้คันขี้เรื้อน 5555 ยังไม่ได้ถ่ายรูปเสื้อผ้า ดูใบเสร็จไปก่อน ของลูกชายได้ดิสเค้าท์สะใจ 10% + 15% ส่วนของหญิงดีเธออยากใส่เสื้อผ้ายี่ห้อนี้มานาน แม่เลยกลั้นใจพาไปลากมาให้ฝูงนึง และลูกไม่มีเสื้อผ้าสวยๆ รับสปริง-ซัมเม่อร์ หรือเวลาวันที่ลูกได้ใส่ฟรีเดรส ก็เป็นที่น่าสงสารดูไม่เริ่ดเปิ๊ดสะก๊าดเหมือนเพื่อนๆ แล้วก็โตเร๊วเร็ว แป๊บๆ เดี๋ยวคับ เดี๋ยวคับ แถมหาซื้อเสื้อผ้ายากมากด้วยตอนนี้ เพราะอยู่ตรง “บีทวีน” อีกแล้วคับท่าน บีทวีนเด็กหญิงกับทีนเอจ เสื้อผ้าเด็กหญิง ไซ้ส์ 16 ใหญ่ยักษ์สุดบางแบบก็พอใส่ได้อีกแป๊บนึง บางแบบก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ แถมเสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์ใหม่ๆ เค้านิยมใส่คับๆ ติ้วๆ จิ๋วๆ ซึ่งมันก็ไม่เหมาะกับอีหนูดีเอาซะเลย จริงๆ มันก็ไม่เหมาะและดูไม่น่ารักกับเด็กๆ ทั่วไปแหละ โดยเฉพาะเด็กอ้วนพีแบบหนูดี แต่พอเลือกซื้อเสื้อผ้าวัยรุ่น วัยสาว ก็คอกว้างขวางซะ นมที่เพิ่งจะแหลมๆ แทบจะโผล่ออกมาตรงคอเสื้อ เซ็งจิตจริงๆ เสื้อวัยรุ่นบางทีก็ผอมลีบซะน่าขำ สงสารอีหนูอ้วนของดิฉันจริงๆ

Tuesday, March 4, 2008

หายไปนาน กลับมาแล้ว


หายไปนาน หายไปเลย เลยมีเรื่องต้องเล่าให้โลกได้รู้ค้างสต๊อกอยู่เยอะ จะค่อยทะยอยๆ โพลต์แล้วกัน ชีวิตก็ยุ่งๆ บ้าๆ บอๆ ตามปกติ บางวันก็มีเรื่องงี่เง่าต้องแก้ บางวันก็เบื่อๆ เหงาๆ เซ็ง บางวันก็เหมือนยู้ง.... ยุ่ง... วิ่งหางชี้โน่นนี่นั่นทั้งวัน ไม่ได้อะไรขึ้นมา นั่นก็ไม่เสร็จ นี่ก็ไม่แล้ว กับข้าวกับปลาก็ทำกินบ้างตามกำลังความขยัน ส่วนวันนี้ทำจับฉ่ายให้ลูกๆ กิน จริงๆ แล้วตัวเองก็โปรดจับฉ่ายมาก วันนี้ใส่ขาหมู กระดูกหมู และ หมูกรอบที่ได้มาจากบ้านเจนนี่ตั้งแต่ตรุษจีน “ขังไว้นาน” จนลืมไปแล้ว เอามาสับๆ ใส่ลงไปก็อร่อยดี ส่วนผัก ไปลากมาจากร้านลาว หน้าตาคล้ายๆ กวางตุ้ง คล้ายๆ ผักกาด ผักคะน้า เป็นใช้ได้ ลากมาเยอะแยะ รวมทั้งหัวไชเท้าด้วย สับๆ หั่นๆ ล้างให้สะอาด โยนลงหม้อไป ลูกสาวแสนสวยชอยซุปนี้ด้วย โดยเรียกซุปของโปรดนี้ว่า “ไทย มินิสสะโตรเน่ ซูป not Italian Minestrone Soup” แล้วแต่มันจะเรียกเถอะเน๊าะ ขอให้มันกินผักบ้างเถ้อออออ...

กระจกรถแคร๊ก
แต่ละวันจะมีเรื่องให้ปวดหัว ให้ตื่นตะหนก อยู่เรื่อยๆ ไม่เคยขาด จะปวดกะบาลมากกว่าปกติถ้าเป็นเรื่องที่ต้องเสียตังค์ เพราะยิ่งรวยๆ อยู่ ฮึ...เช้าวันนึง 2 อาทิตย์ได้แล้ว ขับรถไปส่งอีอ้วนที่โรงเรียน หมอกก็หนา อากาศก็หนาว เลยออกไปติดเครื่องรถเปิดฮีทเต้อร์พอให้รถอุ่นๆ ซะหน่อยก่อนที่ลูกจะเข้าไปนั่งในรถ พอเริ่มออกจากบ้าน เห็นอะไร “แปล๊บๆ” ตรงหน้ากระจก พอมองไปดู อ้าว..กระจกร้าวนี่หว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย ทำไมเพิ่งเห็น รอยร้าวยาวประมาณ 4-5 นิ้วได้ พอขับไปอีกหน่อย รอยร้าววิ่งลิ่วๆ เลย จากนิ้วเป็นฟุต อีหนูดี “กัวน่ะแม่ กัวๆๆ” เลยปิดฮีทเต้อร์ซะหน่อย เพราะคิกว่า ความอุ่นภายในรถกับความเย็นนอกรถน่าจะเป็นสาเหตุอย่างนึง (อิฉันเป็นยอดนักวิทยาศาสตร์ค่ะ มิใช่ไสยาศาสตร์) ปิดฮีทเต้อร์ก็ไม่ใช่จะแก้ไขรอยร้าวอะไรได้หรอก เพียงแต่น่าจะทำให้รอยร้าวมันหยุดวิ่งแบบนั้นลงบ้าง พอขากลับบ้าน ก็แบบ “เปี๊ยะๆ” ต่อมาอีกซัก 2-3 นิ้ว สรุปว่า น่ากลัว เพราะไม่อยากให้มันลั่นโพล๊ะแหกแตกละเอียดเวลาขับรถไปกับลูกน้อยกลอยใจทั้งสองตัว

พอบ่ายไปรับลูก ขับรถออกไปร้านกระจกที่เคยเอาฮุนไดไปเปลี่ยนกระจกเมื่อ 2 ปีก่อน (เนื่องจากรถถูกทุบ เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน) ปรากฏว่า หาไม่เจอ มันปิดกิจการไปแล้ว ทำไงดีวะ งงเต๊กเลย ตาหูเหลือกขับกลับเข้ามาในเมือง ชะแว๊บเห็บป้าย “ซ่อมกระจกร้าว เปลี่ยนกระจก” ก็ขับทิ่มเข้าไปในร้านมันเลย ไอ้เม๊กออกมาถามไถ่ เราก็ร่าย..นิดหน่อยแล้วก็แจ้งไปว่าอยากเปลี่ยนวินชิลด์ใหม่ ไอ้ดำเจ้าของร้านก็ออกมาจ๊ะจ๋า บอกว่าซ่อมได้นะ ยิงเจาะแล้วใช้กาวพิเศษ สะต๊อปมันไม่ให้รันไปอีก เลยถามไปว่าเท่าไหร่ คงทนอีกนานแค่ไหน มันบอกใช้ได้อีกปีนึง ไอ้บร้า... ปีเดียว ค่าซ่อม 75 เปลี่ยนใหม่ 130 บร้าป่าววะ เลยตกลงว่าจะเปลี่ยนใหม่ มันบอกวันนี้งานยุ่งให้มาพรุ่งนี้แต่เช้า ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เออ แล้วเจอกันพรุ่งนี้

ตื่นเช้าเอาลูกไปส่งโรงเรียน แวะเอารถไปทิ้งให้ไอ้ดำ อีก๊อตขับรถไปรับกลับบ้าน วันนั้นเอารถอีก๊อตไว้ใช้ เลยต้องขับรถไปส่งปั๋วไปทำงาน พอเวลาลูกเลิกเรียน รับลูกแล้วเลยแวะไปรับรถ แล้วจะขับรถไงวะทีละ 2 คัน 55555 แผนแรก คือจะขับอีโตโยต้ากลับบ้าน เพราะคันนั้นมีเบบี้คาร์ซีท แล้วทิ้งอีฮุนได้ไว้ที่ร้านไอ้ดำ (โชคดีว่า “จิน” มันมาพักอยู่ด้วย เลยมีเบบี้ซิทเต้อร์ ไม่ต้องแบบลูกน้อยหอยสังข์ออกไปด้วย) พอถึงบ้านก็จะหอบลูกสองตัว เพื่อนหนึ่งตัว ใส่อีโตโยต้ากลับไปร้านไอ้ดำ แล้วให้ไอ้จินขับอีฮุนไดกลับบ้านให้ แต่ก็หวาดๆ เพราะจินมันไม่มี “ต้นขับขี่” 55555 แต่เอาเข้าจริงผิดแผน และไม่ยุ่งยากอย่างแผนที่วางไว้ ไอ้ดำมีลูกน้องว่างอยู่คน มันเลยให้ขับ “อีฮุน” มาส่งที่บ้าน ก็หวาดๆ อีแหละ ให้คนแปลกหน้ารู้ที่อยู่ เอาวะ ไม่มีทางเลือกมากนัก เอาให้มันเสร็จๆ ไปซะเรื่อง เลยได้ไอ้หนุ่มน้อยเม๊กขับอีฮุนมาส่งบ้าน เราก็เอาอีหนูดีไปโยนทิ้งให้น้าจินเลี้ยงอีกคน แล้วก็ขับ “อีโตต้า”ไปส่งไม้เม๊กคืนที่ร้านมัน จบข่าว อ้อสรุป ค่าเปลี่ยนกระจก ไม่ใช่ 130 ตามที่ตกลง ซ้อรี่แมม ค่านั่นด้วย ค่านี่ด้วย ฆ่าโน่นอีก รวมแล้ว 175 ย่ะ ไอ้ดำ ไอ้เวน พอเห็นล้วงเงินสดจ่าย เลยลดให้ 5 บาท

ปรากฎเรื่องไม่จบแค่นั้น วันรุงขึ้นขับรถไปซื้อกับข้าวที่เฟรสโน่ รถทำไมมันดังอื้ออึงแปลกๆ วะ จึงได้พบว่า กระจกติดตั้งไม่ดี มี “แก๊ป” เลบมีเสียงลมแทรกเสียดสี ก่อความรำคาญเป็นอย่างมากๆ ก็เลยต้องมีการเอารถไปทิ้งให้มันแก้ไขอีก เซ็งโว้ยย..... แต่คราวนี้ไปรอ เพราะมันบอก แค่ชั่วโมงเดียว เลยพากลูกกะเพื่อนเดินไปนั่งกินไชนีสบั๊ฟเฟ่ต์ แถวๆ นั้น กินกินจนเหนื่อย ไม่เคยกินบัฟเฟ็ต นานขนาดนี้ กินจนอาย กินจนอืด ครบชั่วโมงก็เบย เดินไปเอารถคืน ปากฎรถเสร็จตั้งนานแล้ว ไอ้ดำเจือกไม่โทรตาม-ตามที่ตกลงกันไว้ เราก็ร้อ....รอ..... กินๆๆๆๆๆๆ อิ่มแทบอ้วก ความผิดของไอ้ดำ 55555 จบเรื่องกระจกรถแคร๊ก ปะการะชะนี้