Thursday, January 19, 2012

พิธี ขึ้นบ้านใหม่ / เข้าบ้านใหม่

ต้องขอขอบคุณข้อมูลต่างๆ ในบล็อกนี้ ซึ่งอิชั้นเซฟมาจากหลายที่หลายแห่ง บางหัวข้อก็ลืมที่จะเซฟที่มา ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ทั้งข้อมูลและรูปภาพทั้งหมดไม่ได้มีรูปใดๆ หรือเนื้อหาใดๆ จากอิชั้นเลย ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ

- * – * – * – * - * – * – * – * - * – * – * – * - * – * – * – * - * – * – * – * - * – * – * – * - * – * – * – *

บ้านเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว พิธีการ ขึ้นบ้านใหม่ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยกำหนด ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ตามหลักวิชาและสะดวกกับเจ้าบ้าน

ก่อนการขึ้นบ้านใหม่

1. บริเวณบ้านที่จะไปอาศัยอยู่  หากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้ๆ
ให้ไปไหว้แสดงความเคารพ และขอพรให้ท่านคุ้มครองดูแลให้มีความสุขความเจริญ และให้ทำบุญสังฆทาน และอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของครอบครัว เจ้าที่และวิญญาณที่อาศัยอยู่ในสถานนั้น

 

2. ในกรณีที่เป็น บ้านใหม่ หรือบ้านนั้นยังไม่เคยเข้าไปอยู่อาศัย
ก่อนย้ายเข้า เราสามารถปรับสภาพกระแสภายในบ้านให้ปราศจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย โดยการทำ พิธีล้างปรับสภาพ

 

3. การทำพิธี ขึ้นบ้านใหม่ ต้องใช้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
จึงจะเกิดความร่มเย็นเป็นสุข ท่านสามารถ หาฤกษ์ ขึ้นบ้านใหม่ ผ่านหน้า บริการหาฤกษ์

 

ก่อนได้ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่

1. ให้ดับไฟในบ้าน

2. ให้ทุกคนออกนอกบ้าน รวมตัวกันที่หน้าบ้าน

เมื่อได้ฤกษ์ ขึ้นบ้านใหม่

1. ให้เดิน เข้าบ้านใหม่ จัดตั้งองค์พระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อื่นๆ เพื่อให้ท่านช่วยคุ้มครองปกปักรักษา ให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข
ในทางปฏิบัติ เราควรกำหนดจุดตั้ง และเตรียมอุปกรณที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า เพื่อสะดวกในวันทำพิธี และจะได้ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เสร็จทันในฤกษ์

2. หากต้องการนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาก่อน ให้ใส่กล่องทึบและวางไว้โต๊ะกลางบ้าน เพื่อจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับทิศทาง และหากอัญเชิญมาจากที่บ้านเก่าต้องดูฤกษ์อัญเชิญลง จัดของไหว้ถวาย (ตามแต่ประเพณีและความนิยมของบุคคล) ดีที่สุด ควรเป็นผลไม้ห้าอย่าง (ครบห้าธาตุ  - ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ) ไม่ควรเป็นเนื้อสัตว์ เพราะเท่ากับเบียดเบียนชีวิตอื่น

3. วันแรกให้จุดธูปจริง เทียนจริง เพื่อให้เกิดควัน (ควันเป็นสื่อถึงแสดงออก ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเชิญได้รับรู้) และขอพร (อย่าขอหลายอย่าง ให้ขอเท่าที่สำคัญและจำเป็น)

4. ก่อเตาหุงต้ม (จุดเตาแก๊ส  คือการเริ่มต้นอยู่กิน และหมายถึงมีกินมีใช้ (ในสมัยโบราณจะใช้วิธีการถือ เตาถ่าน เข้าบ้าน แต่ปัจจุบันสามารถใช้วิธีนี้แทน) แนะนำให้ต้มขนมอี๋เพื่อเป็นสิริมงคล

5. ตั้งเตียงและนอนค้างคืน หมายถึงมีที่นอน อยู่เย็นเป็นสุข (ในความเป็นจริงส่วนใหญ่จะตั้งเตียงอยู่แล้ว เราเพียงแต่ดันขยับอีกเล็กน้อยพอเป็นพิธี) (การปูเตียง ก็เพียงยกหมอนขึ้นแล้ววางลง ตบฟูกแบาๆ)

6. บุคคลที่ถูกปะทะใน ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ให้เดินตามหลัง (อย่าเป็นผู้เดินนำหน้าหรือเป็นผู้ประกอบพิธี)

7. หากที่บ้านทิ้งช่วงทำบุญมามากกว่า 1 ปี ควรดูฤกษ์ แต่หากทำต่อเนื่องทุกปีไม่ต้องดูฤกษ์ (วิธีที่ง่ายกว่าคือ : ไปทำบุญสังฆทานที่วัด แล้วอุทิศให้เจ้าที่ และวิญญาณทั้งหลายที่อาศัยในบ้านหลังนี้ ขอให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข)

 

ขอขอบคุณ > > http://www.fengshuitown.com/fengshui/fengshui-tip-ceremony-new-home.htm

 

สิ่งของที่ต้องเตรียมเข้าบ้านใหม่ครั้งแรก

1. พระพุทธรูป

2. เครื่องบูชาพระ เช่น   ธูป เทียน กระถางธูป แจกันดอกไม้

3. ดอกไม้มงคลที่นำมาไว้โปรยรอบๆบ้าน
    -  เหรียญ  จะเป็นเหรียญ บาท หรือสิบบาทก็ได้ค่ะ = เงินทองเต็มบ้าน
    -  ดอกดาวเรือง = ความรุ่งเรือง เจริญรุ่งโรจน์
    -  ดอกกุหลาบ = เส้นทางข้างหน้าต่อไปจะได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
    -  ดอกรัก = ความรัก ความเอื้ออาทรกัน
    -  ข้าวตอก ถั่ว งา = ความเจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป

4. ถังน้ำ ถังข้าวสาร (ใส่เต็มถัง) = ความอุดมสมบูรณ์

5. หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง กะปิ น้ำปลา น้ำตาลทราย เกลือ = ข้าวปลาอาหารมีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน

6. เงินแบงค์  900 บาท เงินเหรียญอีก 99 บาท เป็น 999 = มีแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป

7. กล่องใส่ทอง เพชร หรือเครื่องประดับ อัญมณีมีค่า = ความร่ำรวย มั่งมีเงินทอง

8. ของไหว้เจ้าที่เจ้าทางมีผลไม้ 5 ชนิด
        1. กล้วย  =   กล้วยคือผลไม้มงคล ที่เชื่อว่าเป็นตัวแทนแห่งการขยายสาขา กิจการ การมีบุตรสืบสกุล มีบริวารมาก
        2. มะพร้าว  =  ความบริสุทธิ์
        3. สาลี่  =  การรักษาคุณงามความดีเอาไว้อย่างมั่นคง หรือรักษาซึ่งโชคลาภเงินทองมิให้เสื่อมถอย
        4. ทับทิม  =  คุ้มครองกันภัย
        5. ส้ม  =  ความโชคดี ประสพแต่สิ่งดีๆเป็นสิริมงคล

9. ขนมมงคลไทย 5 อย่าง เช่น   ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน และขนมถ้วยฟู

10. หมากพลู

11. พวงมาลัยดาวเรือง

12. น้ำเปล่า

สำหรับพิธีการ

1. เมื่อไปถึงบ้านก่อนฤกษ์ให้เตรียมสิ่งของที่จะนำเข้าบ้านให้พร้อม ใครเข้าบ้านก่อนถึงฤกษ์ก็เลยต้องเตรียมอุปกรณ์กันที่นอกบ้าน

2. ก่อนเข้าประตูหน้าบ้าน (เจ้าของบ้าน) หยิบหินขึ้นมา 1 ก้อนกำไว้ในมือแล้วกลั้นหายใจอธิษฐานขอให้จิตใจหนักแน่น และแข็งแกร่งเหมือนหิน มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นนับแต่นี้ไป สิ่งร้ายๆอย่าได้แพ้วพาล แล้ววางหินลงหน้าบ้าน จากนั้นให้คุณพ่อเป็นคนเดินนำอุ้มพระพุทธรูปเข้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ให้คุณป้า(ที่รวยที่สุด) ถือพานเงิน, ทอง ตามเข้าบ้าน  คุณแม่ถือข้าวสารอาหารแห้ง และคนอื่นๆก็ช่วยกันถือของอื่นๆ ตามเข้ามา

3. นำพระพุทธรูปวางที่ห้องพระที่เราจัดเตรียมไว้ จุดธูปเทียนอธิษฐานจิตให้ท่านคุ้มครอง และอวยพรให้เราประสพพบเจอแต่สิ่งดีๆ ของเรา วันดีเรานำพระเข้าบ้าน และไหว้เจ้าที่ด้วย ซึ่งที่บ้านใหม่ไม่ได้ตั้งศาลเจ้าที่ เราก็ดำเนินการโดยจัดเป็น 2 ที่ (โต๊ะเล็กๆ ก็ได้)

1 คือวางพระพุทธรูปที่เราต้องการจะนำไปบูชาในบ้าน วางไว้ที่ห้องที่เราต้องการจะเป็นห้องพระ จะกี่องค์ก็ตามใจ ของเราใช้ 3 องค์ พอดีเป็นพระที่เราชอบทั้ง 3 องค์ คือ 1.องค์ที่เราต้องการให้เป็นพระประธาน , พระพุทธรูปปางประจำวันเกิด, และพระพุทธรูปองค์อื่น จัดผลไม้ 5 อย่าง 1 ที่, น้ำสะอาด 1 แก้ว, ดอกไม้ , ธูป, เทียน จุดธูปอธิษฐานตามที่ใจเราปรารถนา

2. จัดอีก 1 ที่ ไหว้เจ้าที่ประจำบ้านของเรา จัดอาหารคาวหวาน (เป็นปิ่นโตก็ได้), ผลไม้ 5 อย่าง, น้ำสะอาด ดอกไม้ ธูป เทียน จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่แจ้งให้ท่านทราบว่าเราจะมาอยู่ ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข, อยู่แล้วร่ำรวย, อธิษฐานตามใจปรารถนา ให้เปิดหลอดไฟให้สว่างทุกดวง (ไม่จำเป็นว่าแสงเข้าบ้านแล้ว จะไม่เปิด ขอให้เปิด) หากมีโทรทัศน์ หรือวิทยุ ก็ขอให้เปิดให้มีเสียง

ส่วนเพิ่มจะทำหรือไม่ทำก็ได้อันนี้ทำเนื่องจากผู้ใหญ่สอนมา จัดข้าวสารอาหารแห้ง (เช่น ข้าวสาร 1 ถุง, พริก , หอม กระเทียม, น้ำปลา , กะปิ ฯลฯ เป็นต้น) น้ำสะอาดสำหรับดื่ม (เป็นแพ๊ค หรือขวดใหญ่ก็ได้) , เงินทอง (ของเรานับเหรียญ 10 ซึ่งมีทั้งสีเงินและสีทอง 9 เหรียญ , หากมีทรัพย์สินที่เป็นทองคำหรือแหวนเพชรธนบัตรต่าง ๆ ก็ได้ ในส่วนเพิ่มที่กล่าวมานี้ ให้วางไว้กลางบ้าน ตั้งแต่แรกก่อนที่จะจุดธูปไหว้พระ, ไหว้เจ้าที่ รอจนกระทั่งธูปดับ แล้วค่อยเก็บ เป็นเคล็ดให้บ้านนี้อยู่แล้วมีกินมีใช้ , มีเงินมีทองตลอดไปค่ะ

 

การตั้งโต๊ะหมู่บูชา, หิ้งบูชาพระ ให้ถูกทิศ

เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ตามบ้านเรือน จึงมักมีหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ตามกำลังศรัทธา และขนาดพื้นที่ของบ้าน

เมื่อคิดจะตั้งหิ้งพระ อย่าละเลยที่จะศึกษาตำราฮวงจุ้ยเสียก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วทิศที่นิยม ในการตั้งพระได้แก่ทิศเหนือ และทิศตะวันออก จะเป็นทิศที่ดี ที่จะเสริมดวงชะตา และนำมาโชคลาภ มาสู่ผู้อยู่อาศัย ตามหลักต่างๆ ต่อไปนี้ (ตามรูป)


การจัดตั้งหิ้งพระหรือหิ้งเทพ ควรหันหน้าพระประธานไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ทิศอิสาน เรียกว่า "ทิศเศรษฐี") หรือ ทิศตะวันออก หรือ ทิศเหนือ เป็นที่นิยมมาก เมื่อเราหันหน้าไปหาพระประธาน ด้านซ้ายมือของเราหรือเท่ากับด้านขวามือของพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานควรจัดตั้งด้วยองค์พระสงฆ์ เช่น รูปปั้นของหลวงปู่แหวน รูปหลวงพ่อคูณ ส่วนทางด้านซ้ายขององค์พระประธานหรือขวามือของเรา ควรจะเป็นการตั้งรูปแบบของ องค์เทพต่างๆ ที่เราเคารพสักการะบูชา เช่น รูปของ องค์พระศิวะ องค์พระนารายณ์ องค์จตุคามรามเทพ และ องค์พระพรหมรูปพ่อแก่ฤาษี เป็นต้น

ควรตั้งให้องค์พระประธานดูสูงกว่ารูปขององค์เทพต่างๆ ถ้าหากว่าองค์พระประธานมีขนาดเล็กกว่าองค์เทพ ก็ควรจัดหาโต๊ะที่ตั้งแล้วมองดูสูงกว่าฐานที่ตั้งเทพ บ้านเรือนหลังนั้นก็จะเจริญรุ่งเรืองอยู่เย็นเป็นสุข

ไม่ควรหันหน้าพระประธานตรงกับแสงพระอาทิตย์ที่ส่องเข้ามา (ทิศตะวันออก) ไม่ให้หันหน้าสู่ตะวันตก ถ้าหากมีตำราพระธรรมให้ตั้งทางขวาของพระพุทธหรือพระประธาน

การอัญเชิญพระเข้าบ้าน

นิยมหาฤกษ์ดี วันพุธ วันพฤหัส หรือก็วันศุกร์ ฤกษ์ดี มักเป็นเวลา 9:09, 9:19 หรือ 9:29 หรือบางคนจะเริ่มเช้าตรู่เลยก็ได้ หรือก็หาฤกษ์สะดวกแล้วแต่ แต่ห้ามเชิญพระหลังเพลเด็ดขาด เมื่อได้ฤกษ์ ให้เจ้าบ้านอุ้มอัญเชิญพระประธานเข้าประตูบ้านแล้วตั้งไว้บนหิ้งพระที่เตรียมไว้ นำเครื่องบูชา ขันห้า มาถวายหน้าพระประธานแล้วจุดธูป บูชาพระและขอพรให้ท่านปกป้องคุ้มครองให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขแคล้วคราดปลอดภัย

ขันห้าถวายพระ

เทียน ห้าเล่ม
ธูป ห้าดอก
เหรียญบาท ห้าเหรียญ
ดอกไม้ห้าดอก
ผลไม้ห้าอย่าง รวมในหนึ่งจานเล็ก จะอย่างละลูกก็ได้ หรือจะใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ห้าชนิดก็ได้ จะได้มีแต่ความงอกงาม ถ้าเป็นคู่รักก็ใช้น้ำตาล ชีวิตคู่จะได้หวานชื่น

วางขันห้าไว้หน้าพระพุทธแล้วจุดธูปบูชาต่างหากสามดอกอย่าใช้ธูปในขันห้านั้น เท่านี้ก็เสร็จพิธี ตั้งทิ้งไว้ทั้งวัน บางคนก็ทิ้งไว้ สามหรือเจ็ดวันก็ได้


การจัดหิ้งบูชานำความสิริมงคล

ทุกบ้านต้องมีหิ้งพระ จะเล็กหรือใหญ่ ก็แล้วแต่ตามอัตตภาพแต่ละคน นอกจากนั้นแล้วยังมีหิ้งเทพ หิ้งรูปบรรพบุรษ หิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็ตามที่จะต้องจัดตั้งไว้ในบ้านนั้น ทุกท่านต้องการรู้ว่าจะจัดตำแหน่งอย่างไรให้ถูกกับดวงชะตา และจะต้องดูแลพิเศษอย่างไร หากดูแลไม่ดีแล้วสิ่งที่เป็นสิริมงคลของบ้านก็ย่อมกลายเป็นอัปมงคลไปในที่สุด

๑. หิ้งบูชาต้องสะอาด หมั่นดูแลมิให้มีฝุ่นจับองค์พระหรือรูปเทพต้องสะอาด หากปล่อยให้หิ้งบูชาสกปรก คนในบ้านจะเจ็บป่วยและทำมาค้าไม่ขึ้นและ ควรหมั่นเปลี่ยนน้ำเปล่า และดอกไม้สดที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหิ้งเป็นประจำ อย่าปล่อยให้ดอกไม้แห้งเฉาคาทิ้งไว้ เพราะจะทำให้คนในบ้านมีชีวิตขึ้นๆลงๆไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่

๒. หิ้งพระต้องตั้งอยู่ในมุมสงบ อย่าตั้งไว้ในมุมที่พลุกพล่านของบ้าน อย่าตั้งหิ้งพระเหนือประตูซึ่งเป็นช่องทางเดินเข้า-ออก ถ้าจัดตั้งหิ้งพระในมุมที่พลุกพล่าน คนในบ้านจะมีแต่ความวุ่นวายไม่สงบสุข

๓. หิ้งบูชาพระหรือเทพไม่ควรติดตั้งบนผนังเดียวกันกับผนังของห้องน้ำและห้องครัว อีกทั้งยังไม่ควรหันองค์พระหรือหน้าหิ้งบูชาไปตรงกับประตูห้องน้ำหรือห้องครัวอีกด้วย มิเช่นนั้นคนในบ้านจะเจ็บป่วย มีแต่เรื่องขัดแย้ง เงินทองรั่วไหล

๔. ถ้าพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโด ก็ควรจัดตั้งหิ้งพระให้เหมาะสม หากวางบนหลังตู้ก็ต้องดูขนาดความสูงด้วย หิ้งพระควรตั้งสูงกว่าศีรษะของคนเราไม่ควรต่ำกว่านั้น หากตั้งหิ้งพระต่ำกว่าศีรษะคนเรา จะทำให้คนในบ้านจะไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้า อาชีพการงานเติบโตช้า จะถูกลดตำแหน่งลดบทบาทสายงาน

๕. ถ้าทำห้องพระในบ้าน ห้องพระควรสะอาด สงบ ไม่ควรนำข้าวของอื่นๆไปเก็บไว้ในห้องพระ และห้องพระไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำ หรือมีประตูตรงกับประตูห้องน้ำพอดี เพราะถือเป็นลักษณะอัปมงคล

๖. ไม่ควรจัดหิ้งบูชาไว้ปลายเตียงนอน ถือว่าไม่เป็นมงคลอย่างยิ่งและถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่ควรตั้งหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน เพราะคนเรามีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าหิ้งพระ เช่น การผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือการร่วมหลับนอนของคู่สมรส เป็นต้น ควรจัดหิ้งพระไว้ในมุมที่ไกลจากเตียง ถ้าพักอยู่ในห้องเดี่ยว หันองค์พระหรือเทพไปทางอื่นอย่าหันหน้าหิ้งมายังทิศทางที่เตียงตั้งอยู่

๗. หิ้งบูชาไม่ควรอยู่ในห้องรับแขก เพราะถือว่าเป็นบริเวณที่ค่อนข้างพลุกพล่าน ถ้าจำเป็นจริงๆก็อย่าตั้งหิ้งใกล้มุมที่ตั้งชุดเก้าอี้รับแขก และอย่าหันหน้าหิ้งบูชาเล็งใส่มุมตั้งชุดเก้าอี้รับแขกเพราะไม่ใช่ลักษณะที่เหมาะที่ควร หิ้งบูชาที่อยู่ใกล้เก้าอี้รับแขกจะมิใช่หิ้งประทับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อความศักดิ์สิทธิ์หายไปก็ย่อมปราศจากพลังที่ดีมาปกปักรักษาหรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในบ้าน

๘. หากตั้งหิ้งบูชาขนาดใหญ่ จำนวนองค์พระหรือองค์เทพบนหิ้งควรมีจำนวนเป็นเลขคี่ เช่น ๑,๓,๕,๗ และ ๙ องค์ ทั้งหลักฮวงจุ้ยและความเชื่อของไทยก็ล้วนระบุว่าไม่นิยมให้เป็นจำนวนเลขคู่

๙. ไม่ตั้งหิ้งบูชาไว้ใต้คาน มิเช่นนั้นดวงชะตาคนในบ้านก็คล้ายถูกกดทับ ยากเจริญรุ่งเรือง และมักจะมีเรื่องให้ปวดศีรษะอยู่เสมอ เมื่อยืนอยู่นอกบ้าน หากมองเข้าไปในบ้านแล้วไม่ควรมองเห็นหิ้งบูชาได้ถนัดชัดเจน ถ้ามองเห็นถือว่าไม่ดีควรจัดตั้งหิ้งบูชาไว้ในมุมสงบ และเป็นสัดเป็นส่วน มิใช่อยู่นอกบ้านก็สามารถมองเห็นได้ แต่ถ้าเป็นร้านค้าขายถือว่าไม่เป็นไร


ทิศต้องห้ามของคนเกิดในแต่ละปี กับการตั้งหิ้งพระ

คนเกิดปีชวด

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือเด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวง จนถึงขั้นเสียชีวิต

คนเกิดปีฉลู

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเด็ดขาด จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน

คนเกิดปีขาล

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเด็ดขาด จะส่งผลให้ผู้หญิง และสมาชิกในครอบครัว เกิดอันตรายได้

คนเกิดปีเถาะ

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออกเด็ดขาด จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง คนในบ้านจะเสียชีวิต

คนเกิดปีมะโรง

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเด็ดขาด จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหาย ทั้งชายและหญิง

คนเกิดปีมะเส็ง

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัว มีความยุ่งยากที่สุด จนหาความสงบสุขไม่ได้

คนเกิดปีมะเมีย

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน

คนเกิดปีมะแม

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝันได้

คนเกิดปีวอก

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว

คนเกิดปีระกา

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะผลให้ทุกข์โศกมาเยือน ครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ

คนเกิดปีจอ

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเด็ดขาด จะส่งผลร้าย ให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้

คนเกิดปีกุน

ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

 

 

 

เรื่องของการวางเทพบูชา กับหิ้งพระบูชา ไม่ควรวางรวมกัน

 

เรื่องของการวางเทพบูชา กับหิ้งพระบูชา ไม่ควรวางรวมกัน

เมื่อวานนี้ 09-02-53 ผมได้รับเชิญให้ไปดูฮวงจุ้ยที่โฮมออฟฟิคของเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง แถวสุขสวัสดิ์ ซึ่งความจริง มีไปดูมาหลายที่ แต่ไม่ค่อยได้นำมาโพสเล่าให้ฟัง แต่เมื่อวานรู้สึกมีเรื่องที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆหลายคน เลยจะนำมาเล่าให้ฟังกันครับ

1. แรกเมื่อไปถึงเลย ยังไม่ทันได้เข้าไปในอาคาร ผมก็รู้สึกถึงพลังที่ทั้งดีและไม่ดีบางอย่าง สะท้อนมา จึงได้เดินไปดูในจุดที่มีปัญหา ก็พอดีกับเพื่อนสมาชิกที่เป็นเจ้าของอาคารเดินออกมาทักพอดี จึงเดินไปดูในจุดที่ผมสงสัย ซึ่งพบว่าเป็นมุมท้ายสุดของอาคาร ที่บังเอิญไปเยื้องกับสุเหร่าพอดี อีกทั้งมุมสามเหลี่ยมช่วงนั้น เป็นจุดที่มีพลังของวิญญาณื้ทั้งดีและไม่ดีวนเวียนอยู่ จึงได้แนะให้เพื่อนสมาชิกแขวนสัญญลักษณ์บางอย่าง และในแต่ละอาทิตย์อาจนำอาหารมาเซ่นให้วิญญาณเหล่านี้ รวมถึงแผ่เมตตาให้เขา เพื่อให้เขาได้รับบุญที่ดี ที่สามารถอาจทำให้เขาได้ไปเกิดใหมด้วย ซึ่งย่อมส่งผลดีแก่ตัวเรา และอาคารเรา ซึ่งย่อมแน่นอนว่า ถ้าบริเวณห้องนอนของใครบังเอิญมาตรงกับตำแหน่งนี้ อาจจะนอนหลับไม่ค่อยสนิท และหรือมีลักษณะเหมือนโดนผีอำได้

ภายหลังเพื่อนเจ้าของอาคารได้พาเดินไปที่ห้องพักของคนงานในบริเวณดังกล่าว ผมได้ถามไปที่พนักงานท่านนั้นว่า เคยรู้สึกไม่ค่อยดีอะไรหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่ จึงได้ทักไปว่า มีของดีสิท่า เมื่อเข้าไปในห้องพักจึงพบว่า มีหิ้งบูชาอยู่สองหิ้ง เป็นหิ้งพระหิ้งหนึ่ง และหิ้งของเทพทางฮินดูอีกหิ้งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะผมมักพบว่า การนำเทพต่างๆมาบูชา ส่วนมากมักจะวางรวมกันไว้กับหิ้งพระ ซึ่งไม่ถูกต้องมากนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแม่กวนอิม หรือพระพิฆเณศ หรือเทพองค์อื่น ห้ามนำมารวมไว้กับหิ้งพระนะครับ ให้แยกต่างหาก และมีกระถางธูปพร้อมของบูชาถวายแยกต่างหากกันนะครับ อันนี้รวมถึงภาพเคารพต่างๆ หรือภาพเคารพของอดีตกษัตริย์ ก็ควรวางแยกกับหิ้งพระไว้ด้วยครับ

หลายท่านอาจสงสัยว่า เทพแต่ละองค์เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา และทรงช่วยเหลือมนุษย์อยู่แล้ว คงจะไม่เป็นไร แต่ไม่ว่ารูปเหมือน หรือวัตถุมงคลต่าง โดยเฉพาะถ้าผ่านพิธีที่ถูกต้อง จะมีพลังนุภาพในเทพแต่ละองค์นั้นๆ ซึ่งพลังนุภาพเหล่านี้อาจรบกวนกัน อีกอย่างเทพแต่ละองค์ก็โปรดของบูชาไม่เหมือนกัน เช่นเจ้าแม่กวนอิม ท่านทรงโปรดอาหารแจและน้ำชา แต่ถ้าเทพอย่างพระพิฆเณศนั้น ทรงอาหารทิพย์อยู่แล้ว จึงโปรดแต่น้ำหวาน หรือของหวานต่างๆ จะเห็นว่าขัดกันนะครับ จึงควรแยกหิ้งให้ถูกต้องจะดีกว่า และผมค่อนข้างแปลกใจที่พนักงานท่านนั้น กลับเป็นผู้รู้จริงมากกว่า คนระดับเจ้าของอาคารอื่นๆที่ผมพบหลายคน บางคนวางรวมกันแล้วยังวางลำดับต่างๆผิดหมด และเมื่อมีปัญหาต่างๆ เวลามาอธิษฐานขอให้เทพแต่ละองค์ช่วย ก้มักจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะเหตุนี้นะครับ ดีไม่ดี อาจเกิดผลเสียอีกด้วย

2. เรื่องของลำดับชั้น ของเทพแต่ละองค์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก และต้องศึกษาจริงๆ ถ้านำมาไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาบ้านเรา ที่มีลักษณะเป็นชั้นๆ ถ้าเราวางตำแหน่งไม่ถูกต้องเทพองค์ไหนควรอยู่บนหรืออยู่ล่าง จะมีปัญหาแน่นอน ดังนั้น แม้เราจะเคารพ แต่ก็ควรต้องศึกษา ก่อนนำมาขึ้นหิ้ง ควรหาความรู้ไว้ หรืออย่างน้อยซักถามจากแหล่งที่มา หรือที่ไปเช่ามา จะได้ปฎิบัติให้ถูกต้องนะครับ

แม้แต่รูป ฮก ลก ซิ่ว วางเรียงไม่ถูกก็ยังมีปัญหาเช่นกัน ที่ห้องโถงของเจ้าของอาคาร มีภาพ ฮก ลก ซิ่ว แขวนไว้ เจ้าของเองเล่าว่า เมื่อก่อนทีบ้าน คนในบ้านมีปากเสียงกันบ่อยๆ จนครั้งหนึ่งมีคนมาทักว่า วางตำแหน่งหรือเรียงผิด จึงได้จัดวางใหม่ให้ถูก ภายหลังก็พบว่าปัญหาต่างๆเหล่านี้ ค่อยๆแก้ไขได้ ซึ่งเมื่อพบได้ดูก็แจ้งให้ทราบว่า วางตามนี้ถูกต้องแล้ว (ตามรูปประกอบนะครับ) และไม่ต้องนำไปไว้ที่หิ้งพระนะครับ ในทางศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้น กล่าวไว้ว่า ที่ที่เหมาะสมที่จะวาง ฮก ลก ซิ่ว (Fuk Luk Sau) ในบ้านนั้น ควรวางไว้ข้างๆ โต๊ะรับประทานอาหาร หรือ ห้องนั่งเล่นของครอบครัว โดยควรวางไว้บนโต๊ะที่สูงที่สุดในบริเวณห้องดังกล่าว ไม่ควรวางไว้บนโต๊ะที่ต่ำกว่าโต๊ะตัวใดตัวหนึ่งบริเวณนั้น เพื่อแสดงความเคารพแก่ท่าน หรือ บางครั้งอาจมีการนำไปไว้ข้างหลังเก้าอี้ทำงานก็ได้ เพราะ จะแสดงถึงพลังของ ฮก ลก ซิ่ว ที่คอยช่วยเหลือ ค่ำชู ผู้ที่นั่งบนเก้าอี้ตัวนั้น
วิธีการจัดวาง ฮก ลก ซิ่ว ถ้าเราหันหน้าเข้าหาท่าน ทางซ้ายมือของเราจะต้องวาง เทพลก ส่วนตรงกลางเป็น เทพฮก และทางขวามือสุดของเราวาง เทพซิ่ว การวางต้องตั้ง เทพฮกไว้ตรงกลาง เพราะถือว่าเมื่อมี เทพลก และ เทพซิ่ว แล้วจึงมี เทพฮก คือ อายุยืน และ มั่งมีก่อน จึงจะมีอำนาจวาสนา

หลังจากนั้น การจดวางภายในอาคารก็ได้แนะนำให้เจ้าของอาคารทราบและปรับปรุง ซึ่งบางจุดผมก็ได้ทักก่อนว่า ไม่ดี อย่างห้องนอน เอาเตียงมาไว้ตรงนี้หรือนอนตรงนี้ไม่ดี ตัวเจ้าของเองก็บอกว่า จริง เพราะมานอนตำแหน่งนี้ทีไร รู้สึกนอนหลับไม่สนิท ตื่นมาก้ปวดเมื่อยไปหมด จนบางครั้งก็เหมือนถูกผีอำ ซึ่งผมก็ได้แนะนำตำแหน่งที่ดีที่ควรนอนให้ทราบ การปรับเปลี่ยนนั้น ผมจะพยายามเน้นให้มีแค่การย้ายตำแหน่ง การนำบางอย่างมาวาง หรือกั้นปิด โดยให้การทุบริ้อนั้น เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะแนะนำ ควรทราบว่า ตำแหน่งทั้งแปดทิศภายในอาคาร จะต้องผ่านการคำนวนจากวันเดือนปีเกิดของเจ้าของอาคารเป็นหลัก ดังนั้นแต่ละท่านจะมีตำแหน่งที่ดี และไม่ดี ทั้งแปดทิศไม่เหมือนกัน การอ่านจากหนังสือว่าทิศนั้นดี ทิศนี้ไม่ดี ก็เหมือนคำแนะนำที่เป็นกลาง เหมือนการทำนายว่าคนเกิดวันจันทร์ ดีหรือไม่ดี ไม่ใช่การนำวันเดือนปีเกิดของคนนั้นเองเลยมาทำนาย ซึ่งย่อมจะได้คำทำนายที่ตรงมากกว่า ซึ่งก็เช่นกันที่ตำแหน่งที่อ่านมาว่าดี แต่ถ้าเป็นเฉพาะของเจ้าของอาคารแล้ว อาจเป็นทิศที่แย่ หรือเสียก็ได้ตำแหน่งทั้งแปดทิศของฮวงจุ้ย จะมีทิศที่ดีสี่ทิศ และไม่ดีสี่ทิศเช่นกัน ดังนั้นตำแหน่งทิศที่ดี จึงควรเป็นตำแหน่งห้องที่เราใช้ประจำ เช่นห้องนอน(เพื่อให้นอนแล้วสุขภาพดี), ห้องทำงาน(เพื่อให้นั่งทำงานแล้ว การงานราบรื่นไม่ติดขัด), ห้องนั่งเล่น(เพื่อสร้างความสามัคคีของคนในบ้าน)

ส่วนทิศที่ไม่ดี ก็อาจเป็นตำแหน่งของห้องที่เราไม่ค่อยได้ใช้ หรือไปอยู่ที่นั้นนานๆ เช่นห้องเก็บของ, ห้องน้ำ, ห้องครัว เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งก็แน่นอนว่า เมื่อมีการปรับเปลี่ยนและโยกย้าย รวมถึงคำชี้แนะว่าอะไรเหมาะ และไม่เหมาะไปแล้ว ผุ้อยู่อาศัยก็จะมีความสบายใจ หลายสิ่งหลายอย่างจากการที่ผมไปดูมาหลายที่ มักพบว่า จุดหรือตำแหน่งที่เป็นปัญหานั้น ส่งผลเสียจริงๆ และตัวเจ้าของอาคารเองก็รู้สึกว่ามีปัญหาจริงๆ หรือตำแหน่งไหนดีอยู่แล้ว ตัวเจ้าของก้รู้สึกว่าดีเช่นกัน แม้จะไม่ต้องปรึกษาผู้รู้ทางด้านฮวงจุ้ยเลยก็ตาม


ไว้คราวหน้าถ้าผมไปดูฮวงจุ้ยที่บ้านใดแล้ว มีอะไรที่ดูจะมีประโยชน์จะมาเล่าให้ฟังบ่อยๆนะครับ

อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ www.modonut.net Tel 084-122-6913

 

 

การจัดฮวงจุ้ยหิ้งพระ และการจัดฮวงจุ้ยห้องพระที่เป็นมงคลอันรุ่งเรืองดีงามต่อผู้ที่อยู่อาศัย

1. เราไม่ควรที่จะเลือกตั้งวางหิ้งพระ หรือตั้งวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไว้ตำแหน่งที่เป็นพื้นที่ภายในของห้องครัว (ห้องครัวเหม็น คือ…ห้องครัวที่ใช้ประกอบอาหาร) เพราะถือว่าไม่เป็นมงคลต่อผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านหลังนั้นๆ เป็นอย่างยิ่ง

2. เราไม่ควรที่จะเลือกตั้งวางตำแหน่งของห้องพระ หรือหิ้งพระ โดยที่มีด้านหลังของผนังห้องพระ หรือหิ้งพระติดแขวนไว้กับผนังของห้องน้ำ ห้องส้วม เพราะถือว่าไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ด้วยความที่ห้องพระถือว่า เป็นธาตุไฟ จึงไม่สมควรที่จะตั้งอยู่ชิดติดกับห้องน้ำ ห้องส้วมที่ถือว่า เป็นธาตุน้ำ และยังเป็นอัปมงคลอีกด้วยครับ

3. ตำแหน่งของห้องพระ และหิ้งพระที่ดี เราไม่สมควรที่จะตั้งวางห้องพระ หรือหิ้งพระ ตรงกับตำแหน่งของประตูทางเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม แต่ถ้าเราได้สร้าง หรือได้ตั้งวางไปแล้วนั้น เราก็สามารถที่จะทำการแก้ไขด้วยวิธีอย่างง่ายๆ ก็ได้ครับ โดยการตั้งฉากกั้นบังไม่ให้เห็นประตูห้องน้ำ ห้องส้วมเป็นพอครับ

4. ตำแหน่งของห้องพระที่ดี ไม่ควรที่จะมีห้องน้ำ ห้องส้วม และห้องครัว ตั้งอยู่ในตำแหน่งด้านหลังของห้องพระครับ เพราะจะถือกันว่าไม่เป็นมงคลที่ดีนัก ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่า ห้องน้ำ และห้องครัว เป็นห้องที่มีความเป็นอัปมงคลของบ้าน จึงไม่สมควรที่จะไปตั้งชิดติดกับห้องเหล่านี้ครับ

5. ตำแหน่งของห้องพระที่ดี ไม่ควรที่จะมีห้องนอน ของคู่หนุ่มสาวตั้งอยู่ในตำแหน่งด้านหลังของห้องพระนะครับ เพราะจะถือกันว่าไม่เป็นมงคลที่ดีนัก ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่า ห้องนอนเป็นที่ประกอบกามกิจที่เป็นกิเลสตัณหา จึงไม่สมควรที่จะไปตั้งชิดติดกับห้องพระครับ

6. ตำแหน่งของหิ้งพระที่ดี ไม่ควรที่จะตั้งวางหิ้งพระไว้ภายในห้องรับแขก เพราะว่าตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดี ควรที่จะเป็นตำแหน่งที่สงบนิ่ง ไม่วุ่นวายครับ

7. ตำแหน่งของห้องพระ หรือหิ้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดี ไม่ควรตั้งประจันตรงกับประตูของห้องนอน เพราะว่า ในทางฮวงจุ้ยจะถือเป็นพลังของปราณหยางพิฆาตที่รุนแรง จะไหลผ่านเข้าประตูห้องนอน ซึ่งถือว่าไม่เป็นมงคลยิ่ง แต่เราสามารถที่จะทำการแก้ไขด้วยวิธีการง่ายๆ โดยการตั้งฉากกั้นบังเอาไว้เท่านั้นครับ

8. โต๊ะหมู่บูชา หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรที่จะทำมาจากไม้เก่า หรือจากอุปกรณ์ที่ได้เคยผ่านการใช้งานอื่นมาแล้วนะครับ เพราะในทางฮวงจุ้ย ถือว่าเป็นความไม่บริสุทธิ์ในด้านพลังที่เป็นมงคลครับ

9. เราไม่ควรที่จะตั้งวางพระพุทธรูป หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมนะครับ เช่น ตั้งวางในตู้โชว์เหล้า หรือในตำแหน่งที่ไม่สะอาด (ข้อควรจำ คือในทุกตำแหน่งที่เกี่ยวกับศีล 5 เช่น ที่ฆ่าสัตว์ ที่ไม่บริสุทธิ์ ที่เป็นอบายมุข และกิเลส)

10. ตำแหน่งของหิ้งพระที่ดี ไม่ควรที่จะตั้งวางเอาไว้ภายในห้องนอน หรือภายในห้องเก็บของ เพราะถือว่าไม่เหมาะสมครับ ยิ่งในสมัยนี้หลายคนใช้ห้องพระเป็นห้องเก็บของกันเลยก็มีนะครับ

11. ตำแหน่งของห้องพระ หรือหิ้งพระที่ดี ต้องไม่ตั้งอยู่ตรงพลังที่เป็นอัปมงคลพิฆาตทางฮวงจุ้ย เช่น ผนังพิฆาต เสาพิฆาต คานพิฆาต และเหลี่ยมมุมหลังคาพิฆาต

12. ตำแหน่งของหิ้งพระที่ดี จะต้องไม่ตั้งอยู่ในตำแหน่งใต้บันได หรือในตำแหน่งที่ด้านหลังของหิ้งพระเป็นบันได จะถือว่าไม่มีความเป็นมงคลที่ดีเลย เพราะในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าบันไดเป็นที่ขึ้นลง เคลื่อนไหวซึ่งไม่มีความสงบ และยังหมายถึงการเหยียบย่ำลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยครับ

13. ตำแหน่งของหิ้งพระที่ดี จะต้องไม่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับความสูงของคานด้านหน้าประตูใหญ่ จะถือกันว่าไม่เป็นมงคลที่ดีนัก เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่เกินเอื้อม และสูงเกินไปสำหรับพลังที่เป็นมงคลภายในบ้าน

14. พื้นที่ด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชา หรือพื้นที่หน้าหิ้งพระควรที่จะมีพื้นที่โล่ง และมากพอที่จะมีความสะดวก ในการเข้ามาทำการสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะครับ เพราะว่า การที่เราสามารถที่จะยืน หรือนั่งได้อย่างสะดวกในการกราบไหว้ ย่อมที่จะทำให้เรามีสมาธิที่ดี และก่อเกิดมงคลนั้นเองครับ

15. ตำแหน่งของหิ้งพระที่ดี จะต้องไม่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ใต้ขื่อใต้คานอย่างเด็ดขาด จะถือว่าไม่มีความเป็นมงคลที่ดีเลยครับ เพราะในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นตำแหน่งกดทับ ที่ทำให้คนในบ้านไม่มีความเจริญนะครับ

16. ตำแหน่งของห้องพระ หรือหิ้งพระที่ดี ต้องไม่ติดหลอดไฟส่องตรงไปที่หิ้งพระที่มีความสว่างมากเกินไปนะครับ ถือกันว่าไม่เป็นมงคล เพราะพระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทางฮวงจุ้ย ถือว่าเป็นธาตุไฟ ยิ่งมีแสงไฟส่องไปมากเท่าไร ก็จะยิ่งเติมพลังให้ธาตุไฟรุนแรงมากเกินไป เดี๋ยวจะกลายเป็นพลังไฟเผาไหม้แทนครับ

17. ตำแหน่งของห้องพระ หรือหิ้งพระที่ดี จะต้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เงียบสงบไ ม่ใกล้ชิดติดกับทางเดินเข้าออกที่วุ่นวายเกินไปนัก และจะต้องมีความสะอาดที่ดีอีกด้วยครับ จึงจะถือว่าได้ตำแหน่งที่เป็นมงคลที่ดีครับ เพราะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เราจะต้องให้ความเคารพบูชานะครับ

18. ตำแหน่งของหิ้งพระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดี ไม่ควรที่จะตั้งอยู่สูงเกินไป หรือต่ำไปนัก เพราะถ้าตั้งอยู่สูงเกินไป จะทำให้คนในครอบครัวเป็นโรคเกี่ยวกับปอด หัวใจ สมอง สายตา และอวัยวะที่อยู่สูงขึ้นไปได้ง่าย แต่ถ้าตั้งอยู่ต่ำเกินไปจะเป็นโรคเกี่ยวกับช่องท้อง และช่วงล่างได้ (ข้อควรจำอย่างง่ายๆ คือ…สูงสุดไม่ควรที่จะตั้งอยู่สูงเหนือจมูก ต่ำสุดก็ไม่ควรที่จะต่ำกว่าสะดือ ดีที่สุดไม่ตั้งอยู่สูงเกินเอื้อมของแม่บ้านนะครับ)

19. โต๊ะหมู่บูชา หรือหิ้งพระที่ใช้สำหรับตั้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรที่จะมีขาที่แข็งแรงมั่นคง เพราะในทางฮวงจุ้ย จะถือเป็นนัยยะที่มั่นคงต่อผู้ที่อยู่อาศัยอีกด้วยนะครับ

20. ใต้โต๊ะหมู่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดี ไม่ควรที่จะตั้งวางโทรทัศน์ วิทยุ หรือตู้เลี้ยงปลาอย่างเด็ดขาดนะครับ

http://www.7tua.com/2011072601-7tua/fengshui-house2/

No comments: