Monday, September 22, 2008

ไปให้หมอฟัน FUN

555555 รูปประกอบวันนี้น่ากลัวมากๆ เออรี่ฮัลโลวีน ขวานอ่อนหรือตั้งคัน ไม่ควรชมเป็นอย่างยิ่ง 55555 คือเมื่อเดือนที่แล้วไปทำสะอาดฟันตามปกติทุกหกเดือน เค้าก็ถามตามปกติว่าเจ็บ ปวด รวด ร้าว เสียว ซาบ ซ่าน ซี่ไหน หรือไม่ อย่างไร ก็บ่นๆ ไปว่า ฟันกามกรามล่างขวาตึงๆ หนึบๆ เวลาเคี้ยว ได้เรื่องเลยแหละ จับตรวจละเอียด (ไม่น่าบ่นเลยตู) เอ็กซเรย์ก็ไม่พบว่ามีดีเคย์หรือแควิตี้ ทั้งเคาะ ทั้งเขี่ย ทั้งทิ่ม ทั้งแทง ก็ไม่ยักกะเจ็บปวดอย่างที่บ่น สุดท้ายอีหมอรูปหล่อก็ออกคำสั่งให้กลับไปรักษารากฟัน แต่ตารางนัดแน่นหนาเช่นเคย-กว่าจะได้ไปปะผุก็ต้องรอมาเดือนเศษๆ

วันนี้วันดีเดย์ ไปยิมสระน้ำปิดทำความสะอาด ไอ้ตี้อดว่ายน้ำกับพ่อ (ปกติว่ายน้ำกับพ่อ-แล้วแม่หนีไปอาบน้ำฉ่ำตามลำพัง) เลยต้องโห่ไปอาบน้ำกับไอ้ตี้ อาบน้ำกะมันนะ ยุ่งยากวุ่นวายที่สุด กว่าจะแก้ผ้ามัน กว่าจะแก้ผ้าตัวเอง มันจะวิ่งหนีออกไปนอกงห้องล๊อคเก้อร์ตลอด แล้วอิชั้นนุ่งผ้าขนหนูขนหมูกวดมันก็ไม่ง๊ามมมมมมม... ไม่งามเอาซะเลย เฮ้อเซ็ง แต่ก็เอาจนเสร็จลุล่วงไปได้ พอเสร็จไปต่อที่แม๊คโดเน่ากัน กินชิคเค่นเซเล็ค-ของโปรดไอ้ตี้ แล้วก็รีบบึ่งกลับมาบ้านรอรับอีมี่ ช่างกะเวลาได้พอดีสวยงาม มาถึงบ้านจอดรถรอที่ไดร้ฟ์เวย์ รสบัสก็มาจอดพอดี ต้อนลูกขึ้นรถ ให้อีดีกินแม๊คฯ ที่ลากมาเผื่อมันในรถระหว่างบึ่งไปหาหมอฟัน

พอไปถึงยุ่งยากวุ่นวายเพราะไอ้ตี้พบว่าคลีนิคหมอฟันช่างน่าสนใจยิ่งน้ก ขนม ของเล่น หนังสือ หรือ หนังโปรด ที่คุณผู้ช่วยหมอจัดมาปรนิบัติมันในห้องพิเศษ-ไม่สามารถดึงดูดใจอะไรไอ้ตี้ได้เลย แม่ม-อยากจะวิ่งเล่นท่าเดียว ลูกซนเป็นที่ขายคี่หน้ายิ่งนัก ขอโทษขอโพยเค้าไม่ได้ขาดปาก จนปากไม่สามารถขอโทษได้แหละ เพราะหมอเอาอะไรต่อมิอะไรยัดไว้เต็มปากไปหมด วันนี้อายฟ้าดินจริงๆ

ไปทำฟันครั้งนี้นานมากกกกกก........... เข้าไป 3.45 ออกมา 6.15 ค่ะ ร้านหมอฟันเนี่ยไม่ต้องรอนะคะ เปิดประตูเข้าไปก็ขึ้นเขียงเลย ไม่เหมือนไปหาหมอทั่วๆ ไป รอเหงือกแห้ง รอรากงอกเลยแหละ ออกจากร้านหมอชาปากตุ่ยอยู่อีกนานเลย หมอบังคับให้กิน Advil ตั้ง 3 เม็ดก่อนกลับบ้าน อย่างนี้ก็รู้เลยว่าโดนกระหน่ำหนักหนาเอาการและต้องระบมอยู่อีก 2-3 วัน แงๆๆๆๆๆ แล้วก็นัดไปเก็บงานอีก วันที่ 8 ต.ค. เซ็งเลย

เชิญชมภาพน่ากลัว 55555 มากๆ เลยเน๊อะ ให้ดูเล็กๆ จะได้ไม่สยองมากนัก

page-50

Saturday, September 20, 2008

เด็ก GATE & ก้านกล้วย (Round # 2)

อีมี่ถูกจัดเข้ากลุ่ม GATE - Gifted and Talented Education จริงๆ แล้วแม่น่าจะดีใจ แต่แม่งั้นๆ แหละ ก็ชื่นชมลูกให้มันดึใจตามระเบียบ เพราะเราเป็นแม่ไงเลยรู้ว่าลูกเราน่ะจริงแท้แล้ว "แค่ไหน" อีมี่เนี่ยถ้าวัดมาตรฐานเมืองไทยก็แค่ "พอใช้" พออยู่ที่นี่ก็แบบ เก่งจริงเก่งจัง คุณแม่อบรมเลี้ยงดูคุณลูกยังไง คุณครูก็ดีใจที่ลูกทำเทสต์แล้วผ่านเข้าไปในกลุ่มเด็กกิ๊ฟเต็ด เชิดหน้าชูตาคุณครูเค้าล่ะมั๊ง 5555 ถ้าจะให้แม่ชมก็ขอชมว่าลูกมีพอนหวันแบบหาตัวจับยาก เก่งทั้งไทยและอังกฤษ มีให้ "ฮา" อยู่เรื่อยๆ อยากเล่าเยอะๆ แต่นึกไม่ออก แม่เป็นโรคความจำสั้น เอาที่สดๆ เหตุเพิ่งเกิดตอนขับรถกลับจากยิมวันนี้ดีกว่าเน๊าะ

DVpgYspwuyHutq_3_l

คือไปเจอหนัง Blue Elephant จาก Block Buster (ต้องร่วมกันภูมิใจแอนนิเมชั่นเรื่องแรกของไทยที่โกอินเตอร์ และเด็กฝรั่งชอบมากนะ) เลยเช่ามาให้ลูกดู ทำเซอไพร๊ซ์ลูก เพราะรู้ว่าอีมี่หนูดีมันชอบ "ก้านกล้วย" อย่างมากมาย (แต่อย่าให้มันออกเสียชื่อหนังหรือชื่อพระเอกของเรื่องเชียว - - น่าหวาดเสียวที่สุด ต้องหายาทาเลยแหละ 555) ลูกเคยดูแต่เวอร์ชั่นภาษาไทย คงเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง คุณแม่ก็ขี้เกียจแปล (แบบถูกต้อง) ก็รวบรัดตัดสรุปห้วนๆ ให้ลูกเข้าใจแบบงงๆ คราวนี้เจอฉบับอังกฤษลูก-คาดว่าลูกคงแฮ้ปปี้กว่าเดิม สรุปมันบอกว่าเค้าเปลี่ยนเรื่องไปเยอะเลย 55555 ไม่เหมือนต้นฉบับภาษาไทย 5555 อันนั้นเป็นหนึ่งขำ 555 เพราะส่วนที่มันสนใจคือประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในเรื่อง อีแม่เลยใส่ไข่ไว้เยอะเชียว เบอม่าแบดๆๆๆๆๆๆ พอมาดูภาษาอังกฤษก็เลยดูชืดๆ 55555

Blue-Elephant-DVD

ส่วนอีกขำนึงคือ ขับรถอยู่ดีๆ มันก็ถามพรวดขึ้นมาว่าทำไมตั้งชื่อพระเอกว่า ก้านกล้วยวะแม่ ไม่เห็นน่ารักเลย แม่ก็บอกน่ารักออก ก้านกล้วย ก้านกล้วย ก้านกล้วย ก้านกล้วย ..... มันก็แย้งน่ารักไงวะแม่ Banana leave stem or Banana leave spine เอาเข้าให้แล้วสิ 5555 เราก็บอกน่ารักแหล่ะน่า มันไม่ยอมจบ มันบ่นอีกว่าเค้าเปลี่ยนชื่อนางเอกของเรื่องจากชบาแก้ว เป็น โคน-ซวย แม่ก็ขำปู้ดดด... เลย คนสวยไงลูก มันก็อ๋ออออ.... คนสวย ยังสงสัยเรียก โคน-ซวย ทำไม แม่เลยเพิ่มเติมไปว่า-ก็นางเอกสวยไง เรียกง่ายกว่าชบาแก้วอีก

mv

มันไม่ยอมจบ แล้วชบาแก้วแปลว่าอะไร (จริงๆ อีมี่เรียกนางเอกว่า "สะ-บา-แก้ว") เพราะถ้าแปลว่า Comfortable Cup ฟังดูแปลกๆ นะแม่ แม่ก็ก๊ากกกกก..อีก คิดได้ไงวะลูก สบายแก้ว - Comfortable Cup เล่าแบบนี้ไม่ค่อยขำน่ะ แต่ตอนที่มันพล่ามในรถแม่ขำก๊ากกกกก เลยแหละ เชิญชมตัวแสดงนำของเรื่อง Banana leave stem กับ Comfortable Cup เลยค่ะท่านผู้ชม

wallpaper_sk_kk02_640x480

กังฟูแพนด้า กับ ลูกกะตาของแม่

วันนี้อยากฆ่าเด็ก แต่ไม่กล้ากลัวมันตาย ไอ้บ้าตี้ กวนโอ้ยตั้งแต่มันแหกตาตื่นขึ้นมาเลย ก็กอดจูบแม่ ดึงทึ้งผ้าห่มปลุกแม่ตามปกติ ก็เลยลุกขึ้นมาเปิดทีวีให้มันดู แล้วก็นอนเค้งเก้หลับอยู่ข้างๆ มันแหละ ทีแรกมันก็มานอนเบียดดูทีวีดีๆ อยู่ ซักพักไปหา รถไฟ รถเก๋ง รถบรรทุก ฯลฯ ของเล่นของมันมาขับมาไสไถแม่มันตั้งแต่หัวจดเท้า แม่มันเหมือนภูเขามั๊ง ก็เลยนอนให้มันข่มเหงอยู่อย่างนั้น ซักพักเอาไปฉายมาส่องหน้า แหกหูแหกตาแม่ส่องดู โขกหัวแม่บ้างเป็นระยะ ลูกอิชั้นมีแววเป็นคุณด๊อก (เต้อ) มากๆ (เชิญชมโฉม "ศัตรูคู่เตียง" ของแม่ ดูหน้ามันแล้วไม่น่าโตมาเป็นวายร้ายเล้ยยยยย....)

3-26-2007 8-35-47 PM

อีกแป๊บอีแม่ร้องกรี๊ดดดดดดดด..... วีดดดดดดดด บึ้กๆๆๆๆๆๆๆ ฟาดเปรี้ยงตามไปอีกหลายที แงๆๆๆๆ ตามระเบียบ ไอ้เชี้ยตี้ เอายาทาเล็บมาหยอดตาแม่มันไง มันเปิดขวดได้ไงฟะ อีมีต้องเล่นแล้วปิดไว้ไม่แน่นแน่ๆ เลย อยากขับรถไปตื้บอีมี่ที่โรงเรียนเลย ณ บัดนั้น ลืมบอกไป แสบตามาก มากๆๆๆๆ อย่างไม่เคยแสบมาก่อนในชีวิต ทั้งล้างทั้งเช็ด โมโห สุดๆๆๆๆๆ ดีที่มันเปิดขวดได้-แล้วแค่เอาแปรงที่ชุ่มๆ มาป้ายหยดที่หางตา ไม่ได้ยกเททั้งขวด นอนตะแคงอยู่เลยไหลเข้าลูกกะตา นึกว่าตาบอดซะแล้ว พอฟาดมันไป-ขวดกระจาย ยาทาเล็กหกกระจายเต็มไปหมด พอดีเป็นท๊อบโค้ท แต่มันก็เป็นดวงแห้งแข็งไปทั่วทั้งพรม หมอน ผ้าห่ม ฯลฯ สรุป เคืองตาไปค่อนวัน แต่ไม่ได้เป็นอีบอดสมใจไอ้บ้าตี้

4-23-2008 1-37-09 AM

พอบ่ายๆ รออีมี่กลับมารีบพากันแจ้นไปซักผ้าที่ร้านหยอดเหรียญ โห..... อยากฆ่าไอ้ตี้อีกสามรอบ แม่ม...ซนชิกไห วิ่งเข้าวิ่งออก ซนๆๆๆๆๆ โมโหมากๆ ปวดหัวด้วยเพราะไอ้ปรับผ้านุ่มที่ซื้อมาใหม่หอมมากจนน่าอ้วก หอมเหมือนน้ำหอม ยืมดมไปพับผ้าไป 2 ชั่วโมงกว่า แทบเอาชีวิตไปทิ้ง เพื่อนๆ อย่าไปซื้อหามาใช้เชียว Snuggle Creme Fabric Softener Liquid, 3x Concentrate, Jojoba Essence ก็ซักพับทำจนเสร็จเรียบร้อยแหละ ไปซักที่ร้านหยอดเหรียญก็เลยต้องลุยให้เสร็จ ถ้าเป็นที่บ้านนะ เลิกไปแล้ว ไปลากซื้อขวดใหม่มาแล้วแถมซักไอ้ภูเขานั่นใหม่หมดเลยด้วย หรือไม่งั้นก็หนีไปนอน อู้ตามเคยแล้วอ้างว่าปวดหัว จริงๆ ขี้เกียจตามปกติ 55555

41XtwzAhAiL__SS500_

พอจบเรื่องที่ร้านซักผ้า ก็แหกหูแหกตาขนลูกขนผ้ากลับบ้าน เพราะต้องรีบแหกไปรับกับข้าวไปส่งอีก๊อตที่ทำงาน พอส่งข้าวเสร็จก็สองทุ่มพอดี หิวโว้ยหิว ถามอีมี่กินอะไรกันดีลูก มันก็อึ้งแม่ก็อึ้งนึกไม่ออก เบื่อกินจั๊งมากๆ พอแม่บอกไปกินไชนีสบัพเฟ่ต์กันมั๊ย อีมี่ก็รีบโอเค ก็พากันบึ่งไป ไอ้ตี้ก็หลับคร่อกในรถเพราะซ่ามาทั้งวัน พอถึงร้านแม่กับพี่ก็ค่อยๆ แบกมันใส่รถเข็นให้มันหลับต่ออยู่ในนั้น จะได้ฟาดกันให้คุ้มค่าเสียหาย เข้าได้นั่งเรียบร้อย อีแม่ก็รีบพรวดไปล่าหาอาหารมากินทันทีเพราะหิวมากๆ พอแบกจานกลับมาแทบคลั่ง ไอ้ตี้หลุดออกมาจากรถเข็นมันได้ไงวะ คลุ้มคลั่งหรรษาร่าเริงสุดๆ อดแหล่กอีกแล้วตู (น่าผอมเน๊าะ) ที่มันหลุดออกได้เพราะ นังเยียน ป้าสะใภ้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ (เมียไอ้ตี๊ฟ-พี่ปั๋วน่ะ) ได้มาปลดปล่อยมันด้วยเอ็นดู-ตูล่ะเบ่อเลยแหละ เจือกมาปลุกมาปล่อยผี-ทุบหม้อพ่อนาคของตูทำไมฟะ แล้วก็หนีไป ปล่อยให้มันอาละวาดตูจนอดอร่อยเลย มันดีด มันดิ้น มันมุด มันปีน มันส่งเสียงดัง ฯลฯ โมโหอีกแล้ว อีมี่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก มันก็หิวเหนื่อยพอๆ กับแม่ เพราะไอ้ตี้บ้าคลั่งอาละวาดตลอดวันเลย

CBt3L3XDrCid5elrP-RTqw

ด้วยความที่หิวมาก มือนึงก็กิน มือนึงก็ทึ๊งดึงลากหิ้วมันไว้ ทั้งguard ทั้งกัน ทั้งป้อง ทั้งปัด ขาก็หนีบมันไว้เวลามันมุดลงใต้โต๊ะ กินไปอย่างยากลำบาก กางแขนอ้าขา อุบาวท์สุดๆ นึกถึงกังฟูแพนด้าเลยแหละ ตูเหมือนกังฟูแพนด้าเลยว่ะ กินไปด้วยเล่นท่าไปด้วย 55555 ท่ากังฟูน่ะ อ้วนๆ เหมือนแพนด้าด้วย อุจริงๆ

KungFuMaMa 

Thank you for the original picture from Kung Fu Panda by Dreamworks

ไอ้บ้าตี้นะ ทำแม่ได้ลงคอ พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง พรุ่งนี้ขอให้มันกู้ดๆ ด้วยเถิ้ดดดดด สาธุ เพราะถ้ามันดื้อแบบวันนี้ ไม่อีแม่ขอลาตายก็ไอ้ตี้ถูกแม่มันตีตาย ไอ้พวกที่ไม่มีลูกแล้วอยากมี๊อยากมี ติดต่อขอเช่าไอ้ตี้ไปเลี้ยงแก้เซ็งได้นะ ราคาคุยกันได้ ไม่แพงหรอก 5555

Thursday, September 18, 2008

ไม่ใช่แค่ไอคิว ... สงครามระหว่างเพศ เหตุจากสมอง

ยาวปื้ดดดดด เลยอันนี้ เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ อ่านแล้วหนุกดี จริงๆ ไม่ค่อยอ่านหรอกไอ้เหวิดเมวเนี่ย ยิ่งยาวๆ ไม่อ่านเลยแหละ เพราะลูกกวนด้วย เน็ทอืดด้วย แต่อันนี้ลองอ่านกันดู กู้ดๆ ดีเหมือนกันนะ (เหวิดเมวอันนี้เคยอ่านนานแล้วแหละแต่เป็นภาษาอังกฤษ)

PhotoFunia_3abb4

ทำไมผู้ชายคุยไปดูทีวีไปไม่ได้
ผู้หญิงถนัดนักเรื่องการทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน อาทิ เขียนรายการของที่จะซื้อพร้อมกับทำกับข้าวและบอกสามีให้ดูลูกทำการบ้าน การสแกนสมองบ่งบอกว่า สมองผู้หญิงไม่เคยว่างเปล่าแม้ยามหลับ ในทางตรงข้าม ผู้ชายมักพบว่าเวลาถูกขอให้โทรศัพท์ระหว่างดูทีวีเป็นภารกิจที่ท้าทายอย่างยิ่ง นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า สมองซีกซ้ายและขวาของคนเราเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วยกลุ่มเส้นประสาทที่เรียกว่า corpus callosum โรเจอร์ กอร์สกี้ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในแอลเอ ยืนยันว่าสมองของผู้หญิงมี corpus callosum หนากว่าผู้ชาย 10% และมีการเชื่อมต่อระหว่างสมองสองซีกมากกว่าผู้ชาย 30% ทั้งยังพิสูจน์ได้ว่า หญิง-ชายใช้สมองคนละส่วนกันเวลาทำงานอย่างเดียวกัน สมองของผู้ชายพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มุ่งเน้นกับงานเพียงงานเดียว ขณะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิงกระตุ้นเซลล์สมองให้ทำการเชื่อมต่อสมองซีกซ้ายและขวามากขึ้น
ผลศึกษาหลายชิ้นระบุว่า ยิ่งสมองสองด้านเชื่อมต่อกันมากแค่ไหน คนนั้นยิ่งมีความเป็นเลิศด้านภาษามากขึ้น และยังอธิบายได้ว่า เหตุใดผู้หญิงจึงสามารถปฏิบัติภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ ด้วยเหตุนี้ เวลาที่ผู้หญิงจะขอให้สามีทำอะไรให้ ควรเลือกจังหวะให้ดีและมอบหมายภารกิจให้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ทำไมผู้ชายโกหกไม่สำเร็จ
การศึกษาภาษากายพบว่า ในการสื่อสารแบบเผชิญหน้า สัญญาณที่ไม่ใช่คำพูดมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของสาส์นถึง 60% อีก 30% เป็นหน้าที่ของน้ำเสียง และ 10% ที่เหลือถึงเป็นถ้อยคำ
ผู้หญิงมีทักษะในการเลือกสรรและวิเคราะห์ข้อมูลนี้มากกว่าผู้ชาย โดยสมองสองซีกจะส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถรวบรวมและถอดรหัสถ้อยคำ ภาพที่เห็น และสัญญาณอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และนี่คือคำอธิบายว่า เหตุใดผู้ชายจึงโกหกผู้หญิงซึ่งหน้าไม่สำเร็จ แต่ผู้หญิงกลับทำพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ได้ง่ายดายและเนียนเหลือเกิน
ข้อแนะนำสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ถ้าคิดจะตุกติก หนุ่มควรใช้วิธีโทรศัพท์ ส่งจดหมาย ปิดไฟ หรือคลุมโปงคุยกับแฟนมากกว่า

PhotoFunia_3f82d


ทำไมผู้หญิงมีปัญหาเวลาจอดรถขนานฟุตบาต
งานวิจัยที่มีบริษัทสอนขับรถเป็นสปอนเซอร์แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายอังกฤษมีความแม่นยำ 82% ในการถอยรถคนอื่นเข้าจอดขนานกับขอบถนน และ 71% ทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ขณะที่ผู้หญิงได้คะแนนเพียง 22% และ 23% ตามลำดับ ทั้งที่เวลาสอบใบขับขี่ผู้หญิงจะได้คะแนนในส่วนนี้ดีกว่าผู้ชาย สาเหตุเป็นเพราะผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชายในการเรียนรู้ภารกิจและทำซ้ำภายใต้สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขที่เหมือนเดิม ทว่า ในสถานการณ์จริงที่การจราจรหมายถึงชุดข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประสิทธิภาพของผู้หญิงจึงด้อยลง ขณะที่ผู้ชายมีทักษะด้านมิติสัมพันธ์สูงกว่าซึ่งเหมาะสมต่อภารกิจนี้ รวมถึงการจดจำแผนที่ในหัวและรู้ว่าต้องเลือกเส้นทางไหน
ถ้าต้องกลับไปที่เดิม ผู้ชายไม่จำเป็นต้องพึ่งแผนที่ เพราะพื้นที่สมองส่วนมิติสัมพันธ์จะบันทึกข้อมูลไว้ครบถ้วน ด้วยเหตุนี้ผู้ชายจึงลุกจากที่นั่งบนอัฒจรรย์เพื่อลงไปซื้อเครื่องดื่มและกลับมาโดยไม่หลง ขณะที่เรามักคุ้นตากับภาพนักท่องเที่ยวหญิงยืนทำหน้างงใส่แผนที่ตามสี่แยก

ทำไมผู้หญิงใส่ใจความรู้สึก-ผู้ชายหมกมุ่นกับงาน
ผู้ชายมักตีค่าตัวเองจากหน้าที่การงานและความสำเร็จ ขณะที่ผู้หญิงมองตัวเองมีค่าโดยพิจารณาจากความสัมพันธ์กับคู่ครอง ในอดีตกาล ผู้ชายเป็นผู้หาอาหารและแก้ปัญหา ซึ่งหมายถึงภารกิจสูงสุดอยู่ที่ความอยู่รอดเฉพาะหน้า ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลบ้านและสร้างหลักประกันการอยู่รอดของลูก ๆ แม้แต่ในยุคนี้ ผลศึกษาหลายชิ้นระบุว่า ผู้ชาย 70-80% ยังบอกว่าส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตคืองาน และผู้หญิงในจำนวนเท่า ๆ กันยกให้ครอบครัวมีความสำคัญที่สุด
ผลลัพธ์คือ ถ้าผู้หญิงไม่มีความสุขกับชีวิตคู่จะไม่มีสมาธิกับงาน แต่ถ้าผู้ชายไม่มีความสุขกับงานจะปล่อยปละละเลยชีวิตคู่ เมื่อเครียดหรือรู้สึกกดดัน ผู้หญิงจะมองว่าการได้พูดคุยกับสามีเป็นรางวัลอันมีค่า แต่ผู้ชายกลับรู้สึกว่าการกระทำแบบเดียวกันรบกวนกระบวนการแก้ปัญหา ผู้หญิงอยากคุยและให้สามีกอด แต่สิ่งที่ผู้ชายอยากทำมากที่สุดคือนอนดูฟุตบอล สำหรับผู้หญิง สามีดูจะไม่ใส่ใจเลยสักนิด แต่สำหรับผู้ชาย ภรรยาช่างเซ้าซี้กวนใจหรือบางครั้งอวดรู้มากไปหน่อย เมื่อรู้แบบนี้ สามี-ภรรยาควรหาทางสายกลางเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่น

ทำไมผู้หญิงมีสัมผัสที่ 6
เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ผู้หญิงเคยถูกเผาทั้งเป็นเพราะมี 'อำนาจเหนือธรรมชาติ' ซึ่งหมายถึงความสามารถในการทำนายแนวโน้มความสัมพันธ์และความจริงที่ซ่อนเร้น ในการทดลองหนึ่งพบว่า ภายในห้องที่มีสามี-ภรรยาอยู่ 50 คู่ ผู้หญิงใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ โดยความสามารถนี้วิวัฒนาการมาจากหน้าที่การดูแลบ้านในอดีตกาล ทำให้ผู้หญิงสามารถฟันธงได้ว่าคู่ไหนรักกันดี คู่ไหนมีปัญหา และผู้หญิงคนไหนน่าคบหรือว่าต้องระวัง ขณะที่ผู้ชายกลับกวาดสายตาทั่วห้องเพื่อหาทางเข้า-ทางออก ซึ่งมาจากสัญชาติญาณในอดีตในการประเมินแนวโน้มการถูกโจมตีและทางหนีทีไล่ หลังจากนั้น จึงค่อยมองหาคนรู้จักหรือคนที่อาจเป็นศัตรู แล้วค่อยพินิจพิเคราะห์โครงสร้างห้องเพื่อหาจุดที่มีปัญหาและต้องการการซ่อมแซม

PhotoFunia_45f61


ทำไมผู้หญิงชอบสับสนซ้าย-ขวา
ความที่ใช้สมองทั้งสองด้านไปพร้อมกัน ผู้หญิงหลายคนจึงมีปัญหาเรื่องมือขวา-มือซ้าย
ในการศึกษาพบว่า ผู้หญิงราว 50% นึกไม่ออกว่ามือซ้ายหรือมือขวาถ้าไม่ได้เหลือบตาลงมอง ทว่า ผู้ชายที่ใช้สมองทีละซีกตอบโจทย์นี้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงทั่วโลกจึงมักถูกเพศตรงข้ามบ่น เพราะชอบบอกให้เลี้ยวขวาทั้งที่จริง ๆ แล้วหมายถึงเลี้ยวซ้าย


ทำไมผู้ชายไม่ชอบถามทาง
เรื่องนี้เกี่ยวกับทัศนคติที่ฝังรากมาแต่ดึกดำบรรพ์ที่ผู้ชายต้องออกสำรวจภูมิประเทศรอบ ๆ ถ้ำเพื่อจะได้กลับบ้านถูกเวลาออกไปล่าสัตว์หาอาหารมาเลี้ยงครอบครัว ลูกเมียต่างหิวโหยแต่เชื่อมั่นว่าพ่อบ้านจะปฏิบัติภารกิจสำเร็จเหมือนเช่นทุกครั้ง ดังนั้นผู้ชายจึงไม่สามารถแสดงอาการกลัวออกมาให้ครอบครัวเห็น และมองว่าการขอความช่วยเหลือหมายความว่าการปฏิบัติภารกิจล้มเหลว ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าเวลาผู้ชายขับรถออกไปนอกบ้านคนเดียว เขาอาจจอดถามทาง แต่การทำแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิง จะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงจึงต้องระวังไม่ทำให้ผู้ชายรู้สึกผิดเวลาคุยปัญหากัน ขณะเดียวกัน ผู้ชายก็จะต้องเข้าใจว่าผู้หญิงไม่ได้มีเจตนากล่าวโทษ แต่ต้องการช่วยแบ่งเบา จึงไม่ควรเก็บปัญหาไว้หนักอกคนเดียว

YEOPtx-pprndQekzRnAdwQ

รถเฮง Sauy & อภิชาดตาบูดดด..

รถโตต้าที่ใช้อยู่ก็ได้พังพินาศลงอีก หลังจากขับทั้งที่ไฟเอนจิ้นติดแดงแจ๋อยู่แบบนั้นหลายวีค ไม่อยากเอาไปซ่อมแล้วเพราะเหมือนถูกปล้น ถูกต้ม ปนๆ กัน ห้าร้อย แปดร้อย พันสี่ สามร้อย อยู่ไม่หยุด คิดรวมๆ แล้วหลายตังค์ รถโคโรลล่าปี 2000 เข้าศูนย์ดูแลเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เช็คอัพตามเวลามาตลอด พอครบแสนไมล์-หมดวอรันตรี ก็ป่วยโน่นนี่ไม่ได้หยุด เหมือนโดนวางยา เพราะครั้งสุดท้ายที่เข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันตามปกติ ก็เริ่มเข้าซ่อมอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ล่าสุดไฟแดงขึ้นอีกเลยเอาไปซ่อมอู่มีชื่อไม่ไปศูนย์แล้ว เจือกโดนไปอีกพันสาม สรุปโดนปล้นอีกเพราะอีกไม่กี่วันต่อมาไฟเฮงฯ นั่นก็แดงแจ๋ขึ้นมาอีก ก็เลยลากขับไปมาทั้งไฟแดงอย่างนั้นแหละ

เมื่อหลายวันก่อนหลังจากลากถูขับมาร่วมเดือน เสียงรถดังเหมือนรถบรรทุก เหยียบคันเร่งก็ไม่ขึ้น แถมอยู่บนฟรีเวย์กับลูกๆ ด้วย และค่ำแล้วด้วย ก็ขับมาจนถึงบ้าน รุ่งขึ้นให้อู่ซ่อม (โนเนม-แต่ซี้กับพวกอินลอว์) เอาโทว์ทรักค์มาลากไปซ่อม รออยู่สองวัน เพิ่งได้รถคืนมา หมดไป 50 เป็นค่ารถยก 30 ค่าซ่อม 20 พอออกจากอู่ได้หน่อยนึงขับไปไม่ถึงไมล์ ไฟนรกนั่นก็แดงแจ๋ขึ้นมาอีก ชั่ง-แม่ม-มัน-แล้ว เพราะรถขับเงียบเรียบดี ก็คงจะขับๆ ซ่อมๆ แบบนี้ไปอีกนาน เพราะ "ทำล้มละลาย" แล้ว เรื่องซื้อหารถใหม่ก็คงต้องรอไปอีกพักใหญ่ๆ รู้งี้ซื้อรถใหม่ตั้งแต่ปีก่อนก็ดีแล้ว แต่ตอนนั้นอีคันนี้ก็ยังดีๆ อยู่ ไม่เน่าหนอนแบบนี้ เฮ้อเซ็ง

4-11-2008-6-20-27-PM-w

ตานี้ก็มาถึงเรื่องไอ้ตี้ พ่อ มะ หา จำ เริน ทำเลอะทำหกอยู่ได้ไม่หยุด จะโมโหมันแล้วฟาดเปี้ยงทุกที มันก็คงเด็ดสะมอเร่ไปนานแล้ว ตอนนี้บ้านที่รก ก็นรกยิ่งกว่าเดิม ขุดคุ้ยห่อเก็บเตรียมขนย้าย ของเล่น ข้าวของต่างๆ ที่หาไม่เจอนานแล้ว ก็ทะยอยโผล่ผุดขึ้นมาให้อีมี่แล้วไอ้ตี้ตื่นเต้นอยู่ตลอด แทนที่จะเป็นการเก็บห่อแพ๊ค กลายเป็นเล่นอะไรต่ออะไรสนุกสนานกันยกใหญ่ แม่ล่ะเซ็ง คุณๆ ที่อยากมีบุตรธิดาแทบใจขาด พยายามจนตูดแฟ่บก็ยังไม่มี ก็ขอเอาใจช่วยให้มีออกมาเป็นโขยง-น่ารักน่าตื้บแบบอีมี่กับไอ้ตี้ เทิ้ดดดดดด.... สาธุ ตะโกนด่า ตะหวาดแว๊ดแจ๊ดแจ๋ จนคอแสบแหบแห้งไปถึงต่อมหมวกไต ไล่ตีไล่ฆ่ากันจนเหนื่อยกว่าไปออกกำลังกายที่ยิมเสียอีก อีพ่อก็ไม่ช่วยอะไร หนีเอาตัวรอดไปทำงาน สบายเฉิ่บ โมโห โมโห โมโห เว้ยยยยย.....

page-35

เมื่อเช้าไอ้ตี้ตื่นนอนก่อน หนีออกไปห้องทีวี เงียบเชียบไม่รังควานปลุกพ่อแม่ขึ้นมาเหมือนอย่างเคย (เวลามันจะปลุกแม่-ช่างน่าเอ็นดูเสียนี่กะไรลูกอิชั้น.... จูปหน้าจูบปากจูบๆๆๆๆ จนแฉะแหละ แล้วก็เอาหน้ามาชิดติดแม่ พอแม่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นตาโตๆ ของมันจ้องอยู่ จากนั้นมันก็ดึงผ้าห่ม ดึงชีทออก ให้แม่หนาวหงิกๆ แล้วก็ดึงมือ ดึงๆๆๆๆๆ ให้แม่ลุก ทั้งหมดนี้มันไม่ร้อง ไม่แง ไม่ส่งเสียงกวนพ่อเลยแหละ) ต่อๆๆๆๆ เมื่อเช้าไอ้ตี้กลับเข้ามาปลุกแม่ จับมันมากอด อะไรฟะ ผงๆ เต็มตัวมันเลย เต็มผ้าห่มแม่ เต็มเตียงแม่เลย โห...เต็มหัวตูด้วย แงงงงง........ รีบแจ้นมาดูให้ห้องทีวี โอ้มายบุ้ดดา ไอ้ตี้เปิดกล่องหนมปังเวเฟ่อ แล้วมันก็ทำพิธี "ป่น" จนเป็นผุยผง แล้วก็จัดการโปรยปรายให้กระจายทั่วบ้าน สุดท้าย อยากจะเปี้ยงมันซะหน่อย ถ้าฟาดมันไปมันก็งงแล้วแหะ ตีตูทำไมฟะ เพราะมันคงทำบ้านเละไปพักใหญ่ๆ แล้วแหละ เลยให้มันช่วยดูดฝุ่นให้มันเอาอันเล็กดูด แม่ก็เลยต้องปัด สลัด ทั้งบ้านลงมาแล้วก็ดูดฝุ่นยกใหญ่ เฮ้อ.... คุณลูก...

ดูรูปประกาศจับไอ้ตี้กันไปก่อนนะ อันนี้เป็นไอดีอันแรกของมันเลยแหละ เค้าใช้ที่ รพ. น่ะ ส่วนข้างบนเป็นรูปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ดื้ออิ๊บอ๋ายเลย กับรูปเก่าเล่าใหม่.... อีตุ๊ด 55555

First ID Picture

Saturday, September 13, 2008

Skinny Bitch 55555

It's me HaHaHa..... who's the skinny bitch! ไม่ได้เข้าใจกันผิดหรอก อิชั้นเองที่เป็นอีสกินนี่บิ๊ทช์ 55555 ครือออออออ...ว่า วันนี้เอากับข้าวไปส่งปั๋วที่โรงาน ทุกครั้งที่ไปถึงก็ต้องไปบอกคุณยามที่ป้อมยามให้ วอ...ให้อีก๊อตออกมาพบ 55555 ตานี้พอไปถึงพวกยามๆ ที่รู้จักคุ้นหน้าตากันดีก็ออกมาทั้งสองสาวเลย (ชายก็มีนะ แต่วันนี้มี 3 ฮิปโปสาว 5555) มันออกมาบอกว่าวอตามอีก๊อตให้แล้วนะ กะลังออกมา ทันใดนังยามยักษีคนนึงก็ทักขึ้นมาว่า Hey, Your top is very cute อีกคนนึงก็สมทบอีกว่าสวยน่ารักน่าเอ็นดูเสียมากมาย เราก็เขิลล์เลย ออกตัวไปว่า Thanks, it's very old and I don't really like it because it's too tight. It's so uncomfortable b'cuz I'm so FAT!!! ยักษีสาวสองตนหันไปมองหน้ากันแล้วหันมายิ้ม แห่ๆ อิชั้นก็แบบ จึ๊กกะดึ๋ยเลย อุ๊ปส์ ไอ ดิด อิท อ้า....เกน 55555 เพราะนังยามสองคนน่ะ เกือบๆ 300 ปอนด์ทั้งคู่เลย พอมันเดินไปมุมป้อมไปดูดบุหรี่ก็รู้เลยแหละว่าต้องโดนมันสรรเสริญว่าเป็น "อีสกินนี่บิทช์" แน่นอนเลย ถึงจะสยองหน่อยๆ แต่ก็รู้สึกผอมเพรียวในเสี้ยวนาทีนั้นเลยแหละ 55555 ชื่นใจเล็กๆ 5555 จบข่าว

page-48

ไม่ค่อยได้มาอัพเดทข่าวบ่อยๆ เพราะชึวิตยังยุ่งยากเรื่องน้ำและเรื่องกินเช่นเดิม กินกันแต่ "แด่กด่วน" สงสารตัวเองสงสารลูก แพงนะ กินแบบนี้ทุกมื้อทุกวัน อ้วนด้วย รู้สึกป่วยเลยแหละ แต่ใกล้จบ chapter ชีวิตโหดๆ นี้เร็วๆ นี้แหละ เพราะได้บ้านเช่าแล้ว วันนี้ไปเซ็นสัญญาวางมัดจำแล้ว ตกลงย้ายเข้า 1 ตุลา เค้าต้องไปดูแลความเรียบร้อยทาสี เดินสายไฟใหม่บางส่วน ฯลฯ บ้านเป็นบ้านเก่า (เช่าอพาร์ทเม้นต์ไม่ได้หรอก เพราะมีลิง 2 ตัว และอีก๊อตก็นอนเวลาเค้าตื่นกัน ยุ่งยาก ได้บ้านก็เลยโชคดีไป) แต่สภาพเนี๊ยบ ไม่น่ากลัว โปร่งโล่ง น่าอยู่ สวนหลังบ้าน สวยงามร่มรื่น บ้านเก่ามันมี personality นะ อธิบายยากจังวุ๊ย.... คือ ไม่เป็นกล่องๆ แบบบ้านใหม่น่ะ ตู้ครัวเก่าไปนิด ทาสีขาววอกทับไว้ แต่ดูไม่น่าเกลียด ไว้ย้ายเข้าไปเมื่อไหร่ จะถ่ายรูปมาให้ดูกัน

ไม่มีรูปใหม่ๆ ให้ดู ดูที่มีๆ อยู่ไปก่อนแล้วกัน ไม่ว่างออนไลน์เล้ยยยยย รูปเลิบก็ไม่ค่อยได้ถ่าย เข้าที่เข้าทางเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันใหม่นะ (ไอ้ตี้ แฟน # 1 Thomas and Friends นังดูนอนดูได้ทั้งวัน พี่กับแม่ล่ะเบื่อจริงๆ)

page-46

Saturday, September 6, 2008

My Little Gentleman

ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป ชินชากับความยุ่งยากต่างๆ บ้าง แต่เรื่องน้ำยังเป็นอะไรที่ไม่มีวันชินหรอก ยังต้องแบกหามลูกๆ ไปอาบน้ำ-ว่ายน้ำที่ยิม แต่ไม่ต้องไปซื้อน้ำแล้ว ไปไขก๊อกจากหน้าบ้านพวกอินลอว์เลย 5555 เหมือนโจรเลยแหละ บ้างทีก็โดนเค้าต้อนเข้าบ้านไป 5555 ตอนที่ป่วยเป็นหวัดก็ไปอาบน้ำที่บ้านหม้อแกงเป็นหลัก ทางบ้านใหญ่รู้เข้าก็แอบแขวะๆ งอนๆ แต่ส่วนตัวแล้วไปยิมสบายใจกว่า ไม่ต้องไปจ๋าจ้า (เสแสร้งนานๆ เมื่อยน่ะ) ดูรูปไอ้ตี้ของแม่ ช่วยแม่ทุกวัน รู้งาน คิดแต่ว่าจะถ่ายรูปเวลาลูกขนถังน้ำทุกวันเลย-แต่ก็ไม่ได้ถ่ายซะที เพราะเวลาออกจากบ้านทีแดดเผา-รีบเผ่นตลอด (100 อั๊พ ทู้กกก…วัน) วันนี้พอเปิดประตูบ้านไปติดเครื่องรถเปิดแอร์ให้เย็นๆ เปิดท้ายรถไว้ (ตามปกติ) แล้วเดินกลับเข้าบ้านขนกระเป๋าเครื่องอาบน้ำ แอบควักกล้องเดินตามถ่ายรูปไอ้ตี้มาอวด รู้งานนะ แบกถังเล็กก่อน-โยนโครมใส่ท้ายรถ วิ่งตูดแป้นไปเอาถังใหญ่มาอีก ลูกแม่น่าร๊ากกกกกก...

page-47

ไปช้อปปิ้งกับคุณแม่ก็คอยช่วยแบกของเข้าบ้านประจำเลยไม่ต้องบอก เอาถุงคล้องแขนแบบนี้ทุกที 5555

page-49

ปล. โปรดอย่าอิจฉาสนามหญ้าสวยๆ หน้าบ้านของอิชั้นเลยนะคะ 5555 น้ำจะล้างตูดไม่มี แล้วจะเอาน้ำที่ไหนรดสนามหญ้าฟระ

Thursday, September 4, 2008

TOOD โผล่

มีแต่เรื่องเซ็งๆ เครียดๆ มาดูอะไร อุๆ กันเถอะ (อุบาทว์ไง 5555) หนีบตูดคนดังมาให้ดูด้วยตูดนึง มีอยู่อันเห็นแล้วอุ่นใจขึ้นมาใหน่อย เราดูบอบบางโขเลย (ใครฟะที่ชอบเรียกตูว่าตูดกะละมัง เชิญมาดูของจริงเลยย่ะ)

page-47

ส่วนอันนี้ไม่ต้องการคำบรรยาย แต่ละท่าน "ช่างกล้า" 5555

page-48

Tuesday, September 2, 2008

Thailand's Political Turmoil

ถึงแม้จะอยู่ไกลบ้านเกิดเมืองนอน-แต่ก็ติดตามความเป็นไปของบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ขาด อ่านข่าวจากเฟรสโนบี-หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นทุกวัน อ่านจากเน็ทบ้างทั้งไทยและอังกฤษ อ่านแล้วเศร้า ดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ สถานการณ์เข้าข่ายกบเลือกนาย สุดท้ายตายกันหมด ส่วนตัวเองไม่เข้าข้างใคร แต่เสียใจที่คนไทยหันมาฆ่ากันเอง บ้านเมืองจะกลับมาเป็น "ถิ่นไทยงาม สยามเมืองยิ้ม" ได้อีกหรือปล่าว (เรื่องนี้จะไม่คุยกับเพื่อน เพราะคนเรามีความเห็นความชอบไม่เหมือนกัน ผิดใจกันเปล่าๆ เพราะไม่มีใครถูกใครผิด แค่ถูกใจเราไม่เข้าทางมันก็เท่านั้นเอง)

page-46

คุณพระคุณเจ้า สิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ช่วยปกปักรักษาดลบันดารให้เมืองไทยรอดพ้นสถานการณ์นี้กลับไปอยู่เย็นเป็นสุขโดยเร็วด้วยเถิด

ที่มาของรูปภาพ  http://www.fresnobee.com/649/story/834797.html