Thursday, September 22, 2011

สูตร 5 เล็ก เพื่อชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เขียนโดย อ.สาทิส อินทรกำแหง (ชีวจิต)


ตอนนี้กำลังพูดถึง “การออกกำลังกาย” กับฮอร์โมนหลายชนิดอยู่ ที่ว่าหลายชนิดนี้ หมายถึง ฮอร์โมนชนิดต่างๆที่จะหลั่งออกมาเพิ่มพลังพิเศษให้แก่ร่างกายโดยการออกกำลังกาย


ขอพูดถึงฮอร์โมนพิเศษอีกตัวหนึ่งซึ่งจะหลั่งออกมาก็ต่อเมื่อเราออกกำลังกายจนถึงจุดสูงสุดของการออกกำลังกาย เราเรียกว่า PEAK (อ่านว่า พีค)


การจะถึงจุด PEAK ของการออกกำลังกาย จะต้องมีอาการถึง 3 อย่างด้วยกัน คือ


1. หัวใจเต้นแรง

2. ลองจับชีพจรที่ข้อมือดูจะได้ 120-140 ครั้งต่อนาที

3. เหงื่อจะออกโทรมกาย


เมื่อได้จุดสูงสุดของการออกกำลังกายนี้ ฮอร์โมนพิเศษตัวหนึ่งจะถูกขับออกมา ชื่อว่า เอ็นโดฟิน(ENDORPHINS) เอ็นโดฟินนี้บางคนชอบเรียกว่า “สารสุข” เพราะเมื่อฮอร์โมนตัวนี้หลั่งออกมา จะรู้สึกว่าตัวเบา อารมณ์ดี มองดูอะไรมันก็สวยงาม รู้สึกมีความสุขร่าเริง


และว่ากันที่จริง เจ้าเอ็นโดฟินตัวนี้ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับหัวหน้าฮอร์โมนตัวใหญ่ คือ โกร็ธฮอร์โมน (GROWTH HORMONE) หรือที่เรียกย่อๆว่า GH. ซึ่งได้อธิบายไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว


และเจ้า GH. ตัวนี้ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์และสัตว์อย่างมหาศาล ได้พูดไว้เมื่อตอนที่แล้วนะครับว่า GH. เป็นฮอร์โมนสำคัญตั้งแต่ตอนที่เราเกิดมา เราเจริญเติบโตจากเด็กอ่อนกลายเป็นเด็กโต จากเด็กโตกลายเป็นหนุ่มสาว และจากหนุ่มสาวเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ก็เพราะมีฮอร์โมน GH. นี้เป็นตัวเร่งและตัวกำกับความเจริญเติบโตของเรา

แต่เมื่อเราเติบโตเต็มที่แล้ว ประมาณอายุ 20-25 หรือบางคนเติบโตเร็วก็ประมาณอายุ 18 ก็โตเต็มที่ก็มีเหมือนกัน ธรรมชาติก็จะคอยเป็นตัวควบคุมไม่ให้ร่างกายสูงและโตเกินปกติ GH. ก็จะเริ่มหลั่งน้อยลง


หรือบางคน ระบบฮอร์โมนผิดปกติ GH. ออกมาน้อยหรือบางทีอายุยังไม่ถึง 30 GH. ก็แทบจะไม่หลั่งเลย ก็จะเห็นความผิดปกติซึ่งชี้ให้เห็นว่า สุขภาพประจำตัวใช้ไม่ได้


ลักษณะเช่นนี้จะเห็นได้ชัดตรงรูปร่างหน้าตา ผิวเหลืองซีดเหมือนคนอมโรค ร่างกายผอมเกร็ง หรือบางทีก็เตี้ยผิดปกติ ตรงนี้แหละครับที่เคยมีบางท่านได้คิดวิธีเอาฮอร์โมน GH.เทียมมาใช้ทดแทน GH. ของมนุษย์ซึ่งก็ไม่ได้ผลดังที่ได้เล่ามาแล้ว


แต่สำหรับหลายคนที่เจริญเติบโตตามปกติ จนกระทั่งร่างกายเจริญเต็มที่ไม่สูงไม่โตจนผิดธรรมชาติดังกล่าวแล้ว GH. ก็จะเริ่มหลั่งน้อยลง นั่นก็คือ เมื่ออายุประมาณ 20-25 นี่แหละครับ การหลั่งน้อยลงของ GH. ในอายุขนาดนี้ ถือว่าเป็นอาการปกติของธรรมชาติ


ระยะนี้นี่แหละที่ผมถือว่าเป็นโอกาสทองของทุกคนที่จะต้องเอา 5 เล็กตัวสุดท้าย คือ “การออกกำลังกาย” มาเป็นยาวิเศษที่จะช่วยชุบชีวิตของคุณต่อไปในอนาคต หมายถึงโอกาสทองสำหรับชีวิตที่ดีสดสวยสุขภาพสมบูรณ์ตั้งแต่ตอนหนุ่มสาวเจริญเต็มที่ไปจนกระทั่งตอนแก่และตอนตาย


การออกกำลังกายอย่างเต็มที่ระยะนี้ จะทำให้คุณแข็งแรงสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจไม่แก่ไปจนตลอดชีวิต


โดยเหตุนี้หลักการ 5 เล็ก ข้อสุดท้าย คือ “การออกกำลังกาย” นั้น จึงต้องทำหรือว่าที่จริงคุณพ่อคุณแม่ของลูกๆ จะต้องวางแผนหรือฝึกการออกกำลังกายให้กับลูกๆมาตั้งแต่เล็กๆทีเดียว


แล้วยังไงต่อละครับ หลายท่านอาจจะยกมือสูงประกาศว่า ผมออกกำลังกายมาแต่เล็ก แต่ตอนนี้ต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ไม่มีเวลามาออกกำลังกายเลย ทำไงดีครับ


ไม่เป็นไรครับ ใจเย็นๆ ไม่ต้องมาถามผมหรอกว่า ทำไงดี ถามตัวคุณเองเถอะว่า คุณพอใจกับสภาพร่างกายและจิตใจของคุณตอนนี้มากแค่ไหน


1. ลองนั่งตัวตรงๆ ก้มลงมองเท้าของคุณ มองเห็นหัวแม่เท้าไหม ไม่เห็น ทำไมไม่เห็น ก็พุงไขมันเบ้อเร่อห้อยอยู่ที่ท้อง แล้วจะเห็นหัวแม่เท้าได้อย่างไร


2. ลองงอข้อศอกแล้วยกแขนขึ้น จับดูที่ท้องแขนท่อนบน มีอะไรห้อยต่องแต่งออกมา นั่นก็ไขมันอีกใช่ไหม ลองดูเพียง 2 อย่าง แบบง่ายๆอย่างนี้ ถ้าคำตอบว่า “ใช่” ทั้ง 2 ข้อ ก็ต้องดูต่อไปว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ส่องกระจกดู เอ หน้าชักจะกลมๆ คอก็เป็นปล้องๆ และดูเหมือนคอจะสั้นกว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน

3. ลองลุกขึ้นยืน ยกขาซอยเท้าสลับกัน 2 ข้าง นับให้ได้ 20 ครั้ง เป็นไง เหนื่อยหายใจหอบ ทำต่อไปไม่ไหว แล้วอายุตอนนี้เท่าไหร่ สามสิบกว่าๆครับ นั่นแหละครับ เช็กตัวเองง่ายๆ 2-3 อย่างเท่านี้ คุณตอบตัวเองได้แล้ว ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองด่วน


ขอเรียนท่านผู้อ่านแฟนๆชีวจิตเกี่ยวกับเรื่องการตรวจอย่างคร่าวๆว่า อ้วนจริงหรือเปล่า อย่างที่เล่าให้ฟังข้างบนนี้นะครับ ดูเหมือนจะเป็นการตรวจแบบสมมติเอาเอง ไม่สมมติเอาแต่ตรวจแบบกันเองอย่างนี้จริงๆ คุณ พ. ที่ตรวจก็เป็นผู้มีน้ำหนักมาก และมีอาการอื่นๆ ซึ่งแสดงว่าป่วยเนื่องมาจากน้ำหนักตัวมากๆเกินไปจริงๆ บังเอิญคุณ พ. คนนี้ มีความสนิทสนมกันเป็นส่วนตัวมาก่อน รู้เบื้องหลังการปฏิบัติตัว และรู้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักเกินของคุณ พ. เป็นอย่างดี


และก็คุณ พ. คนนี้แหละที่อาสาว่าจะไปแก้เรื่องการออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนด้วยตัวเอง แกไปสมัครเป็นสมาชิกห้องยิม แล้วก็ออกกำลังกายหามรุ่งหามค่ำ อยากจะให้น้ำหนักลงเร็วๆ ผลกลับตรงกันข้าม น้ำหนักยิ่งเพิ่มกว่าเดิม ตรงกับเคสต่างๆที่อาจารย์แฮนลี่และอาจารย์คล้าซ์ได้ศึกษามาหลายเคสไม่มีผิด คือ ยิ่งออกกำลังกายมาก น้ำหนักยิ่งเพิ่มขึ้น แทนที่จะลดลง


ผมจึงต้องแก้การน้ำหนักยิ่งเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลงของคุณ พ. ด่วน ต้องใช้การแก้ด้วยอาหารที่มีฮอร์โมน และใช้การระงับอารมณ์ช่วยให้จิตใจและร่างกายผ่อนคลายด้วยวิธี กดจุด การผ่อนคลาย RELAXATION และ VISUALIZATION หรือ การทำสมาธิแบบง่ายๆ (จะอธิบายละเอียดทีหลัง)

ขอพูดเรื่องฮอร์โมนที่ค้างไว้ก่อน ตามหลักเมื่อร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ GH. จะลดลงดังได้อธิบายแล้ว เมื่อ GH. ลดลง ระบบต่างๆในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ความสดใสทางผิวหนัง กระแสเลือดและพลังจะลดลง

เมื่อ GH. ลดลง จากการทำงานของต่อมพิทูทารีลดการขับ GH. ให้น้อยลง ระบบของร่างกายก็จะเริ่มหาพลังมาทดแทนพลังจาก GH.เมื่ออายุเริ่มเข้าเขต 40 ต่อมหมวกไตหรือ ADRENAL จะขับฮอร์โมนคอร์ติโซลออกมามากขึ้นเพื่อสร้างพลังทดแทน


พลังจากฮอร์โมนคอร์ติโซลนี้มีแรงมากนะครับ และจะมีลักษณะออกไปในทางก้าวร้าวมากด้วย ฉะนั้น เมื่อต่อมหมวกไตขับฮอร์โมนนี้ออกมามากเกินไป เจ้าของร่างกายก็จะมีแรงมาก แต่ออกไปในลักษณะดุดัน บางคนดุมาก โมโหมาก พอถูกขัดใจมากๆ ก็ลืมตัว ออกแรงแบบดุดันถึงขนาดฆ่าคนได้ก็มีรายงานมาหลายรายแล้ว

เมื่อมีพลังดุดันมากเช่นนี้ ร่างกายก็มีระบบแก้ไขสร้างพลังถ่วงขึ้นมา เมื่อมีคอร์ติโซลมาก ต่อมอดรีนัลด์เลยสร้างฮอร์โมน DHEA ขึ้นมาเป็นตัวถ่วง เหมือนกับรถยนต์ที่มีคันเร่งวิ่งได้เร็วก็ต้องมีเบรกเป็นของคู่กันกับคันเร่ง มิฉะนั้นรถก็พัง คนขับก็ตาย


ทีนี้ตามหลักวิชาเกี่ยวกับฮอร์โมนนะครับ ถ้ามีฮอร์โมนคอร์ติโซลมาก จะเป็นตัวเพิ่มไขมันในตัวเพิ่มมากเป็นเงาตามตัว ฉะนั้น คนที่ออกกำลังกายมาก คอร์ติโซลก็หลั่งออกมามาก น้ำหนักตัวแทนที่จะลดก็กลับเพิ่มมากขึ้น อยากจะลดน้ำหนักผลลัพธ์จึงออกมาในทางตรงกันข้าม


เอาเรื่องอาหารมาช่วยแก้ ก็ต้องระวังอาหารประเภทเนื้อ หมู ไก่ ให้มากขึ้น เพราะอาหารเหล่านี้มีแอมมิโน แอซิดส์ ซึ่งจะช่วยสร้างคอร์ติโซลให้มากขึ้น ออกกำลังกายแทนที่จะลดความอ้วน น้ำหนักกลับเพิ่มขึ้น


และในขณะเดียวกันต้องกินโปรตีนชนิดที่จะช่วยสร้าง DHEA เพราะจะเป็นตัวถ่วงไม่ให้คอร์ติโซลมีมากจนเกินไป อาหารสร้าง DHEA ได้แก่โปรตีนจากพืช คือ พวกถั่ว และพวกปลาทะเล.


▼สาทิส อินทรกำแหง


▲http://www.thairath.co.th/column/life/chewajit/197303

Wednesday, September 21, 2011

5 “อย่า” เมื่อคุณจะนอน

“ก๊อป-แปะ” เพราะอ่านแล้วชอบ เลยต้องเอามาฝากกันค่ะ

..แต่ภาพประกอบอิชั้น “จิ๊ก” มาจากกูเกิ้ล เพื่อคุณๆ โดยเฉพาะค่ะ

sleeppartner-562

ที่ 1 คือ อย่านอนหลับไปพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือ

ก็เพราะขณะที่นาฬิกาเจ้ากรรมทำงานไปเรื่อยๆ นั้น

เจ้านาฬิกาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนปล่อยพลังงานทั้งสิ้น

เชื่อมั้ยว่าการใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาวเลย

เมื่อก่อนตอนยังเด็กๆ ใส่นาฬิกาข้อมือนอนค่ะ ใส่มัน 24 ชม. เลย เดี๋ยวนี้ไม่เป็นแล้ว..

pg-bedroom-confidential-03-full

อย่าที่ 2 นี่ สำหรับพวกชอบคุยโทรศัพท์มือถือจนหลับโดยเฉพาะเลย

ไม่ควรนอนหลับไปพร้อมๆ กับโทรศัพท์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย

บางคนที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือของท่านไว้ให้ไกลตัวที่สุดเมื่อจะนอนซะเถอะ

ไปหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ ดีๆ เก๋ๆ มาใช้ดีกว่า เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า

โทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเนี่ย จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้

และเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาทซะด้วยสติ

เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า พอปิดโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะวางไว้ใกล้หรือไกลก็หายห่วง

อิชั้นแยกห้องนอนกับโทรศัพท์มือถือนานนนนน…เป็นสิบๆ ปีแล้วค่ะ

sleep with makeup

อย่าที่ 3 ง่ายๆ สั้นๆ คือ อย่าหลับพร้อมๆ กับเครื่องสำอาง

ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าขนาดไหน ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด

เพราะการหลับทั้งๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้านั้น จะก่อให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว

กลางคืนคือช่วงเวลาที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนบ้างนะค่ะ

ข้อนี้…อิชั้นมีเผลอไผลนานๆ ครั้ง สาเหตุหลักๆ คือ ไม่เมา..ก็ขี้เกียจ 555

remove bra

อย่าที่ 4 (สำหรับสาวๆ เท่านั้น) คือ อย่านอนหลับทั้งๆ ที่ยังใส่ยกทรง

นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง

จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้

ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอนเลย ไม่ต้องกลัวเสียทรง ไม่ต้องกลัวอกแบะห่วงชีวิตไว้ก่อนดีกว่า

อย่าว่าแต่ตอนนอนเลยค่ะ อยู่บ้านก็ปล่อยไอ้ห้อยไอ้โหน be free ตลอดค่ะ 555

brand4

อย่าที่ 5 อันนี้เหมาะกับทุกเพศเลยนะ

“อย่านอนกับสามีหรือภรรยาของคนอื่น” เพราะคุณอาจจะไม่ได้ตื่นอีกเลย …

ข้อนี้ฮาดีค่ะ…อย่า อย่า อย่าเชียวนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าอิชั้นไม่เตือน 5555

baby-sleep..2

ขอขอบคุณ > > http://goo.gl/4GrRx

3352414768_ee83023666_oLaugh and the world laughs with you;

snore, and you sleep alone!

Tuesday, September 20, 2011

ฤๅ…จะได้เป็นนางเอก “ทวิภพ”

เมื่อวานต้องไปพบหมอฟันเพื่อทำความสะอาดฟันประจำครึ่งปีค่ะ คือออกจากบ้านแต่เช้าไปส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปแต่งตัวหวีหัวซะหน่อย จากนั้นก็บึ่งไปเฟสโน่ให้หมอแคะขี้ฟัน 555 พอฟันสะอากเอี๊ยดๆ ดีแล้วก็แวะไปซื้อ Cat litter ที่ Costco แบกมา 2 ถุง ตอนเอาเข้าเอาออกรถแทบตายค่ะ หนักอิ๊บอ๋าย ถุงละ 42 ปอนด์ ก่อนจะออกจากคอสโก้ก็ไม่ลืมที่จะแวะไปสอย Tiramisu กลับมาด้วย 1 ก้อน ราคาเต็ม $13.99 ค่ะ ช่วงนี้ลดราคาอีก $2.- เลยซื้อมาลองดูเสียหน่อย เพราะทีรามิสุของเฟร้นช์เบเกอรี่เจ้าเดิม..หลังๆ มา โนกู้ด ไม่อร่อยเหมือนก่อน ที่ซื้อมาเมื่อวานก้อนบักเอ้บ พอลูกๆ เลิกโรงเรียนเอาออกจากตู้เย็นตัดฉึบๆ ไว้ให้พร้อม ตอนนี้เหลือครึ่งนึงแล้วค่ะ รูปตอนที่เอาออกจากตู้เย็นไม่สวยเลย เพราะไอน้ำจับกล่อง อากาศตอนนี้ยังร้อนเอาการอยู่ เย็นลงไปไม่กี่ดีกรี ตอนนี้กลับมาเป็น 99°F อีกแล้วค่ะ ตอนขับรถกลับบ้านก็กลัวว่าเค้กจะเยิ้มย้วยไปซะก่อน แต่โชคดีเค้กถึงบ้านแบบสมประกอบค่ะ ทีรามิสุก้อนนี้อร่อยดีค่ะ ลูกๆ ชอบ แม่ก็ชอบ อิอิ… ครีมเป็นเนื้อวิพ บางเบาไปนิด อิชั้นชอบให้ rich กว่านี้อีกหน่อย จะเริ่ดกว่านี้เยอะเชียวค่ะ คิดจะลองทำดูหลายทีแล้ว แต่ยังไม่กล้า 5555 ซื้อเค้าหม่ำน่ะดีแล้ว เน๊าะๆๆๆ

Tiramisu

พอกลับจากเฟสโน่ ขนข้าวของเข้าบ้าน ก็รีบแจ้นไป Thrift Store อีกค่ะ เพราะมีคูปองลดครึ่งราคาอยู่ เดี๋ยวจะหมดอายุเสียก่อน ตั้งใจเลยนะคะ ว่าจะไปซื้อกระจก accent จะเอาไว้แต่งบ้านใหม่ (…เก่าจากคนอื่นค่ะ แต่จะเป็นบ้านใหม่ของเรา 555) จริงๆ ยังไม่อยากพูดถึง เพราะยังอยู่ใน process การซื้อขาย ถ้าโอนเมื่อไหร่แล้วจะมาเล่าให้พังค่ะ ว่า…วุ่นวายและลุ้นกันตาแหกแค่ไหน

pageMirror

กระจกบานนี้กินเลือดค่ะ 5555 จริงๆ นะคะ ไม่ได้ล้อเล่น ตอนที่ซื้อ..ตัวกระจกหนักและใหญ่พอสมควร จนใส่ในรถเข็นไม่ได้ เลยเอาวางๆ ไว้ เข็นไป จับไป ไม่ให้หล่น พอจะถึงตรงแคชเชียร์มันหล่นโครมเลยค่ะ เสียงดัง ทั้งกลัวว่าของจะแตกและอายเค้าด้วย ก็รีบคว้ามับ…. ไอ้ตะปูด้านหลังที่คล้องลวดไว้แขวน บาดดด…ซะ อิชั้นเลือดสาดเลยค่ะ 2 มือ ได้มา 3 แผลลึกๆ เลือดเต็มไปหมด วิ่งไปที่รถ เอาทิชชู่ห่อใหญ่เช็ดจนหมดห่อเลยค่ะ ก็กำๆ มือไว้เพื่อห้ามเลือด แล้วก็วิ่งเข้าไปจะเอากระจกใส่ท้ายรถ รอมมี่ก็บ่นว่าอย่าซื้อเลย ชักไม่ชอบกระจกอันนี้…เพราะทำแม่เจ็บ แต่อิชั้นก็บอก ไปจ่ายตั้งเหอะ แม่ชอบ (กระจกอันนี้ราคา $7.99 ลดแล้วเหลือ $3.50 ค่ะ) พอมาถึงรถก็ดันเอาใส่ท้ายรถไม่ได้ ใส่ขวางเบาะหลังก็ไม่ได้ เพราะยาวเกินไป ปิดประตูไม่ได้ ต้องวางเสียบเฉียงๆ ไปที่เบาะหน้าค่ะ จากนั้นก็ขับรถเลือดสาดมาจนถึงบ้าน พอล้างมือทำแผลตัวเองเสร็จก็ไปเช็ดทำความสะอาดเอาฝุ่นออกจากกระจกที่ซื้อมา งามเชียวค่ะ แต่ก็เอาไปเก็บไว้ในโรงรถแล้วรอไปแขวนบ้านที่จะย้ายไปค่ะ คิดอยู่ว่าจะแขวนยังไงดี เพราะกระจกกรอบไม้บานนี้หนักมากค่ะ ตอนนี้อิชั้น (ชักไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นแม่มณีจันทร์ - แมนี่ หรือ Queen Grimhilde 5555) ก็วุ่นๆ เรื่องเก็บข้าวของอยู่ค่ะ ขยะต้องทิ้ง ต้องโล๊ะเพียบ เหนื่อยๆๆ เหนื่อยมากๆ ค่ะ เพราะรู้สึกว่าต้องทำทุกๆ อย่างเองคนเดียว ว่างๆ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ

Magic Mirror on the Wall,

Who is the fairest one of all?

Mean Queen

Saturday, September 17, 2011

My New Mini Fridge : ตู้เย็นจิ๋วอันใหม่

เมื่อ 3 เดือนก่อน… ตู้เย็นจิ๋วคู่บุญอันเก่า ซึ่งรับใช้อิชั้นมาระยะนึงแล้ว เกิดไม่ค่อยเย็น อิชั้นบ่นๆๆๆๆ พ่อบ้านก็เลยซื้ออันใหม่ให้ค่ะ อันนี้ใหญ่กว่าเดิมนิดนึง ขนาด 3.7 Cu. Ft. ค่ะ ซื้อมาจาก Costco ราคา $139.99 บวกภาษีอีกนิดนึงค่ะ ราคาพอทนได้ ยี่ห้อเป็นที่รู้จักและยอมรับจากอิชั้น พอซื้อแล้วเอาใส่รถอิชั้นไม่ได้ ก็เลยต้องเข็นเข้าไปคืนเค้า 5555 พอวันรุ่งขึ้นให้อีแวว (แวเลอรี่) น้องสาวของพ่อบ้านไปซื้อมาให้เพราะเค้าขับรถ SUV ค่ะ

Fridege-01

พอได้ตู้เย็นมา อิชั้นก็รีบจัดแจงเอาตู้เก่าไปเก็บ พอยกตู้เก่าออกมา ถึงได้เห็นว่าไอ้รูพัดลมด้านหลังเป็นโรคถุงลมอุดตัน 5555 ฝุ่นกรังหนาแน่นเชียว มิน่าเล่า มันถึงไม่เย็น แต่ไม่กล้าปริปากบอกคุณสามีหรอกค่ะ เดี๋ยว “ลง-หลุ” 555 ได้อันใหม่ที่ใหญ่กว่ามาก็ดี เพราะข้าวของเริ่มเยอะ ไม่เหมือนรูปตู้เย็นจิ๋วอันเก่าที่เคยถ่ายรูปไว้แล้วค่ะ เพราะมีหยูกยาของพ่อบ้านเพิ่มเข้าไปอีก (เป็นข้ออ้างที่เริ่ดมากๆ …เดี๋ยวยาเสียนะตะเอง อิอิ) เคยแปะรูปตู้เย็นจิ๋วอันเก่าไว้ตรงท้ายๆ บล็อกนี้ค่ะ > > http://goo.gl/EXR0r ตู้ใหม่ด้านนอกเป็นสเตนเลส ด้านในเป็นพลาสติกสีดำ (ถ่ายรูปยากมากกก…) รูปที่เอามาให้ชมถ่ายตอนที่ได้ตู้เย็นมาใหม่ๆ (3 เดือนได้แล้ว) แต่ตอนนี้ของอัดแน่นเต็มไปหมดแล้วค่ะ 555 เชิญชม…

Fridege-02

เดี๋ยวจะงงว่าไอ้ตับสีเงินๆ ตรงชั้นล่างนั้นคืออะไร มาดูกันค่ะ มันคือ ANTI AGING COLLAGEN GEL FACE MASK HYALURONIC ACID อิชั้นบิดได้ยกกุรุดมาจากอีเบย์ค่ะ โคตรถูก เคยซื้อแผ่นละ 4-5 เหรียญ ตอนนั้นบิดได้ในราคา $39.99 สำหรับเจลมาส์ก 50 แผ่น ตอนที่ไปบิดแข่งกับเค้า พ่อบ้านก็ลุ้นๆๆๆๆ ไม่แพ้อิชั้น 555 ลูกๆ เย้…. ตอนแม่ชนะ บ้าเน๊อะคนบ้านนี้ 555 เวลานอนดูหนังดูทีวีกับพ่อบ้านและลูกๆ ก็เอามาแปะๆ เย็นๆ ชุ่มชื่นดีค่ะ เห็นผลมั๊ย ไม่ทราบ 555 แต่เย็นชื่นใจดี หลังจากแปะไว้แล้วหน้าก็นุ่มๆ ดีค่ะ พอแม่แปะเสร็จ ลูกๆ ก็เอาไอ้แผ่นเดิมนี่แหละ ไปแปะต่อ บางทีอีหนวดก็ขอบ้าง 5555 แข่งกันค่ะ ไม่มีใครยอมแก่ ชิมิ ใครไม่กลัวแก่กลัวย่นนิ ถึงแม้คนเราจะหนีไม่พ้นความแก่และเหี่ยวย่น แต่ก็ขอทำโน่นนี่ซักหน่อย เพื่อความสุขใจเล็กๆ ค่ะ

Fridege-03
Do you love me because I'm beautiful,
or am I beautiful because you love me?

Thursday, September 15, 2011

หนังสือที่อ่าน..ถูกสร้างเป็นหนัง I Don't Know How She Does It..!

IMG_4982

ตอนนี้อากาศแถบนี้เริ่ม “โหด” น้อยลง แต่น้อยลงแค่ “จิ๊ด” นึงค่ะ เพราะตอนบ่ายๆ ก็ยัง 90 ปลายๆ กลางคืนก็ประมาณ 60 กว่าๆ เสียงแอร์คอนดิชั่นบ้านนี้ก็ยัง หึ่ง…เป็นระยะๆ จบรายงานอากศ 555 วันนี้ขอพูดถึงเรื่องหนังสือหนังหาเสียหน่อย แต่ไม่ใช่หนังสือหรือตำรับตำราอะไรหรอกค่ะ แต่เป็นหนังสือ “I Don't Know How She Does It” เขียนโดย Allison Pearson ซึ่งเป็น novel ที่อิชั้นอ่านมาหลายปีแล้ว จำได้แม่นยำว่า พอดูรายการ Oprah Winfrey Show ช่วง Oprah's Book Club วันนั้นเค้าพูดถึงหนังสือเล่มนี้กัน แหม แม๋ๆๆๆๆ มันช่างน่าอ่าน ปกติอิชั้นจะไม่ค่อยอ่าน นวนิยาย หรือ fiction ทั้งหลายแหล่ (ความลับก็คือ….มันไม่มีรูปภาพประกอบ 5555 ไม่เหมือนแมกกาซีน อิอิ)

I Don't Know How She Does It movie trailer download

ต่อๆๆๆ จากวันนั้น พอดูทีวีจบ ก็โดดเกาะคอมพ์ ตรงไปที่ amazon.com ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ร้านประจำของอิชั้น คลิกๆๆ ไม่กี่วันก็ได้หนังสือมาอ่าน หนังสือเล่นนี้ อ่านง่าย สนุก อ่านแล้วอืมมม…เข้าใจ…เห็นภาพ…จินตนาการได้ค่ะ ถึงแม่อิชั้นจะไม่ได้เป็น working mom เหมือน Kate Reddy แต่ก็เป็น fulltime mom และเคยเป็น working woman มาก่อน คือ เข้าจ๊ายยยย…เข้าใจ เลยค่ะ ต้องบอกว่า this book spoke to me on a very personal level. It was such a guilty pleasure to read it! 555

Battle.Hymn.of.Tiger.Mother

เมื่อไม่นานมานี้ได้ข่าวว่าเค้าเอาหนังสือเล่มนี้มาสร้างเป็นภาพยนต์ ก็… น่าจะดีแฮะ แต่พอรู้ว่าเค้าเอา Sarah Jessica Parker เล่นเป็น Kate Reddy …แหงะ.. เพราะไม่ใช่ big fan ของ SJP ไม่เคยดู Sex and the City ทั้งตอนที่เป็นทีวีซีรี่ย์หรือตอนที่ทำเป็นหนังโรง แต่ถ้าให้บอกว่าอิชั้นอยากให้ใครเล่นบทนี้ ก็ต้องตอบว่านึกไม่ออกจริงๆ ถ้าได้ดูหนังจริงๆ แล้วค่อยคุยกันใหม่ว่าเป็นยังไง The Devil Wears Prada เป็นนวนิยายเรื่องแรกที่อิชั้นอ่านจบแล้วเค้านำมาสร้างหนัง ถึงมันจะไม่ “เป๊ะ” ตามตัวหนังสือ แต่อิชั้นก็ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ เพราะเค้าทำได้สนุก ถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว

Chua_Picเอมี แซ่ฉั่ว กับครอบครัวค่ะ

คราวนี้ขอพูดถึงหนังสืออีกเล่มที่อ่านค้างคาอยู่ Battle Hymn of the Tiger Mother โดย Amy Chua อยากจะเล่าถึงหนังสือเรื่องนี้นานมากแล้ว เพราะเรื่องที่เขียนจากชีวิตจริง ไม่ใช่นวนิยาย พิมพ์ดร๊าฟต์เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้สำหรับบล็อกนี้นานแล้ว พอบล็อกถล่ม…หายไปหมดเลยค่ะ รูปหนังสือที่ถ่ายไว้ก็หาไม่เจอ จะไปเอามาถ่ายใหม่ก็ขี้เกียจ เลยขอยืมมาจากกูเกิ้ลค่ะ หนังสือเล่นนี้อ่านแล้ววางไม่ลงค่ะ แต่ทำไมทิ้งค้างลงกลางครัน 555

pageBattle Hymn of the Tiger Mother

อิชั้นสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะไปอ่านเจอเค้าวิจารณ์ไว้ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น พอได้หนังสือมาก็วางทิ้งไว้ไม่ได้จับเสียหลายเดือน เพราะเวลาจะอ่านหนังสือก็จะ need บรรยากาศนิดนึง ถ้าไอ้ตี้อยู่ใกล้ๆ ก็อย่าไปเริ่มมัน เพราะไม่มีสมาธิ ต้องวนกลับไปอ่านตั้งต้นใหม่ 4-5 แผ่นแรก อ่านแล้วอ่านอีก ยังมีหนังสือหลายๆ เล่มที่อิชั้นอ่านไม่จบ อ่านแต่คำนำแล้วก็ต้องวาง กะว่าลูกๆ เปิดเทอม ก็จะมีเวลา me time ช่วงปลีกวิเวก

joy-luck-club-DVDcover

สรุปว่าพอลูกๆ เปิดเทอม เด็กๆ นอนแต่หัวค่ำ พ่อบ้านยังไม่กลับบ้าน ดึกๆ เงียบๆ ปิดทีวี ตั้งหลักอ่านหนังสือ Battle Hymn of the Tiger Mother เป็นหนังสือที่ดีมากๆ อ่านแล้วไม่อยากวาง อ่านอยู่ 2-3 คืน ผ่านไปครึ่งเล่ม ตั้งใจว่าอีกไม่กี่วันก็คงจบเล่ม แต่พอพ่อบ้านกลับบ้าน ก็เป็นเวลาที่พี่แก่จะพูดๆๆๆ บ่นๆๆๆ เล่าๆๆๆ อิชั้นก็ทำ หืออออ…. อืออออ… อ๋อ เหรออออ… ไปเรื่อยๆ กลายเป็นอ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง ผัวพูดอะไรก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง พอไม่ได้อ่านติดต่อกันหลายๆ วัน ก็เลยยากที่จะไปอ่านต่ออีก แต่ก็พยายามจะอ่านให้จบเร็วๆ นี้ค่ะ ลองไปอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ได้ที่ตรงนี้นะคะ (จริงๆ กูเกิ้ลดู มีให้อ่านเยอะเลยค่ะ) http://goo.gl/d8pQx

JOYLUCKCLUB

เคยคิดไว้เหมือนกันว่าหนังสือเล่มนี้ (Battle Hymn of the Tiger Mother) น่าจะถูกนำมาสร้างเป็นหนัง แต่มันแรงไปนิดทางด้านความรู้สึก conflict + culture shock ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงๆ ได้ยิน ได้รู้ ได้เห็นกันอยู่ คุณเอมี แซ่ฉั่ว (ผู้เขียน) เป็นคนจีนที่มีการศึกษาสูง ถูกอบรมเลี้ยงโดย Strictest Parents ที่โคตรจะ conservative ในสังคมที่สุดเสรี…อเมริกา พออ่านไป อ่านไป …หลายๆ เรื่องก็พอรู้อยู่บ้าง เพราะยังเห็นวิถีชีวิตชาวจีนในเมืองไทยปฏิบัติสืบทอดกันอยู่ เป็น parenting ที่ปกติสามัญในซีกโลกนึง-ต่างกันลิบลับกับอีกซีกโลกนึงที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ แต่หลายๆ เรื่อง อ่านแล้วก็ต้องอึ้งกิมกี่ ทึ่งแต่ไม่ขำ ออกไปแนวควรแก่การ respect มากกว่า หากทำเป็นหนัง ก็ออกจากคล้ายๆ ใกล้ๆ กับหนังเรื่องนึงที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมความคิด ความเชื่อ และแนวปฏิบัติ แบบชาวจีนแท้ๆ เรื่องนึง หนังสือที่ว่าคือ Joy Luck Club เป็นหนังสือสร้างชื่อของ Amy Tan หนังสือเล่มนี้อิชั้นไม่ได้อ่านค่ะ แต่ได้ดูหนังเรื่องนี้หลายรอบ หลายช่วงหลายตอน ดูแล้วก็เฮ้อ… ใช่เลย…จริงด้วย parenting อีกแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตก็เจอคล้ายๆ ในหนังเรื่องนี้ คนไทยเองก็มีวิถีชีวิตหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างเหมือนและคล้ายคนจีน เช่น เคารพพ่อแม่ ไม่เถียง เก็บไว้ในใจ ฯลฯ ใครไม่เคยดู ก็ไปหามาดูกันนะคะ อีพ่อบ้านของอิชั้นชอบเรื่องนี้มาก ดูทีไรก็จะพูดว่า …just like you and your mom 5555…! 

Bonesetter_0

พอพูดถึง เอมี แซ่ตัน ก็นึกออกว่าอิชั้นมีหนังสืออีกเล่มของเอมี่ คือ The Bonesetter's Daughter แต่อ่านไม่ไหว เพราะเรื่องนี้หนักเกิ้นนน… อ่านแล้วเครียด เป็นเรื่องจริงๆ ที่เอมี่เขียนเกี่ยวกับแม่ของเค้าค่ะ แผงหนังสือเค้าโปรยไว้ว่า ….A Chinese-American woman uncovers the story of her mother's traumatic life in rural China at the beginning of the 20th century มีรูปโหดๆ แทรกอยู่หลายรูป อ่านแล้วหดหู่มากๆ เลยอ่านไม่จบค่ะ อ่านแล้วทุกข์ อ่านแล้วเครียด พอไม่สนุกก็เลยวางทิ้งอย่างถาวร คงไม่กลับไปอ่านค่ะ แต่เอมี แทน เค้าก็เขียนหนังสือสำหรับเด็กอยู่หลายเล่มนะคะ มีเรื่อง Sagwa, the Chinese Siamese Cat ที่เค้าทำเป็นการ์ตูนทีวีสำหรับเด็กมากมายหลายตอน สนุกมากๆ ตอนรอมมี่เล็กๆ ลูกชอบมาก ไม่เข้าใจว่าทำไม PBS ถึงดึงเอา “ซา-กว่า” ออกจากโปรแกรม เป็นการ์ตูนที่ดี สนุก แฝงคำสอนดีๆ เคยนึกอยากซื้อดีวีดีไว้ให้ก๊อตตี้ดู พอคิดอะไรแล้วไม่ทำก็ลืมไปแล้ว งั้นขอตัวไปช้อปดีวีดีให้ลูกก่อนนะคะ เดี๋ยวจะลืมอีก…555

sagwa-the-chinese-siamese-cat

The man who does not read good books

has no advantage over the man who can't read them.

~Mark Twain~

Tuesday, September 13, 2011

วีคเอนด์ปกติ

วีคเอนด์ที่ผ่านมาพ่อบ้านต้องไปทำงาน แต่อิชั้นต้องไปซื้อกินของใช้เล็กน้อยที่เฟสโน่ พอจัดการธุระต่างๆ เสร็จก็พาลูกไปดินเน่อร์ที่ร้าน Landmark ร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านหรูเล็กๆ ประจำตำบล อย่าไปอยากเห็นสารูปของร้านค่ะ เพราะดูไม่ได้จริงๆ อาหารก็เป็นอาหารฝรั่งทั่วๆ ไป (Traditional) American และ Basque** อาหารราคาพอทนได้ เนื่องจากเมื่อเดือนมีนาอิชั้นได้ขนซื้อ vouchers ของร้านมาตั้ง 10 ใบ ราคาใบละ $30.- แต่มูลค่าของ voucher ใช้แลกเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มได้ $60.- ค่ะ ที่แย่ก็คือ เวาเช่อร์ของร้านนี้อายุสั้น จะหมดอายุในวันที่ 6 ตุลาค่ะ อิชั้นจะทำยังไงดี เหลือตั้ง 3 ใบ ก็เลยต้องพาลูกไปกินๆ ให้เสร็จๆ ยังเหลืออีก 2 วีคเอนด์ที่ต้องแห่ไปใช้บริการเค้าค่ะ มาดูกันว่าวันนั้นทานอะไรไปบ้าง ลืมบอกไปว่าร้านนี้ appetizers ของเค้า so…so…GOOD…..! โดยเฉพาะ escargot และ Sautéed Portobello Mushroom Ummmm…YUM!

**The Basques as an ethnic group primarily inhabit an area traditionally known as the Basque Country, a region that is located around the western end of the Pyrenees on the coast of the Bay of Biscay and straddles parts of north-central Spain and south-western France. แบสค์ คือ ชนกลุ่มน้อยแถบใจกลางยุโรป คงเหมือนกับชนกลุ่มน้อย ม้ง-แม้ว แถบๆ เซ้าธ์อีสต์เอเชียแถวๆ บ้านเรามังคะ 5555 แต่อาหารของชาวแบสค์ถือว่าเป็นที่รู้จัดแพร่หลายไปทั่วโลกเหมือนกันนะคะ ถึงจะไม่เด่น ดัง โด่ง เหมือนอาหารอิตาเลี่ยน จีน ญี่ปุ่น และอาหารไทยก็ตาม..FYI

page-729

พ่อบ้านและเด็กๆ ชอบอาหารร้านนี้ ส่วนอิชั้น…ถือว่าโอเคค่ะ วันไหนนึกอยาก meaty ก็สมหวังที่ร้านนี้ค่ะ ปกติชอบทาน medium วันไหนเนื้อ “สุก” ไม่ถูกใจ พอบอกเค้า - ก็จะได้จานใหม่เนื้อก้อนใหม่ที่ถูกใจกว่าค่ะ บริกร และ บริการ ร้านนี้เค้าเด็ด สมกับทิปที่ต้องทิปกันแรงๆ (จริงๆ แล้วร้านอาหารไหนๆ ก็ต้องบริการลูกค้าแบบนี้ทั้งนั้น แต่อิชั้นไม่เคยบ่นค่ะ ทนๆ ไป ครั้งแรกที่บ่นคือร้านนี้ ตอนที่ได้ well-done มา เค้าก็มาขอโทษขอโพย แล้วก็เอาจานใหม่มาเปลี่ยนให้ จุ๊ๆๆ บ่นไป 2 ครั้งแล้วค่ะ อิอิ) วันนั้นรอมมี่สั่งจานโปรด Cajun-Style Catfish กับ Fettucini Alfredo ส่วนก๊อตตี้…ยากนิดนึง เพราะร้านนี้ไม่มี kids menu ค่ะ ก็เลยต้องสั่ง Cheese Burger ค่ะ ส่วนอิชั้น (มาดามโลหิตจาง 555) สั่ง Filet Mignon with Portobello Mushroom Sauce ค่ะ รูปซ้ายมือดูน่าเกลียดมาก เหมือน tumor 555 พอเขี่ยเอาเห็ด Portobello (portabella) ไว้ข้างๆ ค่อยดูเหมือนสเต็กหน่อย จานนี้ไม่ได้ใหญ่ยักษ์อะไร จัดจานมาแบบ no class มากๆ 5555 แต่อร่อยนะคะ รอมมี่ต้องขอแจม ลูกคนนี้เป็น carnivore (meat eater ค่ะ) มันฝรั่งอบก็งั้นๆ เหมือนมันฝรั่งอบทั่วๆ ไป ที่ไม่ได้ถ่ายรูปก็มี escargot ที่ทานแกล้มกับ parmesan garlic bread แม่ดื่มโค้ก ก๊อตตี้ดื่มนม ส่วนรอมมี่ขอน้ำแข็งเปล่าค่ะ

page-728

รูปข้างบนเป็นไอ้ก๊อตตี ตอนไปซื้อกับข้าวกับแม่ แล้วก็ตอนที่เอ็นจอย Maraschino Cherries ที่ waitress เอามาให้ เพราะเห็นว่าอาหารช้ามากๆ ลูกทั้งสองคนไม่ชอบเชอรี่สำหรับคอคเทลแบบนี้ เวลาไปกินไอติมกัน อิชั้นก็เป็นคนที่เสียสละกินเชอรี่แช่อิ่มให้ลูกๆ ค่ะ 555 ค่าเสียหายวันนั้นเบ็ดเสร็จจ่ายไป $13.- + ทิปไป $10.- เพราะทิป 15% ต้องคิดจาก total ค่ะ ไม่ได้คิดจากส่วนต่างหลังจากหัก voucher $60.- ออกแล้ว ถ้าไม่มี voucher ก็คงไม่ได้ไปร้านนี้กันบ่อยๆ หรอกค่ะ เกือบลืมไป จานของอิชั้นวันนั้น แพงเหลือหลายค่ะ เพราะในเมนูไม่บอกราคาไว้ แต่เป็น market price เลขที่ออก …งวดนี้คือ $31.95 แพงอิ๊บอ๋าย รู้สึกว่าเอาเปรียบครอบครัวมากไปหน่อย เพราะเนื้อวัวเกรดดีๆ  แพ๊คโตๆ ราคาประมาณ 30 กว่าๆ กินกันได้ทั้งบ้าน ปรุงได้หลายจาน หลายมื้อ นานๆ ทีเน๊าะ ไม่มีใครว่ากันอยู่แล้ว

page-shopping-01

ไปดูกับข้าวกับปลาที่ซื้อมาวันนั้น หลักๆ คือน้ำดื่มของพ่อบ้านค่ะ นอกนั้นก็…เท่าที่เห็นในรูป สลัดกุ้ง พ่อบ้านกับรอมมี่ชอบ กุ้งเค้าตัวโตๆ แต่ก็เลี่ยนๆ อิชั้นเฉยๆ ค่ะ ส่วนซูชิ…เป็นถาดแรกในชีวิตเลยนะคะ ที่ซื้อซูชิแช่เย็น เคยแต่ทานซูชิม้วนกันสดๆ พอทานดู..ก็โอเคนะคะ ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรเช่นกัน พอแก้ขัดไปได้ อันนี้ไม่มีใครแย่งค่ะ ส่วนไอ้ Danish ถาดยักษ์หน้าตาน่าเกลียด….ซื้อเป็นครั้งแรกเหมือนกัน และจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยค่ะ เพราะไม่อร่อย โคตรหวาน แหวะมากๆ รอมมี่รบเร้าให้ซื้อ พอถึงบ้านรีบเปิดออกทานเลย คำแรกก็ทำหน้า อึ๋ยยยย….แล้วก็วางทิ้งไว้ น่าเอายีหัวนัก เพราะที่เหลือไม่มีใครแตะอีกเลย ต้องให้พ่อบ้านแบกไปที่โรงงาน เผื่อว่าใครชอบ เห็นบอกว่าขนอะไรไปก็…เกลี้ยงงงง… ดีกว่าโยนลงถังขยะค่ะ

KitchenPage-16

รูปนี้ไม่ใช่ของที่ไปซื้อมางวดนี้ค่ะ ซีอิ๊วกับวาซาบิ เป็นของที่มีอยู่ในตู้เย็น พอซื้อซูชิมาก็เลยเอาออกมาใช้ ส่วนซองๆ ที่เค้าให้มาก็เก็บแช่ตู้เย็นไว้ แช่ทำไม 555 งงเหมือนกัน  จะเอาพกพาไปไหนเหรอ 555 ส่วนยำสาหร่าย…อร่อยมาก ซื้อมาจาก Costco กินอยู่คนเดียว ไม่หมดซักที เค้าบอกว่าเปิดแล้วต้องกินให้หมดภายใน 5-7 วัน ผ่านมา 3 อาทิตย์แล้วก็ยังกินไม่หมด 5555 แต่ไม่โยนทิ้งหรอกค่ะ เพราะยังอร่อยดีเหมือนเดิม ส่วน golden kiwifruit ลองซื้อมาทาน 4 ลูก / $1.- เห็นว่าเป็น super fruite (อีกแล้วววว…) high antioxidants อิมพอร์ตจานิวซีแลนด์โน่น พอได้ลองแล้ว แหงะ ไม่อร่อยเลย ไม่ชอบค่ะ

Prunes

ลูกพรุนมาแร้ววววว…. อันนี้ไม่มีใครแย่งแน่นอน มีคูปองลดราคาถุงละ $0.75 ค่ะ อิชั้นชอบอยู่คนเดียว แต่ไม่ชอบแบบเป็นกระป๋องนะคะ มันเหนียวเลอะเทอะ แหยะๆ ไม่อร่อยๆ แต่ individually wrapped แบบนี้สะดวก และอร่อยกว่ามากค่ะ เพราะพรุนจะแห้งๆ นิดนึง ใหม่สดตลอดเวลา 5555 ไม่ใช่แบบเปิดกระป๋องแล้วกินไป 2-3 ลูก จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้เก่า…

IMG_7910-s

วันนี้ไป Wal-Mart เพราะจะไปซื้อเทปมาแพ๊คข้าวของต่างๆ ไปเจอ baby wipes ของฮักกี้ภูเขาใหญ่ เห็นใครๆ มุงกัน เลยต้องไปมุงกับเค้าด้วย เค้าลดเหลือแพ๊คละ $0.50 ค่ะ จากราคาเต็ม $1.89 เลยซื้อมา 6 แพ๊ค ยังนึกเสียดายน่าจะซื้อมาเยอะกว่านี้ เพราะต้องพกติดกระเป๋าไว้ตลอดตั้งแต่รอมมี่เกิด (แต่ที่เมืองไทยแพงมากกกก….ยังจำได้ดี) ประชาชนบ้านนี้ติดใช้กระดาษเปียกกันค่ะ โดยเฉพาะไอ้ก๊อตตี้ ทำเลอะเทอะตลอดเวลา ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ติดตัวไว้สะดวกดีค่ะ

page-purses-11

ท้ายสุด-สุดท้าย ขอพูดถึง “ปลอกคอคุณสุ” คนใกล้ชิดพอจะทราบว่าอิชั้นมักจะมีปลอกคอหมาอันเล็กห้อยกระเป๋าถือตลอดเวลา และถูกถามอยู่เรื่อยๆ ว่า..ทำไมต้องพกเจ้า dog collars ไปไหนๆ ด้วยตลอดเวลา ก็อธิบาย อธิบาย และอธิบาย จนชักเบื่อที่จะอธิบายแล้วค่ะ คราวนี้เลยไม่ลืมที่จะถ่ายรูปมาแปะไว้ที่นี่ เผื่อว่าใครๆ ชอบในไอเดีย ก็ลองไปซื้อหามาพกพาเหมือนอิชั้นก็ได้ค่ะ ประโยชน์ของปลอกคอสุนัขที่เราสามารถเอามาใช้ในชีวิตประจำวันมีเยอะแยะมาก คล้องโน่น มัดนี่ ทำได้มากกว่าในรูปที่อิชั้นแปะไว้ ปลอกคอหมาอันนี้ราคา $1.- ค่ะ อิชั้นปรับไว้แบบสั้นที่สุด หากภารกิจใหญ่โตกว่านี้ก็ปรับสั้นยาวได้ตามต้องการค่ะ กระเป๋าใบที่ใช้อยู่เป็นแบบกระดุมแป๊ะแม่เหล็ก บางทีก็เอาพัน 2 รอบ ก็ช่วย secure กระเป๋าได้มากอีกนิดนึง ถ้าเวลาต้องล้วงเข้าออกกระเป๋าบ่อยๆ ก็คล้องไว้แค่ 1 รอบ เวลาไปซื้อของก็เอาล็อคหูกระเป๋าติดไว้กับรถเข็น ใครที่คิดจะฉกชิงวิ่งราว ก็ต้องตั้งอกตั้งใจมากกว่าปกตินิดนึง เพราะต้องใช้เวลามากกว่าวิ่งมา “ฉก” แล้ววิ่งหนีไป พอซื้อข้าวของเสร็จก็เอาคล้องถุงต่างๆ ในท้ายรถ พอเข้าบ้านก็ยกเข้าบ้านรวดเดียวหมดเลย ลองหามาใช้กันดูนะคะ เดี๋ยวนี้มีแฟนซีสวยๆ เยอะแยะ เอามาเป็น accessory ที่ใช้ประโยชน์ได้สบายๆ ค่ะ

 

We live on the leash of our senses.

 

Sunday, September 11, 2011

Loyal Customer? Really?

บอกใครก็คงไม่มีใครอยากเชื่อว่า เมื่ออาทิตย์ก่อนอิชั้นสั่งซื้อสินค้าของ Estee Lauder ถึง 3 ครั้ง ทำตัวอย่างกับเป็นเศรษฐี 555 หรือว่าเป็นบ้า 555 แต่จริงๆ ไม่ใช่หรอกค่ะ สั่งเพราะโมโห ล๊อตแรกเลย..ต้องการสั่ง Clear Difference ซัก 1 ขวด เพราะขวดที่ใช้อยู่ใกล้จะหมดแล้ว แต่ลังเลนิดๆ แหม..นังเอสเต้หลังๆ มาชักยิว ให้ตัวอย่างแค่ 1 ชิ้น แล้วช้อยส์ที่ให้เลือกก็ไม่ค่อยดี คิดไปคิดมา ของจำเป็นต้องใช้ แล้วขวดนี้ก็ราคาอยู่ตรงก้ำกึ่งที่จะไม่ต้องเสียค่าส่ง ปกติโปรโมชั่นค่าส่งฟรีจะต้องซื้อครบ $50.- พอเช็คอีเมล์ก็เจอโปรโมชั่นค่าส่งฟรี สำหรับการซื้อตั้งแต่ $25.- เอาวะ แปะเอี่ย..ค่าส่งฟรีแต่ได้ของแถมชิ้นเดียวเน๊าะๆๆๆ ..สั่งเลย ไม่ต้องบวกนั่นนี่เข้าไปให้ครบ $50.- แต่ตัวอย่างที่ให้เลือกเพียง 1 ชิ้น เลือกยากมาก ไม่มีอะไรเจ๋งๆ เลย สุดท้ายก็เลือกน้ำหอมเสปรย์จิ๋ว Beautiful มา 1 หลอด จบไป 1 รายการค่ะ

SkinCarePage-20[2]

พอวันรุ่งขึ้นได้รีบอีเมล์จากเอสเต้อีก ค่าส่งฟรีตั้งแต่ $25.- และเลือกของแถมได้ 4 ชิ้น…อ้าว เว้ย เฮ้ย บ้าจริง เพิ่งสั่งไปเมื่อวาน แต่ว่า “งก” ค่ะ เพราะของแถมคราวนี้มีให้เลือกดีๆ น่าสนใจ คุ้มออกค่ะ เลยสั่ง Clear Difference เพิ่มอีก 1 ขวด พร้อมกับบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรหรอก เพราะเป็นของที่ใช้ทุกวัน คุ้มๆๆๆ (จะได้ไม่รู้สึก guilt..55) ของแถมที่เลือกมา 4 อย่าง…

  • Sensuous Nude Eau de Parfum Spray Deluxe Travel Size 1 ขวด
  • Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex (10-Day Supply) 1 ขวด
  • Time Zone Night Anti-Line/Wrinkle Crème (7-Day Supply) 1 กระปุก
  • Time Zone Line and Wrinkle Reducing Crème (7-Day Supply) 1 กระปุก

จบไปอีก 1 รายการ พยามยามอยู่เงียบๆ คนเดียว ไม่ปริปากบอกใคร เพราะละอายเล็กๆ ค่ะ 555

SkinCarePage-21

พอวันต่อมาได้รับอีเมล์จาก Macy’s เฮ้ยยยย…. อะไรอีกแล้ว โปรโมชั้นของเอสเต้ ของแถมบานเบิก รุกรน ลังเล เอาไงดีฟระคะ ใคร่ครวญ ไตร่ตรองอยู่นาน เพราะของที่ซื้อเก็บก็มีอยู่เยอะพอควร พ่อบ้านบอกอยู่เรื่อยๆ ว่า..ให้ดื่มกินเข้าไป..จะได้หมดเร็วๆ แล้วสั่งซื้อมาเพิ่มอีก 555 เป็นไงเป็นกันสิวะ สั่งเป็นสั่ง เพราะมีความตั้งใจอยู่นานแล้วว่า จะซื้อไอเท่มใหม่มาใช้ ถ้ามีโปรโมชั่นเริ่ดๆ อันนี้เรียกว่า “เริ่ด” ได้แล้ว เน๊าะๆๆๆ (เน๊าะกับตัวเองค่ะ เพราะไม่รู้จะไปเน๊าะกับใคร 555) ไอเท่มที่ว่าคือ Idealist Even Skintone Illuminator ซึ่งขนาด 1.7 oz ราคา $85.- ก็จะได้ของแถมทุกชิ้น พร้อมกับค่าส่งฟรี มาดูกันค่ะว่าอิชั้นได้อะไรมาบ้าง

ของแถม 7 ชิ้นแรก..เมื่อซื้อครบ $35

  • Sumptuous Bold Volume Lifting Mascara in Black (10-day supply) 1 แท่ง
  • Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex (deluxe 14-day supply) 1 ขวด
  • Soft Clean Tender Creme Cleanser (deluxe travel size) 1 หลอด
  • Estée Lauder pleasures Eau de Parfum Purse Spray 1 ขวด
  • Chic Cosmetic Bag 1 อัน
  • Plus a sample of NEW Sensuous Nude 1 หลอด
  • Lip and eye shades (Warm Neutrals): เค้านับเป็น 1 รายการ แต่ มี 2 ชิ้นค่ะ

· Pure Color Long Lasting Lipstick (full-size) in Barely Nude Cream 1 แท่ง สีนี้งามมากๆ นู้ดออกส้ม ถูกใจจริงๆ ค่ะ

· Pure Color EyeShadow Quad with Nude Fresco, Sandbar Beige, Pretty Penny and Ivy Envy. อายชาโด้ว์ของแถม..ไม่เคยได้ใช้เลย ให้ลูกเล่นตลอด เพราะมีเยอะมาก ตอนกลับเมืองไทยคราวก่อน ก็เอาให้พี่สาวไปแบ้่งๆ คนอื่นใช้

ของแถมชุดต่อมา {PLUS Spend $65 & get more! Choose a deluxe moisturizer duo to add to your gift! (Up to $130 total value) โวมากไปหน่อย 2 กระปุกนี้ไม่ถึง $130 หรอก ถ้าเป็นฟูลไซ้ส์ก็ใช่อยู่} 2 กระปุที่แพ๊คมาในกล่องลายเดียวกับกระเป๋า มี Anti-Wrinkle, Day and Night: Time Zone Line and Wrinkle Reducing Creme SPF 15 กับ Time Zone Night AntiLine/Wrinkle Crème (deluxe sample size .5 oz / 15 ml) อย่างละ 1 กระปุก ^รูปข้างบน^ รูปแรกเป็ชุดที่ได้แถมมาตามลิสต์ข้างบนค่ะ รูปถัดลงมาเป็นรวมของทั้ง 3 ล๊อตค่ะ

SkinCarePage-22

ขอพูดถึงของแถมของเอสเต้นิดนึงค่ะ ของแถม (ของตัวอย่าง) ของเอสเต้ไซ้ส์ปกติ 7-day supply จะเป็นขนาดเล็กสุดค่ะ (จากรูป) แต่หลังๆ เป็นมีเป็นแบบซองๆ แล้วค่ะ (ชักงกไปกันใหญ่) แต่ถ้าของแถมเป็น Deluxe sample size .5 oz / 15 ml ซึ่งเค้าจะบอกไว้ว่าเป็น 15-day supply นานๆ จะแจกกันซักครั้ง อิชั้นใช้ได้เต็มๆ เดือนเลยนะคะ ทั้งๆ ที่เป็นคนที่ทาแบบไม่งก ชอบๆๆๆ ของฟรีใครๆ ก็ชอบนิ เวลาได้ของแถม หรือขนาดฟูลไซ้ส์มา อิชั้นจะเขียนเดือนปีกำกับที่ก้นขวดหรือกล่องทุกครั้งค่ะ เพราะเวลาหยิบมาใช้จะได้เรียงตามลำดับก่อนหลังที่ซื้อมาค่ะ

SkinCarePage-23

รูปนี้เป็นเซอไพร้ส์…. พอเปิดกล่องออกมาเห็นถุง Lab Series ก็เอ๊ะ รายหว่า พอเปิดดู เป็นตัวอย่างชุดครีมโกนหนวด อ๊าฟเต้อร์เชฟ และโลชั่น ตัวอย่างน้ำหอม Poppy ของ Coach และ Beyoncé ซึ่งห่อมาเป็นแบบท๊อฟฟี่น่ารักดีค่ะ แต่ยังไม่ได้ลองดมเลยค่ะ นอกเหนือจากในรูป เค้าใส่ตัวอย่างน้ำหอมแบบแผ่นกระด่าษมาด้วยหลายกลิ่น (เหมือนที่แทรกมาในแมกกาซีนต่างๆ ไม่รู้เค้าเรียกอะไร 555) เอาไปใส่ในรถแล้วค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน

ซื้อสินค้าเอสเต้ 3 ล๊อตนี้แล้ว รู้สึกแย่นิดๆ กับ 2 ล๊อตแรก เพราะโปรโมชั่นที่เค้าส่งเมล์มาเหมือนกับเค้าไม่ค่อย sincere กับลูกค้าที่แสนดีอย่างอิชั้น 555 ลืมบอกไปว่าโปรโมชั่นของแถม 4 ชิ้นนั้นแค่ 24 ชม.นะคะ ต้องรีบให้ไวเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้โทรไป complain อะไรทั้งนั้น ช่วงนี้เบื่อๆ หน่าย ชีวิตยุ่งๆ นิดหน่อยค่ะ แต่ถ้ามองอีกมุมมันก็ไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอกค่ะ เพียงอิชั้นออเด้อร์ “ผิดจังหวะ” เร็วไป 1 วัน เลยทำให้มีของเพิ่มมาใน “กรุ” มากไปนิดนึง 5555

Psycho shopper out in full force...

Who?… Me???!!!

shopping32

Friday, September 9, 2011

8 อาหารอันตราย! เมื่อท้องคุณว่าง

อ่านกันดูนะคะ น่าสนใจ ก๊อปเค้ามาแปะค่ะ

คุณทราบไหมว่าเมื่อท้องของคุณว่างแล้วคุณรับประทานอาหารเข้าไป อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณได้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะรับประทานอาหาร ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อน อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง มีบางชนิดที่เราแทบไม่เชื่อเลยล่ะ

กล้วย

เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง อันนี้ได้ยินมาตั้งแต่เด็กแต่เล็กแล้ว แต่ไม่ใช่เหตุผลนี้หรอก ถ้าจำไม่ผิด..เหมือนกับว่าจะเป็นลม อะไรทำนองนั้น

กระเทียม

เพราะการรับประทานกระเทียมขณะท้องว่าง จะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง กระเทียมเปล่าตอนท้องว่าง…จริงเหรอ ใครวะ แหวะ..

ผัก

การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ …อ้าว เว้ย เฮ้ย ทำไม ยังไง แล้วไม่มีคำอธิบาย เห็นมีแต่บอกให้กินผัก กินผัก กันอยู่ไม่ได้ขาด

นมและนมถั่วเหลือง

แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย ดังนั้นในขณะที่ท้องว่างจึงไม่ควรรับประทาน ..อีกแระ งง น่าสงสัย แล้วขายกันตั้งแต่เช้ามืด ที่เข้าแถวซื้อกัน..น่าจะท้องว่างกันทุกคน เพราะตื่นกันนี่หว่า.. 

เหล้า

หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้ ….ที่แน่ๆ เมาแล้ว อ้วกกกกกก…. 5555

น้ำตาลหรืออาหารหวาน

ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

ชา

ที่แก่เกินไป ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ

ลูกพลับ

ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ….ฟาดตอนท้องว่างประจำ เพราะคิดว่ากินผักผลไม้ แทนข้าวและอาหารมื้อใหญ่ๆ แล้วลดควมอ้วนและเพิ่มกากใย ...จะตายมั๊ยวะเนี่ย…

นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย

ขอขอบคุณ > > zomzaa.com

Thursday, September 8, 2011

Frugal Mama – Thrifty Purses

บล็อกนี้มาส่งท้าย Summer 2011 ดูปฎิทินแล้วก็ชื่นอกชื่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะวันสุดท้าย summer ของปีนี้คือ 23 กันยายนค่ะ (officially นะคะ) จริงๆ ก็ยังคงร้อนตับแหกไปอีกหน่อยนึง ถึงต้นตุลาโน่นเลย แต่มันก็จะเริ่มเย็นลงไปเรื่อยๆ ช่วงนี้ก็ 90 ปลายๆ ไปถึง 100 ต้นๆ ช่วงเช้าๆ กับช่วงดึกๆ ก็ลงมาที่ 60 ต้นๆ อิชั้นเป็นคนขี้ร้อน ร้อนมากๆ ก็หงิกง่อย หงุดหงิด แต่หนาว…พอทนได้ค่ะ 

page-727

ช่วงที่หายไปพักใหญ่ๆ ก็มีเรื่องให้ต้องทำ ต้องไป อยู่พอสมควร ยุ่งมาก-น้อย หลายภารกิจ แต่ handle ทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ จากเด็กๆ ปิดเทอม เดินเพ่นพ่านเต็มบ้านอยู่ 2 เดือน พอเปิดเทอม เวลา กิน-หลับนอน ของลูกๆ ก็เข้าสู่ schedule ของปกติชน ไม่ นอนเช้า-ตื่นบ่าย ตามตารางเวลาปอบ ส่วนอิชั้นก็ควงกะ 24 ชม. เหมือนเดิม พยามยามไปยิมให้ได้สัปดาห์ละ 5 วัน นอกนั้นก็มี พ่อปู่ตาย วุ่นวายนิดๆ กับพวกอินลอว์เรื่องงานศพ คือช่วยเค้าได้ก็ช่วยเค้าไป ส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นศูนย์กลางให้กับทุกๆ บ้าน ทำตัวเป็นสวิตเซอร์แลยด์ งานศพ สง่างาม และลุล่วงไปด้วยดี เพราะปู๋เฟร็ดเป็นทหารผ่านศึก พิธีการทางทหารดู “ขลัง” ดีค่ะ อิชั้นก็พลอยเศร้าไปกะเค้ามากมาย เพราะผูกพันกับแกอยู่พอสมควร ส่วนเรื่องวุ่นๆ ที่อิชั้นและครอบครัวยินดีเหลือเกินที่จะวุ่นมากๆ คือ เรากำลังจะซื้อบ้านค่ะ งบของเราน้อย เงื่อนไขเรื่องโลเคชั่นและโรงเรียนของลูกๆ ทำให้ goal เรื่องบ้านดำเนินไปอย่างช้าๆ ค่ะ เสร็จสิ้นเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังค่ะ

page-purses-02

เมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน ลูกๆ ไปโรงเรียน เลยมี my alone time นิดๆ อิชั้นแวะไปช๊อปปิ้งแบบฉายเดี่ยว (โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้ลอยมาบ่อยๆ เลยต้องรีบค่ะ) ห้างที่ไปช้อปเป็นห้างที่ลูกๆ ไม่ชอบ จะเรียกว่าเกลียดเลยก็ไม่ผิด มันคือ Thrift Store เป็นร้านที่เค้าขายของใช้แล้ว ของที่ผู้คนเค้าาบริจาคมาเพื่อนำไปช่วยผู้ประสบภัยต่างๆ ทั้งในอเมริกาและทั่วโลก ร้านแบบนี้จะมีอยู่ทั่วๆ ไป เป็นขององค์การบิ๊กๆ ก็มีหลายยี่ห้อ เช่น Goodwill, Salvation Amy เป็นต้น พอเค้ามีของบริจาคเยอะๆ เกินต้องการ เค้าก็นำข้าวของมาขายร้านดังกล่าว เอาเงินไปทำประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของเค้าค่ะ วันนั้นอิชั้นซื้อกระเป๋ามาหลายใบ ดูจากรูปข้างบนนะคะ จะเห็นว่าใบนี้ใหม่เอี่ยม…. ตัวกระเป๋าสีดำ หูกระเป๋าเป็นสีแดง หนังนุ่ม แต่ไม่มีป้ายระบุว่าเป็นหนังจริงหรือปลอม ไม่อยากลองลนไฟท้าพิสูจน์ เดี๋ยวเสียของ 555 แต่เดาเอาเองว่าปลอมค่ะ ขนาดกำลังดี ชอบๆๆๆ มีช่องกระเป๋าข้างๆ ลึกถึงก้นกระเป๋าเลย ถูกใจมากๆ อิชั้นใช้ใส่โทรศัพท์และกุญแจรถ+บ้านค่ะ เพราะสะดวกควักเข้าออก ด้านในมีช่องซิปทั้ง 2 ด้าน ลึกดีเหมือนกัน ไม่มีช่องอื่นซับซ้อน งานเรียบร้อย ดูแข็งแรงทนทานดี ราคาเต็ม $2.99 แต่วันนั้นทุกอย่างในร้านลด 50% คิดกันเอาเองค่ะ เฉลยให้ก็ได้ 555 …กระเป๋าใบนี้ราคา 45 บาทถ้วน ถูกใจมากกกก…..ทั้งรูปทรง ขนาด คุณภาพ และราคา ตอนนี้ใช้ใบนี้ทูกกกก….วัน มา 2-3 อาทิตย์แล้วค่ะ

ลองแวะไปดูลิ้งค์นี้นะคะ อิชั้นเคยช้อปร้านนี้แล้วได้อะไรมา http://oohsworld.blogspot.com/2008/11/amazing-thrift-store-shopping.html

page-purses-03

ชิ้นต่อมาเป็นกระเป๋าสตางค์หนังแท้ยี่ห้อ Fossil ของใหม่ๆ ยี่ห้อนี้ราคาก็ไม่ได้แพงมากมายอะไรค่ะ แต่สภาพใบนี้ตอนที่ซื้อมันมีรอยเปรอะนิดนึง ดูเหมือนสีทาเล็บ ชมพูมุกๆ ไม่ได้เลอะมากมายนะคะ ประมาณจุดกลมๆ เท้าปลายก้อย โดนรวมดูเขรอะนิดๆ พอจับไปจับมา แกะ แคะ แงะดูแล้ว เหมือนยังสภาพดี๊ดี ซอกเล็กๆ ช่องโน้นช่องนี้นี่นั่นก็ไม่มีรอยเลอะเทอะ เลยลากมาซะหน่อย เพราะตอนนี้อยากใช้กระเป๋าตังค์ใบเล็กๆ โยนใส่กระเป๋าใบเล็กเวลาไปยิมจะสะดวกกว่าใบใหญ่ๆ ค่ะ ได้ใบนี้มาก็จะเหมาะเลย พอถึงบ้านก็เอาผ้าชุบน้ำเช็ดๆ ดู เอี่ยมเลยค่ะ รอยเปื้อนที่นึกว่าเป็นสีทาเล็บก็ออกจนหมดเกลี้ยง น่าจะเป็นลิปสติกหรืออะไรก็ไม่แน่ใจ กระเป๋าตังค์ใบนี้จริงๆ สีดำสนิทเลยนะคะ แต่เพิ่มแสงลงในรูปให้เห็นช่องเล็กช่องน้อยกันชัดๆ ค่ะ เกือบลืมไป… ราคาเต็ม $0.99 ค่ะ ลดแล้วก็ประมาณ 15 บาทค่ะ

page-purses-04

มาถึงใบนี้ จริงๆ เป็นใบแรกเลยที่หยิบมาวันนั้น เพราะเป็นหนังแท้ปั๊มลาย สีดำสนิท สภาพเยี่ยม ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ กว้าง x สูง ก็ประมาณ 10” x 14” หนังนุ่มมาก ไม่มีขีดข่วนที่ major แต่ดูออกว่าถูกใช้งานมาแล้ว รูปทรงดูคุณน๊ายยยย…คุณนาย ตอนที่จะซื้อก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่าซื้อแล้วจะใช้ตอนไหน เพราะอิชั้นเป็นบ้าหอบฟาง บเล็กไปหน่อยสำหรับ daily use แต่ตอนที่จับๆ วางๆ มีอีเม๊กนางนึงเล็งมาที่อิชั้นและกระเป๋าอย่างไม่มีมารยาท เลยจับโยนใส่รถเข็น กะว่าเดี๋ยวไปแอบพิจารณาและตัดสินใจตรงมุมอื่นของร้าน แต่ด้วยราคา $2.99 หาร 2 ก็เลยทำให้ตัดสินใจไม่ยาก ชิมิ ชิมิ พอมาถึงบ้านเช็ดทำความสะอาด โอยยยย….มายเลิ๊บ น่ารักจริงๆ กระเป๋าใบนี้ รอแต่ว่าจะมีปาร์ตี้ที่ไหนเชิญมา 5555 มาดามทดจะแกว่งใบนี้แหละค่ะ คล้องแขนเซิ้งเข้างานไปเลยเชียว 55555

page-purses-07

อีนังใบจิ๋วสายยาวสีน้ำเงินแอ๋นเนี่ย ซื้อมาแล้วเจ็บกระดองใจจริงๆ เพราะตอนที่ซื้อก็นึกถึงรอมมี่ เวลาลูกมีงานแด๊นซ์ที่โรงเรียน จะได้ใส่ตังค์ ใส่โทรศัพท์ สะพายแล่งไป ลูกน่าจะสะดวกไม้สะดวกมือดี พออีรอมเห็นมันเบะปากใส่ เจ็บใจวุ๊ย กระเป๋า Nine West ใบนี้สภาพดี๊ดี หนังแท้ ขนาดกระทัดรัด ประมาณ 6” x 6” แพงที่สุดเลยนะคะใบนี้ $3.99 จ่ายไป 60 บาท ยังเจ็บใจลูกไม่หาย ฮึ่ม จะใช้เองก็ อ่ะ น๊าาาา…. ไม่กล้าเฟ้ย

page-purses-05

ใบนี้เป็นใบที่ซื้อโดยเจตนา ตั้งใจเลยว่าจะไปหากระเป๋า tote เพื่อใช้เฉพาะกิจจริงๆ ลูบคลำอยู่หลายใบ เละๆ เน่าๆ เพียบเชียว เห็นใบนี้ตั้งโด่ ก็เลยคว้ามา เป็นวัสดุยางๆ ปั๊ดติกๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก แต่หนักเชียว ดูสะอาดหูสะอาดตา ข้างนอกสีดำเป็นมัน ข้างในสีฮ๊อตพิ้งค์เกือบแดงแปร๊ดดดด….ถูกใจจริงๆ สีประจำองค์ 555 สายยาวแบบคล้องไหล่ได้สะดวก สะอาดเอี่ยมทั้งด้านในด้านนอก สภาพเหมือนไม่เคยถูกใช้งานมาเลย เป็น GWP ของเอสเต้ ตอนซื้อมีฝุ่นจับนิดหน่อย พอถึงบ้านเช็ดแล้วสะอาดดีเชียวค่ะ ด้านบนมีช่องกระเป๋าเล็กๆ อิชั้นเอาไว้ใส่ปากกา มี flap เทปลอก เอาไว้ปิดปากกระเป๋าด้วย ตอนนี้ก็แบกกระเป๋านี้เข้าออกบ้านกับรถแทบทุกวันเวลาไปดูบ้านกัน real-estate agent ค่ะ บอกราคาแล้วอย่าตกใจนะคะ … อิชั้นจ่ายไป 15 บาทถ้วนค่ะ เพราะราคาเต็มคือ $0.99 ค่ะ

page-purses-10

ใบนี้ต้องกรี๊ดดดด…… เพราะเป็นพวกที่เค้ากองไว้เป็นภูเขาในกระบะเขรอะ ปกติจะไม่ชอบคุ้ยจากกระบะ จะเลือกจาที่เค้าแขวนไว้ เพราะจะเหม็นสาป เหม็นอธิบายยาก กลิ่นค่อนข้าง unique เหม็นของเก่าเก็บน่ะค่ะ ไม่ใช่เน่าหนอนอะไรหรอก 555 แรกเลยเห็นสายกระเป๋าเป็นหนังแท้โผล่ออกมา ดูเหมือนหนังสภาพดี เลยดึงออกมา Banana Republic ใบนี้ตัวกระเป๋าเป็นผ้าร่ม water-resistant nylon เคลือบ แต่ดูเนื้อหนากว่า tote ยอดนิยม Longchamp ค่ะ เป็นสีเครื่องแบบทหารอากาศเมืองไทยน่ะค่ะ กรมท่าหม่นๆ ด้านในซับผ้าไนล่อนสีดำ มีช่องกระเป๋ากระดุมแป๊ะ ขนาดกระเป๋าใบนี้ใหญ่พอสมควร กว้างประมาณ 18 นิ้วค่ะ แรกเลยดูมอมแมมมากๆ เกือบไม่ซื้อมา แต่หลังจากดูถี่ถ้วนดีแล้ว ไม่ขาด ไม่มีรู สภาพเกือบจะ 100% ถ้าไม่หักคะแนนว่าสกปรกไปหน่อย พอถึงบ้านเลยดูป้ายวิธีทำความสะอาด … “ห้ามซัก” อ้าวเหรอ…เชอะ ถ้าไม่ซักก็ต้องทิ้ง เพราะไม่น่าจับต้องเลย อิชั้นจับโยนใส่เครื่องซักผ้าเลยค่ะ 5555 พอปั่นจนเกือบแห้ง ก็เอาไปแขวนผึ่งลมไว้ คิดเหมือนกันว่ามันจะเป็นฟองอากาศ …. สุดท้ายยยย…..สวยสะอาด เนี๊ยบเหมือนใหม่ ไม่มีถุงลมโป่งพอง 555 น่าใช้ขึ้นมาเลยค่ะ เจ้าของเก่าคงใช้ไม่นาน พอสกปรกก็เลยกำจัด ตอนนี้เอาไว้ในรถ อิชั้นใช้เป็นถุงช้อปปิ้งค่ะ เพราะแข็งแรงดีมาก สายกระเป๋าก็ดูทนทานดี ค่าเสียหายใบนี้ 30 บาทค่ะ เพราะราคาเต็มคือ $1.99  

page-purses-06

Tote ใบนี้เป็นอีกใบนึงที่ต้องบอกว่า….ไม่ได้เจตนา เห็นวางๆ อยู่ก็คว้ามา จำได้ว่าสาวๆ ที่เมืองไทยเคยฮิตกันอย่างแรงพักนึง แต่ถุงใบนี้เป็นแบบแบนแต๋ สภาพไม่เคยใช้งาน ลายหมี-ตะหานพระราชวัง พื้นสีขาวเรียบๆ ที่เห็น ดูจากตัวกระเป๋าเป็นๆ ชัดๆ จะเห็นพิมพ์ลายพระราชวังบัคกิงแฮมสีเทาจางๆ ไว้ด้วยนะคะ จริงหรือปลอมไม่ทราบ ดูไม่ออก ไม่เคยสนใจ never pass my mind ไม่เคยดิ้นรนอยากจะรู้ค่ะ จริงหรือปลอม…who cares? อิชั้นเคยมีไอ้ถุง “แฮรอดส์” อยู่ใบนึงตอนอยู่เมืองไทยสีกรมท่า “พะ” ยี่ห้อตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม แต่ใบนี้…..ด้วยป้ายราคา $0.49 อืมมมม…..ลดแล้วก็ประมาณ 6-7 บาท เอาไว้เดินแกว่ง ไป-มา แถวๆ นี้ ก็คุ้มแล้ว

page-purses-08

ไม่ได้เจตน๊าาาา…. ไม่ได้เจตนาอีกใบนึง 5555 ใบนี้เป็นยี่ห้อเอสปรี อิชั้นเคยมีแบบนี้ ขนาดนี้ ยี่ห้อนี้มาแล้ว 1 ใบ สีดำเหมือนกัน แต่ใบเก่าเก๋ากึ๊กเป็นหนังเรียบๆ ค่ะ ปกติอิชั้นจะไม่ใช้เครื่องหนังที่พิมพ์ลาย ปั๊มลาย พวกสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายค่ะ คือไม่ชอบ และคิดว่ามันน่ากลัวค่ะ ไม่ว่า งู ไอ้เข้ หรือ ไอ้เขี่ย อุ๊ย… คุณตะกวด 555 ยิ่งถ้าเป็นหนังจริงๆ ของคุณๆ พวกนั้นด้วย …. โน โน โน… ที่คว้าเอาใบนี้มาเพราะสภาพดี สะอาด ไม่มีกลิ่นเก่าเก็บ เลยคิดว่าจะเอามาทำ “ล่วมยา” (เค้ายังใช้คำๆ นี้กันอยู่หรือปล่าวค่ะ เด็กๆ รุ่นใหม่คงไม่รู้จัก ล่วมยา 555 แต่รู้จัก medicine kit แน่ๆ …เฉิ่มดีเน๊าะ ล่วมยา ล่วมยาๆๆๆๆๆ 55) แต่พอลองเอากระปุกยา ขวดยา ตลับหยูกยาต่างๆ ใส่ …แหงะ ไม่สะดวกเลยเว้ย เฮ้ยยยย…. เลยต้องกลับไปใช้ตะกร้ายาเหมือนเดิม แต่ก็เจ็บใจไม่มาก เพราะจ่ายไป 30 บาท จากราคาเต็ม $1.99 ค่ะ ยังนึกไม่ออกว่าจะให้ใคร สุดท้ายอาจจะบริจาคกลับไป 5555….

page-purses-09

กระเป๋าใบนี้เห็นแล้วนึกถึงพี่หญิงใหญ่ เพราะใบไม่ใหญ่ (เฉพาะตัวกระเป๋า กว้าง-ยาว ประมาณ 8-9 นิ้ว) สายสะพายคล้องไหล่ได้สบายๆ เอาไว้ไปเดินตลาดนัดแถวบ้าน ใส่เป๋าตังค์ กุญแจ โทรศัพท์ แกว่งไปมาเวลาออกไปซื้อกุ้ง ซื้อปลาทูให้แมว 555 หรือเวลาไปนั่งกินอะไรก็เอาคล้องต้นขาไว้ก็ยังได้ 5555 เคยมีใครทำมั๊ยวะ หรือมีแต่อิชั้น 5555 กระเป๋าไนน์เวสต์ใบนี้เป็นหนังแท้สีดำ ดูออกว่าถูกใช้งานมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่ดีและใช้งานไปได้อีกนาน ด้านใน-ด้านนอก สะอาด มีช่องกระเป๋าด้านนอกเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง (เดินเส้นประสีเขียวให้ดูชัดๆ ค่ะ) ราคาเต็ม $1.49 อิชั้นจ่ายไป 12 บาทขาดตัว วันนี้จบแค่นี้ก่อนนะคะ ง่วงจัง กู้ดไน้ทค่ะ

ปอ ลอ… กระเป๋าที่เป็นสีดำทั้งหมด..รูปที่ถ่ายส่วนใหญ่มองแทบไม่เห็น details ใดๆ เลย เพราะช่างภาพห่วยมาก 5555 เลยต้องปรับแสงให้สว่างขึ้น กระเป๋าทุกใบเลยดูเหมือนเก่าๆ เทาๆ เพื่อทราบค่ะ

I've been shopping all my life

and still have nothing to wear.