Saturday, September 29, 2012

นินทาแมว ..บักโทบี้

โทบี้เป็นแมวหนุ่ม ที่เราอะด๊อพมาจาก Animal Shelter ตั้งแต่วันวาเลนไทน์ปี 2011 ตอนนั้นโทบี้อายุ 1 ขวบครึ่ง รอวันขึ้นเขียงให้เค้าส่งวิญญานอยู่ ถ้าไม่มีใครรับไปเลี้ยงภายใน 1-2 วัน ก็จะมรณภาพไป โทบี้เป็นแมวที่คนมองข้าม อยู่กรงด้านล่าง ใครๆ ก็สนใจแต่ลูกแมว ซึ่งเค้าจะเอาไว้กรงบนๆ ระดับสายตา วันนั้นรอมมี่ตกลงรับอีหนูพัฟฟ์มาเลี้ยง ลูกแมวอายุ 3 เดือน ก่อนกลับ อิชั้นหันหลังไปสบตากับแมวหนุ่มสีเทา สายตาเว้าวอน พอขับรถกลับบ้าน ใจไม่สบาย ตกค่ำนอนไม่หลับ หน้าแมวสีเทาตาเหลืองๆ ลอยหลอกหลอนไปมาทั้งคืน พอรุ่งเช้าส่งลูกๆ ไปโรงเรียนแล้วก็รีบขับรถไปที่ Animal Shelter เพื่อขอรับแมวตัวนั้นมาเลี้ยง หารู้ไม่ว่า วันนั้นเป็นวันศุกร์อะไรก็ไม่ทราบ จำไม่ได้ เค้าเจือกปิด ต้องรอไปวันจนทร์โน่น ตายห่าล่ะ เค้าจะไม่ฆ่ามันเสียก่อนเหรอวะ ทุกข์ใจมาก กระวนกระวายใจตลอดเสาร์อาทิตย์

พอเช้าวันจันทร์...อิชั้นรีบแจ้นไปเลย เค้าก็เจือกเปิดบริการ 9 โมง ไปถึงตั้งแต่ 8 โมงกว่าๆ เลยแล่นไปซื้อโดนัทกับกาแฟมานั่งกินในรถรอเค้าเปิด ในที่สุดเค้าก็เปิดประตู อิชั้นพรวดพราดเข้าไป รีบมองหาแมวสีเทากรงล่างสุด ใจหายแว๊บ กรงว่างเปล่า แทบร้องไห้ กุจะมากู้ชีวิตแมว แต่มาช้าเกินไป เลยวิ่งไปที่เค้าน์เต้อร์ถามถึงแมวตัวสีเทาๆ เจ้าหน้าที่บอกว่า ย้ายไปอยู่ด้านหลังแล้ว เพราะอยู่ที่โชว์รูมหลายวันแล้ว ไม่มีใครสนใจ ความนัยๆ ก็คือ ถึงเวลาต้องกำจัดแล้ว ว่างั้นเหอะ ก็เลยรีบบอกเค้าไป ว่าขอดูได้มั๊ย เค้าก็ไปเอาออกมาให้

Cats-resume

รักแรกอุ้ม มั๊ย ... ไม่นะ สงสารมากกว่า ขนแห้งๆ ฟูๆ มันตัวโตก็จริง แต่ดูไม่ค่อยเฮลท์ตี้ (ตอนนี้ขนนุ่มเป็นมัน ตัวไม่อ้วน แต่แน่นปึ้กเลย) แต่ด้วยที่ตั้งใจมารับมันไปเลี้ยงจริงๆ ก็เลยบอกเค้าไปว่าจะรับมันไปนะ ขอทำเอกสารเลย เจ้าหน้าที่ก็ขอบคุณยกใหญ่ ที่เราช่วยเซฟชีวิตแมว จ่ายตังค์ไป 65 เหรียญ เค้าบอกบ่ายๆ มารับนะ เค้าจะฉีดวัคซีนให้ครบ ป้อนยากำจัดหมัดแมลง (ถ้ามี) เช็คแล้วว่ามันถูกตอนมาแล้ว เลยรับมาเลี้ยงในวันนั้นได้เลย ไม่ต้องรอเข้าคิวทำหมัน (ตอนนั้นยังไม่ได้พัฟฟ์กลับมาบ้านด้วย เอกสารต่างๆ เสร็จแล้ว แต่รอทำหมันอยู่)

ตอนบ่ายๆ ก็ไปรับแมวสีเทากลับบ้าน เอกสารต่างๆ ระบุว่าเป็น Grey Tabby Cat เพศผู้ ชื่อ Alex อายุขวบครึ่ง พอลูกๆ กลับมาบ้านดีใจกันใหญ่ เพราะรอแมวพัฟฟ์มาหลายวันแล้ว จนเซ้งไปหน่อยๆ เด็กๆ ตื่นเต้นกับแมวอะเล๊กซ์ เสียงเรียก อะเล๊กซ์ อะเล๊กซ์ อะเล๊กซ์ อา.....เล๊กซ์ ทุกๆ 2 นาที อิชั้นฟังแล้ว แหงะ ไม่ชอบเว้ย เลยบอกลูกๆ ว่า แม่เปลี่ยนชื่อให้แมวนะ เปลี่ยนเป็น Toby นะ Toby the Cat ชื่อหล่อดีออก ลูกๆ ไม่สน ชื่ออะไรก็ช่างหัวมัน เพราะกำลังดีใจได้ปู้ยี้ปู้ยำแมว 5555 จากนาทีนั้น ก็ได้ยิเสียง โทบี้ โทบี้ โทบี้ โท....บี้ จนเหนื่อยหู

women-and-cats-will-do-as-they-choose-men-and-dogs-better-get-used-to-it-cat-quote

เล่าเรื่องที่มาของโทบี้เสียยืดยาว จริงๆ จะมานินทามันนะเนี่ย อิชั้นเป็นคนเกลียดแมว รักหมามาแต่ไหนแต่ไร บ้านเราไม่มีสัตว์เลี้ยงมาหลายปี กว่าจะตัดสินใจเลี้ยงแมว call for family meeting หลายหนค่ะ พอได้โทบี้มาไม่กี่วันก็ได้พัฟฟ์ตามมา พัฟฟ์เก็บตัว หวงตัว แต่โทบี้เฟรนด์ลี่กว่า ขี้ประจบกว่า แมวทั้งสองตัวชอบนอนห้องหนูดี เพราะ "รกชัฏ" ดี 5555 ได้สัญชาตญาณและบรรยากาศป่าๆ ดี 5555 แต่หลังๆ ไอ้โทบี้ชอบมานอนกับอิชั้น (แรงดึงดูดเพศตรงข้ามของอิชั้น ....แรงตั้งแต่สาวยันแก่เลยทีเดียว 5555)

พ่อบ้านไม่ชอบให้แมวขึ้นมานอนบนเตียง เจอ..เป็น..ยัน รู้สึกได้..เป็น...ลุกขึ้นไล่ตี 555 แล้วเวลามันโดดขึ้นมาบนเตียงนะคะ มันจะต้องไปเบียด ไปอิง ไปบิดขี้เกีบจยืดยาวเป็นนาน สองนาน จนพ่อบ้านตื่นอยู่บ่อยๆ เป้าหมายของมันจริงๆ แล้วมันจะมานอนกับอิชั้น ปกติเลย มันจะโดดขึ้นมา นอนทับอิชั้น ช่วงพุง หน้าอก ถ้านอนตะแคงอยู่มันก็ขึ้นมานอนบนสีข้าง นอนไปนวดไป (Kneading) ออกเล็บให้โดนทุบบ้าง มุดจักกะแร้ ซุกหน้า เบียดหลัง นอนทับหัว เกาผม สารพัดมันจะทำ ทนได้ก็จะทน เพราะเกรงใจแมว 555 ที่มันชอบมากๆ คือ เคล้าคลอเคลีย "เฝือ" (Snuggle) พอเวลามันนอน ชอบมานอนใกล้ๆ หน้า ซึ่งอิชั้นได้โมก โปะ ปะ ครีมต่างๆ ไว้เหนอะหนะ มันก็จะเอาหัวมาถู มาไถ จูบ หอม อะไรต่ออะไรของมัน แล้วขนมันก็จะติดหน้าติดปาก จมูก ที่เหนอะเหนียวอยู่ นิดๆ หน่อยๆ พอทนได้ แต่มันร่ำไรมากค่ะ คลอเคลียอยู่นั่น บางทีมันเพิ่งจะกินข้าวมา ถูไถใหญ่ โห กลิ่นอาหารแมว แหวะ สิฮาก ต้องลูกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันใหม่ แล้วก็ไล่ตีแมวอีกกว่าจะได้นอน

พอพายุสงบ อิชั้นล้มตัวลงนอน พยายามข่มตาหลับ มันมาอีกแล้วค่ะ...บักโทบี้ เมิงจะรักอะไรกูนักหนา เข้า "สิง" กูเลยมั๊ยมึง  ไม่รู้จะรักหรือจะเกลียดมันดี เฮ่อ......

cat-quote-for-fb-share-people-that-hate-cats

Catching Up with the INGLEs – September 2012

Hello hello ฮาโล่ ฮะโล่ มาแล้ว มาแล้ว เอารูปมาเล่าเรื่องค่ะ

page-866รูปข้างบนคือคุณก๊อตตี้ หลากหลายอริยาบท

 

page-868

ก๊อตตี้ไปช้อปปิ้งกับแม่ เลือกซื้อแต่ของที่ตัวเองชอบ วาดลวดลายกับรถเข็นจิ๋วไปทั่วห้าง ดื้อมากๆ ซุบเปอร์มาเก๊ตนี้อยู่ใกล้บ้าน (เดินพอไหว แต่ขับรถไปตลอด 555) แต่ของแพง เลยไม่ค่อยได้ไปบ่อยๆ

page-865

ตอนนี้มีร้านใหม่ๆ มาเปิดในเมืองที่อยู่เยอะเลย รวมทั้งร้าน Frozen yogurt ร้านนี้ด้วย มีโยเกิร์ตให้เลือกประมาณ 7-8 รส ไม่เหมือนร้านในเฟสโน่ แต่มีแค่นี้ก็ดีใจกันมากแล้วค่ะ วันไหนพ่อบ้านหยุดก็จะพาลูกๆ เดินไปกันค่ะ ส่วนรูปขวาล่างคือ อาเมแกน วันนั้นเล่นแว่นอันนี้กันเกือบพัง 555 แย่งกันใส่ แย่งกันถ่ายรูป มีแว่นนี้ในครอบครองหลายปีแล้ว ไม่มีใครสนใจจะเล่น พอคนนึงใส่ แย่งกันให้วุ่นวาย คนบ้า 5555

page-869My kisser ยอดนักจูบของแม่ กอดจูบแม่ทั้งวัน นานๆ ถึงจะคิดถ่ายรูปไว้

page-870

พาลูกๆ เดินไปกินทาโก้ที่ Taco Bell ใกล้บ้าน เพราะแม่ไม่ค่อยสบาย เลยไม่ค่อยได้ทำกับข้าว ค้นโน่นนี่กินกันในบ้านจนเบื่อ เลยพาไปหาอะไรกินใกล้ๆ บ้าน แก้เบื่อ

page-871

สก๊อตตี้ ฟันโบกหลายซี่พร้อมกัน ไอ้ฟันเหล็กก็โยกอยู่นานมากแล้ว ไม่หลุดเสียที แปรงฟันที่ไรเลือดไหล พอวันนึง จดๆ จ้องๆ เหงือกลูกดูแปลกๆ ถึงได้รู้ว่า มีฟันแท้งอกซ้อนทับฟันเหล็กโผล่ออกมา เลยรีบทำนัด พาลูกไปให้หมอฟันถอนฟันเหล็กที่โยกอยู่และมีฟันงอกซ้อนทับออกเสีย กลัวว่าฟันลูกที่งอกออกมาใหม่จะ โย้เย้เกบิดเบีัยว บอกให้หมอถอนออก 4 ซี่ แต่หมอถอนออกให้แค่ 2 ซี่

page-872

รอมมี่สนุกสนานกับหมวกแม่มดใบนี้มาก ใส่เดินทั่วห้าง ไม่อายใคร ใครๆ ก็มอง แต่ราคาแพง แม่เลยไม่ซื้อให้ ลูกก็ไม่ว่าอะไร แค่ได้ใส่เดินร่อนในห้างก็แฮ้ปปี้แล้ว 555 หน้าไม่อายจริงๆ

page-873

อันนี้เป็นองุ่นไข่แมงดา องุ่นจิ๋ว หรือที่เค้าเรียก องุ่นแชมเปญ เพราะเค้าเอาไว้ใส่ก้นแก้วแชมเปญหรือเครื่องดื่มค๊อกเทลต่างๆ แต่กินเปล่าๆ ก็อร่อยดี คือ ไม่ได้อร่อยเลิศเลออะไร ก็เหมือนองุ่นธรรมดา เพียงแค่ลูกเล็กๆ ไม่มีเมล็ด กล่องนี้หนัก 2 ปอนด์ ราคา $350 ค่ะ

385783

Catching Up with the INGLEs – August 2012

 

page-874

page-875

page-876

 

page-863

page-877

IMG_1723-s

Saturday, September 1, 2012

เจ้าแม่ "โลว์-เทค"

 

เมื่อคืนนอนดูทีวี (ต้องบอกว่ารุ่งเช้าสิ เพราะตี 4 ตี 5 แล้ว) ผัวนอนหลับไปนานแล้ว แต่อิชั้นหลับไม่ลงจริงๆ จะออกมาดูทีวีข้างนอกก็ขี้เกียจ เลยเอาหูฟังเสียบมาจากหลังทีวีเลย 555 ก็นอนดูทีวีจนฟ้าสว่างแหละ พอเลิกดูทีวีก็นอนคิดว่า กูนี่ช่างพัฒนาลงฮวบๆ จริงๆ 555 จำได้ว่าเมื่อ 20 กว่าปีก่อน มีทริปนึงที่อิชั้นไปสิงคโปร์ ไปไหนๆ ก็ช้อประเบิดระเบ้อเป็นสากลอยู่แล้ว แต่ทริปนั้นแมนมาก ซื้อเครื่องอิเล็คทรอนิคหลายชิ้น รวมทั้งซื้อหูฟังไร้สายของโซนี่กลับมาด้วย (หน้าตาคล้ายๆ ในรูปข้างซ้ายค่ะ ยืมรูปมาจากกูเกิ้ล) จำได้ว่าแพงระยับ ที่เลือกโซนี่เพราะราคาไม่โหดอย่างหลายๆ ยี่ห้อในฝัน และสมัยนั้นก็ยังไม่มีให้เลือกหลากหลายนัก

ที่ซื้อเพราะเป็นประชาชนชาวคอนโดฯ เกรงใจบ้านใกล้เรือนเคียง ซึ่งพวกมันไม่ค่อยเกรงใจอิชั้นหรือใครๆ เลย และอิชั้นเป็นคนฟังเพลงดัง ดูหนังดัง มินิเทียเตอร์ที่มีก็ใช้ไม่ได้ เพราะเปิดแล้วก็อยากจะฟังแบบ ตูมๆ ตูมๆ ไอ้หูฟังที่ได้มาก็ช่วยได้เยอะ  แด้นซ์กระจาย ล้างถ้วยล้างจาน สะดวกสบายกับทุกกิจกรรม แม้แต่เวลาเข้าส้วม เรียกว่าซื้อแพงแต่ก็ใช้จนคุ้มค่า

พอย้ายมาที่นี่ใหม่ๆ ก็ไปซื้อไอ้หูฟังไร้สายมาอีก หน้าตาหรูดูดี ถึงจะเป็นโซนี่เหมือนเคย (เพราะยี่ห้ออื่น ...แพง) แต่แม่ม...เฮงซวย วางแท่นช่าร์จไว้ทั้งวัน วันดีคืนดี..ก็ฟังได้หลายชั่วโมง วันดีคืนร้าย ฟังได้ 4-5 นาที ไฟม้อดจ้อย เอาวะ เราอาจจะวางไม่ดี จดจ่อจ้องไฟชาร์จ จนเหมือนโรคจิต จะเอาไปคืนเค้าก็ผัดวันประกันพรุ่ง จนเลยกำหนด..แลก เปลี่ยน คืน เลยปล่อยให้วางเกะกะใต้ทีวีฝุ่นจับ คิดอยู่เรื่อยๆ ว่ากูจะซื้อใหม่ กูจะซื้อใหม่ ซื้ออะไรก็ได้..ร้อยแปดพันเก้าอย่าง ไม่เคยซื้อไอ้หูฟังที่อยากได้

เมื่อไม่นานมานี้ขณะช้อปปิ้งเล็กๆ น้อยๆ บน amazon.com (my shopping mall online 5555) ซึ่งเค้าจะมีโปรโมชั่นค่าส่งฟรีเมื่อซื้อครบ $25.- วันนั้น..ขาดอยู่ เหรียญกว่าๆ จะซื้อหูฟังก็ไม่ได้..ชิมิ อิชั้นก็เกิดไอเดียบรรเจิด ว่า... น่าจะซื้อสายต่อหูฟังมาโยงหูฟังที่มีอยู่ hot-wire มาจากทีวีเลย..ท่าจะดีแฮะ แล้วราคามันก็แค่ $1.99 สำหรับสายต่อยาว 3 เมตร (ซึ่งหน้าตาเหมือนในรูปก้านขวาน่ะค่ะ) คาดว่า บวกกับสายของหูฟัง น่าจะโยงจากทีวีมานอนดูทีวีได้ ก็เลยสั่งซื้อไป พอของมา มันเวิ๊กมากๆ โคตรคุ้ม เกะกะไปหน่อย รุ่มร่าม รุงรังไปนิด ...พอทนได้ หูฟังที่มีอยู่ก็เป็นหูฟังคุณภาพสูง สามีซื้อให้นานมากแล้ว คราวนี้อยากนอนดูหนัง ตูมตาม โครมคราม คนเดียวดึกๆ ดื่นๆ ก็ไม่ต้องเกรงใจใคร อิอิ

shopping-online

คนเรา...ทุกวันนี้...ไล่ตามเทคโนโลยีกันอย่างไม่ลดละ อิชั้นก็อยากได้ อยากมีมันไปซะทุกอย่างเหมือนกัน แต่เมื่อมีไม่ได้ เพราะปัจจัยไม่อำนวย ก็ต้องคิดปรับเปลี่ยน หาทางทำให้มัน "เวิ๊ก" กับกิจนั้นๆ ของเรา ถึงแม้มันจะเป็นเทคโนโลยีเก่าๆ เต่าล้านปี อย่างเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ฟังดูไร้สาระ หาความสำคัญอะไรไม่ได้กับหลายๆ คน แต่มัน "เวิ๊ก" มากๆ ค่ะ สำหรับอิชั้น $1.99 ที่จ่ายไป เปลี่ยนความวุ่นวายยุ่งยากใจ ที่ต้องนอนดูทีวีเสียงเบาๆ ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เหมือนทีวีมันกระซิบกระซาบ ต้องเปิด caption ไว้อ่านด้วย งานนี้คุ้มจริงๆ ค่ะ ไม่คิดจะไปซื้อ wireless headphone ไม่ว่าจะ ถูกๆ หรือ แพงๆ อีกแล้วค่ะ

จากอดีต ที่เคยเป็น Gadget Queen แต่หลายปีมาแล้วที่อิชั้นได้เปลี่ยนมาเป็น เจ้าแม่ "โลว์-เทค" ชนิดที่ไดโนเสาร์เรียก "ซ้อใหญ่" 5555

online-shopping-cartoon