Sunday, April 29, 2012

Catching Up with the INGLEs – April 2012

สวัสดีค่ะ เหนื่อย ป่วย ยุ่งๆ เลยหายไปพักใหญ่ๆ ขอเอารูปมาแปะไว้ก่อนนะคะ จะค่อยๆ มาเล่าเรื่องเมื่อมีเวลา ตอนนี้อุปสรรคเยอะหน่อย เพราะตั้งแต่เปลี่ยน Internet Provider แล่ปท๊อปก็มีปัญหาทั้ง 2 เครื่อง ไม่สามารถรับสัญญาน “วาย ฟาย” ได้เลย ทั้งบ้านก็เลยเหลือแต่เดสก์ท๊อปเครื่องเดียว และเคลื่อนย้ายไม่ได้ ไม่สะดวกเลยค่ะ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำยังไงดี ข้าวของไม่ได้พัง จะเอาไปซ่อมให้เสียตังค์ก็ยังไงอยู่ เบื่อจังค่ะ

page-814

รูปข้างบน เด็กๆ กับโทบี้ ส่วนรูปบนขวา …ก๊อตตี้ชอบเล่นคีบอร์ดของหนูดี ถ้าพี่เห็นก็มีการตีกันเกิดขึ้น อีพี่ก็หวงเกินเหตุ อะไรที่ใครเค้าหวงนี่ ….มันน่าสนใจ น่าจับต้องยิ่งนัก 5555 ส่วนรูปล่างขวาที่ไหนก็ไม่รู้ จำไม่ได้ ความจะชักสั้นจู๋ลงเรื่อยๆ 5555

page-816

จำได้ว่าพาเด็กๆ ไปดู แอนิเมชั่น 3D เรื่อง Lorax คราวนี้ไม่ได้ดูที่ไอแม๊กซ์ เพราะไปช้าและขี้เกียจรอรอบต่อไป 3 มิติ โรงธรรมดาจะราคาถูกกว่านิดนึง แต่ แต่ แต่ …ไม่น่าเชื่อว่า พวกเราชอบมากกว่าดู 3 มิติที่ไอแม๊กซ์ค่ะ โรงใหญ่กว่า เลือกที่นั่งบนสุด ภาพเสียง คมชัดกว่าเยอะเลย แอบถ่ายรูปในความมืดมาให้ดูด้วย

page-815

รูปล่างเป็นร้านโยเกิร์ตร้านโปรดของครอบครัว Yogurtland อิชั้นชอบรสเผือก เพราะรสชาติเหมือนขนมไทยๆ ส่วนรูปล่าง ยังเป็นรูปที่ถ่ายอยู่ในโรงหนังค่ะ

page-817

พาเด็กๆ ไปตรวจสุขภาพประจำปี รอหมอนานมาก ลูกๆ ตีกัน ไอ้ตี้ร้องไห้งอแง พี่มันเอาป้ายบอกดีกรีความเจ็บปวดมาให้ระบุว่าที่โดย “บึ๊ก” ไป น่ะ เจ็บแต่ไหน 5555 รูปที่โชว์นิ้วกลางทั้ง 2 คนนั่น ไม่ได้ ส่งสัญญานอะไรหยาบคายนะคะ แต่ทั้ง 2 คน โดยเจาะเลือดตรงนิ้งกลางเหมือนกัน 5555 ส่วนถุงมือยาง ไอ้ตี้เค้าบริการตัวเอง …หาหมอจนคุ้นเคย 555

page-818

วันนั้น เราถูกขังอยู่ในห้องตรวจเล็กๆ นานมาก เกือบๆ 5 ชั่วโมง เด็กๆ หิว เบื่อ ดื้น ซน ตีกัน ออกมาจากห้องตรวจก็ค่ำพอดี นัดเจอกับพ่อบ้านที่ร้านอาหารเลย เพราะหิวแทบไส้ขาดกันทุกคน

page-819

น้องป๊อปเอากระเป๋า DSM มาฝาก 2 ใบ อิชั้นเกิดไอเดียบรรเจิด กลับด้านในออก กลายเป็น purse organizer ที่ขนาดพอเหมาะ พอดี เลยค่ะ

page-822

ทำบัวลอยเผือกครั้งแรกในชีวิต อยากจะท้าคุณเพื่อนๆ ที่เมืองไทย ว่ามครเคยทำรับทานเองมั่ง 5555 เพราะอยู่เมืองไทย ไม่ต้องดิ้นรนทำให้ยุ่งยาก ขับรถปู้ดป้าดไปซื้อหามาได้สะดวกมาก พอมาอยู่ไกลบ้าน ความอยาก..ทำมห้ต้องดิ้นรน เลยลองทำดู ต้องบอกว่าอร่อยใช้ได้ทีเดียว แต่ทำเยอะไปหน่อย ปั้นจนเหนื่อย เบื่อ เลยเก็บเอาแป้ง+เผือกที่นวดไว้ใส่ตู้เย็น อีก 4-5 วัน เอาออกมาปั้นใหม่ รอบ 2 เละตุ้มเป๊ะ มาก ไม่เป็นเม็ดบัวลอย แต่เป็นก้อนๆ แทน 555+

page-823

อันนี้เป็นจับฉ่ายที่ต้มเอง เป็นอาหารผักที่ลูกกินด้วย ก็เลยทำอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ส่วนซุปหน่อไม้ซื้อมาจากร้านลาว เปรี้ยวมาก ไม่อร่อย นานๆ ซื้อมากินทีก็พอทนได้ ถ้วยนั้นราคา 5 เหรียญ ความจุประมาณ 1 1/2 ถ้วยตวงได้ค่ะ

page-825

ดอกไม้หน้าคลีนิคลูบเลือด เห็นสวยดี เลยถ่ายมาแบ่งกันชมค่ะ ส่วนถ้วยล่างเป็นแกงเนื้อใส่มะเขือ มะเขือยังแพงมาก 4 ลูก เหรียญนึง จะแก่ไปนิด จะดำไปหน่อยก็กินๆ เข้าไป เพราะของมันแพง

page-820

ช่วง 2-3 เดือนมานี้ อิชั้นป่วยบ่อยมาก เป็นโน่นนี่ไม่ได้หยุด ช่วงนั้นเป็นหวัด ไอ จนคอจะขาด ไออยู่เป็นเดือน กินยาจนหมดตู้ตา ต้องหอบสังขารขับรถไปซื้อยาอยู่ไม่ขาด

page-831

หลังจากรักษาโดยการใช้ยาภายนอก ทา ถู แปะ หมัก ขะโลม มาหลายปี ก็เป็นๆ หายๆ มีช่วงหายเกลี้ยง มีช่วงที่เป็นนิดๆ หน่อยๆ แต่ล่าสุด ชักลุกลามไปทั่วขาและหลัง เป็นจุดๆ คัน และลอกเป็นแผ่นๆ บ้าง หมอบอกให้เลือกระหว่ารักษาด้วย light therapy ซึ่งต้องขับรถข้ามเมือง “ไป-กลับ” สัปดาห์ละ 3 รอบ หรือมากกว่านั้น อิชั้นคิดว่า…ไม่ไหว แน่นอน เพราะน้ำมันแกลลอนละ 4 เหรียญปลายๆ ถ้าไม่เป็นขี้เรื้อนตายก็ต้องจนตาย อีกทางเลือกก่อนที่จะไปขั้น extreme คือ inject ตัวเอง และเหตุผลเกี่ยวกับประกันสุขภาพด้วย ทางเลือกที่ว่าคือ กินยาค่ะ ยาที่หมอจ่ายคือ Methotrexate 2.5 มก.

page-824

วันสบายๆ ที่ IHOP กับครอบครัวค่ะ ตอนนั้นเค้ามี Red Velvet แพนเค้ก ของโปรดของแม่อู๋กับหนูดี หนูดีสั่ง บลูเบอรี่-ราสพ์เบอรี่-เลมอนเหนด ก็อร่อยกันไปอีกวันนึง

page-829

บอไปเสียตังค์กินข้างนอกบ้านก็นึกขึ้นได้ ว่า เรามี เรดเวลเว็ตแพนเค้กมิกซ์ที่บ้านนี่หว่า เลยไปรื้ออกมาจากห้องแพนทรี่ เตรียมทำเลี้ยงลูก….ในวันที่นึกออก 555 เพราะถ้าไม่เอาออกมาวางในครัวให้มันทิ่มแทงตา ก็จะลืมเลือนไปอีก

page-821

อยากจะบอกว่าป๊อปคอร์นถังนี้ เป็น ป๊อบคอร์นที่แพงที่สุดที่ครอบครัวของเราเคยกิน คือราคาถังละ 50 เหรียญ สั่งซื้อไปตอนช่วงที่เค้ามรโปรโมชั่น “ส่งฟรี” ปกติจะซื้อกินทีละถุง ถุงละ 13 เหรียญ แย่งกันกินหนุบหนับแป๊บเดียวก็หมด

page-832

ไปดูตรงลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.popcornopolis.com/create-your-own/create-your-own-tins/2-gallon-tin/create-your-own-father-s-day-3-way-popcorn-tin.html เราเลือก รส “Almond Caramel” ทั้ง 3 ช่อง เพราะทั้งบ้านชอบเหมือนกัน นานๆ ซื้อมากินทีก็พอไหว บ่อยๆ ไม่ดี เพราะแพง และหวานมาก

page-833

หนูดี ของแม่ 14 ขวบแล้ว เธอเปลี่ยนไป 5555 เป็นไปต่างๆ นานา 555

page-834

Easter Ready ไม่ได้ทำอะไรมาก พ่อบ้านไม่ชอบให้เด็กๆ ไปแย่งไข่ตามที่ที่เค้าจัดงาน ก็เลยต้องทำที่บ้าน นิดๆ หน่อยๆ พวกไข่ปล่าวๆ ก็เอาตังค์ใส่ 1 ถึง 5 เหรียญ เด็กๆ ก็สนุกกันไปอีกวันนึง

page-830

รูปซ้ำบ้าง ไม่ซ้ำบ้าง ทนดูกันไปนะคะ

page-835

ส้มของไอ้ตี้ หน้าตาขี้โมโหเหมือนไอ้ตี้เลย 5555 สก๊อตตี้ชอบกินส้มยี่ห้อนี้ค่ะ ลูกคนนี้ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ แต่ชอบกินผลไม้ ถ้าอมเปรี้ยวอมหวานก็จะชอบมาก กินได้ทั้งวัน วันนั้นเห็นลูกนั่งเงียบๆ ที่ตะกร้าส้ม ปรากฏว่า ไอ้ตี้นั่งเขียนหน้าเขียนตาให้ส้มค่ะ 555 ส่วนเห็ดดอง กับแตงกวาดองเป็นของโปรดของอิชั้นเองค่ะ

page-837

สามล้อคันนี้เป็นของไอ้ตี้ตั้งแต่ขวบกว่าๆ ตอนนี้ก็ยังขี่อยู่ในบ้าน จะเอาไปบริจาคหลายหนแล้ว บริจาคคันอื่นๆ ไปหมดแล้ว แต่คันนี้มัน อืม … sentimental มาก โปรคสังเกต ก๊อตตี้ประดับยนต์ 5555 เอากระจกของตัวเองตอนเป็นเบบี้มาติดเอง ช่างคิดนะ…ลูกช้านนนน…..

page-839

clipart - family movie billboard - 500_png

Wednesday, April 18, 2012

อุปทานหมู่ กับ เกือกแตะ FitFlop ดีจริง ..หรือ แหงะ?


ได้เห็น ได้ยิน ได้อ่าน เกี่ยวกับมหัศจรรย์ของรองเท้าแตะ FitFlop มาหลายปี "แหงะ" มาตลอด ไม่นึกอยากลอง มี Birkenstock 3 คู่ ใส่อยู่หลายปีมาก (ทุกคู่ใส่มามากกว่า 7 ปี 555) ชักดูโทรมๆ แต่สภาพยังดีใช้งานได้อีกนานโข ไม่ใช่เน่าจนต้องโยนทิ้ง เลยเก็บเข้ากรุไป ย้ายบ้านหลายหน ยังไม่ได้รื้อรังรองเท้ามาเปิดเลย 555 ลืมเบอร์กี้ไปเลย.. อยู่ไปอยู่มา คือ ประมาณซัก 2-3 เดือนได้แล้ว ตอนกลางคืนปวดน่องทั้ง 2 ข้าง ปวดแบบเมื่อยๆ ล้าๆ เหมือนวิ่งมาราธอน 30 ลี้ทุกวัน กลางคืนนอนไม่หลับเลย มีรองเท้ายางไอ้เข้ รุ่น CrocsTone™ อยู่ หลายคู่ (เรียนย้ำ...หลายคู่) ทั้งคีบ ทั้งแตะ หุ้มส้น และรัดส้น ใส่สบายมากๆ ไม่รูว่าทำไมถึงเลิกผลิตรุ่นนี้ พอหนาวๆ รองเท้าไอ้เข้ก็ถูกเก็บเข้ากรุไปจำศีล เพิ่งจะขนออกมาเมื่อไม่นานมานี้เอง เลยเลือกเอารุ่นแตะมาใส่เดินในบ้าน มันก็โอเคนะคะ แต่ข่าวรุมเร้าเกี่ยวกับ FitFlop ทั้งจากเพื่อนๆ และการสื่อสารยุคใหม่มันทำให้อิชั้น อืม..... อธิบายยากจัง ลองไปอ่านคำโปรยที่เค้า "โว" ไว้สิคะ มันช่างเริ่ดมากๆ ถ้าซื้อมาสวมใส่...อาจจะเหาะได้ 5555 ลองอ่านดูค่ะ

ShoesPage-Birkinstock
รองเท้าเพื่อสุขภาพ Fitflop เพื่อเรียวขาที่สวยงาม 
FitFlop คือรองเท้าสุขภาพจากประเทศอังกฤษ ที่ผลิตขึ้นจาก เทคโนโลยีที่เรียกว่า MicroWobbleboard™ โดยแดเร็น เจมส์ และ ดร.เดวิด คุ๊ก จากสถาบัน LSBU (London South Banks University) โดยใช้แผ่นรองเท้าที่มีอนุภาคขนาดเล็กซึ่งมีความดีดตัวสูง แต่มีความหนาแน่นที่แตกต่างกันเพื่อช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อตลอดเวลา ที่คุณสวมใส่ เพราะทุกย่างก้าวนอกจากจะช่วยกระชับและลดช่วงขาแล้ว fitflop ยังกระตุ้นการตอบสนองของกล้ามเนื้อก้น เอ็นร้อยหวาย กล้ามเนื้อต้นขา และกล้ามเนื้อส่วนน่อง ดังนั้นเพียงสวม fitflopขณะที่คุณทำสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันการบิดตัวของกล้ามเนื้ออย่างช้าๆจะสร้างพลังงานโดยการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานแอโรบิคเท่ากับว่าคุณได้ออกกำลังกายมากขึ้น จากการค้นคว้าของมหาวิทยาลัย แซลฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ในประเทศอังกฤษ สรุปว่า ขณะที่สวม fitflop นั้นให้ ความรู้สึกเหมือนเดินด้วยเท้าเปล่า แต่มีส่วนที่รองรับแรงกระแทกด้วยแผ่นรองชั้นกลาง EVA ซึ่งช่วยลดการตึงของข้อต่อและ รองรับแรงกระแทกขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกกระชับและสบายเท้า พร้อมช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดฝ่าเท้าจากการสวม fitflop ภายใน 2-3 วัน นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปร่างและฟื้นฟูอาการบาดจ็บได้อีกด้วย
In May 2007, FITFLOP sandals hit the shelves. The concept was developed by Marcia Kilgore, a one-time personal trainer and entrepreneur who was juggling motherhood and work and very much wanted to also stay in shape. A ‘tall order’ for most of us mortals. So, came about the shoe that could give a workout whilst you went about your daily routine. What a great idea, and wonderful for those of us who do not relish going to the gym, or indeed, do not have the time to go walking/hiking for one reason or another.
Two podiatrists specialising in biomechanics (who studies gait – how a person walks) – Dr. David Cook and Darren James based at London’s Southbank University created  the fundamental muscle-loading Microwobbleboard Toning Technology which is built into a multi-density midsole found in the bottom of every Fitflop sandal, slipper, boot and shoe.
Fitflop footwear  can help relieve aching feet, help alleviate back, pelvis and knee strain by realigning ground reaction force towards your core relieving areas of uncomfortable high pressure i.e. under the ball of the feet or under the  heels. Due to the biomechanically engineered patent of Fitflops, they help tone and tighten your leg muscles; they also absorb more shock than the normal shoe.
fitflop 178088
ไม่ได้คาดหวังว่ารองเท้าแตะเนี่ยจะทำให้น่องเรียว ตูดเด้ง แต่อย่างใด และไม่ได้มีอาการเมื่อยเท้าเวลาเดินมากๆ คือ แค่เดินอยู่ในบ้านไปมาวันละไม่กี่คืบ..ก็ปวดน่องมาก ซื้อที่นวด ครีมนวด แผ่นเสริมรองเท้าทั้งแบบเจล แบบนุ่มนิ่ม แบบ Arch Supports แข็งๆ เสียบใส่มันหมดทุกรองเท้าที่จะเสียบได้ แม้แต่ slippers ที่สวมใส่เดินในบ้าน หมดไปหลายตังค์อยู่ จะว่า..ดีขึ้น ก็ได้นะคะ แต่ความเมื่อล้าน่อง (ทอง) ของอิชั้น...ก็ลดลงบ้าง แต่ไม่ได้หายเป็นปลิดทิ้ง เลย gave these "FitFlop" a try ในที่สุดอิชั้นก็ได้เป็นเจ้าของรองเท้าแตะวิเศษพร้อมๆ กัน 2 คู่ อิชั้นเลือกซื้อจากคู่ที่ราคาถูกที่สุด ซึ่งตกรุ่นมานานแล้ว สี ไซ้ส์ มีไม่ครบ เลือกอยู่นานก็ได้มาอย่างที่เห็นในรูปค่ะ คู่สีเงิน (เทา) ราคา $24.00 ส่วนคู่สีส้มๆ นั่นราคา $24.99 ค่าส่งฟรี แรกเจอตัวเป็นๆ เลย ก็ต้องบอกว่า...เป็นรองเท้าที่ขี้เหร่ (ที่ว่า "ขี้เหร่" ..เป็นความเห็นและรสนิยมส่วนตัว คนเรา รัก ชอบ ชัง เกลียด ไม่เหมือนกัน ..เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ไม่ซื้อมาลองใส่นานแล้ว และแถวๆ นี้ ไม่เห็นมีใครเค้าใส่กัน 5555) และได้อ่านและได้ดู ได้ฟังมาหลายครั้งหลายหนว่าเป็น gimmick & no magic หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า "เกินจริง-เป็นไปไม่ได้" คนเราจะอะไรกันนักหนาเน๊าะ It needs hard work & no pain no gain! ใช่ปล่าว เอาแค่...ค้นพบรองเท้าที่เราใส่สบายและถูกใจ..เท่านั้น ก็น่าจะพอแล้ว

FitFlop
ฟิตฟล๊อพคู่โปรดของอิชั้น คู่ที่ 3 และน่าจะเป็น FitFlop 
คู่สุดท้ายของอิชั้นค่ะ สวยใส่สบายที่สุด 
(โปรดอย่างมองจุดด่างดำที่เกิดจากหมัดแมวคุกคาม 555)
วันแรกที่ได้มาก็ใส่เดินวนเวียนในบ้าน ไม่ค่อยชอบ เพราะพื้นรองเท้าค่อนข้างแข็ง (คู่สีส้มพื้นแข็งกว่าคู่สีเทา) ส่วนที่คาดบนหลังเท้า คาดอยู่ค่อยข้างลึก ทำให้เวลาเดินส้นรองเท้าไม่ "ดีด" แต๊บๆๆ ชอบค่ะ พอวันรุ่งขึ้นก็ใส่คู่สีส้มไปเดินสวนสัตว์กับลูกทั้งวัน เอ...ดีเหมือนกันแฮะ ไม่เมื่อยเท้า ไม่ปวดน่อง (เวลาเดิน) ไม่กัด stiff ไปนิดนึงเวลาเดิน วันต่อมาก็ใส่ไปเดินที่มอลล์ทั้งวันอีก นอกนั้นก็ใส่เดินในบ้านตลอดวันทุกวัน ชักคุ้นเคย บอกได้เลยว่าสวมใส่สบาย ไม่ขบไม่กัด สบายแบบที่ลืมนึกเรื่องรองเท้า (คู่ใหม่) ที่ใส่เดินอยู่เลย แต่ใส่ขับรถไม่ค่อยสบาย เพราะมันค่อนข้าง stiff ส่วนเรื่องปวดเมื่อยน่อง ดูเหมือนดีขึ้นเล็กน้อย เพราะบางคืนก็ดี บางคืนก็ยังปวดอยู่ แต่ไม่ปวดรุนแรงเหมือนเมื่อก่อน จะให้เครดิตรองเท้าแตะ FitFlop อย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้อาการดีขึ้นบ้าง เพราะอิชั้นใช้หมอนรองขาและเท้าให้สูงขึ้นเวลานอน ใช้เครื่องนวดนิดหน่อย และกินยา (antidepressant) ก่อนนอนที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น ส่วนระหว่างวัน ถ้าปวดตะหงิดๆ ขึ้นมา ก็นั่งเอนหลังยกขาให้สูงๆ นิดนึง ข้อดีที่อิชั้นชื่นชอบในรองเท้าแตะ FitFlop ก็คือ เดินสบาย ไม่เมื่อยเท้าเวลาสวมใส่ เดินได้ทั้งวัน ส่วนเรื่องน่องเรียว ตูดเด้ง น่าจะเป็นผลพวงของการสวมใส่เดินเป็นประจำสม่ำเสมอเป็นปีๆ มากกว่า อิชั้นไม่คาดหวังเรื่องนั้น เพราะย้วยยานเกินเยียวยาไปนานแล้ว

คอนคลูชั่น หลังจากสวมรองเท้านี้เดินไปมาในบ้าน-นอกบ้าน ใกล้-ไกล อยู่ 2 สัปดาห์ อิชั้นต้องบอกว่า"พอใจ" กับรองเท้าแตะ 3 คู่นี้ ไม่ถึงกับ กรี๊ดดดด... เลิ๊บๆ อะไรมากมาย ด้วยความเห็น ความรู้สึกส่วนตัวบอกได้เพียงว่า รองเท้าแตะ FitFlop เป็นรองเท้าแตะคุณภาพดี well-meade แน่นหนา แข็งแรง ดูเหมือนจะไม่พังง่ายๆ ดีไซน์เฉิ่ม ไม่หนัก-ไม่เบาจนเกินไป ราคาค่อนข้างสูง สวมใส่สบาย ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร มีกำลังทรัพท์พอซื้อหามาสวมใส่กันได้โดยไม่เดือดร้อน ก็หามาใส่กันค่ะ จะได้ไม่ตกเทรนด์ เพื่อความโก้เก๋ ก็ไม่ว่ากัน ซื้อหามาใส่แล้วต้องเดือดร้อนเป็นหนี้เป็นสิน..โง่มากค่ะ เพราะใส่แล้ว "เหาะ" ไม่ได้ค่ะ ที่อิชั้นมีครอบครองทั้ง 3 คู่ ทั้งหมดมาจาก Clearance Section ค่ะ คือลดพิเศษ ไม่ต้องเสียค่าส่ง สี-ไซ้ส์มีไม่ครบ ให้ซื้อราคาเต็ม บอกได้คำเดียวว่า No!

สรุปว่า รองเท้าแตะ FitFlop สำหรับอิชั้นแล้ว …เข้าข่ายอุปทานหมู่ค่ะ
...มาเพิ่มเติมค่ะ ...ที่เค้า "โว" ว่าวัสดุด้านบนเป็นหนังหรือไรๆ ก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะสวมใส่นานแค่ไหนก็ไม่ยืดไม่ย้วย อิชั้นขอยืนยันค่ะ ว่า... มันยืดค่ะ แต่ไม่ย้วย ทำให้พอใส่นานๆ ไปแล้วสบายขึ้นกว่าแรกๆ ซึ่งค่อนข้าง "ฟิตเปรี๊ยะ" สำหรับเท้าอ้วนๆ ของอิชั้น สรุป (อีกที)  หลายเดือนผ่านมา อาการปวดน่องหายไปหมดสิ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผลงานของ รองเท้าแตะ FitFlop ทั้งหมด แต่ก็...ยังพอใจรองเท้าแตะฟิตฟล๊อพอยู่ค่ะ และตอนนี้มี 3 คู่แล้ววววว....อิอิ คงไม่ซื้อเพิ่มอีกแล้วค่ะ เพราะราคานี้สามารถซื้อรองเท้าคุณภาพดีๆ สวยๆ ได้อย่างสบายๆ โชคดีค่ะ

ShoesPage-32
รูปขวาล่าง เป็นรองเท้าแตะสะกอลล์ที่อิชั้นมีครอบครองอยู่ตอนนี้ค่ะ 
จริงๆ มีอีกหลายยยย…… 5555 นอกนั้นเป็นภาพยืมมาจากกูเกิ้ล
ปล. พูดเรื่องการตามเทรนด์ เค้าฮิตอะไร สินค้าตัวไหนเค้ามี การไม่มี มันเหมือน …แหมๆๆๆ ทำไมเราไม่มีเหมือนเค้า ความอยากได้ อยากมีเหมือนเค้า ทำให้คนเรา ดิ้นนนนน….รน เพื่อที่จะได้มา มันมีมาช้านานแล้วค่ะ อิชั้นก็ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน ผ่านหิมะ มานานครึ่งศตวรรษแล้ว ก็เคยผ่านช่วง “ฮิต” นิยมในสิ่งต่างๆ มาหลายแล้ว เก่าไป ใหม่มา ช่วงที่เป็นนักศึกษา ถ้าจะโก้ต้องใส่รองเท้าแตะ Dr.Scholls หรือ Adidas สมัยนั้นเรียกตามๆ กันว่า รองเท้าแตะ ด๊อกเต้อสะกอลล์ 555 ซึ่งถ้าฝรั่งได้ยินก็คงจะงง ใครจะไปรู้วะ เน๊าะๆๆๆ เค้าพาเรียกมาแบบนั้น 555 … School ยังอ่านว่า สะคูล เลยนี่นา ฝรั่ง (เฉพาะไอ้กันหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ) ออกเสียงว่า ด๊อก-เต้อ-โช้ลส์ ต่อๆๆๆๆ รองเท้ายอดฮิตเมื่อ 30-40 ปีที่แล้วคือ ด๊อกเต้อสะกอลล์ มีแบบอยู่ไม่กี่เท่าไหร่หรอกค่ะ มีรุ่นสีแดง (คล้ายๆ ในรูป แต่ดูเบอะบะ เทอะทะกว่า) มีรุ่นพื้นไม้ รุ่นพื้นไม้คอร์ก รุ่นเทปลอกข่าว-น้ำเงินแบบในรูป ส่วนอิแตะอะดิดาส ก็เป็นรุ่นแถบขาวน้ำเงินอย่างในรูป ไปไหนก็เจอ 100 คนมีใส่รองเท้าเหมือนกันซัก 80 คนได้ 5555 ถอดเป็นหาย ราคาแพงมากกกกก…. 600-700 ไปถึง 1,000 เลยนะคะ ของปลอม ของก๊อปก็เพียบ นอกจากรองเท้าแตะนำเทรนด์แล้ว ก็มีรองเท้ากีฬา รองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อดัง ราคาแพง รุ่นยอดนิยม สาธยายไม่หมด อิชั้นก็มีเกือบจะครบทุกรุ่น ทุกสี ทุกยี่ห้อ ตามเทรนด์ไปด้วย  555 แฟนซื้อให้บ้าง เก็บตังค์ซื้อเอง ไปจนถึง “จิ๊ก” ตังค์แม่ซื้อ 55555