Wednesday, October 28, 2009

เกือกใหม่ + กระเป๋าใหม่

ไม่พูดพล่ามทำเพลง มาดูรองเท้าคู่ใหม่ของอิชั้นกัน ตอนซื้ออิสามีมีบ่นนิดนึง “ซื้ออีกแระ เพิ่งซื้อไปไม่นานก็คล้ายๆ คู่นี้” ก็สวนไป ไม่เมื๊อน…. ไม่เหมือนเฟ้ย คนละยี่ห้อ แต่เป็น Wedge & Pump และสีดำเหมือนกันเท่านั้นเอง 5555 พี่แกก็บ่นไปงั้นแหละ คุณเมียอยากได้ก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายอยู่ดี 5555 แถมราคาก็สุดห้ามใจรักมากๆ มันเป็นสินค้า clearance จากราคาเต็ม $175.- ลดเหลือ $39.- แล้วแบบก็ถูกใจเป็นหนักหนา มา มะ กลับบ้านด้วยกัน 555 คู่นี้เป็นยี่ห้อ Michael Kors ชอบรองเท้ายี่ห้อนี้อยู่ด้วยสิ ตรงที่หุ้มส้นเป็นวัสดุเหมือนยาง ซึ่งน่าจะไม่ขูดขีด ลอก หรือขาดได้ง่ายๆ ถ้าขับรถส้นกับหนังที่หุ้มส้นก็คงไม่พังเสียหาย (จริงๆ รองเท้าทั้งหมดของอิชั้นสภาพเนี๊ยบตลอดกาล เพราะรักรองเท้ายิ่งชีพ 5555) ส่วนวัสดุตัว upper เป็นหนัง suede สีดำเมี่ยม (สะใจ) ใส่แล้วเดินสบาย ไม่ “ดุ” กัดแหลก แต่จริงๆ ยังไม่รู้หรอก เพราะเดินอยู่ในบ้านเพื่อ break-in เฉยๆ ยังไม่ได้ใส่ไปแต๊ดแต๋ที่ไหนนอกบ้านเลยค่า ขอให้เชื่อง ขอให้เชื่อง เถิ้ดดดดดด….

page-463

อันนี้เป็น Coach ใบใหม่ของอิชั้น มันคือ Coach Bonnie Canvas Tote (Fuchsia & Orange) สีแอ๋นแต๋นถูกใจมากๆ อยากได้ อยากได้มานานมาก มันเป็นคอลเล็คชั่นที่ออกมาประมาณต้น Spring 2009 ออกมาไม่นานก็หายหน้าหายตาไป คงไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เห็นตกไปอยู่ตาม outlet ต่างๆ แล้วอิชั้นก็โชคร้าย (ในความโชคดี ไม่ต้องดิ้นรนเสียตังค์บ่อยๆ 555) คือ ไม่มีเอ๊าท์เล๊ตไหนอยู่ใกล้ๆ ในรัศมี 300 ไมล์เลย ก็หมดใจไปแล้วหล่ะกะนังชมพูแอ๋นเนี่ย เมื่อไม่กี่วันก่อน คุณเพื่อน (สุมนา) ไปแต๋นที่เมซี่ส์ โทรมาบอก เห็นมีใบนึง เกาะไว้ เหนี่ยวไว้ กลัวคนอื่นคว้าไป แล้วก็กลัวอิชั้นจะไม่รับสายแทบแย่ เสียงตามสายของคุณเพื่อน (ที่แสนดี) แว๊ดมาว่า ยัง fonding นัง Bonnie นี่อยู่หรือป่าว เค้า clearance ที่ Macy’s อิชั้นก็รีบแว๊ดกลับไป ลากคอนังบอนนี่มาเลยจ้า จากราคาเต็ม $298 ลดเหลือ $89.40 แล้วลดพิเศษอีก 15% บวก TAX กลับมาคืนอีก 8.975 % ไปคิดกันเอาเองท่านผู้ชม ทดไม่เก่ง match 555555 พอได้รับคุณกระเป๋ามาก็พินิจพิเคราะห์ด้านนอกด้านในดูเนี๊ยบเรียบร้อยดี กระเป๋าใบนี้ค่อนข้างหนัก ดูจุดีด้วย บ้าหอบฟางอย่างอิชั้นขนอะไรใส่เข้าไปได้เยอะเชียว แต่ไม่ยักกะแถมไม้คาน จะได้หาบไปมาสะดวกขึ้น 555 ด้านหน้ามีช่องกระเป๋า kiss-lock frame เล็กๆ ประดับอยู่ มันจิ๋วเดียว ไม่น่าจะเอาอะไรใส่หรอกค่ะ ด้านข้างก็มีช่องกระเป๋า turn-lock gusset ทั้งสองด้าน ส่วนด้านหลัง มี small slip pocket ด้วยค่ะ ขอตินิดนึงตรงที่ไม่มีซิปปิดด้านบน main compartment ลูกๆ อิชั้น มันชอบเทกระเป๋าแม่เวลามันหาข้าวของน่ะค่ะ น่าตี (+ตื้บ) กันจริงๆ ให้ตายเถอะ…ฆ่าาาา…

page-459

ส่วนเจ้าสะพายแล่งนี่ต้องรองเพลง ไม่ได้เจตนา ไม่ได้เจตนา ล้า ลา ลา …. ไม่ได้เจตนาซื้อใบเล็กๆ นี่เลยค่ะ พอคุณเพื่อนโทรกลับมาอีกว่า เฮ้ย เอาใบลูกมันหรือป่าว ก็ถามกลับไปว่าคุณลูกใบไหน (พูดมาเถอะ รู้จักโม้ดดด….ทุกลูก) พอคุณเพื่อนบอกว่าเป็นแบบสะพายแล่ง และคิดว่าอิชั้นน่าจะซื้อให้ลูกสาว เพราะปกติจะชอบใช้ของเหมือนๆ กันอยู่แล้ว ก็ตอบคุณเพื่อนไปว่า โอเคเลย ลากคอลูกมันมาด้วย เจ้า Coach Bonnie Swingpack Crossbody อันนี้ก็ "โล๊ะ-ราคา” จาก $168 ลดเหลือ $50.40 แล้วลดพิเศษอีก 15% บวก TAX กลับมาคืนอีก 8.975 % เช่นกัน กระเป๋าใบนี้กระทัดรัดใช้สะพายพาดตัวเพื่อความสะดวกมือไม้ทั้ง 2 ยังอยู่ครบ หรือในวันที่มีธุระเบาๆ ก็จะสะดวกมาก อย่างเช่น..ไปแต๋นตามคาสิโน 5555 (นานทีปีหนค่ะถึงได้ไปกะใครเค้า พูดเหมือนเซียน ฮิฮิ) ด้านหลังของกระเป๋ามี กระเป๋า kiss-lock frame และ small slip pocket ส่วนด้านในกระเป๋าไม่มีช่องอะไรทั้งนั้นค่ะ

page-460

งานนี้ต้องขอบคุณคุณเพื่อนอย่างมากกกกกกก….. แต๊งส์ นะคะ คุณเพื่อน

มาแปะรูปว่าที่ลูกเขยเพิ่ม 55555 เป็นหนุ่มลูกครึ่งแม่ฟิลิปปินส์ พ่อไอ้กัน คลั่งไคล้ลูกสาวอิชั้นอย่างแรง รอรับรอส่งที่ประตูโรงเรียนทุกเช้าทุกเย็น กร๊ากกกกกกก ในรูปไอ้เด็กพวกนี้มันเต้นรำกัน เต้นประสา (ภาษา) อะไรก็ไม่รู้ กระโดดขึ้นกระโดดลง ประหลาดนิ อีพ่อบ้านขำลูกตะเองใหญ่เลย แล้วบอกห้ามมีแฟนจนกว่าจะอายุ 29 ถ้าไม่เชื่อฟังจะเปลี่ยนเป็นอายุ 32 ไม่เชื่อก็ลองดู 5555

page-464

ไปแระ…ปิ๊ง….

Have A Nice Day Everyone.!.!.

โชคดี-03

Monday, October 26, 2009

อีซี่ อีซี่ รีแล๊กซ์ รีแล๊กซ์

วีคเอนด์ที่ผ่านมาครอบครัวเราก็อีทเอ๊าท์ตลอด แล้วก็ไปช้อปปิ้ง-ช้อปเปี้ยงเล็กๆ น้อยๆ โน่นนี่นิดหน่อย นอกนั้นก็นอนดูทีวีขี้เกียจอยู่บ้านกันพร้อมหน้า ก็หลังจากลุ้นกันซะมากมายเรื่องแด้ดดี้กับหนูดี พูดคุยเรื่องนั้นกันสองคนผัวเมียแทบจะทุกๆ 10 นาที ทุกหนทุกแห่ง คนอยู่ที่ทำงานนึกอะไรออกก็โทรมาให้คนอยู่บ้านเครียด คือเราวิตกเรื่องที่ไม่น่าวิตกจนเกินเหตุมั๊ง จริงๆ ต้องโทษอี จนท. คนที่ดูแลเคสเรา ขู่ๆๆ ทำหน้าตาท่าทางให้เรารู้สึกสิ้นหวัง never work on the case like this ….I don’t know how the judge would do about this case blah blah blah…… แต่สุดท้ายก็จบลงสวยงาม แฮ้ปปี้เอนดิ้งสุดๆ

หลังจากเครียดๆ เซ็งๆ ก็พากันไปตะเวนกินซะหลายที่หลายแห่ง สนุกสุขสำราญท้องไส้แต่ระรานกระเป๋าตังค์ 555 ไม่ได้ถ่ายรูปมาอวดกันเพราะไปแต่ละที่หิวซ่ก อะไรโผล่มาจัดการกันแบบไม่ยั้ง แต่วันนี้จะมาอวดอะไรเล็กๆ น้อยๆ รูปแรกเป็นตอนที่เราไปแวะหาซื้อชุดฮัลโลวีนให้ลูกๆ กันที่ Party City รูปเบลอๆ เพราะไม่กล้าใช้แฟลช คนเยอะมากเดี๋ยวเค้าด่าเอา มาดูกันเร้วววว…

page-457

ส่วนอันนี้เป็นโทสับใหม่ของทดค่า Sony Ericsson C905a ที่มีกล้อง 8.1-megapixel น่าจะเรียกว่ากล้องที่มีโทรศัพท์มากกว่าโทรศัพท์มือถือที่มีกล้อง เพราะกล้องทำงานแบบฟูลอ๊อพชั่นเลย กว่าจะเปลี่ยนเป็นอันนี้ก็ส่งอีเมวไปถามไถ่เอทีแอนด์ทีถึง 3 ครั้ง 3 ครา คือเซ่อๆ บ้าๆ นึกคำถามออกทีละ 2-3 ข้อ 55555 ตอนแรกก็บอกเค้าไปว่า ถึงเวลาแล้วที่มือตื๋อของชั้นต้องไอ้อั๊พเกรดอ่ะนะ แต่ไม่รู้จะเอาแบบไหนดี ก็สนใจไอ้รุ่นนี้ อิชั้นไม่ใช้เน็ทบนมือถือ (เพราะเน็ทที่บ้านเปิดเกือบจะตลอดวันตลอดคืน) อิชั้นไม่แชท ไม่ text messaging ไม่เอา full keyboard (ไอ้แบล๊คเบอรี่-ก็ต้องตัดไป) ไม่โน่นไม่นี่ ก็ร่าย…ยาว บอกเค้าไปอีกว่า life style ของอิชั้นเป็นแบบนี้ แบบนี้นะ need PDA and sometimes need camera too (เวลาลืมกล้อง) เพราะตารางหาหมอ ตารางรับส่งลูก กิจกรรมลูก เมื่อก่อนพก PDA พกโน่นนี่มากมายใส่คานหาบแบกหามรอบตัวดูไปมาคล้ายๆ แรมโบ้หญิง แล้วไอ้ไอโฟนที่เห่อๆ กัน ไม่อยู่ในห้วงฟามคิดของทดเลย เพราะมีลูกมือซน ทัชสกรีนนี่ต้องห้าม แถมโสหุ้ยอีไอโฟนเนี่ย แพงนิ แล้วประกันไม่คัฟเว่อร์ด้วย (อันนี้สำมะคันมากๆ) คือไม่อะไรเลยกับไอโฟน ก็เมวกันกลับไปกลับมา ยังงงสงสัย ไหงอิเบ๊อะไม่โทรไปคุยกะเค้าซะให้จบๆ เสร็จๆ 5555 คนเราก็บ้าเน้อ… สรุปว่ามือถืออันนี้เหมาเจาะกับอิชั้นที่สุด

page-458

พอดีไปเจอซองมือถือใส่กันได้พอดีเป๊ะๆ ในกะบะเคลียแร๊นซ์ เลยลากมาซะด้วยราคา 2 เหรียญ แถมด้านในบุผ้าสีริ้วๆ เหมือนmulti stripe ของ Paul Smith ซะยังไงยังงั้น 55555 อยากบอกเพื่อนๆ ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่าเมื่อก่อนทดน่ะเป็นสุดยอดเจ้าแม่ gadgets เลย แต่เดี๋ยวนี้นะ “โล-เทค” สุดๆ 555 เซ่อซ่า บ้าบอมากๆ ปัญญาทึบจริงๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ยาก อะไรที่ complicate มากๆ ก็จะกลายเป็นก้อนหินไร้ประโยชน์ไปเลย เพราะทดจะไม่แตะไม่ต้อง cannot utilized อะไร สิ่งนั้นก็จะสูญค่าไปเลยจริงๆ นะ พอจะซื้ออะไรก็เลยต้อง study หนักๆ หน่อย 555 ยิ่งแก่ก็ยิ่งเซ่อแล้วยังจู้จี้จุกจิกด้วย กร๊ากกก….แล้วมีใครเป็นเหมือนทดกันบ้างหรือป่าว…. อย่ามาบอกนะว่า ยัง sharp & chop chop กันดีอยู่ 5555 อย่ามา “กอหก” ก๊านนน…

ตอนนี้ก็มีเรื่องวุ่นๆ ยุ่งๆ รุงรังกระเป๋าตังค์อีก เพราะอีรอมจะไปแค้มป์ตั้ง 1 สัปดาห์ ยังจัดซื้อจัดหาของให้ลูกไม่ครบเลย แล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะให้ลูกเอากล้องไปดีหรือป่าว กลัวมันทำของหายมากๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังความคืบหน้าค่ะ

อู๋ค่ะ-02

Saturday, October 24, 2009

วันดีๆ สำหรับครอบครัวเรา

 

piya_day

เมื่อวานเป็นวันปิยะมหาราช (ปิยมหาราช… กลัวสะกดผิดจังเลย) แล้วก็เป็นวันเกิดของลูกชายนายสก๊อตตี้ เมื่อวานก็ครบ 3 ขวบแล้วครอบครัวของเราก็ได้ granted เรื่องที่แด้ดดี้รับหนูดีเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนเข้าไปในศาลพ่อก็บอกลูกว่า ไม่ว่าจั๊ดจ์จะแกร๊นต์หรือไม่ ลูกก็เป็นลูกพ่อวันยังค่ำ You are and will always be my daughter. พอออกมาจากศาล..อิแม่มันก็ เฮ้อ….. จบๆ ซะที ตุ๊มต่อมอยู่หลายสัปดาห์แล้ว งานนี้ต้องกราบขอบคุณคุณพี่ชายใหญ่และพี่หญิงใหญ่รวมทั้งคุณยายที่เมืองไทยที่เป็นธุระจัดการเรื่องเอกสารที่ทางนี้ต้องการได้อย่างสมบูรณ์ ซาบซึ้งมากๆ โดยเฉพาะคุณพี่เขยที่ทำทุกอย่างเพื่องานนี้อย่างสุดหัวใจ หนูดีและแม่กราบขอบพระคุณคุณลุงมา ณ ตรงนี้เลยนะคะ (โชคดีเน๊าะที่มีพี่เขยเป็นทนายใหญ่ 555 ไม่งั้นพี่หญิงเอ๋อของดิฉันยังคง “งม” อยู่แถวไหนก็ไม่รู้แน่เลย 5555 โปรดสังเกต อิแม่มันอ้วนมากกกก…. ไม่ได้ท้องนะเฟ้ย อ้วนเฉยๆ 55555)

IMG_6181-s

จากนั้นก็ไล่อีรอมกลับไปโรงเรียน ตัวอีรอมเองไม่อยากไป แต่พ่อมันไล่ให้ไป เพราะเสร็จธุระจากศาลก่อน 9 โมงเช้า (ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น) อิชั้นกะซะมีและเบิ๊ดเดบอยก็พากันไปทานเช้าที่ Perko’s ภัตตาคารประจำตระกูล แล้วไปจัดการธุรกรรมเล็กๆ ที่ธนาคาร ไปงีบต่อที่บ้าน แล้วอีแม่มันก็ต้องบึ่งไปเฟะโน่ตามลำพัง เพื่อไปรับเค้ก ผิดหวังเล็กๆ เค้กไม่สวยอย่างไอ้เจ้าของร้านคุยไว้ แถมต่างจากรูปที่เราเลือก คือคล้ายๆ น่ะ แต่ไม่เหมือน 40 เหรียญนะคะ เค้กอร่อยดีเลยให้อภัย 555

จากนั้นก็พากันไปโรงเรียนลูก เพราะเค้ามีงาน Carnival หาตังค์ให้ไอ้พวกเกรด 6 ไปแค้มป์ นอกเหนือไปจากที่พ่อแม่ต้องจ่ายคนละ 200 เหรียญ เค้ามีอะไรให้ซื้อก็ซื้อ เค้ามีอะไรขายให้กินก็ซื้อกิน เค้ามีเกมส์ให้เล่นก็ไปจ่ายตังค์เล่น ตามประสาผู้ปกครองที่ดี ไอ้ตี้วิ่งๆๆๆๆๆๆ เหมือนกินยาม้ามา อิแม่มันสบายหน่อยเพราะพ่อมันไปด้วย เลยได้เดินนวยนาดย้ายพุงอย่างสบายใจเฉิ่บ ให้มันไปไล่กวดกันเอาเอง 5555 ส่วนอีรอมเค้าก็สนุกสนานมากมาย พ่อให้ 20 ไปซื้อคูปองพาเพื่อนเล่นเกมส์ต่างๆ รวมทั้งพากันไปให้เค้าสเปรย์สีใส่หัวกบาลกัน (ไม่ได้พ่นยาฆ่าเหานะ) เสื้อแดงนั่นคุณครูประจำชั้นของหนูดีเค้า (รูปวันนี้เหลืองๆ เพราะไม่รู้ไอ้ตัวไหนไปเซ็ตเป็นโหมดใต้น้ำไว้ ปรับเปลี่ยนให้ดูดีขึ้นได้แค่นี้แหละ ฮึ่ม)

page-455

พอออกจากโรงเรียนก็พากันไปต่อที่บัฟเฟ่ต์ร้านประจำ รอให้โคตรผัวโผล่มากันครอบครัวเราก็แด๊กอิ่มกันแล้ว 555 กินๆ คุยๆ พออยากกลับบ้านกันแล้วก็เอาเค้กออกมา เจ้าก๊อตตี้ไม่สามารถละสายตาจากเค้กได้ 5555 มือก็กวัดไกวจะเอาธอมัสไขลานนั่นออกมาจากเค้กให้ได้ เทียนก็ไม่ได้เตรียมไป ดีว่าอีเจ้เค้ามีเก็บไว้ เสร็จแล้วก็ตัดๆ เค้ก แจกๆ แบ่งๆ กันไป พวกเราก็กลับบ้านมาแกะของขวัญไอ้ตี้กัน ดูหนัง แยกย้ายกันไปนอนหลับอุตุ หลังจากที่นอนไม่หลับกันมาหลายคืน คร่อกกกก….ฟี้…zzzzzz It’s just another one fine day for our family…

page-456


Father and Daughter (Paul Simon)

If you leap awake
In the mirror of a bad dream
And for a fraction of a second
You cant remember where you are
Just open your window
And follow your memory upstream
To the meadow in the mountain
Where we counted every falling star
I believe the light that shines on you
Will shine on you forever
And though I cant guarantee
There’s nothing scary hiding under your bed
I'm gonna stand guard
Like a postcard of a Golden Retriever
And never leave till I leave you
With a sweet dream in your head
I’m gonna watch you shine
Gonna watch you grow
Gonna paint a sign
So you’ll always know
As long as one and one is two
There could never be a father
Who loved his daughter more than I love you
Trust your intuition
Its just like going fishing
You cast your line
And hope you get a bite
But you don’t need to waste your time
Worrying about the market place
Try to help the human race
Struggling to survive its harshest night
I’m gonna watch you shine
Gonna watch you grow
Gonna paint a sign
So you’ll always know
As long as one and one is two
There could never be a father
Who loved his daughter more than I love you
I’m gonna watch you shine
Gonna watch you grow
Gonna paint a sign
So you’ll always know
As long as one and one is two
There could never be a father
Who loved his daughter more than I love you

 

 

The greatest gift I ever had Came from God,

and I call him Dad!

Rommy-01

Monday, October 19, 2009

ลูกมหาจำเริญของอิชั้น

เมื่อวานไอ้ตี้เกิดตาแหกเข้าให้อีก ข้างซ้ายข้างเดิมอีกแล้ว (นานๆ จะข้างขวาซะที) วิ่งๆๆๆ เดินไม่เป็น วิ่งไปวิ่งมา วิ่งใส่เหลี่ยมประตูเฉยเลย ทั้งโมโห ทั้งสงสาร ร้องลั่นบ้านตามระเบียบ เชิญชมภาพชุด “ตาแหก” ค่ะ

page-447

รูปก้อนนี้เป็นผลงานของคุณสก๊อตตี้เค้า จริงๆ มีไม่เว้นแต่ละวัน วันละหลายๆ เรื่อง หลายๆ อย่างแตกต่างกันไป มันเลยต้องโดน “มาตาพิฆาต” ไม่เว้นแต่ละวัน มีบางครั้งเท่านั้นที่ถ่ายรูปเก็บไว้ …..มาดูกันเลย

อันแรก เป็นตะกร้าชุดชั้นในที่พับเรียงเรียบร้อยเตรียมจัดใส่ลิ้นชักใหม่ พอจัดพับเสร็จก็วางตะกร้าไว้บนเตียง เดินออกไปทำอะไรนอกห้องนิดนึง พอเดินกลับเข้ามา เจอตะกร้าบู้บี้คว่ำอยู่ที่พื้น อยากตายพอๆ กับอยากตื้บไอ้ตี้ ฮึ่ม

ต่อมาเป็นขวดน้ำตาลประจำครัวคุณทด 3 ขวด จะเห็นว่าขวดฝาเขียวนั่นเกือบจะว่างเปล่า คือตอนที่อิชั้นล้างถ้วยล้างจาน จัดเข้าเครื่องล้างเสร็จ ก็เลยล้างหน้าตัวเองซะที่ซิ๊งค์นั่นเลยให้มันเสร็จๆ ก้มหน้าล้างหน้าฟองฟ่อด แต่เหลือบมองไปเห็นตัวอะไรไม่รู้ เหมือน possum วิ่งดุ๊กๆ ผ่านหลังไปมา ชักเกิดระแวง มันทำอะไรว้าาาา….. แล้วเงียบเชียบเชียวนะคะ เลยรีบวิ่งตามมันไป มันกะลังจะเริ่มขวดที่ 2 เลยค่า ขวดแรกมันได้เอาไปโรยไว้เต็มพื้นห้องนอน เห็นแล้ว “หมุด” อยากตาย พอๆ กะอยากตื้บไอ้ตี้อีก ดีที่ว่ามีพระเอก Dyson (เคยพูดถึงไว้ตรงนี้ http://oohsworld.blogspot.com/2009/05/my-dream-dyson.html) แต่ก็ได้แจก บึ๊กๆๆๆ ไปนิดหน่อย โมโหมากๆ ค่า

ต่อมาเป็น Talking Dict คู่บุญ อยู่กันมานานนมยานเป็นกอง อิแม่กะลังดูทีวีเพลินๆ ไอ้ตี้ทำไมเงียบๆ วะ (ไอ้คนนี้เงียบเมื่อไหร่ เป็นต้องระวัง เพราะมันเป็น Event Organizer ตัวยงค่ะ) พอเดินไปมาหามันจนเจอ พบว่ามันกำลังแกะ แยกร่าง electronic dictionary ของอิชั้นอยู่ค่ะ ซึ่งมันได้แกะ keypads ยางออกหมดแล้วทุกปุ่ม การ์ดก็กระเด็นออกมาแล้ว เห็นแล้วปวดกบาลมากๆ เลย เลยแจกไปอีกเปรี้ยงนึง

ท้ายสุด มันเอาแป้งเด็กโรยเต็มบ้านเต็มครัว รวมทั้งคีบอร์ดด้วย มันก็เลยต้องมีการฟาดกันตุ้บตั้บอีก มันจะได้โตมั๊ยวะลูก หรือจะโดนแม่ตีตายซะก่อน 5555

page-446

รูปก้อนนี้เป็นตอนพาลูกๆ ไปทำความสะอาดฟัน เค้าก็ x-ray ฟันกันอีกตามระเบียบ ที่น่าประหลาดใจคือ ไอ้ตี้ไม่มีร้องงี่เง่างอแงเช่นเคย ขัดขืนต่อสู้บ้างนิดหน่อย ก็หลอกล่อกันไป ขากลับแวะซื้อกับข้าว ได้ขนมเส้น (ไม่ใช่ข้าวปุ้นเด้อ 555) เป็นหนมเหนียวเคี้ยวหนึบรสฟรุ้ตตี้ ถึงบ้านอีรอมเอาออกมาเล่นซะนี่ กะว่าจะเอาไว้หลอกไอ้ตี้เวลามันงอแงตอนป้อนธาตุเหล็ก…รสชาติและกลิ่น…แบบ…อูยยยย…. มากๆ ขนมมันเส้นยาวๆ กว่าจะกลิ่นหมดก็คงพอช่วยลูกได้บ้างแหละ กินไปเล่นไป 5555

page-453

รูปนี้เป็นตอนพาลูกๆ ไปฉีดฟลูวัคซีน ก็ต้องมีการตรวจสุขภาพตามปกติ ไอ้ตี้ยิ่งโตก็ยิ่งดื้อ รู้มากรื้อโน่นนี่เค้าออกมาเล่น ขู่ ด่า ตี หยิก สารพัด มันทนบักอึ้ด ดื้อด้านซนต่อไป หมอมาเห็นชมเปราะ … (กล้าด่าเหรอ 555) โตแล้วเก่งเน๊าะ เล็กๆ ดูเหมือนจะไม่พูด ตอนนี้เสียงดังฟังชัดเชียว 5555 จะด่าว่าหนวกหู ใช่ป่าว รู้ทันนะ สรุปว่าวันนั้น ไอ้ตี้ได้ฉีดฟลูฉ่อต แต่อีรอม “อด” เพราะวัคซีนของเด็กโตหมด ก็บอกหมอไปของผู้ใหญ่ก็ได้นะ มันใหญ่ยักษ์กระบือถึงขนาดนั้น อีหมอบอก บน chart ในคอมพ์ ไม่ยอมแน่นอน เพราะอายุเพิ่ง 11 ทำเบิกยากออกมาเดี๋ยวจะเป็นปัญหา เลยกลายเป็นว่า ต้องจ่ายค่าวิสิตครั้งนี้ให้อีรอมโดยเปล่าประโยชน์ เซ็งระบบเจงๆ

page-448

อันนี้เป็นรูปที่ได้เห็นทุกๆ บ่ายวันอาทิตย์ พ่อลูกออกไปตัดหญ้า อีรอมโตแล้วพอเลยเอาออกไปช่วยเก็บกวาดเล็กๆ น้อยๆ เชื่อสิ…ไม่นานหรอก พ่อมันต้องบังคับให้อีรอมรับเหมางานนี้ต่อแน่นอน 55555 เห็นสอนกันใช้รถตัดหญ้า ตานี้ก็เตรียมควักกระเป๋าตังค์จ่ายค่าแรงมันด้วยละกัน 55555

page-449

บ่ายวันเบื่อๆ ไปรับลูกจากโรงเรียน บ่นหิวๆๆๆๆ เลยพาไปแม๊คโดเน่า ไอ้ตี้ได้ออกบ้านหน่อยนึง ใส่รองเท้าแตะด้วย ไม่มีถุงเท้า เพราะกะว่ารีบเข้ารีบออก แต่ที่นี่เค้าบังคับให้เด็กใส่ถุงเท้าเวลาเข้าไปเล่นใน play station คงเห็นแม่มันเป็นเป็นเอเซียหน้าโหดๆ มั๊ง ไม่ยักกะมีใครมาข้องแวะ 5555 วันนั้นกลับถึงบ้านไอ้ตี้ขี้มูกยืดตามระเบียบแม๊คโดเน่า germs station 5555

page-450

อันนี้เป็นรูปเตียงแม่กะเตียงลูกผูกติดกัน 5555 รูปแรกจะเห็นว่าเป็นไม้ขอบเตียงคั่นระหว่างเตียง ไอ้ตี้โดดไปมา หัวโขก หลังกระแทก แขนฟาด ฯลฯ สารพัด ที่มันต้องเจ็บตัวเพราะไอ้ขอบเตียงบ้าเนี่ยหลายครั้งหลายหน จะแยกเตียงทันไปติดฝาเว้นที่ว่างไว้ มันก็กลิ้งตกพื้น…ปุ๊…ตลอด อยู่มาวันหนึ่งเกิดไอเดียบรรเจิด ไปเอา swimming noodle ของลูกมาผ่าตามยาว แล้วเอาไป “งับ” ไอ้ rail นั่นไว้ กลายเป็นบั๊มเป้ออย่างดีเลยแฮะ เก่งวุ๊ยเรา… เลยเป็นอันต้องไปไล่ล่าหาซื้อไอ้นู้ดเดิ้ลที่ว่ามาใส่มันซะให้รอบๆ ไปเลยคงจะดี แต่หาซื้อสินค้าซัมเม่อร์ในฤดูใบไม้ร่วง ก็น้องๆ งมเข็มในมหาสมุทร แต่ก็งมเจอนะค้าาา…. ได้ไอ้ผอมมา ดูหน่วยก้านแล้วถ้าผ่าแล้วก็คงงับไอ้ขอบเตียวบร้านั่นไม่ได้ เลยไม่ผ่า เอาไว้ให้ลูกตีหัวกันดีกว่า ตอนนี้ไอ้ตี้ชอบให้เอาผ้ามาคลุมเตียงมัน เปิด-ปิดเป็นบ้าน ได้เล่นดื้นซน (มากกว่าปกติ) โปรดสังเกต ผ้าปูที่นอนเตียงลูก เหลืองซะ 5555 มองด้วยตาป่าวไม่รู้เลยนะเนี่ย ดูสดใสสะอาดดี พอถ่ายรูปมาไหงจึงเหลืองเช่นนี้ 5555 ผ้าปูนี้เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่อีรอมโน่น 5555 นี่ยังไม่เห็นผ้าห่มที่อีรอมรักเหลือหลาย มรดกตกทอดมาจากพี่ภูมิ (ลูกพี่สาว-ตอนนี้ 20 ฝ่าๆ แล้วจ้า) ไอ้ตี้ก็ดันไปรักไปชอบของเค้า ไอ้พี่ก็รักมาก ไอ้น้องก็อยากได้ ดึงทึ้งกันเป็นประจำ กลัวมันจะขาดแยกร่างซะจริงๆ

page-451

อันนี้เป็นรูปลูกๆ ณ ปัจจุบันที่สุด อีรอมเค้าไปเอาหมวก+ผ้าพันคอที่แม่จ๋า (ป้าอ้วนสุดที่รักของมัน) ทำส่งมาให้นานมาแล้ว ลูกออกมาเตรียมรับอากาศหนาว ส่วนรูปหมวกดำนั่นที่ Target ไปหาซื้อหมวกให้น้องชาย อีพี่สาวเอาหมวกขนาดเบบี๋มาใส่เล่น เลย แชะ เข้าให้ 5555 ฮานาก้าจริงๆ ลูกกรู ส่วนไอ้ตี้ก็หลากหลายอริยาบท เชิญชมค่า….

page-452

วันนี้วันเกิดคุณซะมี แก่ไปอีกปีแล้วที่เลิ้บ

Happy Birthday to My Wonderful Husband

Sometimes I worry about you…. you don't relax enough
You work so hard …. There is so much for you to do

Sometimes I worry about you….
You don't realize how much you are appreciated
or how much you give of yourself to family
or what a wonderful husband you are to me
and what a perfect father you are to our children

Other times I am thankful for the way you are
as I realize it is the only way you could be

But at all times I want you to know that I respect you greatly
and I thank you for being the best man in the world in every way

I love you

Happy Birthday
with All My Love Always

QueenBee-01

Friday, October 16, 2009

ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน

ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน

โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช

หากคุณมั่นใจว่าผู้ป่วยเลือดจาง ต้องกินอาหารเสริมในกลุ่มธาตุเหล็กให้มาก "คุณคิดผิด" หมอกฤษดาแจกแจงคู่ยา "มิตร-ศัตรู" ให้เข้าใจกันชัดๆ

“Good things come in pair” ดังวลีฝรั่งนี้ที่บอกว่าของทุกอย่างมีคู่แฝดอยู่เสมอ อาจเป็นแฝดเหมือนหรือแฝดต่างก็ได้ ซึ่งก็พ้องกับทางพระที่ว่า กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา และโลกธรรมแปดที่เล่าถึงคู่แห่งสัจธรรมในโลกนี้ มีสุขแล้วก็มีทุกข์ มีสรรเสริญก็ย่อมมีนินทา มีลาภก็ย่อมมีเสื่อมลาภได้ดังนี้เป็นต้น

ดังนั้น ในเรื่องของโอสถรักษาโรคก็ ย่อมต้องมีคู่แฝดของมัน ที่ต้องมีทั้งแฝดที่ดีและแฝดที่ร้ายคล้ายเทวากับซาตานซึ่งเคยมีกรณีที่ถึง แก่ชีวิตมาแล้ว ซึ่งโดยมากมักเกิดจาก “ความไม่รู้” ในฤทธิ์อันไพศาลของยาแต่ละเม็ดที่กินอยู่ โดยเราจะค่อยมาดูกันไปทีละแฝดครับ

แฝดที่ดี

เสมือนคู่บุญยิ่งรู้จักกินให้เสริมกันก็จะยิ่งช่วยเสริมสุขภาพหรือทำการรักษาโรคให้ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น และที่จริงก็ควรกินคู่กันเสียด้วยเพราะเรื่องของยาอาหารเสริมนี้มีหลักคือทำงานร่วมกัน โดยกลุ่มที่ควรกินร่วมกันช่วยเสริมให้ดีมีดังต่อไปนี้ครับ

1) วิตามินซีกับคอลลาเจน จะช่วยกันสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้ใสปิ๊งปั๊งไม่เหี่ยวหย่อนย้อย

2) ธาตุเหล็กกับวิตามินซี กินธาตุเหล็กให้ดีดูดซึมเข้าไปใช้ได้ ไม่ใช่กินเข้าไปอย่างไรถ่ายออกมาหน้าตาเหมือนเดิมนั้น ต้องกินคู่กันอย่างเช่นถ้าจะกินเลือดหมูให้ได้ธาตุเหล็กก็ควรกินกับผักที่มี วิตามินซีสูงเช่นใบตำลึงก็จะดีไม่น้อยครับ

3) แคลเซียมกับแมกนีเซียม แคลเซียมจะดูดซึมได้ดีต้องมี “ตัวช่วย” พามันเข้าไปได้แก่แมกนีเซียม, วิตามินดีและวิตามินเคด้วยซึ่งอยู่ในแสงแดดและผักเขียวจัดตามลำดับ

4) วิตามินเอ ซี และอี พยายามกินไปด้วยกันเป็นดี หรือสูตรที่ดีคือกินซีเพียงตัวเดียวส่วนเอกับอีนั้นกินเอาจากผักคะน้าและถั่วลิสงสักวันละกำมือ

5) น้ำมันปลา (ไม่ใช่น้ำมันตับปลา) ขอให้เลือกชนิดที่มี ดีเอชเอคู่กับกับอีพีเอ ยิ่งมากหน่อยยิ่งดีอย่างน้อยกินให้ได้ค่า ดีเอชเอ+อีพีเอ = 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยมีเคล็ดไว้ว่าถ้าอยากบำรุงสมองต้องเลือกชนิดที่มีดีเอชเอเด่น แต่ถ้าจะให้บำรุงส่วนอื่นเป็นหลักเช่นข้ออักเสบให้เลือกชนิดที่มีอีพีเอสูงด้วยครับ

แฝดที่ร้าย

แฝด ตัวนี้ถือเป็นระดับ “ตัวแม่” ที่น่ากลัวกว่าเยอะมากครับ เพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาตหรือหัวใจวายแน่นิ่งไปได้ จึงอยากชวนให้ท่านที่รักมาสนใจในยาที่ไม่ควรกินร่วมกันสักนิดดังนี้ครับ

1) น้ำมันปลากับแอสไพริน คู่ร้ายอันดับแรกโดยน้ำมันปลานี้มีฤทธิ์ช่วยให้เลือดใสไม่หนืดเหนียว ส่วนแอสไพรินก็มีฤทธิ์เดียวกันคือช่วยให้ไม่เกิดลิ่มเลือดจับแข็งเป็นก้อน ตัน เมื่อกินคู่กันเลยกลายเป็นคู่สังหารพาลให้เลือดไหลพรวดพราดไม่หยุด แม้การกรอฟันเพียงนิดก็อาจทำให้เลือดออกได้ราวกับผ่าตัดใหญ่แล้วครับ

2) วิตามินอีและอีฟนิ่งพริมโรส มีคนไข้ที่อยากผิว สวยมาหาพร้อมบอกว่ามีคนแนะให้กินวิตามินอีแต่บ้างก็ให้เลือกเป็นอีฟนิ่งพริม โรสแทนจะเลือกอย่างไรดี จึงได้บอกไปให้เลือกอย่างหนึ่งก็พอเพราะล้วนแต่มีวิตามินอีทั้งนั้นซึ่งถ้า ได้มากไปอาจทำให้เกิดหัวใจพิบัติแทน

3) แคลเซียมเสริมกับแคลเซียมสด ถ้าท่านกินงาดำได้วันละ 4 ช้อนโต๊ะหรือเต้าหู้ขาวแข็งวันละ 3 ขีดก็จะได้แคลเซียมราว 1,000 มิลลิกรัมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไปหาแคลเซียมเม็ดมากินเติมอีกจะทำให้แคลเซียมเกินและไปจับกับหลอด เลือดทำให้ตีบแข็งได้

4) กาแฟกับแคลเซียม ขอให้เลี่ยงกินแคลเซียมร่วมกับกาแฟเพราะกาแฟจะไปยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนั้นยังไปดึงแคลเซียมออกจากกระดูกอีกด้วย

5) ธาตุเหล็กกับเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นไม้เบื่อไม้เมากันทีเดียว ขอให้ลืมความเชื่อที่ว่าถ้าเลือดจางต้องกินธาตุเหล็ก ไม่เสมอไปครับ หากท่านเป็นเลือดจางชนิดธาลัสซีเมียแล้วไปกินธาตุเหล็กเสริมจะเท่ากับเติมยาพิษให้กับหัวใจและตับตัวเองครับ

ทั้ง แฝดดีแฝดร้ายนี้ที่จริงมีอีกมากซึ่งผมได้เคยเขียนไว้ในหนังสือแล้วและก็ ตั้งใจจะเขียนไว้เรื่อยๆเป็นตอนต่อไปในคอลัมนี้ แต่สำหรับที่เลือกมาให้เห็นนั้นเป็นตัวอย่างที่พบบ่อยหน่อยครับและท่านจำไป ใช้ประโยชน์ได้ทันที

เมื่อถึงตอนนี้ขอให้ท่านหยิบเอาร่วมยาออกมาสังคายนาแยกวางเป็นชนิดไปบนโต๊ะแล้วจัดเป็นกลุ่มไว้ว่ากลุ่มใดรักษาโรคไหนแล้วบางทีจะเกิดพุทธิปัญญาทีเดียวว่าตูข้ากินยามากเกินความจำเป็นไปเพียงใด แต่นั่นก็ยังไม่ร้ายเท่ากินยาที่ดันไปเสริมฤทธิ์กันให้เป็นพิษเข้าไปเสียอีก

ดังนั้น ท่านจะเห็นว่าการกินยานั้น มีข้อหยุมหยิมอยู่มากเมื่อเทียบกับกินอาหารธรรมชาติที่โอกาสเกิดการผสมกัน เป็นพิษน้อย เพราะมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ในปริมาณที่ไม่เข้มข้นมากเท่ายาเคมี แต่อย่างไรก็ดีคงต้องยึดหลักที่ว่าหูไวตาไวถ้ารู้สึกว่า “ไม่ใช่” แล้วก็ให้รีบเร่งบอกอย่าปล่อยให้เลยตามเลยไว้นานเลยครับ

*** นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ) ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ drkrisda@gmail.com

ขอขอบคุณที่มาค่ะ > > http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20091016/81518/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99.html

The only way to keep your health is to eat what you don't want,

drink what you don't like, and do what you'd rather not.

OohAraiwa-13

Monday, October 5, 2009

ช้าง ม้า น่าสงสาร

วันนี้ไปร้าน 99¢ เพื่อซื้อ swimming noodle มาทำ bumper รอบๆ ขอบเตียง เพราะไอ้ตี้วิ่งชน กระโดดขึ้น ตะกายลง หกคะเมน ตีลังกา กระโดดโลดเต้นบนเดียง หน้าแข้งเขียวเต็มไปหมด หัวโขกปูดร้องจ๊ากก็บ่อยๆ ลูกบ้านนี้เดินไม่เป็น มันต้องวิ่ง แล้วเวลามันวิ่งกวดกันไอ้เตี้ยตี้ต้องชนโครมเข้าที่ขอบเตียงประจำ บางทีก็กระโดด bouncing บนเตียงแล้วเสียหลักล้มหัวฟาดที่ขอบเตียง หวาดเสียวที่สุด ลูกร้องไห้กะจองอแง แต่แม่มันอยากจะฟาดบึ้กๆๆๆ ซะจริงๆ โมโหไง ห้ามไม่ฟัง ไล่จับไม่ทัน แล้วไอ้เตียงบ้าเนี่ย มันมีเฟรมไม้รอบๆ เตียงไง สรุปว่าไปหาซื้อไม่ได้ หาซื้อที่ไหนก็ไม่มี เพราะมันหมดฤดูว่ายน้ำกันแล้ว ของแบบนี้จะเห็นดกดื่นตอนหน้าร้อน ตอนนั้นก็เจือกไอเดียไม่เกิด เฮ้อ …เซ็ง

page-443

ไอ้หน้าร้านนี้มีเครื่องเล่นหยอดเหรียญอยู่หลายอัน ไอ้ตี้ชอบไอ้ม้าตัวนี้มาก ได้ขี่ดีอกดีใจ ยี๊ฮ่า… อีมี่ก็อยากขี่ด้วย ปีนไปปีนมา พยายามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มาขำก็อีมี่ไปขี่ช้างซึ่งเหมาะเจาะกันมาก พอดีกับม้าของไอ้ตี้หมดลมปราณ 50¢ ที่ยอดไป เลยอุ้มลูกไปขี่ช้างกับพี่ อีพี่ถอยหลังไปให้น้องนั่งตกตูดช้างโครมมมม… ทั้งสงสารลูก ทั้งขำ คนเดินผ่านไปมาหันมามองกันใหญ่ บางคนก็ขำก๊าก อีมี่ไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นได้จะขี่อีก ไอ้ตี้เกิดกลัวช้าง เพราะไอ้ช้างตกมันนี่ movement ของมันซาดิสม์มากๆ เขย่าโครมๆ กึ๊กๆ กักๆ กระแทกกระทั้นมาก ไอ้ตี้ร้องโวยวายอยากลง 5555 พี่ก็จะขี่ น้องก็ร้องจะลง โอ้ยยยย… วุ่นวายชิบหาย หมดไป 1 เหรียญ (เกิดหาเรียญควอเต้อร์ไม่ได้ซะงั้น-ไอ้ตี้ชอบจริงๆ รื้อเทกระเป๋าตังเศษเหรียญของแม่มัน เลยอดเลย 555) อีรอมเดินมาขึ้นรถ พูดว่า…สนุกดีนะแม่ เหมือนได้ไป Six Flags เลย 5555 พรุ่งนี้มาขี่อีกนะแม่ ส่วนไอ้ตัวเล็ก Fun! horsie fun, e-le-fan not fun ! 555

page-444

วันก่อนไปซื้อของกินของใช้เล็กน้อย แม่ได้กางเกงอุ่นๆ ราคาถูกมา 2 ตัว ส่วนลูกๆ ซื้อเสื้อผ้าอุ่นๆ sweat shirt & pants ให้เพิ่มคนละ 3 เซ็ทแล้วเมื่อหลายวันก่อน โตกันเร็วมาก เสื้อผ้าหน้าหนาวเมื่อหนาวก่อน อีรอมใส่ไม่ได้แล้วทั้งสั้นทั้งเต่งตึงตูมเหมือนจะแตก 5555 ส่วนของไอ้ตี้ก็ใส่ไม่ได้แล้ว จริงๆ ใส่อยู่บ้านได้แหละ แต่มันสั้นๆ เต่อๆ ไป-ซึ่งก็ดูน่ารักอีกแบบ มันไม่อ้วนขึ้น ได้แต่สูงขึ้น ซื้อโน่นซื้อนี่ ลืมถุงเท้าลูก ก็เลยไปลากถุงเท้ามาให้มัน 2 แพ๊ค เจ็บใจน่าจะลากมาซัก 4 แพ๊ค ตอนแรกกะว่าให้ใส่ของเก่าปนๆ กันไป พอเอาของเก่ามาให้มันใส่ 55555 กะจิ๋วหลิว น่ารักน่าเอ็นดู ใส่ไม่ได้ซะแระ 5555 เห็นกันทั้งวันทุกวัน ไม่รู้หรอกว่าลูกสูงใหญ่ขึ้นมากแค่ไหน มันเป็นเบบี๋เล็กๆ ในสายตาแม่เสมอเลย อีรอมก็เหมือนกัน คิดถึงวันทีไรนึกถึงแต่เด็กหญิงอายุซัก 7-8 ขวบ แต่จริงๆ มันกระบือถึกใหญ่มากๆ Oh…. they’re my sweet little Kong & Chimp!

page-442

อันนี้คือประสบการณ์เอาตลับหมึกไปใช้บริการเติมหมึกที่ Walgreens มันก็โอเคนะ แค่ 1 ชั่วโมง (แต่ไม่ได้รอหรอก บอกเค้าไปว่าจะมารับในวันรุ่งขึ้น ขังคิงคองกับชิมแพนซีไว้ในรถ อิแม่มันวิ่งปรู้ดเข้า ปร๊าดออก ทุกธุระต้องทำอย่างรีบด่วน ขนลูกลงไปด้วย โอ้ยยย..เรื่องเยอะ) เค้าอธิบายว่า พอเค้าเติมหมึกเสร็จแล้ว ต้องเอาไปเข้าเครื่องทดลองว่าใช้การได้เราถึงจ่ายตังค์ (ไอ้แถบๆ กระดาษนั่นแหละ ที่เค้าใช้กับเครื่องทดลอง) มาถึงบ้านลองเอาไอ้ตลับที่ใช้อยู่ในเครื่องออก แล้วเอาไอ้พวกนี้ใส่แทน ก็โอเคเลยแหละ คิดไปคิดมาชักงง ไม่รู้ว่าคุ้มมั๊ย เพราะค่าบริการอันละ ($12.50 x 2) +TAX = $28.25 จำไม่ได้ว่าตอนซื้อแบบใหม่เอี่ยมกล่องคู่ทุกครั้งนั่นจ่ายไปเท่าไหร่ เอาเป็นว่า….อย่าคิดมากเลยดีกว่าเน๊าะ ถือว่าจัดการธุระเล็กๆ เสร็จไปเรื่องนึง วันๆ ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน Running errands with a toddler is about as easy as herding cats. (Herding cats may refer to: A saying that refers to a task that is extremely difficult or impossible to do, due to one or more variables being in flux and uncontrollable. แปลให้ด้วยเลย …. ตามประสาคนน่ารักและมีน้ำใจ 5555)

page-441

Life is short and so is money.

ProudMommy-01

Friday, October 2, 2009

Drive-Thru Flu Shots

เมื่อวานนี้ไปฉีด Flu Vaccine (Influenza Immunization) หรือ Seasonal Flu Vaccine จริงๆ ก็ฉีดทุกปีแหละ แต่ไปฉีดตามคลีนิคหรือฟาร์มาซีตลอด ถ้าฉีดตามคลีนิคก็ไม่ต้องทำอะไร เค้าเดินเรื่อง billing & claim กันเอง แต่ถ้าฉีดตามฟาร์มาซี-ต้องเสียตังค์เอง แล้วไปเบิกคืนจากประกันที่หลัง เป็นชาติแหละกว่าจะได้ตังค์คืน บางปีก็ลืมเคลมประกัน ปีนี้เลยจดจ้องข่าว County Public Health's Free Drive Thru Flu Shot Clinic มา 2-3 วีคแล้ว ปีก่อนก็พลาดไปที ปีนี้อิชั้นไม่พลาดแน่ๆ จริงๆ มันเพิ่งมีบริการแบบนี้มาไม่กี่ปีมั๊ง ไม่แน่ใจเพราะของฟรีบางอย่างก็ “แหวะ” มากๆ ถ้าต้องไปแออัดยัดเยียดเบียดเสียดเพื่อแย่งกัน อิชั้นก็จะ ถอยดีกว่า ม่ายอาวววว…ดีกว่า เพราะแถวนี้คนเม๊กซิกันที่เข้าเมืองผิดกฏหมายเยอะมากกกกกก…. เวลามีอะไรฟรีก็เดาได้เลยว่าพวกนี้ต้องโห่มาเป็นร้อยๆ ลูกเต้าสกปรก ขี้มูกยืด อิชั้นก็กลัวบุตรธิดาของอิชั้นจะติดโรคที่เค้าลือกันว่าเกือบสาบสูญไปจากโลกนี้ มันคือ TB - Tuberculosis (tubercle bacillus) วัณโรคนี่น่ากลัวมากเน๊าะ ไอ้พวกนี้แหละที่ bring it back to life 5555 แล้วมีลืออีกว่า… พวกนี้เป็นทีบีกันเยอะ ส่วนไอ้ไข้หวัดหมู H1N1 ก็ต้นตอมาจากเมืองคนยากในเม๊กซิโก แล้วก็ระบาดลุกลามไปทั่วพื้นปฐพี ไอ้พวกนี้ก็เลยเอาเข้ามาเผื่อแผ่ซะด้วย ระบาดเหนือจดใต้แคลิฟอร์เนียหลายสิบเคส ได้ยินมาว่าแถวๆ นี้ก็มีอยู่ 4-5 เคส

การไปรับวัคซีนคราวนี้เป็นการขับรถเข้าไปแบบ Drive Thru บริการมาที่รถเลย ไม่ต้องเปิดประตูออกไปนอกรถ 5555 เปลี่ยนเกียร์ไปที่ P แล้วใส่เบรคมือ เจ้าหน้าที่ก็มายิงให้ที่หน้าต่างเลย ประทับใจมากๆ (แล้วก็มั่นใจได้ว่าพวกที่กล่าวถึงข้างบน…มันไม่มาเกะกะแน่ๆ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีรถราใช้กัน 555) เห็นมีคนนึงขี่จักรยานมาเข้าคิวกระดื๊บนี่ด้วย ก็ขี่คร่อมไว้ แล้วเอาเท้ายันพื้นเลื้อยตามเค้าไป โชคดีที่อากาศไม่ร้อน ประมาณ 70°F กำลังสบายเชียว แล้ว breezy หน่อยๆ ด้วย อีตาคนนั้นก็เลยดูสบายๆ ตามอากาศไปด้วย

page-1

พอขับรถเข้าไปในบริเวณที่ให้บริการ รถเยอะเลยว่ะค่ะ ขับเข้าแถวไปเรื่อยๆ เห็นฝั่งตรงข้ามในลานจอดรถเค้ากำลังทิ่ม แทงกัน บางคันก็มีเจ้าหน้าที่รุมทั้ง 4 หน้าต่างเลย เพราะบรรทุกมาเต็มลำ 555 ก็ขับรถกระดื๊บๆ ตามๆ เค้าไป คิดว่าสุดลานจอดรถที่ปลายตาโน่นก็จะได้ขับวนมาเข้าแถว 4 แถวที่เห็น พอกระดื๊บไปจนสุดลานจอดรถ โอ มาย บุ๊ดด้า…. รถอีกเป็นร้อยๆ เห็นอยู่ลิบๆ โน่น เกือบถอดใจ แต่เข้าแถวมาแล้วแตกแถวออกไปไหนไม่ได้ เสียเวลาคืบคลานตั้งนานกว่าจะมาถึงตรงนี้ คุณตำรวจก็โบกๆ ให้ตามตูดเค้าไป ตานี้ก็แตกเป็น 2 แถว คลานตามกันไปช้าๆ รอบ Fairground ลูกชายอิชั้นที่ต้องเอาติดมาด้วยเพราะไม่รู้จะเอามันไปทิ้งไว้ที่ไหน 555 พ่อคุณก็เริ่มหงุดหงิด ไม่ได้เตรียมอะไรให้ลูกไปกินไปเล่นในรถด้วยสิ แล้วไอ้บริการนี่ก็มีแค่แป๊บเดียว 9.30 –11.00 พอลูกเริ่มงี่เง่า อิแม่ก็หงุดหงิด แถมไม่ได้ขับรถค่อยๆ คลานเหมือนตอนอยู่กรุงเทพฯ มานานมากแล้ว เหยียบเบรค เลียเบรค ชักเมื่อยวุ๊ย จะหันไปเอนเทอร์เทนลูกก็ลำบาก เดี๋ยวจะไปทิ่มดากอีแคดิแล๊คข้างหน้าเข้า ก็เลยชวนลูกคุย ดูรถราทั้งหลาย ชี้โบ๊ชี้เช๊กันไปเรื่อย เมื่อยขนาดดดดด……. สรุปว่าไปขับรถเหยียบเบรคอยู่นั่น 1 ชั่วโมงเป๊ะๆ เลย

page-2

ในที่สุดก็วนมาจนถึงตรงที่เค้าให้แยกเป็น 4 แถว ก็คลานตามๆ เค้าต่อไป แต่เริ่มมีเจ้าหน้าที่และ volunteers มาทักทาย แจกเอกสารสารพัดที่ละใบ 2 ใบ ป้าคนถัดไปมานับว่ามีกี่คนที่ต้องฉีด (หมายถึงฉีดตรงนี้ได้ ถ้าอายุต่ำกว่า 12 และเกิน 65 ต้องไปพบแพทย์และฉีดตามคลีนิค ไอ้ตี้ก็รอดตัวไป แต่ต้องพาลูกไปฉีดแหละ) คนต่อมาก็ให้กรอกชื่อ เซ็นชื่อ คนต่อไปเอากล่องรับบริจาคขอรับบริจาค ก็เลยหยอดไป 5 เหรียญ ไปฉีดตามคลีนิคก็หลายตังค์อยู่ 3-40 เหมือนกัน (มีอยู่ปีนึงไปลองของใหม่ เป็นวัคซีนแบบพ่นจมูก nasal-spray flu vaccine กัน 3 คน ตอนนั้นไอ้ตี้ยังไม่มาจุติ 555 นั่นฟาดเข้าไปคนละ 79 เหรียญเชียว แถมอิแม่มันลืมเคลมประกัน อิพ่อมันก็ลืมถาม ใบเสร็จเหน็บตรงโน้น ยัดตรงนี้ เนิ่นนานเข้าก็ลืม หาไม่เจอ ปีนั้นก็เข้าเนื้อไป) พอถึงปราการด่านสุดท้าย เจ้าหน้าที่มาแบบพร้อม มือนึงถือเข็ม อีกมือนึงถึงแผ่น L-ก-ฮ (Alcohol Swab) หน้าตาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ บอกให้เอาแขนห้อยลงข้างตัวแล้วรีแล๊กซ์ แล้วเธอก็เช็ดปุ๊บ ทิ่มปั๊บ จบ เสร็จ ขับรถวนออกมาแบบงงๆ เสร็จแระ 555 (ลืมถ่ายรูปซะนี่ เพราะตั้งแต่ถึงตอนเริ่มมีคนมาแจกเอกสารต่างๆ มากันแบบไม่ทิ้งช่วงให้หายใจเลยแหละ บูมๆๆ Done! Bye Bye! อดถ่ายรูปมาอวดเลย)

แล้วต้นพฤศจิกายนจะมีวัคซีน H1N1 มาให้บริการแบบนี้อีก ดูข่าวเมื่อคืน แคลิฟฯ เพิ่งได้มาแค่ 1.5 ล้าน shots ก็ต้องแจกจ่ายไปตามเคาน์ตี้ต่างๆ ให้ทั่วถึง แล้วทุ่งกุลาที่อิชั้นอยู่จะได้แบ่งมาเท่าไหร่วะเนี่ย เอาวะ จะจดจ้องติดตามข่าว เค้ามีให้ฉีดเมื่อไหร่ อิชั้นก็จะไปในทันใดเลยเชียว คงต้องพาลูกๆ ฉีดที่คลีนิค ส่วนอีซะมีไม่ต้องห่วง เพราะมีบริการฟรีไป “เสย” ที่ทำงานเลย 5555

ถือว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิต อะไรที่ไม่เคย ก็ไปลองซะจะได้เคย 5555 เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง

A house is made of walls and beams;

a home is built with love and dreams.

Welcome-01