Tuesday, June 30, 2009

My Child - ลูกของช้านนนนน…

เซ็งๆ เบื่อๆ เหนื่อยหน่ายในหัวจิตหัวใจ มาหลายวันแล้ว เมื่อวานไปหาหมอฟังผลนมกับโม๊ะ ดันไปสาย 15 นาที โดนเลื่อนนัด ไปวันที่ 10 กรกฎาโน่น ที่เราไปรอนานๆ เป็นชั่วโมงไม่เห็นจ่ายค่ารอ หรือลดราคาวะ มีแต่พวกอึงเท่านั้นนะที่เวลามีค่า…ไอ้พวกหมอทั้งหลาย ก็ลุ้นกันต่อว่าจะได้ฟังข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่ผลนมน่ะทางโรงบาลส่งมาให้แล้วว่า “ปกติ” นมยานสวย บีบได้แบนแต๋ง่ายดี 555

ลืมไปจะมาเล่าเรื่องเมื่อวานที่ไปนั่งรอหมอ ไอ้ก๊อตตี้ก็ดื้อด้านตามปกติ ส่งเสียงดัง วิ่งวุ่นวายไปหมด ไล่จับจนเหนื่อยเกิดไอเดีย เอาปากกากับกระดาษให้มันขีดๆ เขี่ยๆ เล่น มันก็สงบเงียบ น่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมาเลยลูกช้านนนน… สักพัก อีเจ้าหน้าที่ทำหน้าดุส่งเสียงมาบอกว่า pen maker are not allow in this office … แม่ม….ลมออกหูเลย กรูไม่ยักกะเห็นมรึงมี sign ตรงไหนบอกห้าม เอาวะ กรูเกลียดมืงละกัน อีฟาย 555 ด่าเค้าในใจก็พอทุเลาดีกรีความโกรธได้บ้าง แล้วก็เก็บปากกาสมุดโน๊ตใส่กระเป๋าอย่างว่าง่าย พร้อมกับบอก ซอรี่ แม่ม (มืงงง)

page-422

ตานี้ไอ้ก๊อตตี้ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างแรงขึ้นมาอีก เปล่งวาจาผรุสวาทกึกก้องกัมปนาทออกไปว่า “ฟักคํ” ด้วยเสียง K - เอนด์ซาวนด์ ชัดเจน คิดกันเอาเองว่ากี่ลูกกะตาในคลีนิคที่ไม่จ้องมองมาที่อิชั้นและลูก “0” ศูนย์ค่ะ zero-สูญ ถึงติดลบเลยแหละ แม้แต่ลูกเด็กเล็กแดงที่จ้องมองมา มันอ้าปากหวอ จอว์ดร๊อพ กันเป็นแถว อายแบบอยากแซกแผ่นดิน ทันใดอีเจ้าหน้าที่อีกคนก็เรียกขานนามอันไพเราะของอิชั้นขึ้นมา ก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปหาเธอ แล้วเธอก็บอกว่าขอเลื่อนนัด เพราะคุณหมอโดนเรียกตัวไปผ่าตัดด่วน อิชั้นไม่มีอิดออด หรือ ต่อล้อต่อเถียง คว้าไปนัด คว้าลูกๆ วิ่งหนีขึ้นรถ ออกรถปรื้ดดดด… หายวับไปในแสงแดด “ปิ๋ง”

ไม่สามารถแก้ตัวหรืออธิบายในที่เกิดเหตุได้ มาอธิบายตรงนี้ดีกว่า ไอ้ลูกบ้านี่ก้อนะ… ก่อเรื่องจนได้ ไม่รู้จะด่าอะไรมัน 2 ขวบ 8-9 เดือน เพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำ ไอ้ที่ชัดๆ ด้วยเสียงและความหมายก็นับได้ไม่กี่คำ แต่ไอ้ที่ชัดเจนฉะฉานและไม่ต้องการให้มันพูดเนี่ยก็ก่อปัญหาจนได้ คำว่า “ฟัก” ของไอ้ตัวแสบมีที่มาจากพ่อ “สัง-ลัง-ม่าย-ลี” ของมัน ชอบพูดคำ curse คำ ขอร้อง ด่าว่า ห้ามปาม ทะเลาะกัน กี่ร้อยครั้งมันก็เลิกไม่ได้ บอกห้ามพูดคำพวกนั้นต่อหน้าลูกๆ เลิกได้ก็เลิกซะ มันบอกมันพูดแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แล้วอีรอมก็ได้ยินได้ฟังพ่อมันพูดแบบนี้มาตลอดชีวิตอีรอม ไม่เห็นอีรอมมันพูดคำหยาบซักที เอากะมันสิ ไอ้กันแก่ๆ นี่สอนยากวุ๊ย ต่อๆๆๆๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องด่าทอผัวให้ชาวโลกฟัง ตอนจีบกันน่ะไม่ได้ยินซัก “F” เลย แต่ตอนนี้อิชั้นน่ะปั๊ดตะนาไปสูสีกะผัวแล้วหล่ะค่ะ กลับไปที่ไร่ฟักแฟงของไอ้ตี้ อิชั้นก็ไม่เข้าใจว่าเวลามันพูดคำนั้นออกมามันอยากสื่อความหมายว่าอย่างไร มันก็ไม่ได้พูดบ่อยๆ หรอก บางทีมันพูดเวลามันโมโห บางทีมันพูดเวลามันแฮ้ปปี้ หลังๆ มามันเรียกปืนของเล่นมันว่าฟัก เวลามันหาปืนมันไม่เจอมันจะพูดว่า มายฟัก มายฟัก อิแม่มันก็พยายามเบี่ยงเบนฟามหมายและ rhyme ตาหลอด อย่างเช่น duck, bug, hug, mug, luck, snug สารพัด..แล้วแต่จะนึกออกแหละ พอมันหาปืนฟักของมัน อิแม่ก็จะพูด your gun… This is your gun, this thing calls GUN! ย้ำซ้ำอยู่นั่น แต่ไม่เคยได้ผล นึกเสมอเลยว่ามันจะต้องไปพูดนอกบ้าน-แล้วมันก็พูดจริงๆ ตามคาดหมาย พยายาม fix เรื่องนี้เพราะรู้ว่าถ้ามันไปพรีสคูลแล้วยังเอาฟักแฟงติดไปโรงเรียนด้วย มันโดนไล่ออกแน่ แถมอิแม่มันต้องขายคี่หน้าไปชั่วชีวิต เฮ้อ…. เหนื่อยใจ

เอ้า อ่านกันขำๆ

A low-life or lowlife is a term for a person who is considered unacceptable by their community in general. Examples of people who are often called "lowlives" are skells, prostitutes, drug addicts, drug dealers, alcoholics, hustlers, pimps, slumlords, criminals and corrupt officials or authority figures. It may be used in a more general sense to describe anyone not "living the high-life", such as persons with low incomes or who live in poor conditions (or anyone else perceived as "lazy" by the middle and upper class), but such usage is commonly seen as an indicator of classist elitism and unfounded prejudice. Often, the term is used as an indication of disapproval of antisocial or self-destructive behaviors, usually bearing a connotation of contempt and derision.

Thanks > > http://en.wikipedia.org/wiki/Low-life

11-26-2007 4-04-47-s

ส่วนน้ำตาลในเลือดวันนี้ เลขที่ออก …. 80 ถือว่าอยู่ที่ bottom line ของ "ปกติ" ค่ะ รีบไปดวดเป๊บซี่ด่วน 1 ป๋อง 5555 อ้วนต่อไป

All the Best Everyone .!!!

Saturday, June 27, 2009

มันอะไรกันจ๊าาาา…

อพยพข้ามมหาสมุทรมาอยู่ทุ่งกุลาเมืองฝรั่งเสียนาน ด้วยสภาพเศรษฐกิจของครอบครัวพังมาได้พักใหญ่ๆ แล้ว ก็เลยไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนหลายปีแล้ว แต่ก็พยายาม catch up ตลอดว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทยบ้าง เปิดเว๊บดูโน่นนี่ ไปเรื่อยเปื่อย นอกเหนือไปจาากความไม่สงบเกี่ยวเนื่องมาจากการเมืองและความขัดแย้งทั้งหลายแล้ว ที่ทรมานร้าวรานใจและคิดถึงที่สุดนอกเหนือไปจากครอบครัวที่รักแล้ว ก็คือ อาหารไทย (แท้ๆ ที่เมืองไทยเท่านั้น) ไม่ต้องแฟนซีอะไรหรอก อิชั้นน่ะรับทานได้โม้ดดด…. ตั้งแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งยันตับห่านใจโหด - Foie Gras ราคาทองคำ อาหารไทยที่คิดถึงน่ะ นับตั้งแต่รถเข็นผ่านหน้าบ้าน ร้านปากซอย ตลาดโต้รุ่ง….ภัตตาคาร เหลา..ไปจนถึงร้านดัง โรงแรมหรู ไม่ว่าจะเป็น โรตี ปาท่องโก๋ ขนมครก ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด แค่ดูรูปก็นั่งน้ำลายยืดดดดดด…….. เก็บเอาไปนอนฝัน (ฝันร้าย-ฝันหลอน เลยแหละ) แล้วพ่อคุณแม่คุณเจ้าพระคุณรุนช่องเด็กรุ่นใหม่นี่มันถ่ายรูปกันเด็ดดวงซะจนอยากจะเอามือหยิบออกมากินซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว รูปที่เอามาแปะเป็นของใครก็อย่าได้โกรธกันนะคะ ขออนุญาตและขอขอบคุณมา ณ ที่นี้เลย เพราะพอเห็นรูป น้ำลายยืด ก็เซฟไว้ เพราะหิวโหยเลยไม่ได้เซฟที่มา ขออภัยด้วยนะคะ

FoodPage-01

คนอ้วนก็ต้องเบิกโรงด้วยเรื่องอาหารเสมอ 555 ตานี้ก็มาถึง เรื่องสวยงาม เสื้อผ้า หน้า ผม เปิดไปที่ไหนๆ อ่านเว๊บใดๆ อะไรๆ ก็ เกาหลี เกาหลี มันอะไรกันฟระ เมื่อก่อนก็ต้องลูกครึ่งฝรั่ง ต่อมาก็หน้าหมวย ต้อง ขาว สวย หมวย อึ๋ม เท่านั้น ผิวพม่า นัยตาแขก ตาโต ผิวสีน้ำผึ้ง หรือ สวยแบบไทยๆ ไม่เป็นที่ยอมรับในเมืองไทยนี่มันชักยังไงๆ อยู่ “เกาหลีลุ๊ค” นี่มันไม่ exotic เลยแหละ แถมเด็กสาวๆ รุ่นใหม่ ล้วนเกาะติดเทรนด์อย่างเหนียวแน่น ตอนที่ฮิตผมตรงเป๊ะแบบ pin-straight ก็ไปยืดผมยาวเหยียดตรงเป๊ะกันทั้งบ้านทั้งเมือง (ธุรกิจใหม่เกิด ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ developed 555) อันนั้นไม่เท่าไหร่ อ่านเจอว่าฮิตใส่รองเท้าบู้ทกัน คงเพราะเห็นบรรดา starlet จากฮอลลิวู้ดใส่-ก็ซื้อหามาใส่กันบ้าง ….เห็น (รูป) แล้วก็ อูยยยย…. ร้อนแทน เมืองไทยมันร้อนชื้น เหงื่อสาดกันเกือบตลอดเวลา จะ “ติงเม๋ง” กันทั่วหน้าหรือป่าวน้อ…. 5555

page-001

อิชั้นอยู่ห่างจากฮอลลิวู้ดไม่เท่าไหร่ ได้เห็นเด็กสาวๆ แถวนี้ก็แต่งตัวให้หญิงใหญ่อย่างอิชั้นปวดตาปวดใจอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ร้อนตับแล่บ 100 ฝ่าๆ นวลนางก็ใส่เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กับกุงเกงสั้นจู๋ Micro Short Shorts ทีกะลังฮ๊อตฮิตอย่างแรง (ไอ้ท่อนบนใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ-ไม่ก่อกวนหัวใจและสายตาอิชั้นหรอก) บางนางก็ดูดี ขาเรียวยาว ผุดผ่อง แหม..มันช่างน่ามอง แต่บางนาง..เห็นแล้วก็แบบ… โถ…อีหนูเอ้ยย… ขาที่อวบกว่าขาโต๊ะสนุ๊กน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ที่บ้านคงไม่มีคนรัก-คนห่วง เพื่อนๆ ก็ไม่จริงใจ กันเลยหรือไร เธออ้วนอวบแล้วใส่กางเกงจุ๊ดจู๋ พอเดินไปมาไม่เท่าไหร่ ขากุงเกงที่สั้นกุดนั่นก็ร่นหุบหายเข้าไปในหลืบขา (เรียกอะไรวะ หว่างขา ขาหนีบ 555) บางคนก็หุบหายไปทั้ง 2 ขา บางคนก็หุบหายขึ้นไปแค่ขาเดียว แล้วเบ้ากางเกงมันถูกดึงรั้งเข้าไปก็พองโป่งโดงบวมโดดเด่นขึ้นมา มันไม่งามเลย โถๆๆๆๆ เพื่อนฝูงพ่อแม่พี่น้องไม่มีใครบอกใครเตือนเลยเน๊าะ หนูๆ สาวไทย ไม่รู้เป็นกันหรือป่าว คิดว่าน่าจะ “ไม่” เพราะสาวไทยส่วนใหญ่ไม่อวบอ้วน มีแต่แบนบางเอวกิ่วเล็กกว่าต้นแขนอิชั้น ไม่งั้นจะมีเสื้อผ้าไซ้ส์ 5XS หรือ XXXXXS หรือว่ามีเล็กกว่านั้นอีกก็ไม่รู้ 5555 พูดแล้วก็แปลกนะ เวลาเห็นคนใส่ชุดว่ายน้ำ บิกินี่ โชว์เนื้อหนังมังสา กลับเฉยๆ สวยงามมากน้อยแต่กต่างกันไป แต่พอแต่งตัวไม่เรียบร้อยกลับดู not nice อธิบายยากจัง เป็นเรื่องของ “กาละและเทศะ” มั๊ง

page-003

หลังๆ มา ก็ได้ข่าวเรื่อง ฮิตทีวีซีรีส์เกาหลีกันอย่างรุนแรง อยากดูวุ๊ย เห็นติดกันงอมแงม แต่ไม่กล้าเริ่มเพราะเดี๋ยวติดหนักแล้วต้องไปเลิกที่ถ้ำกระบอก 555 จากนั้นมาก็ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ข้าวของใช้ทั้งหลาย ต้องจากเกาหลีเช่นกัน อ่านฟังกระแสความแรงของเกาหลีแล้วก็ใจมันร้อน ใจมันรน อยากได้อยากซื้อหามาใช้บ้าง แต่อิชั้นอยู่ในโซนของโลกที่เค้าไม่นิยมอะไรๆ เกาหลีเลย ซื้อหาอะไรไม่ได้เลย เริ่มจาก บีบีครีม ยอดฮิต โหยหาโวยวายอยู่นาน จนคุณเพื่อนๆ จากเมืองไทย โยนข้ามทวีปส่งมาให้ได้ใช้ ยังมีอีกเยอะมากมายหลายไอเท่มที่โวยวายไล่กวดให้เพื่อนๆ เดือดร้อนเขวี้ยงใส่เรือบินมาให้ แต่ไอ้ที่พอได้รู้ได้ยินได้เห็นแล้วก็ งงๆ ก็เกาหลีลุ๊ค ผู้ชายก็ซอยผมทรงหนูแทะทิ่มหูทิ่มตา รากไทรรุงรัง ขนาดดารา-นักร้องหน้าตาดีๆ บางคนทำแล้วก็เสียหล่อ บางคนก็แค่โอเค ไม่กี่คนที่ทำแล้วดูน่ารัก พอหนุ่มๆ ถึกๆ เดินถนนไปก๊อปลุ๊คเกาหลีมาบ้าง เห็นแล้วก็ โอ้ มาย บุ๊ดด้า ช่างกล้านะลูก 555 ส่วนสาวๆ ก็ต้องใส่เลนส์ตาโตๆ แต่งหน้าให้ดูหน้าเผือดๆ ซีดๆ แล้วทำปากจู๋ๆ เด็กสาวๆ ถ่ายรูปแล้วโพสต์ท่าเดียวกันโม้ด… เห็นแล้วขำง่ะ บางคนก็ทำน่ารัก ก๊อปเค้าได้อย่างน่าดู แต่บางคนเห็นแล้วก็ กร๊ากกก… ฮานาก้า อยู่คนเดียว ทีแรกก็นึกว่า เราคงบ้า…เห็นเป็นขำอยู่คนเดียว ที่ไหนได้ อ่านไปเรื่อยเปื่อย มีคนที่ไม่ชอบเทรนด์เกาหลีเยอะแฮะ บางคนก็โพสต์ ด่า ต่อต้าน ซะรุนแรง แต่ที่ขำกลิ้งก็ที่บางคน เปรียบเทียบสาวๆ ตาโตๆ ปากจู๋ๆ กับสิงสาราสัตว์ 555 อย่าง ดูดิ อันนี้ก็เทรนด์เกาหลี ตาโตๆ ปากเล็กๆ จู๋ๆ แล้วก็โพสต์ รูปตุ๊กแก รูปนางอาย รูปกบ รูปปลาทอง-ปลาทู ขำก๊ากมากมาย 5555 ช่างเปรียบนะพ่อคู้นนนน…. (ไม่กล้าแปะรูปคุณตุ๊กเค้า-เพราะเกลียดกลัวคุณตุ๊กมากกกกก…ค่ะ)

page-002

จบดีกว่า ไม่มีสาระ มาบ่นตามประสาคนแก่ๆ อ้วนๆ ที่ตามกระแสไม่ทัน 555

Have A Nice Weekend Everyone !.!.!

Thursday, June 25, 2009

ฟังเพลง แก้เบื่อกัน

เค้าไปหากระเทยฟายพวกนี้มากจากไหนวะ 5555 อีคนร้องชื่อปอยฝ้ายซะด้วย

ส่วนเพื่อนกลุ่มกะเทยฟายทั้งหลายก็ ฮิ้วววว… อย่าให้เซด ฮานาก้าจริงๆ

เอ้า.. อีกเพลง

อันนี้อะไรก็ไม่รู้ แต่แรงเกิ้น…

ฮากันแค่พอหอมปากหอมคอ เทคแคร์เด้อ

คับที่ - คับใจ … ไม่ชอบซักอย่าง

แต่คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก..อยู่ไม่ได้เลยแหละ เป็นเรื่องจริงแสนจริง ตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านนี้ (ยังไม่ถึงเดือนเลยนะ) มีเรื่องรกใจไม่เว้นวัน ก็เพราะไอ้+อีเจ้าของบ้าน (น่าจะเป็น) เพื่อนสุดที่รักของอีซะมี ก็จุกจิกจู้จี้ ก่อกวนความไม่สงบได้ไม่เว้นวัน ทุกข์ใจจริงๆ จะย้ายอีกก็ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยสาหัส..ยังไม่หาย ขอตั้งหลักซะหน่อย แก่ๆ กันทั้งสองคน มาเหนื่อยใจรายวันอีก ไม่ไหว ไม่ไหว

IMG_0320-s

ล่าสุด (ไม่ขอเล่าทั้งหมด…มันเยอะมากกกก) เมื่อวันอาทิตย์ ยิ๋งทดพาบุตรธิดาไปซื้อของเล่นที่ Toys“R”Us (ลูกๆ ไม่ค่อยมีของเล่นน่ะ 555) ส่วนอีก๊อตไม่ได้ไปเพราะต้องไปทำงาน พอกะลังขับรถกลับบ้าน อีก๊อตโทรไปบ่น ว่าเนี่ยเพิ่งตัดหญ้าเสร็จ เพราะไอ้จอห์นมาบ่นว่าลูกสาวมัน “อับเซ็ต” มากที่บ้านเราไม่ตัดหญ้าหน้าบ้าน แล้วก็พูดจากวนตีน แบบ..ถ้าอึงไม่ตัดเดี๋ยวกรูโทรให้ใครเค้ามาตัดอึงต้องจ่ายตังค์นะ … อีก๊อต (ซึ่งเก่ง ปากดี เฉพาะเวลาอยู่กะเมียเท่านั้น) กลายเป็น “หงอ-คง” ซึ่งคงหงอกับคนอื่นอีกตามเคย..ยอมไปตัดหญ้าอย่างง่ายดาย พอกลับมาถึงบ้าน ปั๋วก็ได้ออกไปทำงานแล้ว เห็นเศษหญ้าที่ตัดตามขอบๆ ไดร๊ฟ์เวย์ ก็เลยพาลูกๆ ออกไปกวาดเก็บซะ ให้มันเสร็จๆ ซะ แต่มัน ฮึ่มๆๆๆๆ อยู่ในใจ พยายามข่มใจไว้อย่างหนัก ไม่อยากบ่นเรื่องย้ายมาเช่าบ้านไอ้บ้านี่ เพราะได้บ่นไปเยอะแล้ว แถมอีก๊อตก็มีเรื่องกลุ้มๆ ที่ทำงานเยอะแล้ว ถ้าไปบ่นมันอีกเดี๋ยวจะเส้นเลือดฝอยแตกตายไปซะ จะเดือดร้อนหนัก หรือถ้าไปบ่นหนักๆ เข้า ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นนอกจากผัวเมียทะเลาะกันเอง เลยต้อง “หุบ” ปากซะให้สนิท

จากรูป ถ่ายเมื่อกี้นี้เลย (วันพฤหัสฯ) มันออกมาตัดหญ้ากัน บ้านเราที่เพิ่งตัดไปเมื่อวันอาทิตย์ก็เลยยาวกกว่ามันหน่อยนึง เดี๋ยววีคเอนด์นี้มันก็คงมาอาละวาดอีก เฮ้อ…. แล้วจะมารายงาน

พอวันต่อมา อีก๊อตเลิกงานมา หน้าจ๋อยๆ บ่นเรื่องงานอีก นาย (สายตรง) ถูกเลย์ออฟ เรื่องโน้นเรื่องนี้อีก ดูเหมือนปัญหาที่ทำงานมันมากมายเหลือเกิน นั่งถอนหายใจเฮือกๆ แล้วก็โพล่งออกมาว่า “John owes me an apology…blah blah..b’coz he‘s very rude when he’s telling to mow the lawn…. ฟังแล้วด็เดือดดาล มืงจะไปคาดหวังอะไรกะม๊านนนนน… ก็เลยบ่นสมทบไปว่า You know what!!! I really don’t like when he and his family marching in and out my house even we rent this house from him… but it’s my property! ทนไม่ได้ ต้องพ่นไปซะหน่อย อีก๊อตก็ได้แต่เงียบ ต้องพ่นเพราะมันหาความสงบใจไม่ได้เลย จะนั่งรื้อของกระจัดกระจายจัดข้าวจัดของให้เข้าที่ก็ไม่กล้าทำ กลัวมันมาเคาะประตู ฯลฯ หรือไม่แกะข้าวของออกมาดี เผื่อต้องระเห็ดไปไหนอีก มันเหมือนผีซ้ำดั้มพลอย เสียบ้านไป เช่าบ้านเค้าอยู่ก็ “โอเค” แหละ รอจนตั้งหลักได้เราค่อยซื้อบ้านใหม่ แต่เช่าเค้าอยู่แล้วหาความสุขใจไม่ได้ มันเศร้า หงุดหงิด มันเป็นทุกข์ที่ จิก หยิก ทุบ หัวใจทุกวินาที

บ่นหน่อยละกัน

Take Care of Yourself.

And Each Other.

But Mostly Yourself.

Wednesday, June 17, 2009

Water Intoxication

วันนี้ต้องไปทำ Mammography & Pelvic Sonography หรือ ultrasound นั่นเอง ก็สืบเนื่องมาจากเช็คอัพประจำปี การทำนัดบ้านนี้เมืองนี้มันยุ่งยากและรอนาน (รู้ๆ กันอยู่) บางทีรอนานๆ เข้า ก็งงว่ากรูจะไปหาหมอทำไมฟระ เพราะได้หายป่วยหายไข้ไปนานแล้ว แต่อันนี้ต้องไปทำแมมโมแกรมเพราะไม่ได้เอานมไปเข้าเครื่องรีดตั้งแต่ก่อนท้อง ตอนนี้ไอ้ตี้ 2 ขวบ 8 เดือนแล้ว 555 do the math กันเอาเอง พอไปตรวจประจำปีตอนท้องก็ห้ามทำแมมโมแกรม พอตอนให้นมก็ห้าม พอไปอีกปีไอ้ฟายน้อยตี้ก็ยังไม่หย่านม แหม..ถ้าตรวจตอนให้นมลูกอยู่ นมเป่งๆ คงจะกระฉูดเต็มเครื่องเค้า 555

เข้าเรื่อง เข้าเรื่อง เริ่มด้วยตื่นแต่เช้า (7 โมง…เช้าโคตรๆ สำหรับบ้านผีปอบ 555) กินน้ำ 32 ออนซ์ ตามที่ใบสั่งแพทย์ส่งมา ไปถึงโรงบาลก็ลงทะเบียน รอๆๆๆๆ คนมาทีหลังทะยอยกันเข้าห้องตรวจ ห้องเจาะ ห้องส่อง (x-ray) ตัดหน้าอิชั้นที่นั่งอ้วนรออยู่อย่างอดทน 4-5 คนได้ ชักฉุน เลยเดินไปถามอีนังเจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่าอิชั้นมี 2 ตรวจ เลยจะให้เข้าไปปุ๊บ ส่งต่อกันได้เลย ทันใด เจ้าหน้าที่ อุลตร้าแมนสาวสวยก็มาเรียกให้อิชั้นเข้าโซนห้องส่อง ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอบอกแค่ร่นกุงเกงลงก็พอเพราะหมอสั่งมาให้ส่องดูบริเวณอุ้งเชิงกราน พอเริ่มลงเจล เอาหัว probe ถูๆ กดๆ เธอก็บ่นว่าอิชั้นดื่มน้ำตามสั่งหรือป่าว ทำไม bladder ไม่เต็ม (ถ้ากระเพาะปัสสาวะเต็มใหญ่โต มันก็จะดันให้พวงอวัยวะหญิงลอยหน้าโดดเด่นขึ้นมา ง่ายต่อการรับชมรับฟังโดยการตรวจด้วยคลื่น…คำอธิบายโดยหมออู๋ 5555) ก็สั่งให้ออกไปตรวจนมซะก่อนและแด๊กน้ำอีก 1 ลิตร ที่กินมาก่อนมันจะรออยู่ในกระเพาะฉี่ได้ไงให้นั่งรอตั้งนาน หนีไปปลดปล่อยซะรอบนึงแล้ว นี่ขนาดพกขวดน้ำไปดวดตลอดเวลา

Booth-02

เค้าก็พาไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า บอกให้ปลดแต่ท่อนบน แล้วก็ไปนั่งรอด้วยเสื้อโรงบาลรุ่งริ่งหาที่ผูกที่ติดกันอุจาดได้ยากจริง ก็กุมๆ กำๆ ไว้นั่นแหละ ผู้คนก็เดินผ่านไปมาไม่ได้หยุด กรูล่ะเซ็ง ….. พอครู่ใหญ่ๆ ป้าๆ คนนึงพูดเพราะ ดูใจเย็น มาบอกว่าไปตรวจได้แล้ว ก็คุณป้านั่นแหละเป็นเทคนิเชี่ยนเครื่องแมมโมแกรม หน้าตาใจดี พูดเพราะ การตรวจเป็นไปอย่างเรียบร้อย รวดเร็ว เจ็บ ship หาย นมกำลังระบมเพราะใกล้จะมี ปจด. ง่ะ เจ็บๆๆๆๆ แต่ก็จบเสร็จไปเรื่องนึง คุณป้าคนสวยก็พาอิชั้นมาส่งคืนให้กับน้องเม๊กซิกันคนงาม วันนี้โชคดีแฮะเจอแต่คนสวยๆ ใจงาม ไม่เจอ ฮิปโป หมีฟาย ใดๆ เลย 5555 เค้าคงไม่อยากให้ฮิปโปมาเอ๊กแซมฮิปโปมัง 555

Attempt # 2 เธอก็ให้อิชั้นร่นกุงเกงลงอีก หาผ้าคลุม ลงเจล เอาหัวตรวจมากดๆ จ่อๆ เธอก็จ๊ากขึ้นมาอีกว่าฉี่ยังไม่เต็มถัง แถมโชว์ว่า ดูดิ ฉี่กะลังไหลลงถังเลย แต่ยังตรวจไม่ได้ อัญเชิญให้ทดออกมารอหน้าห้อง แถมบอกให้กินน้ำอีก ครึ่งลิตร ก็กะเดือกลงไปได้อีกหน่อยนึง แล้วก็เป็น waiting game รอๆๆๆๆ ต้องเดินไปมา เพราะนั่งแล้วมันจะล้น ทั้งเรอ ทั้งปวดฉี่ ทั้งอยากจะอ้วก ฯลฯ ทรมานมากๆ รอๆๆๆ เธอก็ไม่มา สุดท้ายเธอก็มา Attempt # 3 ตรวจได้ เห็นชัด เธอว่างั้น เธอวกวนดูอยู่จุดไหนจุดหนึ่งมองไม่เป็นแต่รู้สึกได้ แล้วก็หมั่นชี้ๆ บนจอให้ผู้ช่วยเธอดู แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ หงักๆ ไม่พูดอะไรออกมาให้อิชั้นได้ยิน ใจชักฝ่อ แล้วเธอก็บอกว่า ไปฉี่ได้แล้ว แต่ขออนุญาตตรวจจากด้านในนะ เพราะอยากเห็นบางจุดให้ชัดเจน อ้าว หมอประจำองค์อิชั้นไม่ได้สั่งนี่หว่า หรือมันตรวจเจอเอเลียนแอบอยู่วะ แงๆๆๆ

พอไปฉี่กลับมา เธอก็ให้ถอดท่อนล่างออกหมด เอาผ้าคลุม เอา probe แท่งเรียวๆ มิใช่ dong ใหญ่ยักษ์ 555 เธอตรวจอยู่นาน อิชั้นรู้สึกจะตาย ทั้ง emotional & physical เลย แล้วเธอก็บอกเสร็จแล้ว แต่งตัวกลับบ้านได้ หมอโม๊ะของอิชั้นจะได้รับผลใน 3 วัน จริงๆ หมอโม๊ะ OB/GYN ของอิชั้นส่งใบนัดมาให้นานแล้วแหละ ว่าไปฟังผลที่ตรวจทั้งหมดวันนี้ได้ในวันที่ 29 เฮ้อ… ลุ้นอีกแระ…

พอเดินออกมาจากห้องตรวจ รู้สึก หวิวๆ lightheaded แวะฉี่อีกรอบ เดินไปเอารถ ขับรถกลับบ้านด้วยอาการปวดหัวแบบหัวจะระเบิด ล่องลอยน่าก่ออุบัติเหตุ ถึงบ้านกินไทลิน่อลไป 2 เม็ด กะว่าจะนอนซะหน่อย พอดีลูกๆ ตื่น เลยให้อีพ่อมันดูแลอาหารเช้าลูกก่อนออกไปทำงาน อิชั้นสลบเหมือด พักนึงแล้วก็หลับๆ ตื่นๆ ปวดหัวอย่างแรงมากๆ แต่หิวมากเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พอกินข้าวลงไป อยากอ้วก ปวดหัวแบบมึนๆ ไม่หายทั้งวัน เลยนึกขึ้นได้ว่าเป็น Water-Overdose! Did I just overdose on water? OD on water ฟังดูขำๆ โง่ๆ แต่มันมีจริงๆ นะ ปริมาณที่กระเดือกเข้าไปไม่เท่าไหร่หรอก แต่ช่วงเวลานั่นแหละที่เป็นตัวการ อิชั้น “ดวด” น้ำ เข้าไป 2 ลิตร ในเวลา 1 ชั่วโมง ขาด-เกินไม่กี่นาที

Water intoxication (also known as 'hyper-hydration' or water poisoning) is a potentially fatal disturbance in brain functions that results when the normal balance of electrolytes in the body is pushed outside of safe limits by over-consumption of water. Normal, healthy (both physically and nutritionally) individuals have little to worry about accidentally consuming too much water. Nearly all deaths related to water intoxication in normal individuals have resulted either from water drinking contests, in which individuals attempt to consume more than 10 liters (2.2 imp gal; 2.6 U.S. gal) of water over the course of just a few minutes, or long bouts of intensive exercise during which electrolytes are not properly replenished, yet massive amounts of fluid are still consumed.

Thanks > > http://en.wikipedia.org/wiki/Water_intoxication

Booth-03page-121-1

Monday, June 15, 2009

Nothing’s New

profile

สองสามวันมานี้บรรยากาศในบ้าน “มาคุ” มากๆ เหมือนอยู่กลางเมืองคาบูลหรือกรุงเบรุตก็ไม่ปาน ยิ๋งทดตาขวางเหมือนสุนัขเป็นโรคกลัวน้ำ อยากจะ “ขย้ำ” ลูกผัวทั้งวัน พูดจา หรือทำอะไรกันก็ไม่เข้าหูเข้าตากรรมการเอาซะเลย ไล่ให้ไสหัวพากันไปไหนๆ พ้นๆ ตาซะบ้าง ไอ้พ่อมันขนลูกขึ้นรถหนีไปบ้านอินลอว์ ไปต่อวอร์ลมาร์ท ไปไหนๆ กันอีกไม่รู้ พอ ท๊าดา…เปิดประตูโห่กันเข้ามา บ่น หิวๆๆๆๆๆ ต่อมปี๊ดอีแม่มันระเบิดอี๊กกกกกก……. แม่ม แหกกันไปถึงไหนๆ ไม่พากันกันไปแด๊กให้เสร็จเรียบร้อยก่อนกลับบ้าน เลยไล่พวกมันออกไปหาอะไรกินกันซะ ก่อนที่ระเบิดจะลง เห็นว่าแห่กันไปกินที่ Burger King แล้วแบกแตงโมลูกบักเอ้บกลับมาด้วย พอนั่งตูดไม่ทันเย็น อีก๊อตก็จุดประกายหมาบ้าอีก ม้าม่ะ ม้าม่ะ เมื่อไหร่จะผ่าแต่งโม ม้าม่ะ ม้าม่ะ เมื่อไหร่จะผ่าแตงโม พล่ามซ้ำซากอยู่นั่น เลย “ว๊าก” กลับไปว่า เดี๋ยวๆๆๆๆ รอแป๊บบบบบ…. กุจะไปเอามีดมาผ่าหัวมืงก่อนเลย ….. จ๊ากว๊ากยังไม่ทันจบ อิช้ันเจือกพ่น ก๊ากกกกกก….ออกมา เลยฮาแตกกันทั้งบ้าน บรรยากาศมาคุก็เลยหายวับไปกับตา ครอบครัวบ้าๆ บอๆ กลับเข้าสู่สภาพปกติ 5555

Mama-001

ป.ล. อิชั้นได้ขอโทษสมาชิกครอบครัวไปเรียบร้อยแล้วตอนแฟมิลี่มีตติ้งเมื่อวีคเอนด์ที่ผ่านมา สงกะสัยว่าโรคสาวแก่คุกคามมั๊ง หรือที่เรียกกันเป็นสากลว่า Menopause อ่านดีๆ ว่า Men-Oh-Pause หรือ หยุดเถิดผู้ชาย 555555

0b931ddcc60b931ddcc60b931ddcc6

Wednesday, June 10, 2009

โฆษณา โตโยต้า เพรี๊ยซ ชอบๆๆๆๆ

หลายๆ คนคงได้ชมกันแล้ว ใครที่ยังไม่ได้ดูคลิกเข้าไปดูกันซะดีๆ

ยิ๋งทดไม่ได้โปรดปราน รถรุ่นนี้เป็นพิเศษแต่อย่างใด

แต่พอได้ดูโฆษณานี้มาซักระยะนึง ชอบงานเค้าจังเลย

เค้าทำได้น่ารักดี พอดูเบื้องหลังด้วยแล้ว

ก็ วู้..ฮู้.. เก่งจังวุ๊ย

°o.O(¯´•._.• Awesome •._.•´¯)O.o°

ดูแล้วทำความเข้าใจด้วย แต่ละสิ่งละอย่างที่เห็นเพียงเสี้ยวนาที

คนคิด คนทำ ต้องคิด ต้องทำงานหนักหนาแค่ไหน

ทุ่มเงิน ทุ่มแรงเข้าไปเท่าไหร่

(อย่าลืมบวกเข้าไปในราคารถด้วย 5555)

ทุกสินค้า ทุกผลิตภัณฑ์ กว่าจะถึงมือผู้บริโภคน่ะ

ไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ได้วางแผนแค่ 3 วัน ก็เสร็จออกมาให้เห็น

ไม่ใช่ หมูบนเขียง แค่สับโป๊กๆ ก็ขายได้แล้ว 5555

พวกคุณๆ ที่ โลกทัศน์แคบๆ ทำไมแพง ทำไม Made in China

คิด จ้า คิด คิดให้หนัก สมองจะได้มีหยัก นะ นะ นะ

Tuesday, June 9, 2009

Rommy & the TUTU…..

ในที่สุดอีรอมเค้าก็ได้ “ทู้ทู่” ที่คร่ำครวญกวน “ตรีน” อยู่นาน ดูกันเอาเอง ว่ามันเอ็นจอย tutu ที่อยากได้ขนาดไหน ใส่เต้นระบำรำฟ้อนอยู่ในบ้าน ใส่ไปซื้อกับข้าวกับแม่ มันก็ไม่อาย 55555 แต่กุอาย 5555

page-419

ไม่มีอะไรจะเล่า เพราะเหนื่อยๆ เซ็งๆ อยู่หน่อยๆ รื้อๆ จัดๆ ข้าวของ บ้านงี้รกรุงรังดังป่า “รกชัฎ” หรือรกชัดๆ รก ship หาย พยายามเวิ๊กกับกะบะยาทั้งวันเลยเกิดไอเดียว่าชวนคุณๆ มาดูสารพัดยาที่ทดต้องแด๊กกันดีก่า เยอะแยะตาแป๊ะก่ายจริงๆ ทุกอย่างหมอสั่งให้แด๊กทั้งน้าน หมออู๋มิได้ซี้ซั้วจัดหามากินเองหรอก เป็นที่รู้ๆ กันว่าไม่ชอบกินยา

Bayer Aspirin Baby Dose 81 mg. แด๊ก วันละ 1 มะเล็ด เพื่อ thin เลือด ช่วยลดอัตราการเสี่ยงโรคหัวใจ อันนี้หมอเขียนใบสั่งให้ แต่ไม่ได้ไปซื้อ เพราะมีอยู่แล้วที่บ้าน

Veramist เอาไว้พ่นจมูก รูละ 2 ปื้ด ทุกเช้า แก้ภูมิแพ้ ซื้อหาเอาเองไม่ได้ ต้องใช้ใบสั่งแพร่ดจ้า

Zolpidem 10 mg. เป็น generic ของ Ambien® คือ ยานอนหลับนั่นเอง รักษาอาการ Insomnia นอนหลับกระสับกระส่าย ตื่น (แม่ง) ทั้งคืนอย่างยิ๋งทด หมอสั่งให้กินก่อนนอนคืนละ 1 เม็ด แต่ไม่ได้กินทุกคืนหรอก กลัวติด ไม่มีธุระปะปังอะไรสำคัญก็ไม่แตะเลย

Claritin เป็นยาแก้ภูมิแพ้ที่ซื้อเองไม่่ต้องใช้ใบสั่งยา เดิมกิน Zyrtec ที่หมอสั่งให้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่ชอบ เพราะทำให้ง่วงตลอดวัน (ขี้เกียจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต้อง “สลึ๋มกึ๋ม” ทั้งวันอีก เข้าล๊อคเลย นอนทั้งวัน แต่พอมีลูกต้องดูแล ไล่ตี นอนทั้งวันไม่ได้ค่ะคุณๆ) ไอ้ยาทั้ง 2 ตัว เดิมซื้อ over the counter เองไม่ได้ ต้องมีใบสั่ง เพิ่งเมื่อกลางปีที่แล้วมั๊ง ที่ FDA อนุญาตให้ยาทั้ง 2 ยี่ห้อวางขายได้ตามเค้าน์เต้อร์ ไอ้พวกบริษัทประกันสุขภาพก็สบายไปเลย ไอ้ Claritin เนี่ย หมอสั่งให้กินก่อนนอนวันละ 1 เม็ด แต่หมออู๋ชอบรับทานตอนตื่นนอนเช้าแล้วก็ตามด้วยพ่นตะหมูกบานๆ เลย

Vicodin 5 – 500 mg. (Vicodin® (hydrocodone/APAP) is a prescription medication approved to treat moderate to moderately severe pain. It is a narcotic and is classified as a controlled substance, which means that special laws and regulations control its sale and use.) อันนี้เก๋จ้า ใบสั่งจะกี๊บเก๋กว่าอย่างอื่น ห้ามเขียนรวมกับยาอย่างอื่น เพราะเป็นยาเสพติด มันเป็น “ฝิ่น” หรือไงนี่แหละ หมออู๋ไม่แน่ใจ เป็น 1 ใน popular pain killers เลยแหละ จำได้แม่นว่าได้เสพครั้งแรกตอนผ่าตรูด 2 มะเล็ด ทุกๆ 6 ชั่วโมง อิชั้นเซิ้งออกมาจากโรงบาลหลังจากฟื้นยาสลบได้ 2 ชั่วโมง ไปแด๊กอาหารไทย กลับบ้านคี่ปรู้ด…สะดวกตูด มิมีซี๊ดซ๊าด พอข้อมือเจ็บหมอก็จ่ายให้อีก พอผ่าคลอดได้มาอีกฝูงใหญ่ หมอให้กินทีละ 2 เม็ดทุกๆ 4 ชั่วโมง สลับกับ Valium 1 เม็ด ทุกๆ 6 ชั่วโมง อิชั้นเหมือนลอยอยู่ใน Twilight Zone ไม่มีอาการเจ็บปวด ทั้งๆ ที่เพิ่งถูกหมอเถือกลางลำตัวขาด 2 ท่อน ควักลูกออกมา สุดท้ายหมอ OB/GYN ประจำองค์สั่งให้พกไว้แด๊กเวลาปวดท้องนรกที่เป็นมาตลอดชีวิต ชะงัดนัก ครั้งละ 2 เม็ดเวลาปวด ไม่ปวดก็ไม่กินจ้า ยังไม่ติด เพราะยังไม่ได้เป็นอเมริกันชนโดยแท้ 555 คนชาตินี้…แม่ม..เสพ prescription drugs กันเป็นว่าเล่น ติดกันงอมแงม ผลพวงของ healthcare business โดยแท้

Metformin 500 mg. อันนี้เป็นยาที่เริ่มกินตั้งแต่ตอนท้อง เพราะควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ พุ่งปรู้ดถึง 236 ด่วนดิ่งนรกชัดๆ ตอนท้องให้กินครั้งละ 1 เม็ด เช้า-เย็น แต่ตอนนี้ให้ลดลงมากินครั้งละครึ่งเม็ด เช้า-เย็น เหมือนเดิม น้ำตาลตอนนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก แต่หมอบอกว่าโอเค ประมาณ 100-120 ไม่รู้ว่าต้องกินยาบ้านี่ไปจนตายหรือป่าว

Enalapril 2.5 mg. อันนี้เป็นยาน้องใหม่รักษาฟามดันทุรังสูงของอิชั้น วันที่ไปเช็คอัพผลออกมา 195 over 95 ทั้งๆ ที่มิได้ตื่นเต้นตูมตามอะไร คุณพยาบาลต้องตรวจซ้ำซะหลายครั้งให้แน่ใจ เพราะอยู่ๆ ฟามดันของอิชั้นพุ่งปรี๊ดแบบนั้น เลยเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็น Hypertension (หรือ high blood pressure นั่นเอง) ก็เลยต้องรับทานไอ้ยาตัวนี้ก่อนนอนวันละ 1 เม็ด เห็นหมอบอกว่าเป็นยาที่ดีกรี very mild ดูกันต่อไปว่าจะเลิกดันทุรังสูงหรือไม่ เมื่อไหร่ อย่างไร

Ferrous Sulfate 325 mg. ไอ้ธาตุเหล็กนี่กินมาเนิ่นนานแล้วก็ไม่เห็นให้เลิก กินตั้งแต่ท้อง สุดท้ายเช็คอัพเดือนก่อนเลือดก็ยังไม่ดี ยังเป็นโลหิตจาง Anemic อยู่ เบื่อๆ กินยานี่มากๆ ไอ้ยาบ้านี่กินยากด้วยสิ เม็ดเล็กๆ ก็เถอะ แด๊กตอนกระเพาะว่างก็อ้วก กินช่วงใกล้ๆ กับอาหารนมก็ไม่ได้ แคลเซี่ยมไปบล๊อกการดูดซึม ก่อนนอนก็ชอบแด๊กไอติมซะด้วย ก็คงต้องฝืนกินไปเรื่อยๆ จนกว่าผลเลือดจะดีหรือหมอสั่งให้เลิกมั๊ง ที่กินก็คือก่อนนอนวันละ 1 เม็ด

Hydroxyzine Pamoate 25 mg. (Hydroxyzine is used for the short-term treatment of nervousness and tension that may occur with certain mental/mood disorders (e.g., anxiety, dementia). It is also used to treat itching from allergies and other causes (e.g., reactions to certain drugs). It may also be used to help you feel calmer before/after surgery, or to help certain narcotic pain relievers (e.g., meperidine) work better.) อันนี้แด๊กก่อนนอนวันละ 1 มะเล็ด ช่วยเรื่องนอนยาก และ Allergy บางทีก็กินสลับกับไอ้ Zolpidem ในช่วงที่ Allergy ค่อนข้างสงบ

MedicinesPage-04

ไอ้พวกข้างล่างคือวิตามินที่กินทุกวัน ไม่กินยาไม่กินวิตามินก็โดนผัวด่า มันกลัวเมียตาย ยิ่งไปอ่านข่าวว่าสาวใหญ่อายุแก่กว่าอิชั้นแค่ 1 เดือน เพิ่งตายห่าลง เป็นมะเร็งมะเส็ง หรืออะไรก็ไม่แซบ มันยิ่งเครียด ไล่ไปหาหมออยู่นั่น คนบ้านนี้แค่ “ตด” ก็ไปหาหมอ 555 ตามที่ใครๆ เค้าว่ากันจริงๆ น้าาาา……

Take care of yourself, and each other . .

Friday, June 5, 2009

ยังเหนื่อยไม่หาย

เอารูปมาให้ดูแก้เซ็งไปก่อน จริงๆ มีหลายเหตุการณ์ หลายกิจกรรม เกิดขึ้นระหว่างที่เราขนย้าย อย่างเช่น พาไอ้ตี้ไปหา Dietician พากันไปกิน Sopas ที่ Portuguese Feast แล้วก็ต้องไปงานวันเกิดไอ้เวนสตี๊ฟ (อันหลังนี่ไม่อยากไปที่สุด แต่จำเป็นต้องไป เพราะเป็นอะไรๆ ที่อันตรายมากหากพลาด สัตว์ร้ายอาจแว้งกัดได้ 555)

ตอนที่พาไอ้ตี้ไปพบ Dietician เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ เค้าจะต้องบอกให้ลูกกินโน่น แด๊กนี่ ซึ่งเป็นอะไรที่ทด “เอ๊กสะเปิด” อยู่แล้ว อธิบายสั่งสอนอยู่พักนึง ทดก็ เออ เหรอ อ๋อ ค่ะ yeah right อยู่พักใหญ่ อีนั่นเค้าชักเอะใจเลยถามว่า รู้เยอะนิ เรียนมาเหรอ เลยบอกไป…ป่าวหรอก มิใช่มายเมเจ้อร์แต่อย่างใด เพียงแต่ชอบอ่านและสนใจก็เท่านั้น 5555 เรื่อง nutrition สารอาหารและวิตามิน ไม่เป็นปัญหาสำหรับทดเลย ออกจะเชี่ยวชาญซะอีก แต่เรื่องลูกแด๊กยากและ picky เนี่ย ร้าวรานใจมากๆ พอมันไม่อยากกิน ก็ตามใจมัน เพราะเดี๋ยวทดโมโหแล้วจะมีการลงไม้ลงมือ สุดท้ายอีแม่มันต้องไปนอนซังเต แล้วพอมันอยากกิน junk ก็ต้องยอมให้มันกิน และ แม่จัดห้ายยยยย… ดีกว่ายอมให้มันเดินกระเพาะกลวงๆ ไปทั้งวัน พูดเรื่องไอ้ตี้กินยากแล้วอยากเดินไปเบิ๊ดกะโหลกมันในทันที ไม่เหมือนอีรอมกินมากซะจนแม่อยากจะเบิ๊ดโหลกมันให้หยุด 5555

page-418

มาดูรูปห้องครัวบ้านเก่าหลังจากทำฟามสะอาดซะจนออกแสง เห็นแล้วเจ็บใจ ตอนที่กรูอยู่ทำไมไม่น่าอยู่น่าใช้แบบนี้ รก ship หาย โดยเฉพาะเตา เห็นแล้วเศร้าจายยยย… อยากได้ อยากขโมยของเค้ามาด้วย 5555 ตอนแรกย้ายเข้าไป โมโหมาก ไม่ชอบเล้ยยย… ให้ตายห่าสิ พอยิ่งใช้ก็ยิ่งชอบ สุดท้ายหลงรักและอยากจะ “ลัก” ขโมยเอามาด้วย ทำความสะอาดง่าย it’s a breeze … แต่ไอ้วอลล์เปเป้อร์เนี่ย ไม่ช้อบ ไม่ชอบ โบ…มากๆ 555

page-413

ในรูปนี้เป็น นังนู๋ Eva มาช่วยเก็บของ หันไปดูอีกทีเห็นมันใส่ปีกปีศาจค้างคาวของอีรอมเดินเก็บของอยู่..ดูขำดี เลยถ่ายรูปเก็บไว้ซะ รูปล่างเป็นรูปเตาที่บ้านใหม่ แงๆๆๆๆๆ โคตรไม่ชอบเลย แงๆๆๆๆ ระเบิดเมื่อไหร่จะไปรีเควสให้เค้าซื้อแบบรูปข้างบนให้ 555 ส่วนไอ้รูปเก๊ะ และชั้นต่างๆ ในตู้ครัวและห้องน้ำจะเป็นแบบในรูปหมด เป็นไม้ผุๆ ขีดข่วน ขรุขระ น่าขยะแขยงมากๆ ต้องไปซื้อ Lining Paper มาแปะทั้งหมด พอแปะเสร็จแล้วก็ดูดี สะอาดหู สะอาดตา น่าใช้ขึ้นมา แต่กว่าจะแปะจนเสร็จครบก็แบบ…เฮ้อ…. เหนื่อยๆๆ

page-416

รูปชุดนี้มีอยู่คืนหนึ่งระหว่างเก็บของขนย้าย ก็เลยพากัน Take a Break ไปกิน Sopas จริงๆ มันก็คือ ซุปของชาวโปรตุกีส เค้าจัดอยู่เรื่อยๆ มั๊ง ปีละ 2-3 ครั้งไม่ค่อยแน่ใจ ครอบครัวเราจะไปทุกครั้งแหละ เพราะพ่อทูลหัวของลูกทั้งสองตัวเป็นชาวโปรตุกีส ที่สำคัญ Everything is FREE! ของชอบของครอบครัวอยู่แล้ว 555 ในงานก็จะมี ซุปเนื้อเป็นก้อนๆ ขนาดมหึมา กะหล่ำปลี - หัวนึงผ่าแบ่งเป็น 4 ชิ้น แล้วมีขนมปังก้อนใหญ่ๆ แห้งๆ แข็งๆ หั่นเป็นแว่นๆ หนาๆ แช่มาในซุป ทุกโต๊ะมีไวน์แจกให้ดื่ม 2-3 ขวด วันนั้นทดไม่ดื่มเลยเพราะรู้ว่าต้องกลับไปเป็นกรรมกรเก็บของอีก…กลัวเสียงาน ไอ้หนวดหงอก 2 คนนั่น คนนึงน่ะผัวอิชั้น อีกคนนั่นเพื่อนมันชื่อ Dexter มาช่วยขนของหนักๆ ขอบใจจริง ไอ้ 2 คนนี้เหมือนแฝดคนละฝา คุยอะไรๆ ได้เป็นตุเป็นตะ เออออห่อหมก ไม่ขัดคอกัน เพราะรสนิยมทางการเมือง การศาสนา และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นแบบเดียวกัน แอบฟังแล้วก็แอบขำ “ฮานาก้า” มากๆ

page-409

ในงานจะมีการเต้นรำ วงดนตรีจะเล่นเพลงเป็นภาษาโปรตุกีส อีพวกที่แต่งตัวฟูๆ เจ้าหญิงนั่น เป็นควีนและปริ๊นเส็ซ (555 ดีกว่าปริ๊นไม่เสร็จนิ) อีรอมไปงานนี้ทีไรอยากได้มงกุฏเค้าทุกที ไอ้ก๊อตตี้ออกไปวิ่งซนแล้วก็เหล่สาวๆ เลยต้องเต้นระบำแก้เก้อกับพี่สาว 5555 ส่วนรูปนี้เป็นครัวที่เค้าทำอาหารแจก ดูหม้อยักษ์ซะก่อน ก่อนกลับก็แวะไปข้างหลัง (ที่ครัวนั่นแหละ) ขอทานอู๋ไปเข้าแถวรอเค้าแจกทาน 555 ไอ้พวกเม๊กซิกันมาเข้าแถวรอเพียบ คืนนั้น Godfather ของลูกๆ ไม่ได้ไป ไม่งั้นก็ไม่ต้องไปรอ “ปาป้า” จะเอามาถวายที่โต๊ะเลย ที่ได้มาก็จะเป็นซุปถาดใหญ่กับขนมปังหิน 1 ก้อนใหญ่ ไอ้ตี้แทะกินทั้งวัน ดูเหมือนจะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มันเลยชอบ 5555

page-410

รูปนี้เป็นตอนที่ไปซื้อสแน๊ก ผลไม้ และน้ำแข็งกัน หลังจากพากันไปดินเน่อร์ที่ Perko’s (กินที่นั่น 4 คืนรวดเชียวนะจะบอกให้) เนื่องจากไม่มีครัวแล้ว ตู้เย็นไมโครเวฟไม่มีใช้ ขนไปบ้านใหม่หมดแล้วแต่ยังนอนที่บ้านเก่ากัน คืนนั้นอีรอมออกลายอย่างแรง ไม่อยากจะเซด อยากตื้บมันเลยแหละ ดราม่าและงอนมากมายกว่าปกติหลายร้อยดีกรี จนแม่มันอยากกระโดดถีบมันในสโตร์เลย พอออกมานอกร้านเค้า อีพ่อกับอีแม่ก็ด่ากันนุงนัง อีดีก็บีบน้ำตา (ตามเคย) คืนนั้นแย่มากๆ ปรี๊ดแตกแบบสุดๆ ไม่อยากนึกถึง แซดสุดๆ ลูกตัวเองเลี้ยงมากับมืออย่างดีที่สุดที่แม่คนนึงจะสามารถ กลายเป็นคนแบบนี้ รูปล่างเป็นครัวบ้านใหม่ เล็ก แคบ อึมครึม ฮ่วย บ่อชอบเล้ยเด้อ

page-417

อันนี้เป็นสนามหน้าบ้านใหม่ แคบจิ๊ดนึง แล้วเป็น “busy street” ลูกๆ ไม่มีสิทธิ์ออกมาเล่นหน้าบ้านเลยแหละ พอดีวีคเอนด์ที่ขนย้ายเค้ามี Air Show ซึ่งสามารถดูได้ทั้งเมือง ก็เมืองมันจิ๊ดเดียว ลูกๆ ก็เลยวิ่งออกไปดูกัน เสียงเครื่องบิน “หึ่ง” ทั้งวัน มีทั้งเจ็ทเครื่องบินรบ และ เครื่องบินโบราณ อีแม่มันคุยทับลูกและผัว เชอะ..คนอย่างทดจะตื่่นเต้นทำมายยยย… เพราะเคยชม “โปร” ระดับโลก อย่าง Blue Angels มาแย้ว…555 (แต่ไม่ได้บอกหรอกว่าดูมาจากทอทัด 555) ส่วนรูปที่เห็นถนนนั่นก็คือถนนที่ถ่ายจากสนามหน้าบ้านแหละ เห็นฝูงเจ็ทอยู่ไกลๆ ส่วนอีบาร์บี้ที่น่าสงสารนั่น เห็นปุ๊บถ่ายรูปมาปั๊บ ตอนไปซื้อของที่วอลมาร์ท เห็นไอ้รถแวนบุโรทั่งนั่นมาแต่ไกล แต่มาสะดุดตาอีบาร์บี้ที่โดน “ตรึง” ไว้ เห็นแล้วก็ทั้งขำและสยอง เลยถ่ายรูปมาอวดกัน ส่วนไอ้ Frappuccino กับ Madeleine Cake กลายเป็นของที่กินดื่มบ่อยระหว่างที่ขนย้าย ขับรถผ่านเป็นแวะจกเอามาซะหน่อย แล้วก็แวะซื้อ Cheese Roll-Up ที่ Taco Bell ให้ลูกผัวได้สแน๊กอยู่หลายหน

page-415

รูปก้อนนี้เป็นงานวันเกิดไอ้สตี๊ฟ รวมญาติวันหยุด แต่มากันไม่ครบหรอก เพราะกัดกันเละยิ่งกว่าเขมร 3-4 ฝ่าย 555 อิชั้นเป็น สวิตเซอร์แลนด์ Neutral ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับใคร ขนาดนี้นานๆ ที่ยังโดนลอบกัดอยู่ไม่ขาด อีก๊อตบ่นอยู่ไม่ขาด ไม่อยากไป คืนนั้นเป็นวันเสาร์ เราไม่อยากไปกันเลย เพราะการขนย้ายกำลังเข้าที่เข้าทาง แต่ต้องหยุดซะเนี่ย พอไปก็รีบกินรีบกลับ (คงโดนกัดลับหลังอีกแหละ 555) ไอ้ก๊อตตี้แล๋นแต๋นไปเป่าเค้กของไอ้บ้านั่น (ไม่รู้ไปแอบร้องไห้หรือป่าว หลานแย่งเป่าเค้ก 555) รูปอีแวว (Valeri) น้องผัวดูขำดี มันแอบนั่งปลีกวิเวกอยู่คนเดียว ตะโกนเรียกมันพอหันมาถ่ายรูป “ฉับ” เข้าให้ 555 ไอ้ร๊อบบี้ก็โตเป็นฟาย หนาวร้อนแค่ไหนก็ใส่ Beanie บ้านั่นตลอดเวลา อีกรูปเป็นอู๋อ้วนกับอีเจ้ “แยน” เมียใหม่ของไอ้ตี๊ฟมัน อ่อนกว่าอิชั้น 5 ปี วันนั้นเธอแต่งตัว “เช๊ง” น่าดู อีนี่น่าสงสาร ไม่น่าพลาดมาได้ไอ้โรคจิตนี่เลย มันนะต้องเสริฟที่ร้านบั๊ฟเฟ่ต์สุดชีวิตแล้วต้องจ่ายค่าเช่าบ้านด้วย She has always waited on her husband hand and foot. หูยยยย… มันเลยสมหวังได้ obedient slave & wife - 2 in 1 ไอ้เปรตนี่ดูถูกคนเอเชียไว้เยอะ โดยเฉพาะผู้หญิงไทย (มันเคยบอกน้องมันก่อนแต่งงานกับทดว่า…ผู้หญิงไทย 70% เป็นออหรี่ทั้งหมด เชี่ยมากๆ มีอีกเยอะ อย่าให้สาธยายเชียว เดี๋ยวคุณๆ อยากเช่าเหมาลำมา “ตึ้บ” มัน)

page-414

จบดีกว่า วันนี้พูดถึงไอ้เชี่ยนั่นเยอะมาก มันทำให้บล็อกอิชั้นมัวหมองมีราครี เสนียดเกาะ เดี๋ยวไปทำพิธีบัดรังควาน ล้างซวยซะหน่อย แล้วคุยกันใหม่นะค้าาาา…..

Have A Nice Weekend Everyone.!.!.

Thursday, June 4, 2009

มาแร้วววววว

หายหน้าหายตาไปเป็นกรรมกรแบกหามโดยมิได้ล่ำลาเสียหลายวัน หูยยยยย…เหนื่อยมาก พะยะค่า แทบรากเลือกตาย ย้ายเที่ยวนี้มี “เส้นตาย” – deadline เป็นภาษาไทยดูโหดกว่าเยอะ 555 ต้องไสหัวออกจากบ้านเก่าภายในวันสิ้นเดือน แต่จริงๆ ทำความสะอาดเสร็จหยดสุดท้ายก็เกือบตีห้าของวันที่ 1 มิถุนายน ไอ้ตัวใหญ่ช่วยพ่อแม่มาทั้งวัน พอตี 2 นอนตายใจขาด สลบเหมือดอยู่กับพื้นอย่างนั้นเลย ส่วนไอ้ตัวเล็กก็ไม่ช่วยอะไรวิ่งวุ่นวาย ส่งเสียงดังไม่เกรงใจชาวบ้านข้างเคียง ดึกดื่นตี 2 ตี 3 ยังส่งเสียงกิ๊บกิ้ว วีดวิ้ว เจี๊ยวจ๊าว สนุกสนาน ไม่เกรงใจชาวบ้าน กลัวเค้าเรียกตำรวจพร้อม CPS -Child Protective Services มาบริการ “ฟรี” รับอรุณ 555 สรุปว่า ย้ายเสร็จสรรพ เรียกว่าเหนื่อยที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ (แทบร้องไห้ เพราะเหนื่อยมากและเครียดสุดๆ) เขียวช้ำไปทั้งตัว เหมือนโดนผัวกระทืบ 555 ด้วยที่เป็นคนเขียวช้ำง่าย ยกแบกข้าวของ กระแทกโดนโน่นนี่ไม่ได้หยุด bang into something ตลอดเวลา เฮ้ออออ… ขอนั่งพักเหนื่อย on my fat ass โดยไม่หยิบจับอะไรเลยซัก 2-3 วีค คงจะหายเหนื่อย 555

page-411

พอจะออนไลน์ อัพบล็อกส่งข่าวซะหน่อย ก็ไม่มีเน็ทใช้ ยิ๋งทดก็โทรๆๆๆๆๆๆๆ หา AT&T วันละหลายหน สอบถาม แจ้งข่าว ต่อว่า แต่ยังไม่ได้มีการด่าทอแต่อย่างใด AT&T เพิ่งส่ง dispatcher มาแก้ไขให้เดี๋ยวนี้เอง (ต้องรอคิวน่ะ) ปัญหาก็คือ ต้อง downgrade DSL speed ลง เพราะย้ายออกมาอีกด้านของเมือง ห่างจากไอ้ศูนย์กระจายคลื่น (555 เรียกเองง่ะ) ออกมานิดนึง แถมไอ้กระบวนการแบบนี้ ซะมีอิชั้นไม่ได้เรื่องเลยแหละ มันเป็นยอด user จริงๆ คือ ยู้ด…เซ่อ ที่เซ่อมากๆ ติดต่อ ติดตั้ง “อ่า” ไร ไม่เป็นเลย อิชั้นเป็นเดี่ยวมือหนึ่งแผนกอิเล็คโทรนิคของบ้านค่ะ คอมพิวเต้อร์ ทอทัด ทอสับ ฯลฯ you name it! ทดทำเองทั้งน้านนนนน….

page-412

มีรูปถ่ายไว้เยอะเลย แล้วจะค่อยๆ เอามาแปะ รูปแรกเป็น “ซาพ้ายยยย..” 555 ตอนเก็บขนของจากบ้านเก่า เจอๆ วัตถุลึกลับเพียบ หมกซ่อนอยู่ตามพื้นและซอกหลืบต่างๆ เลยถ่ายรูปบางอันมาให้ดู ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ถ่ายไม่ไหว เพราะเยอาม่กกกก… ไอ้ blueberry bagel นั่น หน้าตาสยองนิดนึง เหมือนอะไรวะ 5555 เหมือนไอ้ริดไง 555 ทั้งหมดที่เห็นนั่น แห้ง..แข็งโป้ก ไม้ยักกะมีรา มีเห็ดงอกเลย แปลกดีแต่สยองหน่อยๆ มันใสอะไรเข้าไปวะ ทำให้ปลอดรา แหวะ หรือเพราะอากาศบ้านเมืองนี้มันแห้งแกร่ก..ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้สบายใจขึ้นหน่อย

ส่วนรูปที่สองเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก เพราะว่าไอ้รถขนของที่เช่ามา ลูกๆ ชอบมาก ได้นั่งรถทรักค์ 5555 ต้องเช่ารถ U-Haul มา 2 รอบๆ แรก เช่ามา 3 วัน นึกว่าจะเสร็จ กลับไม่เสร็จ เลยต้องไปเช่ามาอีกรอบ 1 วัน มีแต่เรื่องเสียเงินว่ะ วันนี้จบแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาอัพใหม่ค่า