Tuesday, January 29, 2008

My World

หญิงไทย ใจงาม ย้ายถิ้นฐานมาอยู่ไกลบ้านเกิดเมืองนอน ตั้งแต่กลางปี 2000 ก็เพราะต้องตามหัวใจมาไกลสุดขอบฟ้าอีกด้าน โดยลากเรือพ่วงลำจิ๋ว (ตอนนั้น-ส่วนตอนนี้ก็น้องๆ ไททานิคแล้ว) ชีวิต ครอบครัว คู่ชีวิต หน้าที่การงาน ตลอดสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ก็มีสุข มีทุกข์ มีสุก มีดิบ มีไหม้ มีอันเด้อคุ้ก คละเคล้ากันไป เรื่องหวานๆ คงไม่มีให้เผยแพร่ให้โลกได้รู้เท่าไหร่ เพราะเป็นคนไม่หวาน และไม่เปรี้ยว ออกจะถึกๆ หน่อย และอ้วนมาก ทำเปรี้ยว ทำเก๋ คงไม่งาม

ด้วยที่เป็นคนเก็บความลับไม่เก่ง พื้นที่เซฟสำหรับเก็บความลับมันเล็กไปนิดมั๊ง มันเลยชอบพรั่งพรูออกมาให้ใครๆ ได้รู้ไส้รู้พุงไปหมด เนื่องจากเป็นคนเปิดเผย หลายครั้งก็เลยต้องเจ็บ เพราะเสแสร้งน้อยไปหน่อย พอสุข สนุกสนาน ก็แฮ้ปปี้ ยี้…ฮ่า พอทุกข์ก็หน้าบูด ปากแบะ คุยกะใครไม่ได้ แยกแยะอารมณ์ไม่ออก บางทีถึงกับร้องไห้โฮไม่อายใคร จึงเป็นที่รักที่ชังของคนรอบๆ ตัว เรื่อยมา

ก็หวังว่าจะมาทำบล๊อก เพื่อบอกเล่าความในใจ ความเป็นมาเป็นไป ชีวิต ครอบครัว และหัวใจ (หัวใจก็คือ ลูก 2 คน ถ้าไม่มีหัวใจ ชีวิตก็หาไม่) สามี และวันๆ ทำอะไรที่เป็นสาระบ้าง (คงไม่ได้เขียนบล๊อกบ่อยๆ แน่เลย เพราะออกเป็นเป็นคนไร้สาระ-คดี มากกว่า - อันนี้ได้เขียนวันละหลายๆ รอบแน่เลย)

เริ่มเลยแล้วกัน พล่ามวกวนมาเยอะ คือ เป็นคนโคราช เกิดโคราช ออกจากโคราช ติดตามพ่อที่รับราชการ ย้าย ไปหลายจังหวัดเหนือ ใต้ ออก ตก ทั่วประเทศไทย มาจบตรี ที่ กทม. กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ชีวิตราบๆ เรียบๆ เรียนจบทำงาน ทำงาน มีแฟน อกหัก เค้าหักเรา เราหักเค้า ผัดๆ กันไป หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ถอยหลัง เดินหน้า สาระวันเตี้ยลง กระโดดข้ามรั้ว ตกบันได เป็นคนโปรดของนาย เป็นคนที่บอสชัง มีครบทุกรสชาด มีโอกาสได้ทำงานบริษัทระดับเวร์ลด์คลาสหลายแห่ง (อันนี้ภูมิใจและถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ในชีวิต)


ก็มาถึงคราวกำเหนิดกุมารี นามว่า “รมณีย์“ หรือ รอมมี่ หรือ หนูดี หรือ ดี๊ดี หรือ ตุ๊มเหม่ง ฯลฯ สารพัดชื่อ ขึ้นอยู่ว่าใครเรียก ที่เด็ดสุดก็คือ ป้าอ้วน (แม่จ๋า) เรียกมันว่า “อีเตี้ย“ จบเรื่องชื่อ เป็นว่าเมื่อเป็นซิงเกิ้ลมัม วิถีชีวิตก็ยากขึ้นนิดนึง ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมรอบข้าง (ไม่ขอเล่าที่มาของการเป็นแม่มือเดี่ยว) บังเอิญได้มาพบอุบัติเหตุรักกับชายวัยก้ำกึ่ง “ฉะลา และ ฉะกัน“ นามว่า ไอ้ก๊อต เมื่อความรักท่วมท้น ไม่สามารถทนอยู่ห่างไกลกันได้อีกต่อไปก็ตัดสินใจตกลงรับคำจะแต่งงานกับเขาและย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ ทุ่งกุลาฯ อเมริกาสถาน

ชีวิตในเมืองเล็กๆ ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ไม่ได้สวยงามเหมือนในหนัง และไม่ต่างจากตำบลเล็กๆ ในเมืองไทย ผู้คนนับว่า “บ้านนอก“ อย่างแรง หูตาไม่กว้างไกล แถมเมืองที่อยู่ “มาจอริตี้“ เป็น ชาวเม๊กซิกันที่เข้าเมืองผิดกฏหมาย ส่วนคนขาวและคนดำเป็น “ไมนอริตี้"มานานหลายทศวรรษแล้ว ไปไหนมาไหนก็จะได้เป็นได้ยินภาษาสแปนิชมากกว่าภาษาอังกฤษ เนื่องจากอายุที่มากโขก็เลยไม่มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ภาษาสแปนิช เป็นภาษาที่ 3 เพราะเมมโมรี่กับฮาร์ดไดร๊ฟ์ เต็มและพุพังมากแล้ว ก็อยู่ๆ กันไป ชีวิตดำเนินต่อไปได้ ไม่ยากลำบากอะไรนัก เป็นแม่บ้านนักช้อป นักซิ่ง ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน บางทีก็เบื่อ บางทีก็
"ดีแฮะ"

ชีวิตครอบครัว 2 ปีแรกก็ไม่ง่ายอย่างที่ฝันไว้ แต่เราก็ช่วยกันพาเรือชีวิตฝ่าฟันมรสุมมาได้ ทุกวันนี้นับว่าเราเป็นครอบครัวที่มีความสุขมากตามอัตภาพ ไปไหนไปกัน เรามีความสุขที่เราอยู่กันพร้อมหน้า มีบ้านอยู่ มีข้าวกินทุกวัน มีหนี้สินตามสมัยนิยม และสามีตามใจ จนเมื่อ ตุลาคม 2006 ครอบครัวของเรามีสมาชิกงอกมาอีกหน่อนึง เป็นหนุ่มน้อยนาม “ก๊อตตี้“ ทุกคนแฮ้ปปี้ ถึงแม้จะทำให้ “ฝืด“ ขึ้นอีกนิดนึงอีกพักใหญ่ๆ สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวของเรา มีบุคลิก ลักษณะนิสัย ประหลาดต่างๆ กันออกไป พ่อบ้าน เสียงดัง หูตึง โหวกเหวก แต่ใจดี (จุ๊ๆๆ ใจอ่อนด้วย-รู้จุดอ่อนซะแล้ว) ลูกสาว เป็น นางเอกของบ้าน เจ้าอารมณ์ เจ้าน้ำตา เจ้าปัญหา พ่อแม่ให้ฉายาว่า Drama Queen เจ้าลูกชายยังดูไม่ค่อยอออก แต่พอเห็นแววว่าน่าจะดื้อไม่น้อย ส่วนแม่ เป็นนางร้าย พ่อลูกต่างขนานนามให้ ว่า Queen of Mean แต่รักครอบครัวมากๆ นะคะ “ขอบอกกกกก….“

TheIngles-01

No comments: