Tuesday, September 21, 2010

FALL Has Begun..!!

fall-tree-no-leaves

Yeeee…..Ha! ในที่สุดก็ Fall (Autumn - ฤดูใบไม้ร่วง) ก็มาถึง ปีนี้รอๆๆๆๆๆ ให้ฟอลล์มาถึงเร็วๆ เพราะเบื่อจ่ายบิลค่าไฟอย่างแรง 555 พอฟอลล์กับสปริงบิลค่าไฟจะลดลงแบบฮวบฮาบ ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง หน้าร้อนกับหน้าหนาวก็หนักหน่อย แต่หน้าร้อนจะหนักที่สุด เพราะเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน ขนาดเปิดแบบให้ลูกๆ อยู่สบายตัวไม่ได้เย็นเยือกแต่อย่างใด คือประมาณ 77°F ซึ่งต้องจ่ายประมาณเดือนละ 350 เหรียญ พอหน้าหนาวค่าไฟก็ลดลงมานิดนึง นิดเดียวจริงๆ คือประมาณ 280 เหรียญ เพราะเปิดฮีตเต้อร์เฉพาะช่วงหัวค่ำ พอถึงช่วงสายๆ ก็ปิด พอเริ่มเข้าฟอลล์ หรือสปริง หรือปลายๆ หน้าหนาว อากาศเย็นสบาย ไม่มีการเปิดฮีตเต้อร์หรือแอร์คอนดิชั่นเน่อร์เลย ค่าไฟหล่นลงมาให้ชื่นใจอยู่ที่ประมาณ 80-100 เหรียญต่อเดือน

แต่วันนี้…วันแรกของฟลอลล์…แอร์บ้านอิชั้นยัง “หึ่ง…..ง..” ครวญครางอยู่อย่างปกติ ก็ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนฤดูปุ๊บ อากาศเย็นลงปั๊บนี่นา กลางๆ หรือปลายๆ ตุลาโน่นแหละ ถึงจะได้หาเสื้อหนาวมาใส่กัน ตอนนี้อากาศก็จะลดลงเรื่อยๆ กลางคืนเย็นสบาย กลางวันยังคงร้อนตับแหก (วันนี้finally-hereอยู่ที่ 92°F) ตอนเช้าขับรถไปส่งลูกต้องเปิดฮีตเต้อร์ พอบ่ายไปรับลูกก็เปิดแอร์ อุณหภูมิแตกต่างแบบลูกเล็กเด็กแดงน่าป่วยไข้แหละ สาเหตุที่อิชั้นปลื้มกับการมาถึงของฤดูใบไม้ร่วงเป็นที่สุด เป็นเพราะไม่ชอบหน้าร้อน ไม่สบายเนื้อสบายตัว คันคะเยอ ฯลฯ พอฟอลล์มาถึงอีกไม่นานก็หน้าหนาว อากาศเย็นลงเรื่อยๆ ชื่นฉ่ำหัวใจ หนาวก็ขนใส่เสื้อผ้ารองเท้าถุงเท้าให้ร่างกายอบอุ่นได้ แต่ร้อน…เดินแก้ผ้าโทงๆ ก็ไม่หายร้อน เผลอๆ โดนตำรวจจับอีก ถ้าหากอิชั้นจะคลั่งเดินแก้ผ้าคลายร้อนในบ้าน ก็…อูย…สงสารลูกผัวจัง….อุจาด 55555 แค่คิดก็อุบาทว์เกิ๊นนน.. 55555

page-566

พอเข้าฟอลล์ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี เป็นโทน เหลือง แดง ส้ม น้ำตาล และเขียวขี้ม้า ให้ดูสวยแปลกตาอยู่ซักพักนึง จากนั้นก็ร่วงหล่นเต็มพื้น เหลือต้นยืนโกร๋นหนาวเหน็บไปตลอดหนาว จะมีพวกที่ใบไม่เปลี่ยนสี ใบไม่ร่วง ที่เค้าเรียกว่า Evergreen ให้เห็นอยู่บ้างเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นพวกต้นสน แถวนี้เป็นแถบกึ่งทะเลทราย ที่อยู่ใกล้ๆ เทือกเขา Sierra Nevada ซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าสน พอฤดูมีหิมะปกคลุมไปจนถึงปลายๆ พฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของผู้คนแถวนี้ หิมะจะค่อยๆ ละลายไหลลงมาที่ทะเลสาป อ่างเก็บน้ำ reservoir แล้เค้าก็ถูกจัดจ่ายไปให้ได้ใช้ทั่วกันตลอดฤดูร้อน ถ้าปีไหนหิมะน้อย…เหอๆๆๆ ไม่อยากจะเซด เจอมากับตัว เสีบบ้านไปเลยค่ะ ต่อๆๆๆๆ ป่าเขาแถวนี้น่าจะเป็นเขตป่าผลัดใบ (Deciduous Forest) มากกว่า เพราะเขตทุนดรา (เมกันออกเสียง “ทันดร้า” – Tundra) น่าจะหนาวเย็นกว่านี้ แบบอลาสก้าโน่น ถ้าให้คิดเองเทือกเขาเซีร่าเนวาด้าเนี่ย..น่าจะอยู่ระหว่างภูมิอากาศหรือภูมิประเทศหว่า 555 แบบป่าสนไทก้า (Taiga) กับ ป่าผลัดใบ ส่วนแถวๆ ตีนเขาลงมาถึงแวลเล่ย์ที่อิชั้นอยู่น่าจะเป็นแบบ “ทุ่ง-กุ-ล่า” Toong-gular 55555 เพราะแถวนี้แห้งแกร่ก ยิ่งหน้าร้อน แห้งโคตรรร…. 5555

page-565

คราวนี้มาดูกัน ว่าฤดู (เอาเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นนะคะ) ของแต่ละซีกโลกห่างกันอย่างไร กูเกิ้ลมาฝากกัน อันแรกของซีกโลกเหนือค่ะ

In 2010, fall begins on September 22nd for countries in the Northern Hemisphere (United States, Canada).
Note: In 2010, Autumn begins on September 23 for countries in Europe.

FallNaorth

อันนี้ของซีกโลกใต้

In 2010, fall begins on March 20th for countries in the Southern Hemisphere (parts of South America, parts of Africa, Australia, and Antarctica).

FallSouth

เคยพล่ามเรื่อง Fall ไว้ตรงนี้ ด้วย http://oohsworld.blogspot.com/2009/09/hello-fall-good-bye-summer.html

ยังไงก็ขอให้ทุกคน Happy Fall (but not Falling) นะคะ

HappyFallPumkinLARGE

Do not dwell in the past,

do not dream of the future,

concentrate the mind on the present moment.

-- Buddha --

OLL-03

No comments: