Monday, November 21, 2011

หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก

http://www.cheewajit.com/articleView.aspx?cateId=6&articleId=1922

974807264

Goodtime to Breakfast: ช่วงเวลาดีๆ กับอาหารเช้ามากคุณค่า

คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า ที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาหารเช้าในแต่ละวัน มีหลายเหตุผลมากมายในสังคมที่เร่งรีบทำให้ชีวิตเป็นอย่างนั้นไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นตื่นสาย รถติด หาซื้อไม่สะดวก สรุปง่ายๆก็คือไม่มีเวลานั่นเอง แต่ยังมีคนอีกกลุ่มโดยเฉพาะสาวๆ ตั้งใจที่จะไม่ทานอาหารเช้าเพราะต้องการลดน้ำหนัก อันนี้เข้าข่ายมีความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ ในทางตรงกันข้ามอาหารเช้าทำให้ลดโอกาสที่น้ำหนักของคุณจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป

1263545681

เนื่องจากการทานอาหารเช้าทุกวันจะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเกิดสมดุล ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารที่คุณทานในมื้อเช้าเข้าไปหลังจากที่เว้นว่างไประหว่างนอนหลับในตอนกลางคืน ดังนั้นถ้าไม่ทานอาหารเช้าร่างกายจะดึงพลังงานสำรองที่สะสมไว้ยามหลับมาใช้ แต่มันไม่เพียงพอสำหรับยามเช้า หลังจากพลังงานส่วนนี้หมดไปแล้วอาจทำให้คุณเกิดสภาวะเครียด สมองไม่ปลอดโปร่ง และเฉื่อยชา คุณอาจจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้นในมื้อต่อๆไป จนเกิดอาการกินจุกกินจิกระหว่างวันซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว น้ำหวาน และน้ำอัดลม ที่มีไขมัน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และแครอลลี่สูง มากไปกว่านั้นอาจเกิดอาการต่อเนื่องมาถึงกลางคืน หรือที่เรียกกันว่ากินกลางคืนอีกด้วย ผลที่ตามมาก็คือความอ้วน ที่มาพร้อมกับโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และเบาหวาน จากการสะสมพลังงานส่วนเกินไปกว่าที่ร่างกายต้องการ

 '  
เอาเป็นว่าหลักสั้นๆง่ายๆของการทานอาหารในแต่ละวัน ก็คือ หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก โดยอาหารเช้าที่ว่าทานหนักนี่หมายถึงหนักอย่างมีคุณค่าด้วย แต่คนเมืองสมัยนี้จะให้มาเตรียมอาหารตอนเช้าทานกันทุกวันอาจจะไม่สะดวก เตรียมตอนกลางคืนมาอุ่นตอนเช้าก็เป็นทางเลือกหนึ่ง หรือว่าลองหาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพเตรียมง่ายอิ่มอร่อยได้คุณค่า เช่น เครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูปที่รวมคุณค่าจากธัญพืชหลากชนิด นมสดพร่องมันเนย และผลไม้สด ติดบ้านหรือออฟฟิศไว้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะว่าสามารถเป็นได้ทั้งมื้อเช้า ทานหลังอาหารเช้า หรือว่าจะเป็นของว่างหากอยากทานระหว่างมื้อก็ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงขนมนมเนยที่ทำลายสุขภาพ

breakfast060311


รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมให้เวลากับอาหารเช้าที่มีประโยชน์กันบ้าง...

เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง

No comments: