จริงๆ แล้วถ้าหมากแพงก็คงไม่เดือดร้อนอะไรเลย เพราะไม่ได้เคี้ยวทั้งหมากไทยและหมากฝรั่ง แต่ที่เดือดร้อนสุดๆ อยู่ตอนนี้คือ น้ำมันแพง ข้าวสารแพง กับข้าวกับปลาแพงระยับ นม-แกลลอนละเกือบ 6 เหรียญ ไข่ไก่แพ๊ค 18 ฟอง- เกือบๆ 6 เหรียญ ข้าวหอมมะลิจากเมืองไทย ถุงละ 50 ปอนด์ เดิมถุงละ 21-23 เหรียญ แต่ตอนนี้ถึงละ 45 เหรียญ แถมยังเล่าลือกันว่าข้าวจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด มีตังค์ก็อยากซื้อไว้หลายๆ ถุง เป็นไทยแท้แต่เกิด “อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย” นี่จริงๆ มื้อไหนๆ กับข้าวไทย กับข้าวฝรั่ง ก็ขอให้มีข้าวสวยด้วยซักจานเถิ้ดดดด....
พูดถึงข้าวสาร หลายๆ ที่ ตามห้างโฮล์เซลส์ แบบ คอสโก้ แซมส์คลับ ฯลฯ ก็จำกัดห้ามซื้อข้าวสารเกินเท่านั้นเท่านี้ถุงแล้วแต่จะว่ากันไป เพราะราคาก็จะโหดน้อยกว่าร้านค้าย่อยรายอื่นๆ อยู่นิดหน่อย เซ็งจิตจริงๆ อาหารอย่างอื่น หมู หมา กา ไก่ ก็แพงขึ้นตามๆ กัน เงินเดือนผัวอิชั้นไม่ยักกะขึ้นแฮะ เจ็บนี้อีกนานนนน...มั๊ง เพราะยังไม่เคยเห็นว่าราคาอะไรๆ ที่เคยขึ้นไปแล้วหวนกลับลงมาราคาเดิม พระเจ้าไม่ช่วยลูกช้างเล้ยยยย....ฮ่วย
น้ำมันแพง แพง แพงมากจนอยากเปลี่ยนรถมาเป็นไฮบริด ก็ได้แต่คุยๆ กันไป เพราะมีอะไรๆ ต้องใช้ต้องจ่ายอยู่ไม่ได้หยุด แต่ไอ้โต’ต้าที่ใช้อยู่ก็ใกล้หมดอายุขัยแล้ว อีกไม่กี่พันไมล์ก็ครบแสนแล้ว เคยคุยกันว่าจะเปลี่ยนเมื่อรถวิ่งครบแสนไมล์ (ถ้าไม่เอาไปทำบรรลัยทางอื่นซะก่อน-อย่างที่เคยทำเอาไว้ 55555) แต่ครอบครัวเราเหมือนมีเงาราหู เงาราหาง มาบัง มาแซก มาแซะ ให้โน่นผุ นี่พัง นั่นเจ๊ง นี่ต้องเปลี่ยน นั่นต้องซ่อม โน่นต้องซื้อใหม่ เข้ามาได้ไม่หยุด มีแต่เรื่องใช้กะตังค์ เรื่องเปลี่ยนรถจึงดูเลือนลาง เอาเถอะวะ ที่มีอยู่ก็ดีกว่าเดิน ไม่อยากดิ้นรนมากเกินไป รถเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตมนุษย์ไปซะแล้ว แถมไอ้เมืองที่อยู่ก็ไม่มีรถสาธาณะ รถเมล์ แท๊กซี่ แมงกะไซค์ สองแถว ป๊อกแป๊ก ฯลฯ เลย ไม่มีรถก็คือตายกับตาย ลูกจะไปโรงเรียนยังไง ไปซื้อกับข้าวยังไง ไปแร่ดยังไง 55555 คิดไม่ออกจริงๆ
ไอ้โต’ต้าที่ใช้อยู่ ก็กินน้ำมันพอดีๆ ไม่น่าสยดสยองนัก จากแรกเริ่มเดิมที มาอยู่ใหม่ๆ น้ำมันแกลลอนละ ¢0.97 หลายปีผ่านไปกลายเป็นแกลลอนละ $4.09 นี่แบบไร้สารธรรมดานะ-สิบอกไห่ เมื่อตอนที่มัน เกือบ $2 นี่บ่นๆๆๆๆ ตอนนี้ไม่ยักกะบ่นแฮะ....คุณอู๋


เข้าเรื่องเลย เมื่อมาอยู่ที่นี่ จ้า... ที่นี่ที่ไม่ใช่เมืองไทยน่ะ บ้านนี้เมืองนี้ ใช้สแลงมาก การพูดคำสบถคำดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ คงพอเห็นตัวอย่างกันบ้างจากในหนังฮอลิวู้ด แต่ก็ไม่ได้เหมาว่าคนที่นี่จะเถื่อน-ถุย-ถุนแบบนั้นไปซะหมด มันก็มีแหละนะ-คนที่เค้าสุภาพเรียบร้อย พูดจาเพราะไพเราะอ่อนหวาน มีมารยาทงดงาม จะตดก็ขอโทษ แล้ววิ่งหนีไปตดที่อื่น 55555 แล้วก็พูดไม่ได้ด้วยว่าระดับการศึกษาทำให้คนเป็นคนมีมารยาทดีเลวต่างกัน บางคนมีปริญญาด๊อกเต้อร์ 3-4 ใบ พูดคำแล้วก็สำรากตามออกมาที 3-4 คำ ก็เคยเห็น บางคนต่ำต้อยด้อยค่าไร้การศึกษา ....แหม้..... ช่างวาจางาม อุปนิสัยเป็นเลิศ ส่วนพี่ก๊อตของอิชั้นแกเข้าแก๊บไปซะหลายเรื่องทีเดียวเชียว เกิดมาจน เรียนคอลเลจไม่จบ โตมาในบ้านแตก ทำงานโรงงานมาตลอด คือบลูคอลล่าร์ตัวจริงเสียงจริง แถมเรดเน๊คของแท้อีกตะหาก แค่พอสังเขปเน๊าะ ไม่อยากสาวไส้ให้กากินเยอะๆ เอาแค่พอให้กา 2-3 ตัว อิ่มเน๊าะ คือแกพูดไม่เพราะเอาซะเลย มาใหม่ๆ ก็ทำให้มีน้ำหูน้ำตาอยู่บ่อยๆ พอเค้า เชี๊ยต ชิต ฟ๊ากกกก.... แดมน์ ฯลฯ อื่นๆ อีกมากมาย เราก็เริ่มเลย โมโห อึงด่าอูเหรอ อีก๊อตก็งงแบบ อะไรของมันอีกฟะ เป็นว่าขัดข้องเคืองใจกันอยู่นานเชียว บางทีเราก็งอนตะบักตะบวยเป็นวันๆ อีก๊อตออกไปทำงาน เราก็ซัดประตูเปรี้ยง งอนง่อกๆๆๆๆๆ อยู่คนเดียวที่บ้าน โอ้ย...งอนอยู่นานเหนื่อยโว้ย เลิกดีกว่า พออีก๊อตกลับมาก็ดันเจือกลืมงอนต่อ หรือบางทีที่ไม่ลืมก็รีบงอนง่อกๆๆๆๆๆ ต่อ อีก๊อตก็งง... มันเป็นไรของมันฟะ จะพูดด้วยก็กลัวมันอาละวาด เป็นวงเวียนกรรมเช่นนั้นอยู่นานเชียว จนกระทั่งถึงจุดเดือด ก็เลยพูดไปว่า อึงเลิกพูดแบบนั้นกะอูนะ อูไม่ชอบ ห้ามพูดที่บ้านด้วย เดี๋ยวลูกเอาเป็นตัวอย่าง เออ แล้วในรถด้วย ลูกจะได้ยิน ถ้าพูดแบบนั้นกับอูอีก เลิกกัน มันก็เดือดเลย อีบร้า..... มาท้าเลิก 55555 ตัวพี่ก๊อตนั้นมิเคยพูดคำน้อยให้น้องอู๋ระคายเคืองหรือเสียใจ ที่พูดคำเห่าคำนั้นไม่ได้มีคำไหนที่เจตนาโยนมาที่น้องอู๋เลย คือมันห้ามไม่ได้จ้า เผลอตัวไปนิด เคยตัวเวลาคุยกะเพื่อนถุนๆ ที่โรงงาน ต่อไปนี้พี่จะระวังปากระวังคำจ้า 555555
ต่อๆๆๆๆ พออีหนูดีไปพรีสคูล คือประมาณ 4 ขวบ ก็เป็นอะไรที่แม่กลุ๊ม...กลุ้มใจค่ะ กลัวมันไปพูดม๋าๆ ที่โรงเรียน จะแย๊บถามครูก็กลัวเค้ารังเกียจ ดูถูก และกากะบาทหัวลูกเราไว้ (คือทั้งแม่และลูกต้อง represent Thailand very well ค่ะ) ก็เลยเงียบๆ ไว้ ก็พร่ำสอนแหละว่าห้ามพูดแบบนั้นนะ เป็นเด็กต้องพูดเพราะๆ และทำตัวดีๆ มันก็สวนมาว่าๆ “why why why? Do I have to wait until I’m an adult?” ก็บอก โนๆๆๆๆ ถึงเป็นผู้ใหญ่ก็ห้ามพูด มันยิงสวนมาอีก “Or….wait until after I get married?” แม่เลยบอกไป เออ!!!! ก็ได้วะ จากนั้นไม่นานมันไปเห็นบักร๊อบบี้ (หลานชายลุงก๊อต 5 ปีแก่กว่าอีหนูดี ตอนนั้นก็ 9 ขวบแหละ มันแย่จริงๆ มันด่า ตา ยาย แม่ น้า คือคนร่วมบ้านมันน่ะ) ตะโกนด่าตากับแม่ของมัน “ฟ๊ากกกกก...ยู” แถมยกนิ้วกลางให้พวกนั้นด้วย เราก็อึ้งเลย คือตกใจจริงๆ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้น ก็เดินหนีไปเลย อีก๊อตกะจะเข้าไปจัดการแต่ช้ากว่าหนูดีค่ะ มันสาดไปเลย “You can’t talk like that! ‘Cuz you’re not a grown-up & you’re not married yet!” พ่อมันก็แบบหันขวับมาที่เราแล้วก็ฮากันโย้กหย่าย 555555 ลูกแม่อู๋ 555555
ตัวอย่างล่าสุด สดๆ เกือบลืมเล่า เกี่ยวกับ ครอบครัวผีบ้าของเรา 5555 เมื่อคืนวานดูหนัง “The Abyss” กัน มีอยู่ตอนไอ้พระเอกไปแอบๆ อยู่ อีก็อตก็เป็นห่วง พ่นออกมาว่า “Where is that dumb-fuck? อีแม่อู๋กับหนูดีลูกรักก็หันไปที่แด้ดดี้พร้อมกัน โดยมิได้นัดหมายและพร้อมกับชี้นิ้วไปที่พ่อมัน แล้วพูดพร้อมกันว่า “He’s here” 555555 ก๊ากกกกก.... กันสนั่นหวั่นไหวเลย 555555 แม่ลูกไม่ได้พูดคำหยาบซักกะติ๊ดดดด... แต่อีพ่อก็หน้าหุบโมโหตุ๊ยตุ่ยไปเลย สมน้ำหน้า 55555 หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่งค่ะ

อีหนูดีก็แบบนี้แหละ พอเลยคริสต์มาสมาวันนึงก็เริ่มพล่ามๆๆๆๆ ทู้กกก.... วัน ว่าอยากได้ไอ้นั่น ไอ้นี่ แล้วก็ไอ้โน่น ไอ้สารพัด ฯลฯ เป็นของขวัญวันเกิด พอเลยวันเกิดมาวันนึงมันก็จะเริ่มพล่ามๆๆๆๆ ทู้กกก.... วัน ว่าอยากได้ไอ้นั่น ไอ้นี่ แล้วก็ไอ้โน่น ไอ้สารพัด ฯลฯ เป็นของขวัญวันคริสต์มาส ฟังมากๆ จากขำกลายเป็นเซ็ง จากเซ็งเป็นโมโห หนักๆ เข้าอยากตื้บมันจริงๆ อีกไม่นานก็ต้องมาปวดกะโหลกกะไอ้ก๊อตตี้อีกคน คิดแล้วก็กลัว 555555
ส่วนไอ้ตี้ ผื่น-ส่าไข้ ก็จางลงไปเรื่อยๆ ซนโครมครามตามปกติ สาธุ อย่าให้มันเป็นอะไรอีกเลย แม่ทู้ก....ทุกข์ เวลาพาลูกไปโรงบาล ตัวจิ๋วๆ โดนเจาะโดนแทงพรุนทุกที เป็นอีดีหน่อยไม่ได้ จะให้หมอสับเอาพุงมันไปตรวจซะให้เข็ด 5555 ลำเอียงป่าววะเนี่ย บ้านนี้หาหมอ หาหมอ หาหมอ กันไม่ได้หยุดได้หย่อน จนญาติข้างฝามีแซว.... ลูกบ้านนี้แค่ “ตด” ก็ต้องพาไปหาหมอ ทั้งขำ ทั้งโมโห แต่ขอโทษ... ไม่อายค่ะ ลูกใครก็ลูกมัน พวงอึงไม่มีลูก ก็พูดได้เรื่อยๆ แหละ อีก๊อตพูดว่า “ไม่อยากจะ-รีเกร๊ท-ที่หลัง หากลูกเป็นอะไรเยอะๆ” จบข่าวประจำวันคุ้มครองโลก Happy Earth Day Everyone!

กลับมาเรื่องที่ต้องเสียตังค์ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะต้องเสีย เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนเพิ่งพบว่า ”ไอ้ก้อน-เอ๊กเทอน่อลฮาร์ดไดร้ฟ์-500 กิ๊ก” ของอิชั้นเกิดไม่ “เร็ดซะป๊อน” อะไรกะไอ้เครื่องคอมพ์ตัวไหนๆ เลย ทั้งตัวใหญ่ ใหม่และเก่า อีกทั้งอีแล่บท๊อป เซ็งดิ เศร้ามากด้วย เพราะรูปทั้งหมดเก็บไว้ในนั้น และดีลีทเกือบทั้งหมดออกจากคอมพ์ทุกตัว เหลือไว้อย่างละนิดละหน่อย ไอ้ก้อนบ้านั่นซื้อมาก็แพงแล้ว เพราะเป็น “แก๊ตเจ็ดควีน” มาตั้งแต่เกิด มีอะไรออกมา-ตรูก็อยากมีก่อนใครๆ แล้วก็มาเจ็บใจเวลามันลดราคาแหลกอีก 2 เดือนให้หลัง หรือมีรุ่นใหม่เจ๋งกว่าออกมาให้อิจฉา ไม่เคยเข็ดและไม่เคยจำ พอไอ้ก้อนบ้าเนี่ยไม่ทำงาน อยากเป็นลม พยายามหลายตลบ ติดต่อบริษัทผู้สร้าง 55555 เรียกเหมือนผู้สร้างหนังเลย 55555 ติดต่อหยอดคำถามทั้งเว๊บไทยเว๊บฝรั่งกราดเกลื่อนไปทั่วโลกไซเบ้อร์ สุดท้ายพี่ก๊อตเห็นเศร้าส้อยเงือกหงอยอยู่หน้าคอมพ์หลายวัน มาถามว่ามีคำตอบไหนน่าปฏิบัติตามที่สุด ที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือส่งไปให้ “เอ๊กซะเปิด” ระเบิดมันออกมา แล้วเมวล์ไอ้ซากก้อนบ้านั่นไปคือบริษัทจัดจำหน่ายแล้วมันจะส่งอันใหม่มาแทน คราวนี้ใครหล่ะที่เราเชื่อถือ เราเชื่อถือไอ้กี๊กเซอร์วิสที่ “เบสท์บาย” และก็รู้แน่อยู่แล้วว่ามันแพง พี่ก๊อตก็บอกแพงก็ต้องยอมเสีย อีอ้วนสุดที่รักจะได้นอนหลับสบายใจซะที
สรุปซื้อก็ได้วะ รูปลูกๆ มัน “ไพร๊ส์เลส” ใช่ป่าว เอาลูกๆ มาอ้างนะ สะดวกโยธินตลอดแหละ ตานี้ก็เดินวนๆ ไปเจอ ไอ้ก้อนๆ ลดราคาพอดี ของซีเกรท 500 กิ๊ก จาก 199 เหลือ 119 แต่เหลือก้อนสุดท้าย มีไอ้กันกะเมียก้มจดๆ จ้องๆ อยู่ เราก็คว้ามั๊บอย่างไร้มารยาท คว้าก่อนได้ก่อนเฟ้ย แล้วเอาไปแอบอ่านไกลๆ ถ้าไม่ชอบก็เอาไปแอบซุกตรงอื่นได้ ตอนคว้าไอ้บ้านั่นจ้องแบบอยากตื้บหรือไงนี่แหละ เราก็เดินเฉิ่บ...ไม่สน แล้วก็วิ่งหนีไปหาลูกกะผัวที่วนเวียนหาซื้อดีวีดีหนังอีกฝากนึง หลังจากพิจารณาอ่านแล้วคิดว่าน่าจะดีกว่าไอ้ก้อนเก่า ก็เลยรีบกลับไปคุยกับพ่อรูปหล่อ จ่ายตังค์ (สดจ้าสด – โดนปั๋วยึดเงินปั๊ดติกไปหมดแล้ว) มันบอก เสร็จเมื่อไหร่จะรีบโทรไปตามเจ๊ให้มารับเลยนะจ๊ะ ไม่น่าจะเกิน 2 วีคหรอกเจ๊ เราก็เออๆๆๆๆ
จากนั้นก็พาลูกเมียไปคาสิโน ไปดินเน่อร์กัน พอเมนคอสหมด พี่ก๊อตให้ตังค์ 20 ไปคลายเครียด ปรากฏว่าเครียดหนักกว่าเดิม เจ๊งหมดภายใน 5 นาที บ้าจริงๆ คืนนี้คาสิโนบ้าเนี่ยมันงกมาก ไม่ผัดกันแพ้ผัดกันชนะให้เราเล่นนานๆ หน่อย เลยไม่สนุกเลย เดินหน้าตูมกลับโต๊ะ ลูกผัวหัวเราะแบบรู้แกว เจ๊งตามระเบียบ มิใช่ โดยละม่อม 5555 เสร็จแล้วบริกรหนุ่มดำล่ำสัน แบกขาโต๊ะพับมากางพร้อมวางถาดลง “เซอร์ไพร๊ส์” 55555 เค้ก ค่ะ เค้ก ช๊อคโกแล๊ตราสพ์เบอรี่ ตกแต่งจานสวยเก๋ เอาน้ำเชื่อมราสพ์เบอรี่โรยจานคดโค้งสวอนเลค 3 เส้น วิพครีมหยอดเล็กๆ กระจายพองาม 3-4 อัน ผลร๊าสพ์เบอรี่สด 5-6 อันเรียงเข้าแถวน่าเอ็นดู สวยเก๋น่าดู โมโหเสียตังค์เลยสวาปามซะ ลืมถ่ายรูปมาอวด พอเห็นเค้กก็ต้องทำ วิ๊วว๊าว วี๊ด บึ้ม ซะหน่อยให้พี่แกดีใจ จริงๆ รู้แล้วว่าเค้กที่นี่ไม่อร่อยเอาซะเลย ก็ทนๆ ฟาดเข้าไป ทำ อือ อา อร่อย ให้ผัวปลื้มใจหน่อย เพียงเพราะวันนี้บ่นอยากกินเค้กอร่อยๆ แต่ขี้เกียจทำจังเลย
ปล. วันนี้โพสต์แต่รูปเก่าๆ ที่พอหาได้ ดูกันไปเถอะนะ มีรูปแด้ดดี้กะไอ้ตี้แหละที่ถ่ายเมื่อวาน ตอนไปรับไอ้ดีที่โรงเรียน แล้วพาลูกๆ ไปกินเที่ยงที่ IHOP ร้านโปรดของ ไอแอมแซม ไง-จำกันได้ป่าว

กลับเข้าเรื่อง เรื่องที่จะเล่าค่อนข้าง “อี๊...ยี๊....” ก่อนอ่ายทำใจนิดนึงนะคะ วันนี้ตอนลูกๆ อาบน้ำในอ่างกัน แม่ก็ขออนุญาตเข้าไป “อุนจิ” หน่อย จริงๆ ไปอีกห้องนึงก็ได้ แต่อยากแกล้งอีหนูดีมัน 555555 คือแบ่งกันเหม็นแบบไม่เกรงใจไอ้ตี้กันเลย พอถามปุ๊บ มันบอก โอเค ปั๊บ พอเสร็จปุ๊บ ก็ขอน้ำล้างตรูดปั๊บ อีหนูดีก็เปิดน้ำให้ปุ๊บ แม่ก็ล้างปั๊บ จ๊ากกกกกกก..... มันรองเอาน้ำร้อนเกือบเดือดให้คุณแม่ของมันเลยค่ะ เกือบสุกแหละ แล้วก็เกือบฟาดมันไปด้วยกระบวยตักน้ำ ไอ้ดีมันขำแบบ ก๊ากกกกกกกกก..... แบบว่าสะใจมันสุดๆ อย่าหาว่าสะเหร่อเลย อยู่เมืองนอกเมืองนายังล้างตูดด้วยเหรอ ล้างค่ะ ทิชชู่ก็มีใช้ค่ะ แต่ไอ้เรื่องล้างเนี่ย ไม่ทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ เกิดมาแบบนี้-คงต้องตายไปแบบนี้แหละค่ะ แก้ไขไม่ได้ ไปนอกบ้านก็พกเบบี้ไว้พ์ตลอดนะ-ขอบอก
นี่เป็นแต่ตัวอย่างที่เกิดวันนี้ เดี๋ยวนี้ จริงๆ แล้วมีทู้กกกกกก....วัน กวนนิด กวนหน่อย น่าหยิก น่าตื้บ น่ากอด น่าจูบจริงๆ นะคะ ลูกของอิชั้น จะยังไง ก็แล้วแต่ I love them to death! รักพวกมันจริงๆ สุดๆ ไม่รักใคร อะไร ในโลกนี้มากกว่าลูกทั้งสองคน ปั๋วก็เลิ้บแหละ แต่อันดับรองๆ ลงไปอีก ไม่อยากจะพูดว่า... เลิกกันไปก็เป็นคนอื่น แต่จริงๆ แล้ว อดคิดแบบนั้นไม่ได้จริงๆ




ส่วนที่เป็นนางเอกเลยก็คือ 



















