Wednesday, September 30, 2009

ช้อปปุ้ง ช้อปปิ้ง นิดๆ หน่อยๆ ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา

จริงๆ มีเรื่องต้องมาเล่าสู่กันฟังเยอะแยะ แต่… แหม…. มันนานแล้ว หลายๆ เรื่อง แก่แล้วชักเลอะเลือน แถมไม่ได้เอามาเล่าสดๆ ฉับๆ มันไม่มันส์นิ นึกอะไรออกจะมาทะยอยเล่าให้ฟังเด้อค่าเด้อ ตอนนี้อากาศกำลังดี กลางวันก็ 70 กว่าๆ กลางคืนก็ประมาณ 40-50 สบายตัว สบายตังค์กันนิดหน่อย เพราะไม่ต้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน รีบๆ แปะ เพราะเดี๋ยวจะพาบุตรธิดาออกไปกินไอติม Dairy Queen เจ้าประจำ

เอาของที่ซื้อไว้มาแปะให้ดูดีกว่า จริงๆ ซื้อเยอะแยะ เละเทะ จับฉ่าย มีทั้งที่ กิน ใช้ หมดไป เยอะเชียวค่ะ เอาแต่ที่ถ่ายรูปเก็บไว้มาดูกันดีกว่านะคะ

อันนี้เป็นกระเป๋าของอิชั้นเอง ไม่มีกะตังค์ซื้อไฮเอนด์แพงๆ กะใครเค้า แถมโอกาสจะใช้กระเป๋าเริ่ดๆ ดีๆ ก็มีน้อย จะแบกจะถือไปอวด โลโซ โค กระบือ แถวๆ นี้ก็ไม่เกิด “คุณ” หรือ ทำให้อิชั้นสุขสำราญใจแต่อย่างใด 55555 กระเป๋าที่เลือกใช้ (เลือกซื้อ) ส่วนมากคำนึงถึงความ versatile เป็นหลัก มันต้องเอนกอนันต์คุณประสงค์มากๆ ลากไป ฟาดมา ยัดเข้าไป เทออกมา ได้อย่างทนทาน และ “ความจุ” นี่ก็สำคัญยิ่งยวดจริงๆ เพราะยังต้องพกพาสารพัดสิ่ง เหน็บไดเป้อร์กับเบบี้ไว้พ์ของลูก บางทีล้วงไปมาเวลาจะจ่ายตังค์ซื้อของมีให้หน้าแตกแหกหลุดเป็นชิ้นๆ สิ่งที่ไม่น่าจะพบในกระเป๋าของบุคคลทั่วๆ ไปแต่สามารถพบเห็นได้ในกระเป๋ายอดคุณแม่อย่างดิฉัน เช่น รถ-เครื่องบิน-ของเล่นของลูก ผ้าขี้ริ้วเปียกๆ (ผ้าเช็ดจาน-เช็ดโต๊ะ-เช็ดตีน-สั่งขี้มูก ฯลฯ 5555) รีโหมตโทรทัศน์-เคเบิ้ลอันยักษ์ๆ รองเท้าของลูก (เพียง 1 ข้าง) แอ๊ปเปิ้ลที่ถูกกัดแหว่งๆ เหี่ยวๆ สีน้ำตาลเน่าๆ สารพัดกระดาษห่อขนมของคบเคี้ยว ฯลฯ คิดกันเอาเองเถอะค่ะ อุบาทว์จริงๆ วกกลับเข้ามากระเป๋า 2 ใบล่าสุด

ใบแรก เป็น PUMA (PUMA Campus Handbag สี Fiesta Red/Deep Wisteria) ชอบกระเป๋าพูม่า เพราะราคาไม่แพง ใช้ได้เรื่อยๆ ในวันสบายๆ คุณภาพก็เหมือนกระเป๋ากีฬาทั่วๆ ไป ไม่ได้แข็งแรงเลิศเลอเป็นพิเศษอะไร แต่มีแบบและขนาดให้เลือกมากดีค่ะ มีอยู่แล้ว 4 ใบ ต่างขนาด ต่างสี และต่างวัสดุ ใช้แล้วก็ติดใจ ใบนี้ใหญ่เป็นขนาดกลางๆ ถ้าเทียบกับที่มีอยู่ Dimensions กำลังดีเลย 15" wide x 8" high x 5" deep แล้วหูก็สะพายใส่ไหล่อ้วนๆ ได้สบายๆ วันแรกที่ใช้ก็เกิดมีขำ ไปรับลูก เจอรถบรรทุกของ FedEx จอดอยู่ข้างๆ โห…. สีเดียวกับโลโก้เค้าเลย 555 แม่ง-สวด….ม่วง-แสด เหมือนกันเปี๊ยบเลยจ้า ลูกขำใหญ่ มีอีกวันต้องไปทานเลี้ยงกับนังซะมี ก็ขี้เกียจเปลี่ยนกระเป๋า เดินขึ้นรถโดนอีปั๋วแว๊ด…. ไปเปลี่ยนกระเป๋าเลยอีอ้วน อายเค้ามั่ง แก่แล้วนะ เดี๋ยวเค้านึกว่าถือกระเป๋าลูก ก็เลยไปจกๆ โยนๆ ของที่จำเป็นใส่ “ลุ๋ยตุ๋ย” ซะให้มันเสร็จๆ จบไป พอกลับถึงบ้านก็จับลุ๋ยตุ๋ยเทของกลับใส่พูม่าใบนี้เหมือนเดิม

Purse_Page-08

กระเป๋าใบต่อมาเป็น Marc by Marc Jacobs Standard Supply Utility Tote (สี Dirty Martini) แค่กระเป๋าเฉยๆ ก็หนักเอาการ ใช้อยู่ 2 วีคก็ต้องเปลี่ยน แต่จุได้ใจ พอมันยิ่งจุ ก็ยิ่งขนสมบัติขยะใส่เข้าไป ก็ยิ่งหนัก พอจะหาอะไรก็แทบเอาหัวเข้าไปงมหา สรุปก็ชอบนะ ดูแข็งแรงดี ราคาไม่แพง ถึงจะเป็นไลน์หนึ่งของน้อง “ยาขอบ” เค้า (เรียก ยาขอบ เหมือนชื่อเบอม่า ชะ ชะ ช่า เลยเน๊าะ 5555) ขนาด ก้นกระเป๋า 14" x ปากกระเป๋า 20" x สูง 11" พอๆ ก็บ ลุ๋ยตุ๊ย-เนฟเว่อฟูลแหละ แต่หนักกว่าเยอะ โปรดสังเกดไอ้ตรงที่ต่อตัวหูกระเป๋ากับตัวกระเป๋าน่ะ ไม่ค่อยถูกใจเจ้เลย มันเหมือนจะไม่ทน แต่ลองกระชากๆ ดู ก็โอเคแหละ ไม่ขาดคามือ 5555 ซิปที่ปิดกระเป๋าก็ดูแข็งแรงดี มีช่องใส่ของเล็กน้อยและช่องซิปอยู่ด้านใน ถ่ายรูปกระเป๋าทั้ง 2 ใบ ได้ห่วยดี ดูยู่ยี่ยับเยินมากๆ เดี๋ยวงี่เง่าซื้อกล้องใหม่ดีกว่า เพิ่งซื้อกล้อง Canon SD780is ให้เบิ๊ดเดคุณพี่หญิงใหญ่สีแดงแปร๊ดดดดดดด…ให้เค้าแล้วเกิดลมริษยา อยากได้เอง 55555 แต่เล็งๆ G10 อยู่ สองจิตสองใจ วุ๊ย สึแดงมันแดงสะใจจริงๆ มันแดงงงง……หลอนมากค่ะ แล้วจะทำไงดีกับไอ้ 3 ตัวที่มีอยู่ ฮึ่ม

Purse_Page-09

ตานี้ก็มาถึงซื้อรองเท้าให้ลูกสาว เด็กอะไรไม่รู้ teen โตมากมาย ใส่รองเท้าเบอร์ 8.5 แล้วค่า ใหญ่กว่าแม่มันซะอีก คู่แรกก็ Ed Hardy ผีทะเลนั่น งอแงงี่เง่าอยากได้อยู่นานแล้วก็เลย คุณแม่จัดห้ายยย…ค่า พอนังหนูรอมมี่ไปเห็น Coach หุ้มข้อเข้า-เธอลังเล อิแม่มันก็บอกนี่แกชั้นพิมพ์แบ๊งค์ไม่ได้นะยะ ทีละคู่ย่ะหล่อน เธอก็หน้าหงิก งง สับสนในชีวิต คิดไม่ตก….ไม่รู้จะเอาคู่ไหนดี อิแม่มันเลยใจอ่อน เอาวะ 2 ก็ 2 ไปจ่ายตังค์ แล้วก็บอกย้ำลูกใส่ให้มันคุ้มเงินนะเฟ้ย ข้าวของซื้อมาแพงๆ ต้องรักษา ห้ามใส่ในวันที่มี P. E. (พละ) ส่วน teen น่ะ ชะลอการโตไว้บ้างก็ดี เฮ้อ เจือก teen ใหญ่กว่าแม่ แม่ใส่ด้วยก็ไม่ได้ แถมสไตล์ของแม่คุณ อิแม่จะขอประสมมั่วใส่ด้วย คงจะไม่น่าดู 5555 Emo Mommy 55555

ShoesPage-16

ตานี้ก็มาถึง Mario Badescu ที่ขอตัวอย่างไปโกฏปีจนลืม อยู่ๆ ก็เจอห่อในตู้จดหมาย ส่งมาในวันร้อนจี๋ด้วย เลยเยิ้มซะหน่อยนึง ยังไม่ได้ลองเลย ตอนนี้ก็ละเลงพรหล้าไปจนเคยชินแล้ว คล่องไม้คล่องมือ synchronized ได้ดีแล้ว ไม่อยากไปสลับสับเปลี่ยนอะไรตอนนี้ เลยเก็บไปก่อน เดี๋ยวจะเอามาลอง เมื่อชาติต้องการนะเคอะ

ส่วนเครื่องสำอางราคาเยา NYX ที่เลื่องลือว่าดีเกินราคา ไม่เคยคิดอยากจะซื้อมาใช้ เคยมีดินสอเขียนขอบปากอยู่ 1 แท่ง ก็ชอบแหละ เม็ดสีรุนแรงเข้มข้นชัดเจนดี พออ่านที่เค้ารีวิวกันท่วมท้น ว่า ดี ดี๊ ดี ราคา ถู้กกกก ถูก ก็เลยแจ้นไปหามาใช้บ้างคงจะดี อ้าว เฮ้ย หายไปไหนฟะ ทั้งเช้ลฟ์เลย เดินวนหา จนพนักงานเค้ามาถาม หาไรเหรอป้า ก็บอกหา “นิ๊กซ์” อยู่น่ะแก ชั้นหาไม่เจอ พวกแกย้ายมันไปไหน นังพนักงานบอก อ๋อเค้าเลิกขายแล้วป้า เค้าเอาไปเทรวมใส่ตะกร้าตรงโน้นนนนนน ทำปากจู๋ปากยื่นปากยาวชี้ทิศทางได้ชัดเจน อิชั้นก็รีบโกยไปดู โห…น่าเกลี่ยดมาก เละเทะ จับไม่ลง คนแย่ๆ ที่มันมารื้อไปก่อนทำไว้ซะเละเทะไม่น่าจับต้อง ก็เลยได้มาเท่าที่เห็นในรูป พอมาเช็ดขัดสีฉวีวรรณแล้วจับถ่ายรูป-ก็ยังดูสะอาดน่าใช้ดีอยู่นิ ราคาชิ้นละ 1 เหรียญ ไอ้แป้งโมเสคไฮไล้ท์นั่น เริ่ดมากๆ แต่ถ้าใช้แทนแป้งเลยจะวาวไปนิดเดินส่องแสงเหมือนมะนุดหุ่นยนต์ ส่วนบลัช 3 สีนั่นก็เม็ดสีเด็ดขาดดี very pigmented มากๆ ขอบอก ไม่เคยมีบลัช NARS อันโด่งดัง แต่เค้ารีวิวกันว่าสู้น้องนางบ้าน “นาส์” ได้สบายๆ ที่ทาตา 4 สี นั่นก็ดีสีเข้มเหมือนเห็นในตลับ ทาเฉยๆ ก็งั้นๆ ทาทับ primer โอ มาย บุ๊ดด้า เลยค่ะ เนียน ติดแน่น สีชัด ตลอดวัน ลิพกลอส จริงๆ ไม่กล้าซื้อเพราะ มันเยิ้มแหวะๆ ก็เปิดดูว่าปลายพู่กันขนยังขาวสะอาดไม่มีใครบีบลองใช้ เป็นพู่กันด้วยเลยอยากลอง ลิพกลอส ก็คือ ลิพกลอส ทาแล้วก็มันเยิ้มสวยดี สีชัดเช่นกัน เหมือนเพิ่งกินตูดไก่ตอนมาหมาดๆ ทาเดี่ยวๆ กินๆ พูดๆ ไม่นานก็หายไป ทาทับลิพสีก็ทำให้สดใสแวววาวงามแงะขึ้นเยอะเลยค่ะ สรุป ถูกใจค่ะ แถมราคาที่ได้มาก็สะใจด้วยค่ะ คุณลูกสาวอยากทาเล่น เอาเลยลูก แม่ไม่หวงเลยค่ะล๊อตนี้ แต่คงต้องระมัดระวังนิดนึงเพราะแพ๊คเกจป๋องแป๋งมาก ดูเหมือนจะแตกหักได้ง่ายๆ เดี๋ยววันไหนว่างๆ จะไปลองขุดคุ้ยมาเพิ่มอีกซักหน่อย 55555

ThingPage-10

อันนี้เป็นกระเป๋าใส่แปรงแต่งหน้า ของ The Boby Shop ที่น้องกุ้ง (pongampy) ส่งมาให้ค่ะ มิตรภาพดีๆ บนเน็ทมีจริงๆ นะคะ ยังไงก็ขอบคุณน้องกุ้งคนงามน้ำใจงามมากๆ นะคะ คงกำลังเที่ยวเมืองไทยสนุกยกใหญ่ กลับมาแล้วอย่าลืมส่งข่าวนะคะ จบแค่นี้ก่อน แล้วเดี๋ยวนึกอะไรออกจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

BrushesPage-11

Whoever said money can't buy happiness simply didn't know where to go shopping.

798

No comments: