Friday, October 28, 2011

Catching Up with the INGLEs – October 2011

มาแร้ววววว….. ห่างหายไปนาน ไม่ขอพูดพล่ามทำเพลง เอารูปเล่าเรื่องเลยดีกว่า

page-731

ไอ้ตี้กับแมว “พัฟฟ์” Puff หรือ อีพลับ รักกันจริง กอดกันได้บ่อยๆ เสร็จแล้วก็โยนตุ้บ อย่างไม่ใยดี แมวเลยซวยไปตามระเบียบ อีแมวตัวนี้ไม่รู้ว่ามันจะกลายพันธุ์เป็นหมูหรือปล่าว อ้วนเอา อ้วนเอา เหมือนใครหว่า…555

page-733

อันนี้ก็รูปพ่น้อง “ยามรัก” และรูปคุณก๊อตตี้นั่งปลง ไม่ยอมเข้านอน

page-734

ลูกๆ บ้านนี้ต้องทำงาน ปกติเป็นหน้าที่หนูดี ที่คอยเอาขยะออก แต่ไอ้ตี้เป็นคนดีมีน้ำใจเสมอ ชอบช่วยพี่ตอนเอาถังเข้าไปเก็บทุกครั้ง เพิ่งจะนึกถ่ายรูปก็ครั้งนี้ค่ะ

page-735

พี่น้องกับแมวๆ โปรดสังเกตขนาดของเฟร้นช์ฟรายส์ 555 เหมาะสมกับขนาดของผู้บริโภคมากค่ะ

page-736

ช่วงนี้แม๊คโดเน่า แฮ้ปปี้มีลจะใส่มาในกระถังแบบนี้ (จะเป็นแบบนี้ทุกปีช่วงฮัลโลวีนค่ะ แต่ละปีก็จะมีดีไซน์แตกต่างกันไปค่ะ) ดูรูปที่ 3 ไอ้แผ่นสติกเกอร์ อีคนหีบห่อบรรจุ ช่างไม่ดูอะไรเลย ดันเอาด้านสติกเกอร์ลง พอปิดมาบนอาหาร ไอน้ำ และความร้อน ติกเกอร์เลยพอง รูปที่ 4 คือ ผลงานของคุณตี้เค้าค่ะ

page-737

เมื่อกลางเดือน โรงเรียนไอ้ตี้ พาเด็กๆ ชั้นคินเด้อร์ไป fieldtrip ภาษาไทยเรียกว่าไรว้า… ทัศนศึกษา เน๊าะๆๆๆ เด็กๆ ไป pumpkin patch กันค่ะ ซึ่งมันก็คือฟาร์ม สวน ที่เค้าปลูกฟักทอง ดอกทานตะวัน ข้าวโพด ฯลฯ เพื่อการค้าขาย อะไรๆ ก็ว่ากันไป แต่เค้าจะ “กั๊ก” ไร่ไว้ส่วนนึง จัด ปลูก ทำพื้นที่ให้เข้าชม เดินท่องสวน (บางส่วน) ซื้อหาสินค้ากัน เก็บค่าเข้า เด็กเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผู้ใหญ่คนละ 3 เหรียญค่ะ จริงๆ วันนั้นไม่อยากไปเลยค่ะ แต่ว่าลูกอิชั้นดื้อมาก เกรงใจครูเค้า และแม่ๆ คนอื่นๆ อิชั้นไม่ยอม car-pool ค่ะ ขับรถตามรถโรงเรียนไปเดี่ยวๆ เลย เพราะไม่อยาก “ฝืน” ยิ้ม คุยเจ๊าะแจะ มันทารุณมากค่ะ เวลาเราไม่อยู่ใน “mode” นั้น ไอ้ไร่ที่ไปก็ไกลพอประมาณ ขับรถไปเกือบครึ่งชั่วโมง พอจ่ายตังค์เค้าก็ปั๊มหลังมือ เด็กๆ ครู และผู้ปกครองก็เดินตามๆ กันไป วิทยากรของเค้าก็จะมาเล่านั่น นี่ อ่านนิทานให้ฟัง เช่น ฟักทองปลูกจากเมล็ด ออกใบ กิ่งก้าน ดอก ผล บลาๆๆ วันนั้นแดดแรง ดีที่อากาศไม่ค่อยร้อน

page-738

ไอ้ตี้จะเป็นคนที่กลัวเลอะเปรอะเปื้อนดินโคลนมากๆ ไม่เคยเดินเท้าเปล่าที่สนาม มันคง แหยงๆ มั๊ง วันนั้นพื้นชื้นแฉะ เด็กคนอื่นนั่งลงไปเลย กางเกงตูดเปียกกันหมด ไอ้ตี้อึด นั่งท่าเจ๊กขาดทุนตลอด 5555 มีตอนที่เค้าให้เด็กๆ ลองเอาเม็ดข้าวสาลี ข้าวโพด แห้ง บดๆ ตำๆ ในหิน เพื่อให้รู้ว่าชาวอินเดียนพื้นเมืองสมัยโบราณทำอาหารกันอย่างไร ไอ้ตี้ได้ให้ความสนใจอยู่แป๊บนึง ก็มีสิ่งดึงดูดความสนใจอย่างแรง ไอ้ตี้เริ่มไม่มอง ไม่สน ว่าจะตำ จำโขลก กันยังไง ถึงคิวตัวเองหรือยัง ได้แต่จับจ้องไปที่วิทยากรคนนึงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ 555 ขอขำก่อน 555 เค้าเป็นหญิงวัยกลางคน ผอมๆ พูดจาเสียงดังฟังชัด แต่มีแขนข้างเดียว 5555 อีกข้าง เป็นติ่งๆ กิ่งๆ เล็กๆ ซึ่งแกเอาหนีบข้าวโพดแห้งๆ ไว้ 2-3 ฝัก พอเด็กๆ ตำๆ กระเด็น หกเรี่ยราดหมด แกก็จะค่อยๆ เอามือไปปลิดเอาเม็ดข้าวโพดจากฝักที่แกใช้ “กิ่ง” หนีบไว้ แล้วเอามาโยนใส่ครกหินให้เด็กๆ ได้ตำกัน ไอ้ตี้เลิกตำ จ้อง “กิ่ง” เค้าตลอดเวลา 5555 เด็กคนอื่นไม่สนไจ “กิ่ง” ของป้าคนนั้นเลย 555 สุดท้ายไอ้ตี้ก็อดรนทนไม่ได้..อ้าปากถาม What happened to your arm? ก็พอดีกับเป็นจังหวะที่ป้าแกตะโกนส่งสัญญานให้กรุ๊ปเด็กๆ ย้ายไปสเตชั่นต่อไป แกเลยไม่ได้ยินที่ไอ้ตี้ถาม และเดินจากไป 555 แต่ไอ้ตี้ก็ไม่เลิกตามไปจดจ้องกิ่งของป้าคนนั้นทุกๆ สเตชั่นเลยค่ะ ส่วนรูปล่างซ้ายเป็นคุณแม่คนนึงที่ช่วยๆ เจ้าหน้าที่ของฟาร์มระบายสีบนหน้าเด็กๆ ให้เหมือนชนเผ่าอินเดียนแดง จริงๆ จะพยายามแอบถ่าย อยากให้เห็นผมตีโป่งสุดฤทธิ์และเมคอัพของเธอ อิชั้นก็เหมือนไอ้ตี้ จ้องคนนี้ทุกวันเวลาไปรับลูก 5555 เพราะผมของเธอและขอบตาที่เขียนไว้ ดำ หนา ทั้งบนและล่าง ทรงผมเธอ..ตีโป่งได้เก่งมาก ถ้ามองหน้าตรงๆ จะเป็นรูปหัวใจ คือมันบานออกข้างๆ เยอะ 555 วันนั้นถ่ายรูปได้มุมไม่ดี จะไปจ้องถ่ายตรงๆ ก็ยังไงอยู่ 555

page-739

รูปนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่เบื้องหลังรูปหมู่ของเด็กๆ นี่ มันช่างวุ่นวายยุ่งยาก ที่เค้าเรียกว่า “จับปูใส่กะด้ง” ยังไง อย่างงั้นเลยค่ะ เอารูปสิวหัวช้างและคางสองชั้นของอิชั้นมาอวดด้วยค่ะ ไม่ค่อยมีรูปตัวเอง เพราะเป็นคนที่ถือกล้องตลอดเวลา นานๆ มีรูปกับเค้าซะที ก็เลยเอามาแปะให้ดูค่ะ

page-740

ไอ้ตี้กับฟักทอง

page-741

ฟักทองพันธ์ต่างๆ ที่เค้าขายค่ะ จริงๆ มีเยอะแยกมากมาย แต่ลูกซนมาก วิ่งไล่กวดจนอายเค้า เลยถ่ายมาได้แค่นี้ค่ะ

page-742

ระหว่างทางที่เดินตามกลุ่มเด็กๆ ถ่ายรูปมาเยอะแยะ มีดอกทานตะวัน (เค้าปลูกเอาเมล็ดค่ะ ใช้สกัดน้ำมัน ทานเป็นสแน๊ค และปรุงอาหารค่ะ) ดอกบัวตอง คอสมอส ฯลฯ หลายสี หลายขนาด ข้าวโพดออกฝักเต็มไปหมด ฟักทองหลายไซ้ส์ หลายอายุ ตั้งต่เป็นดอก เป็นลูกอ่อนๆ ไปจนถึงลูกใหญ่ยักษ์ กิจกรรมนี้อิชั้นเคยทำแล้วเมื่อสมัยรอมมี่เรียนพรีสคูลและอนุบาลค่ะ แต่เค้าไปฟาร์มอื่น สมัยโน้นยังไม่มีกล้องดิจิตัลกัน กล้องใช้ฟิล์ม จะถ่ายก็ต้องแอ๊ค ต้องคิดเยอะ เดี๋ยวฟิล์มไมด 555 เดี๋๋ยวนี้ ยกแล้วยิง เล็งแล้วยิง ดีก็ดีไป เสียก็ช่างมัน ถ่ายไปเยอะๆ ไม่รู้จะขอบคุณเทคโนโลยีเท่าไหร่ถึงจะพอ เพราะซาบซึ้งจริงๆ จากใจค่ะ 5555 ป.ล. …มีพัมพ์กิ้นท้าวแสนปมด้วย

page-743

เมื่อไม่กี่วันโรงเรียนไอ้ตี้ก็มีงาน carnival อีก คือเค้าหาเงินเข้าโรงเรียน แต่ละชั้นเรียนก็จะจัดบู้ทเกมส์ บ้างก็ขายงานศิลปะ อิชั้นซื้อไอ้ดอกไม้ยักษ์นั่นมาค่ะ ราคา 1 เหรียญ โรงอาหารก็ขายพิซซ่า เครื่องดื่ม ขนม ข้าวโพดคั่ว พอเราเข้างานก็ไปซ์้อคูปอง ใช้แลกอาหาร เล่นเกมส์ บู้ทของชั้นไอ้ตี้ เตะบอลโกล์เล็ก อิชั้นก็ไปช่วยเค้าเก็บคูปอง ส่วนคุณตี้ก็คอยวิ่งไล่เก็บลูกบอลให้ลูกค้า พ่อกับพี่ก็ไปนั่งเฝ้า เบื่อ เซ็ง ตามปกติ แต่ละครอบครัวก็ผัดกันมาเฝ้าบู้ท คนละ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นก็พาลูกๆ ตะเวนเล่นเกมส์ และกินกันนิดหน่อย

page-744

ไอ้ตี้เล่นเกมส์สนุกสนานตามวัย พ่อ แม่ พี่ เดินตามแบบเซ็งๆ 555 มีร้านเกมส์ของเกรด 6 ที่สนุกสนาน เสียงดังกว่าใคร เพราะเป็นเด็กโต เล่นกันแรง คือเด็กๆ ก็จะผัดกันเอาหน้าไปโผล่ตรงช่อง แล้วลูกค้าก็จะได้กระถังน้ำที่มีฟองน้ำแช่อยู่ พวกเด็กโตๆ ปากันสุดแรง เปียกปอนกันไปหมด รอมมี่ก็พ่อบ้านอยากเล่น แต่คูปองหมด เลยไปหาอะไรหม่ำกันต่อค่ะ

page-745

เดือนตุลเป็นวันเกิดของพ่อบ้านกับไอ้ตี้ ส่วนมากเราก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย ไปหาอะไรทานกันนิดๆ หน่อยๆ ซื้อของขวัญให้ลูกนิดนึง ร้านที่ไปกันประจำ ไม่ว่าวันเกิดของใครคือ John's Incredible Pizza Co. เพราะอาเขตเกมส์เค้าใหญ่ และมีของเล่นเยอะ บุพเฟ่ต์ก็คุณภาพดี ราคาพอทนได้ เจ้าของวันเกิดทานฟรีค่ะ วันนั้นเดินวน..กินแล้วไปเล่น เล่นเสร็จกลับไปกิน กันหลายรอบเลยค่ะ ไอ้ 2 คนหน้าแปลกคือ อีว่ากับไรอั้น หน้ามันชักเหมือนอัลไคด้าเข้าไปทุกวัน 555 ส่วนพ่อบ้านตั้งแต่ป่วยก็ไม่โกนหนวดเครา คริสต์มาสนี้เรามีแซนต้าเองค่ะ 5555

page-746

รูปบนซ้าย 3 คน กำลังเป็นห่วงไอ้ตี้เพราะนั่งก้มหน้า อีว่าเลยบอกให้เค้าหยุดเครื่อง..แล้วเอาไอ้ตี้ลง เลยต้องมาเกาะรั้วดู เด็กเล่นเกมส์กันหลายอย่าง แต่ที่อิชั้นเห็นพากันกลับมาเล่นอยู่นั่นก็คือ Virtual Roller Coaster ว่าจะลองดูบ้าง แต่วันนั้นปวดหัวหนึบๆ อยู่ เลยฝากไว้ก่อนค่ะ

page-747

พอกลับถึงบ้านประมาณสี่ทุ่ม ไล่กวดลูกๆ ไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน เพราะวันรุ่งขึ้นเป็นเช้าวันจันทร์ ไอ้ตี้ที่เป็นไข้ตัวรุมๆ มาตั้งแต่คืนก่อน ป้อนยากันมา 24 ชม. ไข้ก็ไม่ลง ตอนไปกินไปเล่น ก็มีเบรคมาป้อนยากันนะคะ พอจะเอาลูกใส่อ่าง ฮ่วย ผื่นแดงเต็มหน้าเต็มตัวเลย หมออู๋กลัวว่าจะวินิจฉัยโรคผิด เลยขับรถพาลูกลูกแจ้นไปโรงบาลเด็กกลางดึกอีก พ่อบ้านต้องอยู่บ้านเพราะรอมมี่นอนแล้ว ขับรถไป ใจก็ไม่ดี กลัวลูกเป็นอะไรเยอะ โรงบาลก็ไกล เกือบๆ 30 ไมล์ แต่คืนนั้นโชคดี ที่โรงพยาบาลไม่มีคนเลย แปลกประหลาดมาก เกิดมาไม่เคยเจอ อุตส่าห์ทำใจว่าต้องนั่นรอเง่กกก…รอคิวลงทะเบียน ..รอข้างนอก ..รอข้างใน ..รอ ..รอ ปรากฏว่า เดินเข้าไป ลงทะเบียนได้เลย พยาบาลซักประวัติ วัดไข้ ชั่งน้ำหรักปั๊บ อีกคนมารอพาเข้ไปห้องตรวจด้านในเลยปุ๊บ รอจิ๊ดนึง หมอเดินมาตรวจ สะว๊อพเอากระพุ้งแก้มคอหอยไอ้ตี้ไปตรวจ รออีกไม่นาน หมอกลับมาพร้อมกับผลว่าเป็น strep throat (คือ ติดเชื้อ Streptococcus ที่คอ (หอย 555) มีไข้ผื่นแดง มีอาการบวมของช่องคอ และต่อมทอนซิลหลายต่อม อักเสบทำให้ต่อมทอนซิลหลายต่อมที่เป็นสีแดงและบวมกับการระคายเคือง) แล้วหมอก็สั่งยาแก้อักเสบให้ไปซื้อหาเองเอง แต่จะให้โดสนึงที่โรงบาลเลย รอแป๊บนึงพยาบาลก็เอายามาป้อนลูก 2 หลอด จากนั้นก็รออีกแป๊บพยาบาลก็เอาใบปล่อยตัวและเอกสารการดูแลคนไข้ที่บ้าน แม่ลูกก็แจ้นกลับบ้านเลย จำได้ว่าเข้าไปนั่งในรถเวลาเที่ยงคืนครึ่งพอดี ตอนมาทำใจไว้เลยว่า กว่าจะได้กลับถึงบ้านก็คงสว่างพอดี

page-732

อันนี้เป็นรอมมี่กับแจ๊คเก๊ตมีแดงที่รบเร้าให้ซื้ออยู่พักนึงแล้ว แต่มันหาไม่ได้ เพราะลูกอยากได้แบบเพลนๆ เรียบๆ สุดท้ายก็ไปเจอที่ Target แผนกเสื้อผ้าเด็กผู้ชาย ส่วนฮู้ดดี้ปีกค้างคาวนั่น แม่เอาที่รัดข้อมือไปคืน (ปวดข้อมืออีกแล้วค่ะ) เค้าคืนให้เป็นกิ๊ฟการ์ดมา รอมมี่เลยจัดการซะอย่าให้เสีย 555

page-748

แจ๊คเก๊ตสีแดงตัวจากรูปข้างบน อีหนูดีจัดการเพ้นท์แล้วเป็นอย่างในรูปค่ะ ระยะหลังมาจะขีดหน้าตาแบบนี้ไปโรงเรียน อะไรของมันไม่รู้ แม่ตามไม่ทัน ส่วนรูปสุดท้ายลูกไม่ได้ใส่เลนส์อะไรหรอกนะคะ พอทำการตรวจลาดตะเวนคอมพ์หลังลูกใช้ เจอรูปนี้ค่ะ 5555 รอมมี่ใส่เลนส์โฟโต้เฉาะ 555

page-749

ไอ้ตี้ตาแหกอีกแล้วค่ะ ตาซ้ายที่เก่าที่เดิม ไปดูรูปเก่าตรงนี้ค่ะ http://goo.gl/Egtru ตอนที่ไปดูบ้าน (ที่อยากจะซื้อ) ไอ้ตี้ก็วิ่งๆๆ สุดท้ายก็สะดุดบันได ล้มหน้าฟาดลงไป ต่อหน้าพ่อบ้านเลย ก็วิ่งไปอุ้มโอ๋กันซะ ถ้าพ่อบ้านไม่อยู่ตรงนั้น เชอะ ไอ้ตี้โดนแม่มันตีซ้ำแน่นอน ล้มฟาดลงไปที่ขั้นบันไดเลยนะคะ โชคดีไม่โดนลูกตา ฮึ่ม โมโหจริงๆ ดื้อมากๆ เดินไม่เป็น ต้องวิ่งๆๆๆ

page-750

รูปสุดท้ายสำหรับบล็อกนี้ รูปซ้ายคือสเตชั่นที่อิชั้นใช้ติดตามข่าวน้ำท่วมที่เมืองไทยค่ะ เปิดแล่ปท้อปในครัวไว้เกือบตลอดวันตลอดคือ ส่วนรูปขวาเป็นแซมเปิ้ลแก้วจิ๋วน่ารักจากสตาร์บั๊ค คือระหว่างไปเดินท่องช้อปปอ้งแบบลมๆ ที่ทาร์เก็ต ตอนรอรับยาของไอ้ตี้น่ะค่ะ ง่วงๆ เบลอๆ เดินเกาะรถเข็นไปเรื่อยๆ หนุ่มน้อยสุดหล่อคนนึงเดินตามหลังมา แมมๆ.. แมมๆ.. ก็ตกใจ ไรวะ นึกว่าเข็นรถชนอะไรเค้าหักพัง พอหันไป ไอ้หนุ่มแบกถาดแซมเปิ้ลมามีเหลืออยู่ไม่กี่แก้ว แล้วก็บอกชื่ออันยาวเหยียด จำไม่ได้หรอกค่ะว่าชื่ออะไร เต้ เฟ่ แต๊บ แฟร๊บ เลยคว้ามาแก้วนึง แต๊งส์เค้าไป พอดวดเข้าไปเต็มแรง โหหหห….. ข้อย สิ ฮาก 555 ทั้งกล้วย ทั้งซินนาม่อน 2 ตัวที่เกลียดเลย 5555 เดินหาถังขยะอยู่นานเลยค่ะ ที่เดินง่วงๆ สะลืมสะลืออยู่ ไอ้แก้วจิ๋มนั่น ทำเอาตาสว่างเลยค่ะ สุดท้ายต้องวนไปซื้อกาแฟร้อนของมันนั่นแหละ ล้างปากซะหน่อย ถึงค่อยยังชั่ว เอวัง…

The strength of a family,

like the strength of an army,

is in its loyalty to each other.

No comments: