Wednesday, September 7, 2011

อาการ Narcisisitic

เว้นว่าง ห่างหายไปจากบล็อกที่รักเสียนาน … มีเรื่องที่อยากเขียน เรื่องที่อยากเล่าสู่กันฟังเยอะแยะเลยค่ะ แต่ความจำชักสั้น ถ้าไม่รีบเขียน รีบบันทึก..ก็ลืมไปเสียหมด

วันนี้เลยขอเล่าเรื่องที่เพิ่งไปอ่านผ่านตามาเสียหน่อย ขอยกมา “แปะ” ทั้งกะบิเลยนะคะ พออ่านแล้วก็ให้หวนนึกไปถึง Narcissus in Greek mythology ที่เคยเล่าเรียนมาตอน ป.ตรี (ยาก ship หาย…เลยนะไอ้วิชานี้  555 ไอ้พวกเทพ นางฟ้า เทวดาฝรั่ง เรียนแล้วก็ลืมไปตามระเบียบ นานๆ ถึงจะ “ปิ๊ด” ออกมาซะนิดนึง)

ที่ยกเรื่องนี้มา มิได้มีความตั้งใจจะว่า หรือ แนะแหน ใคร ใดๆ ทั้งสิ้น อ่านแล้วน่าสนใจ เอาไว้สอนลูกสอนหลาน และเตือนใจตัวเองค่ะ อิชั้นเชื่อว่าคนเราไม่มากก็น้อย…ต้องมี symptom นี้อยู่ แต่อาการคงจะ หนัก เบา รุนแรง ไม่เท่ากัน ถ้าสามารถเก็บเอาไว้ในหัวอกหัวใจ ชื่นชม ลุ่มหลงตัวเอง ไม่ไปเบียดเบียน..หรือสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนร่วมโลก ก็น่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข แต่ถ้า…อาการที่ว่าไปทำให้คนรอบข้าง..ทุกข์กาย ทุกข์ใจ ก็คงต้องตัวใครตัวมัน เลือก suffer กันตามสะดวกค่ะ หากเป็นชาวพุทธเหมือนกัน คำแนะนำ (ในใจ 555 เพราะ จริงๆ คงไม่กล้าไปวิสาสะตักเตือนคุณๆ พวกนี้แน่ๆ 555) อยากบอกให้ปลงเถิดโยมมมม…. หากเป็นฝรั่งมังค่า…เมื่อรู้ตัวว่ามีปัญหา ก็คงจะพากันไปพบจิตแพทย์ตามวิถีของเค้า ยังไงก็ลองอ่านกันดูนะคะ รูปภาพประกอบทั้งหลาย อิชั้นก็ก๊อปมาโดยมิได้บอกกล่าวใครๆ จากกู้เกิ้ลค่ะ

echon Reflections of Narcissus

บุคคลิกภาพแบบ Narcisisitic

เราแต่ละคนไม่มากก็น้อยมีอาการแบบ Narcisisitic คือ อาการหลงตัวเองไม่มากก็น้อย และโดยมากคนที่หลงตัวเองมักจะไม่รู้สึกตัว

Narcisisitic มาจากคำว่า Narcissus (นาซีซัส) มาจากภาษากรีก เป็นชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่ได้ชื่อมาจากหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ที่มีหน้าตางดงามเป็นที่ใฝ่ฝันของสาว ๆและคนทั่วไป วันหนึ่ง นาร์ซิสซัสจะก้มลงดื่มน้ำในลำธาร เขามองเห็นตัวเองในสระน้ำแล้วเกิดหลงรูปตัวเองว่าหล่อที่สุดและงามเหนือใคร โดยหลงตัวเองชนิดกินไม่ได้นอนไม่หลับ และตายในท้ายที่สุด ตายเพราะลุ่มหลงในตัวเอง คำนี้ภายหลังนำมาใช้อธิบายนิสัยคนประเภทที่หลงตัวเอง

Nacissusดอก Narcissus ก็คือดอกไม้เผ่าเดียวกับแดฟฟอดิลนั่นเอง

อาการ "หลงตัวเอง" เป็นอาการหนึ่งของบุคลิกภาพผิดปกติ จิตแพทย์บอกว่า อุปนิสัยหรือบุคลิกภาพ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคลจะมาจากต้นกำเนิดหรือกรรมพันธุ์ถึง 50% ทุกคนมีอุปนิสัยเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ส่วนที่เหลืออีก 50% จะมาจากพัฒนาการ จาก การเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัว การหล่อหลอมของสังคมที่กลายเป็นอุปนิสัยและพฤติกรรมที่เป็นเอก ลักษณ์เฉพาะตัว ที่เรียกกันว่า "บุคลิกภาพ"

และผลการสำรวจและวิจัยจะพบว่า โดยเฉลี่ยจะมีคนกลุ่มหนึ่งจำนวนกว่า 15% ของประชากรทั่วไปที่มีอุปนิสัยหรือลักษณะพิเศษที่เรียกว่า "บุคลิกภาพผิดปกติ" ที่ทำให้อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นลำบาก เพระเป็นคนที่มีปัญหาตึงเครียดทั้งกับตัวเองและผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้

1. ปรับตัวได้น้อย และ แก้ไขปัญหาได้ยาก
2. เป็นคนที่ไม่ยืดหยุ่นกับการแก้ปัญหา
3. มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน และส่งผลกระทบต่อผู้ที่ต้องทำงานร่วมกัน

Echo

พี่น้องมีลักษณะข้างต้นหรือไม่ คนที่เข้ากลุ่ม Narcisistic จะเป็นคนที่หลงตัวเอง ซึ่งเราจะพบบ่อยในสังคม จะเป็นคนที่มีอำนาจ ไม่มีใครกล้าวิจารณ์ คนที่คิดว่าตัวเองเก่ง มั่นใจตัวเองสูง ไม่ฟังความคิดเห็นคนอื่น ยึดมั่นความคิดตัวเองเป็นสำคัญ คิดว่าความคิดและความเห็นของตนเองถูกต้องฝ่ายเดียว มองคนอื่นต่ำต้อยกว่าตนเอง

อ.เปาโล เตือนชาวโครินธ์ว่า อย่าหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองดี เอาตัวเองเปรียบเทียบกับคนอื่น เอาตัวเองเป็นมาตราฐาน ใน 2 คร.10:12 "เราไม่ต้องการที่จะเปรียบเทียบตัวเราเองกับคนบางคนที่ยกย่องตัวเอง แต่เมื่อเขาเอาตัวของเขาเป็นเครื่องวัดกันและกัน และเอาตัวเปรียบเทียบกันและกันแล้ว เขาก็เป็นคนขาดความเข้าใจ" และข้อ 18 "เพราะคนที่ยกย่องตัวเองไม่เป็นที่นับถือของผู้ใด คนที่น่านับถือนั้นคือคนที่พระเจ้าทรงยกย่อง" (จาก พระธรรม 2 โครินธ์ : Corinthians - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่ the New Testament …. ตรงนี้อิชั้นต้องขอเพิ่มเติม เพราะต้นฉบับกล่าวถึงลอยๆ เดี๋ยวจะพากันงง ใครฟระ หลวงพี่เปาโล 555 มิได้ชาญฉลาดล้ำรู้ไปโม้ดดดด…หรอกนะคะ ตอนที่อิชั้นอ่านก็พอทราบว่ามาจากไบเบิ้ลแน่ๆ เลยต้อง กูเกิ้ล..วิกิ..ดูให้รู้ชัด ติด “รี-เช็ค” เป็นนิสัยค่ะ ค้นคว้า…ที่ไม่เคยรู้..จะได้รู้ 55)

echo-narcissus-s

ดังนั้นคนที่หลงตัวเอง จะทำงานร่วมกับคนอื่นก็ค่อนข้างยาก เพราะจะเป็นคนยึดติด และหลงกับตัวเอง มองแต่ตัวเอง ต้องการให้คนอื่นนอบน้อมและยอมให้ตัวเองตลอด ยึดมั่นอยู่กับตัวตนของตัวเอง และคิดว่าตัวเองไม่มีปัญหา และจะคิดว่าคนอื่นมีปัญหาตลอดเวลา ทำให้คนอื่นที่อยู่ร่วมกันด้วยความลำบากใจ เพราะไม่เคยยอมรับฟังความคิดเห็นคนอื่น และคิดว่าความคิดเห็นคนอื่นสู้ตนเองไม่ได้

อย่างที่บอกนอกจากกรรมพันธุ์แล้ว สิ่งที่พัฒนาและหล่อหลอมเราและที่สร้างให้เรามีบุคลิกภาพเป็นคนที่หลงตัวเองก็คือ ครอบครัวและการเลี้ยงดู เพราะการเลี้ยงดูที่ผิดตั้งแต่วัยเด็ก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่ไม่ได้สอนลูกด้วยเหตุผล เลี้ยงดูแบบตามใจ เป็นเด็กที่พ่อแม่ตามใจมากเกินไป พ่อแม่ไม่ค่อยกล้าขัดใจ แม้ทำผิดก็ไม่ลงโทษ พะเน้าพะนอเอาใจลูกอยู่ตลอดเวลา เลยไม่รู้จักคำว่า “ไม่” ไม่รู้จักอุปสรรค เคยชินแต่คำว่า “ได้” พอโตเป็นหนุ่มสาวก็ไม่รู้จักโต บางคนทำตัวเหมือนเด็กหัวดื้อ อวดดี สั่งให้ทำอะไรถ้าชอบใจถึงจะทำ ถ้าไม่ชอบใจก็ไม่ทำเพราะไม่เคยถูกว่าแต่เด็ก ชีวิตจึงขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเอง และมักจะเป็นคนที่ไม่มีความอดทน ชอบเอาชนะเพราะเคยชนะพ่อแม่จนชิน เพราะคิดว่าตัวเองถูก

echoNarcissusTrans

เราสามารถชื่นชมกับตัวเอง กับความสวยความหล่อ ความสามารถของตัวเอง แต่อย่าให้เรา "หลงตัวเอง" ก็แล้วกัน เพราะในที่สุดแล้วคนที่หลงตัวเองจะตายเพราะตัวเอง เพราะโดนตัวเองหลอก เหมือนอย่างชายหนุ่มชื่อ นาซีซัส ที่โดนความหล่อของตัวเองหลอกจนไม่เป็นอันทำอะไร ไม่เป็นอันกินอันนอน และยอมตายเพราะตัวเองริมสระน้ำ

ระวังอย่าให้ความดีของตัวเองหลอก จนมองไม่เห็นความดีของคนอื่น และทำดีเพื่อตัวเองมากกว่าเพื่อคนอื่น...

echonarcissus
(ข้อมูลจาก รศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ (จิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี)

อ่านต่อ :http://writer.dek-d.com/dek-d/story/view.php?id=247144#ixzz1XJeg6DED

Tough times never last,

but tough people do.

No comments: