Monday, April 13, 2009

Easter & Breakfast in the Garden

5555 จั่วหัวซะ …ให้ความรู้สึกงดงามสวยหรู จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก สก๊อตต์ได้หยุด 3 วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็เลยไม่ทำมาหากินอะไร eat out กันให้ล่มจมไปตามระเบียบ 555 (พูดเว่อร์ๆ ไปงั้นเอง ส่วนใหญ่แล้วก็กินโฟรสเซ่นพิซซ่าเป็นหลัก เพราะกำลัง “ฮิต” 5555) พอดีกับมีโรงแรมและร้านอาหารเปิดใหม่ในเมืองได้ซัก 2-3 วีคแล้วแหละ ครอบครัวเราก็เลยต้องพากันไป “เจิม” ให้เค้าซะหน่อย 5555 ร้านนี้ชื่อ Black Bear Diner อยู่ด้านหน้าของโรงแรมเล็กๆ ใหม่เอี่ยมในเครือ Marriott – Spring Hill Suites วันนั้นร้านยุ่งๆ คนเยอะ ร้านใหญ่โตโอ่โถงดี ตกแต่งคล้ายๆ โชคชัยสเต๊กเฮ้าส์ที่ปากช่อง

page-360

ร้านอาหารใหม่ พนักงานก็ใหม่ ยังเซ่อๆ ซ่าๆ กันอยู่เยอะ 555 แต่ก็มีพนักงานเสิร์ฟที่ “โปร” หน่อย มากู้ภัยสลับฉากอยู่เรื่อยๆ พวกที่โปรหน่อยก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเคยได้พบได้เจอกันจากร้านอื่นๆ มาก่อน บอกแล้วว่าเมืองมันเล็ก อิชั้นกับลูกสาวเรียกว่าเป็นเซเล็บประจำตำบลยังได้ เพราะเป็นสาวไทย 2 คนที่สวยที่สุด 5555 ก็มันมีคนไทยอยู่แค่ 2 คนมั๊ง 5555

page-356

อาหารที่สั่งวันนั้นก็จานใหญ่โคตรๆ ตามสไตล์ไอ้กัน เหลือให้ห่อกลับมาตรึม ค่าเสียหายวันนั้นก็ 48.95 เหรียญ ทิปอีกต่างหาก ลืมไม่ได้ดูว่าอีก๊อตทิปไปเท่าไหร่ ปกติก็ประมาณ 15-20% ของราคาอาหารแหละ

page-357

พอวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันอีสเต้อร์ พอตื่นมาก็ตกลงกันว่าไม่ไปไหนกันหรอก เบื่อหน่าย อยู่บ้านกันเงียบๆ ดีกว่า พ่อพาลูกไปเล่นหลังบ้าน เป่าฟองบั๊บเบิ้ล (ของโปรดของลูกๆ เลย) คุณแม่ก็เอาไข่พลาสติกสีสวยปล่าวๆ ไปซ่อนให้ลูกหากัน ที่ต้องเป็นไข่ปล่าวๆ ไม่มีแคนดี้ใดๆ ยัดไส้เลย เพราะไอ้ตี้ฟันไม่ดีแถมไม่ค่อยยอมกินอาหารอะไร จะกินแต่ขนม พูดเรื่องไอ้ตี้กินยากแล้วเซ็งมาก

page-358

ปกติจะพาลูกไป eggs hunting ตามโบสถ์ หรือไปบ้านเพื่อนลาว ผู้ใหญ่เมาตามปกติ เด็กๆ เป็นโขลงก็กินขนมกันจนพุงแตก ปีนี้ขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร แม้แต่ญาติๆ ก็เถอะ พอเล่นสนุกกันเสร็จก็บ่นหิว คุณแม่อู๋ก็เลยไปจัดการอาหารเช้าหรูหราประมาณภัตตาคาร เพราะมีพวก Potato ทั้งหลาย Scalloped potatoes, Country fried potato, แล้วก็ Hash browns เหลือ leftover มาจากร้านหมีดำเมื่อวันก่อนบานเบอะ แถม Pancake & Biscuits อีกแบะแบน ก็ขนออกมาอุ่นแล้วก็อบ frozen linguisa sausage กับ bacon เลี้ยงลูกผัวที่สวนหลังบ้าน แล้ววันนั้นอากาศดีมาก มีแดด ฟ้าแจ่มใส ไม่หนาวแล้วและก็ยังไม่ร้อน ประมาณ 68F

(Linguiça is a type of sausage which comes from Portugal. It is also known as linguica or linguisa. The sausage is distinguished by a mildly spicy flavor tempered with a smoking process which makes the sausage flavorful and tender. Linguiça can be found in soups and breads, and it is also used for things like sandwich fillings.)

Thanks > > http://www.wisegeek.com/what-is-linguica.htm

page-359

พอบ่ายๆ พ่อก็พาลูกๆ ไปดูหนัง Monsters VS Aliens แวะซื้อกับข้าวกับปลามาให้ทำอีก เมื่อวานก็เลยผัดเนื้อน้ำมันหอยใส่แอสพารากัส เป็นมื้อค่ำ จบไปอีกวัน

Monsters-vs-Aliens-poster

ส่วนเรื่องย้ายบ้าน - สรุปว่าย้ายแน่นอน 1 มิถุนายน แหวะๆ แค่คิดก็เหนื่อยรากเลือดแล้ว

พรุ่งนี้ต้องไป Annual Physical Check-up กับท่านตี้ตามลำพัง แค่คิดก็ปวดตับแล้ว เพราะโรงบาลที่นี่ เรื่อง “รอ” คือปัญหาหลักๆ รอๆๆๆๆ 3-4 ชั่วโมง ถ้าป่วยนิดๆ ก็รอจนมะเร็งคุกคามเลยแหละ มะเร็งในอารมณ์น่ะ แถมไปกับไอ้ตี้ด้วย พรุ่งนี้เผลอๆ โรคเอดส์บุกด้วยเลย เพราะมันนิสัยไม่ดี๊…ไม่ดี ดีว่าเป็นเช๊คอัพที่ general เฉยๆ ไม่ต้องไปเปิดโม๊ะโชว์ ไม่งั้นต้องนุ่งชุดกระดาษ ครั้งก่อนไอ้ตี้ดึงทึ้งให้วุ่นวาย ขาดวิ่นหลายสิบผืน แม่มันก็รู้ดีไง พอขาดก็แอบไปเปิดเอาที่ใต้โต๊ะตรวจออกมาเปลี่ยนใหม่อยู่นั่น (เสือกให้แก้ผ้ารอเป็นนานสองนานนิ) เรียกว่าพอหมอตรวจเสร็จถังขยะเค้าเต็มแน่นเอี้ยดเลยแหละ ยิ๋งทดยัดซ้า… 5555 สมน้ำหน้าเน๊าะ แต่หมอโม๊น่ะจ่อคิวอยู่ 555 กลางเดือนหน้าเจอกัลล์ 555 (ลืมเล่าไปว่า เมื่อ 2 วีคก่อนได้ไปที่โรงบาลให้เค้าสูบเลือดไป 3 หลอด กับ ฝากฉี่ไปให้ตรวจอีก 1 โอ่ง 555 พรุ่นี้ก็ไปฟังผลอันนี้แหละ แล้วก็อื่นๆ อีกนิดหน่อย)

dogattack

ส่วนเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองที่เมืองไทย ก็คอยติดตามความคืบหน้าเสมอ ได้แต่หวังว่าให้อะไรลงเอยด้วยดีโดยเร็ว แต่ดูแล้วคงจะไม่ง่าย มันก็จะเข้าอีหรอบ “มึงชนะกูไม่ยอม” อยู่เรื่อยไป ไม่ใช่ว่าอยู่ไกลบ้านเกิดเมืองนอนจะไม่ทุกข์ใจนะ ไอ้เรื่องทุกข์ใจกับประเทศชาติบ้านเมืองมันก็อยู่ในระดับหนึ่ง แต่อันดับต้นๆ ในหัวใจ คือ ความอยู่รอดปลอดภัยของคนในครอบครัว อยู่ไกลกันเหลือเกิน คิดถึงแล้วก็เป็นห่วงมาก

No comments: