Tuesday, March 17, 2009

St. Patrick's Day

จริงๆ แล้ววันนี้ไม่มีฟามหมายใดๆ กับอิชั้นหรอกค่า เฉยๆ มาก เพราะไม่มีสายเลือดไอริช 555 เป็นพันธุ์ทางมีเชื้อสาย เฟร้นช์ นิดนึง (จะเป็น French Fries หรือปล่าวก็ไม่แน่ใจ เพราะ ฟรายส์ตลอด ใจร้อนซ้าาา… 5555) ที่แน่ๆ เป็นสายเลือดไทยชาวบ้านบางระจันเสียครึ่งหนึ่ง และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนที่บ้านมีที่ปนเปื้อนเลือดไอริชอยู่ 2 ตัว คือ ไอ้ก๊อต-ซีเหนี่ย กับ ไอ้ก๊อต-จูเหนี่ย แต่ก็ไม่ได้ฉะเหลิม ฉะหลอง อะไรกัน วันนี้อีมี่ใส่เสื้อลายทางเขียวชมพูไปโรงเรียน เขียวๆ ซะหน่อยกันเพื่อน “หยิก” เอา 5555 อีแม่ใส่ชุดนอนแดงแจ๋ตั้งก๊ะเมื่อคืน (ยังไม่ได้อาบน้ำเลย 5555)

stpatricks_d4gwinner_eo09     26443

HappyStPatricksDay252520OBD252520sp      happy_st_patricks_day

4LeafClover      2340907200_80bd076805

ไอ้ใบโคลเว่อร์เนี่ยถ้าจะให้เป็นลัคกี้โคลเว่อร์มันต้อง 4 ใบใช่ปล่าว (4 Leaf Clover) เลยเอามาแปะให้เพื่อนๆ ดู จะได้โชคดีตามๆ กัน 5555 บ้านเราเรียกว่าใบอะไรวะ ไม่รู้จำไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ มันเป็นวัชพืช ใช่หรือปล่าว

ยังไงๆ ก็ ขอให้โชคดีมีชัย พบหม้อทองคำที่ปลายสายรุ้งกันทุกคน แต่อย่าเผลอไปเอานิ้วชี้รุ้งเข้านะ เดี๋ยวจะต้องเดือดร้อน เอานิ้วจิ้มตูดมาดมแก้เคล็ด ตามที่โบราณว่าไว้ 5555 คิดตามแล้วก็งง ทำไมต้องจิ้ม ทำไมต้องตูด ทำไมต้องดม 5555

โฉมหน้า ไอ้พวก terrorist อ้อ ไม่ใช่ Irish ที่บ้านอิชั้นค่า

2-22-2009 4-41-10 PM

ไร้สาระคดีมาเยอะแล้ว ขอเป็นสารคดี เป็นเรื่องเป็นราเสียหน่อย เชิญอ่านค่ะ

* * * * * * * * * * * *

วันฉลองนักบุญแพทริคเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับอะไรก็ตามที่แสดงออกถึงความเป็นไอริช ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกตกแต่งประดับประดาด้วยสีเขียวและทอง อันเป็นสีแห่งโชคลาภ ฤดูใบไม้ผลิ และธรรมชาติ ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว งานฉลองนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงออกถึงการเริ่มต้นใหม่ การฟื้นฟูจิตวิญญาณ และการภาวนาเพื่องานแพร่ธรรมในระดับสากล

นักบุญแพทริคเป็นชาวอังกฤษแต่กำเนิด ท่านเป็นมิชชั่นนารี่และนักบุญอุปถัมภ์ของประเทศไอร์แลนด์ และมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 4 (ค.ศ. 373-493) ตอนท่านอายุได้ 16 ท่านเคยถูกพวกโจรจับไป และไปขายเป็นทาสในไอร์แลนด์ (ประเทศไอร์แลนด์สมัยนั้นนับว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอยู่มาก คือมีพวกโจร ไวกิ้ง และพวกคนเถื่อนนอกกฎหมายกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ) จนผ่านไป 6 ปี ท่านก็ได้หนีออกมาได้สำเร็จ ท่านได้ไปบวชเป็นเดคอน และได้เป็นบิชอปในเวลาต่อมา ท่านได้เห็นนิมิตที่วิญญาณบรรพบุรุษของชาวไอร์แลนด์จำนวนมากมาขอให้ท่านนำแสงสว่างแห่งพระเจ้าไปยังลูกหลานของพวกเขา ท่านจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปไอร์แลนด์ดินแดนที่ตัวเองเคยหนีออกมาจากความเป็นทาส แต่ครั้งนี้ในฐานะผู้นำทางจิตวิญาณ ท่านได้รับพระพรพิเศษในการทำอัศจรรย์ และได้ช่วยให้คนจำนวนมากได้กลับใจจากการชั่วร้ายป่าเถื่อนหันมาในทางศีลธรรมของพระเจ้า นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน และโบสถ์ขึ้นหลายต่อหลายแห่งในไอร์แลนด์อีกด้วย เป็นเวลาร่วม 30 ปีที่ท่านนำความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมมาพัฒนาให้กับไอร์แลนด์อย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยที่ชาวไอริชจะเคารพนับถือท่านอย่างยิ่ง และยกให้ท่านเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของประเทศไอร์แลนด์ และให้ความสำคัญกับวันฉลองของท่านเป็นพิเศษเช่นนี้


งามเฉลิมฉลองจะจัดขึ้นวันเสาร์ก่อนวันฉลองนักบุญแพทริค โดยจะเริ่มจากพิธีมิสซาในเวลา 10 โมงเช้า ตามมาด้วยเกมการแข่งขัน และขบวนพาเหรด เนื่องจากเป็นงานเฉลิมฉลองของชาวไอริช จึงมีคนไอริชมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก (ขบวนพาเหรดในแสคนต้อนมีผู้ร่วมกว่า 5,000 คน) ส่วนวันที่ 17 มีนาคม ที่เป็นวันฉลองหลักของนักบุญแพทริคนั้น เชื่อว่าเป็นวันที่นักบุญแพทริคได้เสียชีวิตลง (ในไอริช วันนี้จะเป็นวันหยุด ตามห้างร้านและธุรกิจเกือบทั้งหมดจะปิดทำการ ให้ชาวไอริชไปร่วมในพิธีมิสซาในตอนเช้า และงานเฉลิมฉลองขบวนพาเหรดในตอนบ่าย) ซึ่งชาวไอริชเองนั้น เมื่อตนไปอยู่ในทิ้งถิ่นประเทศไหน ก็นำพาเทศกาล งานฉลอง ประวัติศาสตร์ของพวกตนนี้ไปยังประเทศและท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย


ธรรมเนียมปฏิบัติที่นิยมทำกันในวันนี้ คือการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเขียว (ตามแบบสีชุดบิชอปของท่าน) ประดับตกแต่งด้วยสีเขียวทอง หาใบโคลเวอร์ 4 กลีบ (ท่านใช้ใบโคลเวอร์ 3 กลีบในการอธิบายเรื่องพระตรีเอกาภาพ ดังนั้นใบโคลเวอร์จึงเป็นเครื่องหมายหนึ่งที่สื่อถึงท่าน) และจับ Leprechaun ให้ได้ ถ้าคุณหามันเจอนะ !

รูปภาพ ภาพนักบุญแพทริค ท่านจะแต่งกายด้วยชุดสีเขียวทอง และมีใบโคลเวอร์เป็นสัญลักษณ์

 
ใบแชมร็อค (Shamrock) สัญลักษณ์แห่งความโชคดี
ที่ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน Saint Patrick 's Day (A shamrock is a common name for a clover. But as American botanist Kathleen Pelkki explains, a shamrock is a common name for any number of plants belonging to the genus Trifolium, from the Latin meaning "having three leaves.")

 

Clover หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า three-leaf clover นั้น เป็นพันธุ์ไม้เตี้ย ใช้เป็นอาหารของม้าและวัวควาย ใบมีสามกลีบ ใช่แล้วค่ะ...ใบ Clover ปรกติจะมีสามกลีบ แต่ตามความเชื่อดั้งเดิมในหลาย ๆ ประเทศ เค้าเชื่อว่าการได้พบหรือได้เห็นใบ clover แบบสี่กลีบจะถือว่าโชคดี ถ้าจะอิงเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็น่าจะเป็นเพราะโอกาสที่จะพบแบบสี่กลีบนั้นจะยาก เนื่องจากเป็นการกลายพันธุ์มาจากของใบ Clover แบบสามกลีบ และโอกาสที่จะพบจะเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 10,000 เท่านั้น (แต่ในปัจจุบันพบว่ามีคนเพาะสายพันธุ์แบบสี่กลีบออกจำหน่ายแล้วค่ะ) อิชั้นเคยคิดว่าไอ้ใบโครเว่อร์เนี่ยก็คือผักแว่นบ้านเรานั่นเอง จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ ใบโครเว่อร์แต่ละใบจะเป็นรูปหัวใจ ส่วนผักแว่นใบจะเป็นรูปพัดค่ะ

ใบ Clover แบบสี่กลีบ เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความหมายของใบ clover สี่กลีบคือ........

 

กลีบแรก หมายถึง ความหวัง

กลีบที่สอง หมายถึง ความศรัทธา

กลีบที่สาม หมายถึง ความรัก

กลีบที่สี่ หมายถึง ความโชคดี

 

 

ก็อปมาแปะไว้ก่อน ว่างๆ จะมาแปลนะคะ

They're short, they're wrinkled, they didn't even wear green originally. They're leprechauns, the mischievous fairy-folk who have become one of the best known Irish symbols (for better or worse.) As you celebrate this St. Patrick's Day by looking for your own pot of gold, shouldn't you learn more about leprechauns - who already have pots of gold ripe for the taking?

• Why green?

According to some accounts, blue was the first color associated with St. Patrick’s Day, but that started to change in the 17th century. Green is one of the colors in Ireland’s tri-color flag, and it has been used in the flags of several Irish revolutionary groups throughout history. Ireland is the “Emerald Isle,” so named for its lush green landscape. Green is also the color of spring, the shamrock, and the Chicago River, which the Midwestern city has dyed green on St. Patrick’s Day for the past 40-odd years.

• Corned beef or bacon?

This St. Patrick’s Day, millions of people will sit down to an authentic Irish meal of corned beef and cabbage. Or so they think. In fact, only half of it is really Irish. Though cabbage has historically been a staple of the Irish diet (along with potatoes), it was traditionally eaten with Irish bacon, not corned beef. Irish immigrants in America could not afford the bacon, so they substituted it with corned beef, a cheaper alternative they picked up from Jewish immigrants.

• Pinch me, I’m Irish

Forgot to wear green on St. Patty’s Day? Don’t be surprised if you get pinched. No surprise, it’s an entirely American tradition that probably started in the early 1700s. St. Patrick’s revelers thought wearing green made one invisible to leprechauns, fairy creatures who would pinch anyone they could see (anyone not wearing green). People began pinching those who didn’t wear green as a reminder that leprechauns would sneak up and pinch green-abstainers.

 

 

ความหมายของชื่อ Leprechaun มีหลายทฤษฎีที่กล่าวถึงที่มาของคำและความหมายเอาไว้มากมาย แต่ทฤษฎีที่เป็นที่นิยมแพร่หลายกันที่สุดทฤษฎีหนึ่ง เชื่อว่ามาจากคำว่า Leipreachan ทางภาษาเกลิค ไอริช ซึ่งมีความหมายแปลว่า “ภูติจิ๋ว คนแคระ “ และสามารถหมายถึง “ครึ่งตัว หรือ ตัวเล็กๆ” ได้ด้วย ส่วนคำที่เชื่อกันว่าเป็นรากของคำว่า Leprechaun เชื่อว่ามาจากคำว่า Luchorpan เช่นเดียวกับอีกชื่อหนึ่งที่เรียกว่า Leath Bhrogan (อ้างอิงจากดิกชันนารีภาษาอังกฤษออกฟอร์ด) ซึ่งมีความหมายแปลว่า “ช่างทำรองเท้า” ซึ่ง Leprechaun ที่ปรากฏตามเรื่องเล่าของไอร์แลนด์ ก็มักจะปรากฏภาพเป็นช่างทำรองเท้า หรือภูติที่กำลังซ่อมรองเท้าอยู่ด้วย

The Origin of Leprechauns in Irish Mythology

Nothing captures people imagination quite like the magic and mystery of Leprechauns. They are said to be small mischievous male faerie-folk that inhabit Ireland. They are also said to be great cobblers and that they posses vast riches.

The Origins of the word leprechaun may come from the Irish word
Leprechauns of myth were generally believed to wear red suit not the green ones we depict them wearing today. William Yeats described the Leprechaun in his 1888 book

Leprechauns are believed to also have powers of hypnotism and trickery, that they use to fool and deceive so that they may escape human capture. They are also believed not to be able to move when a human stares at them, So if you even see a Leprechaun don't blink cause you just might just lose your chance at finding his treasure. leipreachán, Fairy and Folk Tales of the Irish Peasantry He is something of a dandy, and dresses in a red coat with seven rows of buttons, seven buttons on each row, and wears a cocked-hat." Leprechauns are also believed to hide their treasures and if you catch one you might be able to get him to disclose the location. Another popular belief is that they hide pots of gold that can be found at the end of rainbows. as such "meaning a Pygmy or sprite. The word could also derive from the Irish leath bhrógan, meaning shoemaker.

st pat lasses

ตำนาน Leprechaun

เรื่องเล่าเกี่ยวกับ Leprechaun เป็นเรื่องเล่าสรุปสั้นๆ ที่ไม่ใช่ตำนานอะไรที่ยาวมากนัก และมักจะมีชื่อเรียกและเรื่องราวติดตามมาแตกต่างกันออกไปตามท้องถิ่นนั้นๆ และมักเป็นเรื่องเล่าที่เล่ากันต่อๆ มา แบบปากต่อปาก จากตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ Leprechaun โดยพื้นฐานแล้ว พวกนี้จะเป็นภูติจิ๋วที่ไม่มีภัยอันตรายใดๆ พวกมันจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบๆ ตามพื้นที่ชนบทอันห่างไกลจากความเจริญและผู้คน (มีความเห็นที่ต่างออกไปกันว่า พวก Leprechaun จะอาศัยอยู่ตามลำพังเท่านั้น หรือคบค้าสมาคมกับพวกภูติอื่นๆ ในธรรมชาติด้วย) บางตำนานเชื่อว่าพวก Leprechaun เป็นพวกเจ้าเล่ห์ ฉลาดแกมโกง และชอบเล่นซนในทางเสียๆ หายๆ ด้วย

หนึ่งในความเชื่อที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับ Leprechaun คือพวกมันร่ำรวยและสะสมทรัพย์สมบัติเอาไว้อย่างมหาศาล เช่นเดียวกับทองที่มีอยู่อย่างล้นพ้นและถูกเก็บไว้ในที่ซ่อนลับของพวกมัน ซึ่งที่ซ่อนนั้นจะถูกเปิดเผยได้ด้วยการจับ Leprechaun มาขู่เข็ญให้บอกที่ซ่อนเงินทองของมัน

st pat515-1003

ตัวอย่างตำนานเรื่องเล่า Leprechaun ต่างๆ

มีชาวนาหนุ่มคนหนึ่งจับ Leprechaun ได้ และบังคับให้มันบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติของมัน ซึ่ง Leprechaun ก็บอกชาวนาว่า มันได้ฝังทรัพย์สมบัติไว้ที่ทุ่งกว้าง ใต้ต้นแร็กวอร์ทต้นหนึ่ง (ต้นไม้ป่ามีดอกสีเหลือง) ชาวนาหนุ่มไปหาต้นแร็กวอร์ทตามที่ Leprechaun บอก ก่อนจะผูกโบว์สีแดงไว้ที่ต้นไม้ต้นนั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เขาจำได้ แล้วจึงให้ Leprechaun ทำสัญญากับตนว่าจะไม่เอาโบว์สีแดงนั้นออก จากนั้นเขาจึงปล่อย Leprechaun ไป ก่อนจะวิ่งกลับไปเอาพลั่วมาเพื่อเตรียมขุดสมบัติจากใต้ต้นไม้ ในตอนที่เขากลับมานี่เอง เขาสังเกตว่าต้นไม้ทุกต้นกลับมีโบว์สีแดงผูกติดอยู่เหมือนกันหมด ทำให้เขาไม่สามารถหาต้นที่เขาผูกไว้ตอนแรกเจอได้ และชวดสมบัติไปในที่สุด

st pat_parade

อีกเรื่องหนึ่ง มีเด็กสาวคนหนึ่งจับ Leprechaun ได้ และขอให้มันพาเธอไปหาสมบัติของมัน โดยเธอได้จับ Leprechaun ไว้ในมือของเธอ และเดินไปตามทางที่ Leprechaun นำไป แต่ในทันใดนั้นเอง เธอกลับได้ยินเสียง หึ่งๆ ดังมาจากด้านหลังของเธอ Leprechaun ตะโกนบอกกับเธอว่าเธอกำลังถูกฝูงผึ้งจำนวนมหาศาลไล่หลังเธอมา แต่เมื่อเธอหันกลับไปมอง ก็หามีฝูงผึ้งดังกล่าวไม่ และเมื่อเธอหันกลับมาดูในอุ้งมือเธออีกที Leprechaun ก็ได้หายตัวไปเสียแล้ว (เพราะละสายตาไปจากมัน)

st_patricks_parade_2010_leprechaun

นอกจากนี้ยังมีตำนานเรื่องเล่าแบบอื่นๆ เกี่ยวกับ Leprechaun อยู่อีกมากมาย อาทิเช่น หากตามสายรุ้งไปจนถึงสุดปลายสายรุ้งได้ จะพบกับ Leprechaun และทรัพย์สมบัติอันมากมาย คือ ไหที่เต็มไปด้วยเหรียญทองคำ

st pat553BC

อยากได้ไหที่เต็มไปด้วยเหรียญทองคำกันหรือปล่าวคะ 5555 ทองแพงด้วยสิตอนนี้ อิชั้นก็อยากได้มากค่ะ แต่ไม่รู้จะไปไล่จับไอ้เจ้าภูติเขียวเล็ปปริคอนนี่ได้ที่ไหน แต่เค้ามีเคล็ดลับบอกต่อๆ กันมานะคะ ว่าถ้าเจอไอ้ตัวแสบจิ๋วนี่แล้วห้ามกระพริบตานะคะ พอลืมตามาปุ๊บ มันจะหายตัวไปแล้วค่ะ และมันก็จะพยายามใช้เล่ห์กลหรือสะกดจิตให้เราละสายตาไปจากมัน แค่ชั่วพริบตา มันก็หายแว๊บบบบ…ไปเลย น่าตบกระโหลกเน๊าะ 555

st patLeprechauns_

Leprechaun กับ วันฉลองนักบุญแพทริค (St. Patrick’s Day)

st-patricks-day-beer-by-leprechaun-hat

บรรยากาศในวัน Saint Patrick's Day หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า St. Pat อะไรๆ ก็สีเขียว ไอริชผับ เบียร์มีเขียว ชาและเครื่องดื่มต่างๆ ก็สีเขียว เค้ก คุ๊กกี้ ฯลฯ สีเขียว เดี๋ยวมาเล่าต่อ ง่วงแล้ว

แม่น้ำที่ชิคาโกถูกทำให้เป็นสีเขียวเพื่องานในวัน Saint Patrick 's Day

วงดนตรีพื้นบ้านที่ดับลิน

Lucky You Lucky Me….

Happy St. Patrick's Day 

 

No comments: